กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี

Notices

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #21  
เก่า 23-12-2013, 21:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,789
ได้ให้อนุโมทนา: 152,290
ได้รับอนุโมทนา 4,422,037 ครั้ง ใน 34,380 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "อาตมาซื้อทองคำเกินบัญชีไป ๔ ล้านกว่าบาท เพราะว่าพอทองลดราคามาจนได้ราคาพอใจก็รีบซื้อ ปล่อยไปเดี๋ยวขึ้นราคาอีก ทองคำแท่งละ ๕๐ บาทก็พอที่จะฟาดหัวคนถึงตายแล้ว หนักแท่งละ ๗ ขีดครึ่ง ความจริงน่าจะมีแท่งละ ๑๐ กิโลกรัม ไม่ใช่อะไร..ซื้อแล้วจะวางทิ้งไว้ตรงนี้ ดูว่าใครจะอุ้มไปไหว ?

สมัยเป็นฆราวาสอาตมาซื้อทองคำแท่งละ ๑๐ บาทไว้ ๒ แท่ง ยาวประมาณนิ้วมือ ทิ้งไว้บนเตียง พี่ชายเข้ามาหยิบ ๆ ดู “ไอ้ห่..ของแบบนี้เขาก็เอามาปลอมกันเล่นด้วย” แล้วก็โยนไว้ที่เดิม แสดงว่าอาตมานี่หุ่นไม่น่าเชื่อถือเลยว่าจะมีทองคำกับเขา ขนาดทองจริงเขายังเห็นเป็นปลอมเลย

ในชีวิตที่เห็นทองคำมากที่สุดก็คือทองธรรมชาติ มหาศาลเลย ที่วัดท่าซุงปีนั้นหลวงพ่อขอแรงให้ไปช่วยสร้างเพิงพักให้หมา ก็คือหมาที่ท่านเลี้ยงไว้ที่ตึกสงวนจิตรและเพื่อน ที่ท่านเรียกว่าตึกกลางน้ำ หมาก็วิ่งอยู่รอบ ๆ สระน้ำ ไม่มีที่ให้หลบร้อน หลวงพ่อท่านก็ขอให้ไปช่วยทำศาลาให้หมาหน่อย อาตมาก็ไป จำได้ว่ามีหลวงตาชลอด้วย หลวงตาสวัสดิ์ หลวงตาชลอ หลวงน้าสัมฤทธิ์ หลวงพี่สุธน ไปช่วยกันทำ คราวนี้ก็ไปหาเสาเก่า ๆ เอาในวัดนั่นแหละ

ปรากฏว่าเป็นเสาปูน สูง ๕ เมตร เป็นเสาที่เรียกเสาตีนช้าง ที่ต้นใหญ่ ๆ ตัวเสาขนาดหน้า ๕x๕ นิ้ว แต่ความยาว ๕ เมตร ก็คิดว่าเราต้องการสร้างสูงสัก ๒.๕ เมตร ถึง ๓ เมตรเท่านั้นเอง นี่เสายาวตั้ง ๕ เมตร อย่างน้อยก็ต้องขุดหลุมลึก ๒ เมตร จึงตั้งหน้าตั้งตาขุด ขุดไป ๆ ตักขึ้นมา เฮ้ย..! ทองคำ..เป็นทราย ๆ เลย แล้วทุกคนก็พร้อมใจกันโกยกลบไปเสียอย่างดี แล้วก็มาตัดเสาแทน ทอนให้เหลือยาวเท่าที่ต้องการ ตอนแรกทำไมไม่คิดที่จะตัด ? เหมือนกับท่านต้องการให้เรารู้ว่ามีอยู่จริง ๆ ทำให้พวกเราโง่ขุดหลุมลงไปได้ตั้ง ๒ เมตร ถ้าท่านไม่ได้ตั้งใจให้พวกเราเห็น อย่างไรก็ต้องคิดตัดเสา เพราะว่าเสายาวเกินต้องการไปมาก

อีกครั้งหนึ่งก็ไปดูภูเขาทองที่หลวงพ่อท่านบอกไว้ เพราะฉะนั้น..ชีวิตนี้ก็เลยเฉย ๆ กับของพวกนี้ คิดอยู่อย่างเดียวว่า ถ้าอยากรวยเมื่อไรก็ไปสึก แล้วก็ไปขนเอา อะไรที่เห็นเยอะเกินไปก็จะหมดอยากไปเอง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-12-2013 เมื่อ 02:30
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 223 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #22  
เก่า 23-12-2013, 21:23
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,789
ได้ให้อนุโมทนา: 152,290
ได้รับอนุโมทนา 4,422,037 ครั้ง ใน 34,380 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ตอนช่วงสร้างสมเด็จองค์ปฐมองค์ใหญ่ที่วัดท่าซุง หมอนพพรมาปรึกษาว่า เป็นครั้งแรกที่จะมีพระรูปสมเด็จองค์ปฐมปรากฏขึ้นในโลก ก็ควรที่จะหาวัตถุที่มีราคาที่สุดเท่าที่เราหาได้มาสร้าง อาตมาถามหมอว่าหมอจะใช้อะไร ? “ทองคำครับ ผมไปถามช่างมาแล้ว บอกว่าใช้ประมาณตันครึ่ง” ก็ถามแล้วหมอจะหาอย่างไร ? หมอบอกว่า “ขอทองคำของหลวงพี่นั่นแหละ” แล้วท้ายสุดก็เอาแผนที่ทหารมาอาตมา ก็ทำเครื่องหมายให้ว่าอยู่ตรงนี้

หมอนพพรหายไป ๒ วัน กลับมาถึง “โอ้โฮ...หลวงพี่ มีมากมหาศาลจริง ๆ ครับ” “อะไรวะหมอ อาตมาขนาดแข็งแรง ๆ วิ่งไปนี่ ๒ วันเต็ม ๆ นะ หมอไปอย่างไร ๒ วันกลับมาแล้ว ?” หมอนพพรเคยโดนอาตมาลากเข้าป่าชนิดตะคริวกินมาแล้ว แกเดินอย่างไรก็ไม่ทันอาตมาหรอก อย่าว่าแต่วิ่ง หมอเขาว่า “ผมเป็นผู้บังคับกองพันครับ ผมมีสิทธิ์สั่งเฮลิคอปเตอร์ออกได้ ขีดเส้นให้เขาบินผ่านตรงนั้น แล้วผมเอาเครื่องวัดแร่วัด เข็มตียันเกจ์เลยครับ” นั่นขนาดวัดจากกลางอากาศนะ

ก็เลยบอกว่า "ถ้าอย่างนั้นหมอไปวางแผนมาแล้วกัน ในเมื่อเป็นผู้บังคับกองพัน มีทหารอยู่ในมือ ถ้าทหารแข็งแรงเต็มที่ คนละ ๓๐ กิโลกรัมน่าจะแบกไหว ก็ต้องเอาทหารไปอย่างน้อย ๕๐ คน " หมอหายไปเป็นอาทิตย์เลยคราวนี้ กลับมาบอกว่า “คงทำไม่ได้แล้วครับหลวงพี่” ถามว่าทำไม ? “๕๐ คนนี่ต่างคนต่างถือปืน ไม่มีใครฟังผมหรอก” โดยเฉพาะถ้าอาตมาไปนี่ซวยเลยนะ เพราะถ้าบอกว่าเอาแค่ไหนคือเอาแค่นั้น แล้วถ้าคนอื่นเขาโลภอยากได้ ประเภทหยิบใส่กระเป๋ามาสักกำสองกำ เจ้าที่เขาไม่ได้เล่นงานพวกนั้นหรอก เขาจะเล่นงานหัวหน้าคณะคืออาตมาก่อน ท้ายสุดต้องยกเลิกโครงการไป"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-12-2013 เมื่อ 02:33
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 220 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #23  
เก่า 23-12-2013, 21:30
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,789
ได้ให้อนุโมทนา: 152,290
ได้รับอนุโมทนา 4,422,037 ครั้ง ใน 34,380 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"หลังจากนั้นแล้วอีกหลายปี ไปอยู่ที่วัดท่าขนุนครั้งแรก ไปช่วยเขาบูรณะวัด ประมาณปี ๒๕๔๔ - ๒๕๔๕ ก็ปรากฏว่ามีโยมอยู่คนหนึ่ง ไปถามทาง มุ่งมั่นจะเข้าไปให้ได้ ก็เลยบอกทางเขาไป ปรากฏว่าหายไป ๓ - ๔ วัน ก็ถอยกลับมาสะบักสะบอม ถามว่าทำไม ? “สู้ทากไม่ไหวครับ” สำหรับทากขนาดอาตมาวิ่ง ๆ ยังโดนเกาะเต็มเท้าเลย คือพื้นพอสะเทือนทากก็จะยกหัวขึ้นมาพร้อม ๆ กัน ใบไม้ไหวดังซ่า ๆ น่ากลัวมากเลย อาตมาไม่ค่อยจะกลัวพวกทากนี้หรอก ใช้วิธีวิ่งเอา แต่ก็โดนเกาะเต็มเท้า พอไปถึงตรงไหนที่พอหยุดได้ก็ปลดทิ้ง แล้ววิ่งต่อไป

ที่ต้องวิ่งไปไม่ใช่ว่าเก่ง เพราะ ๒ สาเหตุ สาเหตุแรกคือเวลาไม่พอ เพราะอาตมาขาดการลาไปดูแลหลวงปู่มหาอำพันที่ป่วยไป ๔๕ วัน เกินกำหนดของทางวัด ตอนแรกคณะกรรมการสงฆ์เขาลงมติให้ไล่ออก แล้วก็ส่งเรื่องไปถึงหลวงพ่อวัดท่าซุง หลวงพ่อท่านแทงเรื่องลงมาว่า การกตัญญูต่อครูบาอาจารย์ถือว่าสมควร ให้ตัดวันลาก็แล้วกัน ก็เลยกลายเป็นว่าอาตมาเป็นคนเดียวที่ลาได้แค่ ๗ วัน ในเมื่อ ๗ วัน เวลาไม่พอก็ต้องวิ่ง ประการที่สอง ที่วิ่งเพราะทากบังคับอยู่ ไปช้า ๆ ไม่ได้หรอก โดนกินเลือดตายเลย..!

ปรากฏว่าหายไปเดือนกว่า เจ้านั่นมาใหม่อีกรอบหนึ่ง มาคราวนี้ทำอย่างไร เช่าช้างของกะเหรี่ยงเข้าไป เออ..ฉลาดว่ะ เล่นขึ้นหลังช้าง จะเอาให้ได้ ปรากฏว่าเป๋กลับมาอีก ถามว่า “เป็นอย่างไรวะ ?” เขาบอกว่าเจอทากบนต้นไม้ ไปไม่รอด พวกทากตอง เป็นทากสีเขียว ๆ อยู่บนต้นไม้ พวกทากทั่วไปจะสีน้ำตาล ทากลายเสืออยู่ที่พื้น ถ้าทากตองจะอยู่บนต้นไม้ พอเดินผ่านก็ดีดใส่เรา เมื่อแปะลงมาเราจะรู้สึกเย็น ๆ ทำให้แกะทัน แต่ถ้าพวกความรู้สึกช้า ๆ เดี๋ยวทากเข้าหูเข้าหัวก็ยุ่งเลย สรุปแล้วก็คือไม่ได้รับประทานหรอก

แต่เป็นเรื่องแปลกอยู่เรื่องหนึ่งเกี่ยวกับบุญของคน อาตมาเองตอนแรกก็หาไม่เจอ เพราะหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านบอกว่าที่เมืองกาญจนบุรีมีภูเขาอยู่ลูกหนึ่ง ทางด้านทิศเหนือเป็นยอดแหลมขึ้นมาให้เป็นที่สังเกตได้ ภูเขาลูกนั้นจากกึ่งกลางออกไป ๑๕ กิโลเมตรโดยรอบ เป็นทองคำทั้งหมดเลย อาตมาก็พยายามเสาะหาแผนที่ทหารมา สมัยเรียนทหารอยู่เคยได้ที่ ๑ วิชาแผนที่ทหาร มองอย่างไรก็มองไม่ออก เพราะในแผนที่นั้นเป็นแค่ชั้นความสูง

ท้ายสุดก็ไปได้ข่าวว่ามี ตชด.เขารับซื้อทอง ชาวบ้านเขาร่อนทองกัน อาตมาก็เลยไปดู เห็นชาวบ้านร่อนทองในลำห้วยกันตลอดทางเลย ถึงเวลาตชด.เขาก็รวบรวมไว้สัก ๒๐ บาท ๓๐ บาท ๕๐ บาท ๑๐๐ บาท แล้วก็เอาเฮลิคอปเตอร์บินออกมาจำหน่ายทีหนึ่ง อาตมาจึงทวนน้ำขึ้นไปจนเจอ ที่ว่าเป็นเรื่องของบุญคนก็คือ ชาวบ้านทั้งหมดต้องรู้ว่าทองมากับน้ำ ทำไมไม่ขึ้นไปดูก็ไม่รู้ ? คาดว่าก็มีอยู่ ๒ อย่างคือ ถ้าไม่ใช่เทวดาเขาบังเอาไว้ เขาก็ได้ตามบุญของเขาแค่นั้นแหละ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-12-2013 เมื่อ 02:40
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 218 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #24  
เก่า 23-12-2013, 21:32
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,789
ได้ให้อนุโมทนา: 152,290
ได้รับอนุโมทนา 4,422,037 ครั้ง ใน 34,380 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"เรื่องของทองคำธรรมชาติเป็นทรัพย์แผ่นดิน รอเวลาที่ผู้นำประเทศที่เห็นแก่ชาวบ้านจริง ๆ ได้เอาออกมาใช้งาน ถ้าสมัยนี้ออกมาก็เป็นของคนไม่กี่คน ไปขำตรงที่เขาเช่าช้างไป อาตมาเองยังคิดไม่ถึงเลย

แต่เรื่องของสมเด็จองค์ปฐม ท้ายสุดญาติโยมก็บริจาคทองคำร่วมสร้างกับหลวงพ่อไป ๗๘ กิโลกรัม หลวงพ่อท่านให้เทเบ้าที่ ๓ เบ้าแรกจะเป็นเศียรพระ เบ้าที่ ๒ นี่บริเวณพระอังสะ ก็คือบริเวณไหล่ เบ้าที่ ๓ น่าจะประมาณอก ท่านบอกว่า "ถ้าแกเทเบ้าแรก เดี๋ยวมีคนจ้องตัดเศียรพระ"

ตอนสร้างพระองค์ที่ ๑๐ กับพระองค์ที่ ๑๑ โยมบริจาคทองมา ๒๒ กิโลกรัม ทองที่ว่านี่คือทองจริง ๆ เลย ไม่ได้เกี่ยวกับพวกที่เป็นเพชรเป็นพลอย พวกที่เป็นเพชรเป็นพลอยเขาบริจาคกันมามหาศาลเลย แต่ว่าเอาไปหล่อไม่ได้ เพราะว่าเพชรพลอยจะแตกระเบิดเสียของหมด ท่านให้คัดออกมาเพื่อที่จะเอาบรรจุอย่างเดียว

ใครจองพระไว้ไปรับได้เลยนะจ๊ะ เอาทองแท่งไปให้คุณก้านบัวข้างหลัง โปรดอย่าเอามาใส่ขันให้อาตมา ระยะหลังนี่หลายที ต้องมาถามว่าทองคำของใคร พอถึงเวลาทำวัตรเสร็จแล้วเดินมา เขาใส่ย่ามกันเป็นทาง กลับมาถึงกุฏิมีทองคำด้วย แล้วก็ไม่เขียนไว้ด้วยว่าใคร ต้องมาหาตัวให้เจอ เพื่อที่จะได้ลงบัญชีถูกว่ารับจากใครมา น้ำหนักเท่าไร เดี๋ยวพอโยมเอาทองมาให้ครบงวดนี้ อาตมาก็มีทองเป็นสิบกิโลกรัมแล้ว ใกล้ความจริงแล้ว"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-12-2013 เมื่อ 02:43
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 226 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #25  
เก่า 23-12-2013, 21:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,789
ได้ให้อนุโมทนา: 152,290
ได้รับอนุโมทนา 4,422,037 ครั้ง ใน 34,380 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ด้วยความที่เป็นคนไม่ค่อยกังวลกับเรื่องเงินเรื่องทอง ทำให้บางทีทิ้งเงินทิ้งทองกองไว้เฉย ๆ แล้วก็ไม่หาย เพราะไม่มีใครคิดว่าจะเป็นอย่างนั้น อาจจะเป็นเพราะว่าในอดีตไม่ค่อยได้ทำกรรมเรื่องอทินนาทานหรืออย่างไรก็ไม่รู้ ?

ครั้งแรกที่เกิดขึ้นเลยก็คือ ตอนนั้นอยู่ที่ชายแดน ทำหน้าที่เสมียนกองร้อย เบิกเบี้ยเลี้ยงมา ๒ แสนกว่าบาท จะจ่ายให้กำลังพล คราวนี้การเดินทางไปเบิกเบี้ยเลี้ยง ถนนอย่างกับเตาขนมครก เขย่าจนกรอบเลย ก็ปรากฏว่ากลับมาแล้วหมดสภาพ เอาถุงใส่เงินของธนาคารโยนไว้หัวเตียงแล้วก็หลับ ตื่นขึ้นมารุ่งเช้าก็ลืมไป จนกระทั่งถึงเย็น พวกบรรดาทหารเขาก็มาถาม “เมื่อไรจะจ่ายเบี้ยเลี้ยงผม ?” อาตมาก็ว่าตายแล้วกู..เงินอยู่ไหนวะ ? ก็วิ่งไปดู ปรากฏว่ากลิ้งลงไปอยู่ข้างซอกตู้ เตียงทหารจะมีเตียงแล้วก็มีตู้คั่นสลับกันไป ทางท้ายเตียงจะเป็นล็อกเกอร์เตี้ย ๆ ปรากฏว่าอยู่ครบถ้วนสมบูรณ์ ไม่มีใครคิดว่าจะมีคนเอาเงินไปโยนทิ้งไว้อย่างนั้น ก็เลยไม่มีใครไปแล คิดว่าเป็นห่อของอย่างอื่น

บางทีอยู่ที่วัดก็เหมือนกัน ถึงเวลาเบิกเงินธนาคารมา ๓ ล้านบาท ๕ ล้านบาท จะมาจ่ายค่าวัสดุก่อสร้าง กลับมาบางทีเหนื่อยก็โยนกองไว้กลางกุฏิ พอไปตรวจงาน ตรวจไปตรวจมา ลืมว่าทิ้งเงินไว้ กลับมาก็ยังอยู่ที่นั่นแหละ ไม่ได้ไปไหนหรอก

ส่วนตอนไปพม่าเคยแลกเงินเขาทีหนึ่ง ๒๒ ล้าน เอาใส่กระสอบปุ๋ย มัดปากเสร็จก็โยนโครมใส่รถกระบะที่เราเช่าไป แล้วก็ไปนั่งกินก๋วยเตี๋ยวกินน้ำอยู่ ไม่มีคนสนใจเลย เพราะไม่มีใครคิดว่าจะมีคนเอาเงินทั้งกระสอบโยนไว้ท้ายรถกระบะ เพราะว่าตอนนั้นเงินไทย ๑ ล้านบาทแลกเงินพม่าได้ ๒๒ ล้าน แล้วพม่าก็ยังไม่มีธนบัตรใบพัน ใหญ่ที่สุดก็คือใบละ ๕๐๐ กับใบละ ๒๐๐ เงิน ๒๒ ล้านนี่ใส่กระสอบปุ๋ยเต็มแน่น ๆ เลย

ก็เลยทำให้เห็นว่า ที่หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านบอกว่า บุคคลที่ไม่เคยมีกรรมอทินนาทานในอดีตมา ชาตินี้ทรัพย์สินจะไม่สูญหายด้วยประการต่าง ๆ ทั้งโจรภัย วาตภัย อัคคีภัย อุทกภัย ฯลฯ ก็น่าจะจริง เพราะเรื่องของการเงินนี่อาตมาหละหลวมมากเลย เป็นคนที่เห็นเงินจนเบื่อก็เลยไม่ได้ใส่ใจ
กับเงิน พลอยทำให้คนอื่นรู้สึกว่าไม่น่าจะมีอะไร เพราะว่ากุฏิบางทีก็เปิดทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ เอาไว้อย่างนั้นแหละ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-12-2013 เมื่อ 02:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 212 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #26  
เก่า 23-12-2013, 22:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,789
ได้ให้อนุโมทนา: 152,290
ได้รับอนุโมทนา 4,422,037 ครั้ง ใน 34,380 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : คนสมัยก่อนที่เขายังไม่มีนามสกุล เราจะอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้ตายอย่างไรครับ ?
ตอบ : นึกถึงเขาก็ใช้ได้แล้ว

เมื่อสักครู่หมอเสือถามว่า ถ้าผีที่เป็นคนโบราณไม่มีนามสกุล จะอุทิศส่วนกุศลให้เขาได้อย่างไร ? เรื่องของผีไม่ต้องมีนามสกุลจ้ะ เราแค่นึกถึงว่าเป็นเขาคนนั้นก็ใช้ได้แล้ว ถ้ารู้ชื่อรู้นามสกุล ให้ออกชื่อนามสกุลเจาะจงไป ถ้าไม่รู้ชื่อไม่รู้นามสกุล ให้นึกว่าเป็นผู้ตายคนนั้น ถ้าเห็นรูปให้ตั้งใจว่าเป็นเจ้าของรูป เจ้าของเงานั้น ถ้าได้ยินแต่เสียง ให้ตั้งใจว่าเป็นเจ้าของเสียงนั้น ถ้ามาแต่กลิ่นให้ตั้งใจว่าเป็นเจ้าของกลิ่นนั้น ใช้ได้เหมือนกัน

ไม่ต้องไปเสียเวลาไปหานามสกุลให้เขาหรอก เพราะว่าชื่อนามสกุลตรงกันมีเยอะแยะไป โดยเฉพาะฝรั่ง ต่อให้จูเนียร์ขนาดไหนก็ตาม พอไปอีก ๓ - ๔ ชั่วคน ก็เป็นซีเนียร์ไล่กันไปเรื่อย

ฝรั่งเขามีคตินิยมว่า พอรุ่นที่ ๓ ไปเขาจะตั้งชื่อคนรุ่นปู่รุ่นย่าเอาไว้ เพราะอย่างนั้นก็จะมีชื่อซ้ำ ๆ กันไปเรื่อย แต่ภพภูมิข้างล่างเขาไม่กังวล ข้างล่างเขาเอาชื่อแรก แล้วไม่ใช่ชื่อแรกธรรมดา อาจเป็นชื่อในชาติแรกด้วย ในความเป็นทิพย์ พอเขาเรียก เราจะรู้ทันทีว่านั่นคือตัวเรา เพราะฉะนั้น..ไม่ต้องกังวล ชื่ออะไรก็ช่างเถอะ สมมติด้วยกันทั้งนั้นแหละ

เรื่องของผีที่เกาะคนมา มี ๒ สาเหตุด้วยกัน สาเหตุแรกคือเคยมีกรรมเนื่องกันมา สาเหตุที่สองคือเขาบังคับใช้ให้มา ถ้ากำลังใจเรามั่นคง หัดภาวนาจนกำลังใจทรงตัว ถ้าจะเอาปลอดภัยจริง ๆ ก็ระดับปฐมฌานขึ้นไป แต่ว่าให้ภาวนาอย่าทิ้ง ถ้าทิ้งช่วง เวลากุศลกรรมแทรกเขาก็มีโอกาสเกาะใหม่ได้ ถ้าเราภาวนาจนกำลังใจทรงตัวระดับปฐมฌาน กำลังของเราจะเท่ากับพรหม ซึ่งสูงเกินผีไปหลายล้านเท่า เขาทำอะไรเราไม่ได้หรอก

เพราะฉะนั้น..ให้ตั้งใจนึกถึงพระ แล้วก็จับลมหายใจภาวนาไว้ ถึงเวลานึกภาพพระแล้ว หายใจเข้าก็ให้ท่านไหลเข้าไปในตัวเราทั้งองค์ หายใจออกให้ท่านใหญ่ขึ้นมาคลุมตัวเราไว้ หายใจเข้าท่านก็เล็กลงไปอยู่ข้างใน หายใจออกท่านก็ใหญ่ขึ้นมาคลุมตัวเราไว้ ถ้าใครทำอย่างนี้ได้ ผีที่ไหนก็เข้าไม่ได้หรอก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-12-2013 เมื่อ 02:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 208 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #27  
เก่า 23-12-2013, 22:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,789
ได้ให้อนุโมทนา: 152,290
ได้รับอนุโมทนา 4,422,037 ครั้ง ใน 34,380 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ไปต่างประเทศเจอผีเยอะมาก แล้วลำบากตรงที่ว่า เขาไม่มีคนที่รู้ในเรื่องของการอุทิศส่วนกุศลให้ ผีก็เลยลำบากตะเกียกตะกายไปเรื่อย จนกว่าจะเจอคนที่ให้เขาได้ ก็จะไปรุมตอมกันเป็นฝูงเลย อาตมาไปอินโดนีเซียเจอทีหนึ่ง ๗,๐๐๐ - ๘,๐๐๐ ตัว ถ้าคนทั่ว ๆ ไปเห็นก็คงคิดว่าอาตมาเป่านกหวีดเรียกม็อบ..มากันทีขนาดนั้น..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-12-2013 เมื่อ 02:51
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 216 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #28  
เก่า 23-12-2013, 22:41
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,789
ได้ให้อนุโมทนา: 152,290
ได้รับอนุโมทนา 4,422,037 ครั้ง ใน 34,380 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "สิงห์ของหลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว ตัวประมาณเล็บนิ้วก้อยเท่านั้นเอง แต่เขาแกะหัวหูหน้าตานี่สุดยอดมาก คิดว่าคงฝีมือระดับช่างสิบหมู่เลย เพราะสมัยนั้นเสด็จในกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ท่านไปฝากตัวเป็นลูกศิษย์หลวงปู่ยิ้ม น่าจะมีพวกช่างหลวงแกะถวาย สมัยนี้ถ้าจะแกะให้ละเอียดได้ขนาดนั้นต้องใช้เลเซอร์อย่างเดียว"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-12-2013 เมื่อ 02:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 205 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #29  
เก่า 24-12-2013, 11:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,789
ได้ให้อนุโมทนา: 152,290
ได้รับอนุโมทนา 4,422,037 ครั้ง ใน 34,380 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์พูดถึงเรื่องการเมืองว่า "กำลังดูว่านายหัวสุเทพจะลงอย่างไร ? เมื่อเช้าอาตมาพูดไปว่า ได้คืบจะเอาศอกแล้วจะจบไม่ลง ตอนนี้ปัญหาที่ถามก็คือว่า ถ้าขับไล่รัฐบาลออกไป แล้วใครจะเป็น ? ถ้าให้นายหัวสุเทพเป็นนายกฯ มีใครเอาไหม ? ต้องบอกว่าทำอะไรโดยไม่คิด

ดังนั้น..เราจะเห็นว่าเรื่องของสติสัมปชัญญะสำคัญมาก ๆ ถ้าช่วงที่รัฐบาลเขายอมถอย ถอนทุก พรบ.ออกไปแล้ว ตัวเองบอกเลิกม็อบ จะลงได้สวยสุด ๆ แล้วเลือกตั้งคราวหน้านี่เพื่อไทยเหนื่อยสาหัสเลย แต่คราวนี้คุณสุเทพไม่ยอมเลิก ตอนแรกก็ต่อต้าน พรบ.นิรโทษกรรม ซึ่งอาตมาก็เห็นด้วยเพราะเป็น พรบ.ห่วยแตกมาก ประเภทที่จะนิรโทษกรรมเหมาเข่ง ต่อไปเขาก็ฆ่าคนกันสนุกสนานแล้วก็นิรโทษเหมาเข่ง ไม่ต้องรับโทษกันสิ แต่พอเสร็จสรรพเรียบร้อย กลายเป็นต่อต้านระบอบทักษิณ

มีใครสามารถตอบอาตมาได้บ้างว่า ระบอบทักษิณคืออะไร ? ช่วยบอกหน่อยซิว่าคืออะไร ? ถ้าบอกว่าระบอบทักษิณคือการคอรัปชั่นโกงกิน แล้วโรงพัก ๓๐๐-๔๐๐ แห่ง มีแต่เสาโด่เด่คืออะไร ? แล้วถ้าจะเอาใกล้ตัวกว่านั้น ส.ป.ก. ๔-๐๑ คืออะไร ? ถ้าบอกว่าระบอบของทักษิณเผด็จการ แล้วที่ส่งทหารฆ่าชาวบ้านไป ๙๐ กว่าศพคืออะไร ? เพราะฉะนั้น..เขาตอบไม่ได้หรอกว่าคืออะไร รู้อยู่อย่างเดียวว่า ถ้าบุคคลคนนี้อยู่แล้วตัวเองจะทำอะไรลำบาก เพราะฉะนั้นควรจะให้เขาไป กลายเป็นทำเพื่อตัวเอง ไม่ใช่ทำเพื่อประชาชน ถ้าเรามีสติสัมปชัญญะหน่อยเดียวก็จะเห็น

สิ่งทั้งหลายเหล่านี้จริง ๆ แล้วก็คือ คนส่วนมากโดนหลอกให้เป็นเครื่องมือ ที่เขาบอกว่ากลัวผีทักษิณจนขึ้นสมองนั่นแหละ พูดอะไรถึงทักษิณออกมา ถูกผิดอย่างไรกูต่อต้านไว้ก่อน

ถ้าถามว่าคุณทักษิณทำผิดไหมที่ผ่าน ๆ มา ถ้าบอกว่าเรื่องการขายดาวเทียมให้เทมาเส็ก ก็นั่นเป็นกิจการของแก แล้วอีกอย่างแกแก้กฎหมายเสร็จเรียบร้อยแล้วค่อยขาย ก็ไม่ผิด แต่ปรากฏว่ากฎหมายใหม่ที่ออกมา โดยเฉพาะรัฐธรรมนูญปี ๒๕๕๐ ผิดหลักนิติธรรมของทั้งโลกเลย เพราะว่าเป็นการเอาผิดย้อนหลัง ซึ่งไม่มีกฎหมายประเทศไหนในโลกเขาทำกันอย่างนั้น ตราบใดที่ยังไม่มีข้อห้าม ตราบนั้นยังไม่ผิด แม้กระทั่งศาสนาพุทธของเราก็เหมือนกัน ตราบใดที่ยังไม่บัญญัติศีล ก็ไม่ผิด บุคคลที่เป็นต้นบัญญัติศีลพระพุทธเจ้ายังยกให้ เพราะท่านถือว่ายังไม่มีข้อห้ามมาก่อน

แต่นี่มาเอาผิดย้อนหลัง ในขณะที่ยังไม่มีกฎหมายอย่างนี้ ซึ่งไม่ถูกหลักนิติธรรม แต่เขาก็ทำกัน แล้วก็ปล่อยกันมาเรื่อยเปื่อย ซึ่งถ้าจะประท้วง ควรที่จะประท้วงกันตรงนี้ แบบนี้ทั่วโลกเขาสนับสนุน เพราะไม่มีกฎหมายประเทศไหนเขาไปเอาผิดย้อนหลัง ถ้าวันไหนที่ประกาศเป็นกฎหมายเรียบร้อยแล้วใครทำผิด นั่นถึงจะเอาผิดได้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-12-2013 เมื่อ 15:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 202 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #30  
เก่า 24-12-2013, 11:55
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,789
ได้ให้อนุโมทนา: 152,290
ได้รับอนุโมทนา 4,422,037 ครั้ง ใน 34,380 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"เราจะเห็นว่าเรื่อง ๒ มาตรฐานในบ้านเรานั้นชัดเจนมาก โดยเฉพาะต่างคนต่างก็ดึงฟ้าต่ำ ยึดประเทศไทยถวายคืนเป็นระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ถามหน่อยว่าในหลวงจะรับไหม ? ฟังดูก็บ้าแล้ว ปรากฏว่าคนที่บ้าก็เยอะเสียด้วย ก็เลยไปกันเรื่อยเปื่อย อาตมานั่งดูแล้วก็ว่าดีเหมือนกัน บ้านเราเมืองเราก่อนหน้านี้เป็นเสือตัวที่ ๕ ของเอเชีย แซงหน้าประเทศจีนอีกต่างหาก ปัจจุบันนี้เป็นเต่าตัวสุดท้ายของอาเซียน ไม่ต้องไปไหนหรอก ประท้วงกันอยู่นั่นแหละ

เหมือนกับว่านายหัวสุเทพเดินเข้าซอยตันเอง ก็แกเล่นประกาศว่ายุบสภา นายกฯ ลาออก แกก็ไม่รับ แล้วจะให้ทำอย่างไร ?..ถามหน่อย ไม่เป็นไร...โบราณเขาบอกว่าคนบ้ามี ๕๐๐ จำพวก ถ้าเพิ่มมาอีกจำพวกหนึ่งก็ไม่มากเท่าไรหรอก

บ้านเราโชคดีที่ยังมีในหลวงอยู่ แต่ในขณะเดียวกันอาตมาก็สงสารในหลวงมาก บ้านเราประเภท ๒ - ๓ คนทะเลาะกันยังหาความสุขไม่ได้ แล้วถ้าลูก ๖๐ กว่าล้านคนทะเลาะกัน จะฆ่ากันอยู่ทุกวัน แล้วจะให้ในหลวงท่านมีความสุขได้อย่างไร ?

คนเราส่วนใหญ่มีนิสัยดูความผิดคนอื่น ไม่ได้ดูความผิดตัวเอง ในเมื่อดูความผิดคนอื่น เห็นข้อบกพร่องของคนอื่น ก็พยายามที่จะไปจี้ให้เขาแก้ไข โดยที่ไม่ได้แก้ไขตัวเอง อย่างที่เขาบอกว่า ผิดคนอื่นมองเห็นเป็นภูเขา ผิดของเรามองเห็นเท่าเส้นขน ตดคนอื่นเหม็นเบื่อเหลือจะทน ตดของตนถึงเหม็นไม่เป็นไร พระพุทธเจ้าถึงได้ตรัสว่า อัตตนา โจทยัตตานัง ให้กล่าวโทษโจทย์ตัวเองไว้เสมอ เราจะได้ปรับปรุง กาย วาจา ใจ ของเราให้ดีขึ้นไปเรื่อย ๆ

เราปรับปรุงแก้ไขคนอื่นไม่ได้หรอก เรื่องของคนอื่นเป็นเรื่องของโลก โลกทั้งโลกเราไปแบกก็หนักเกินไป เพราะฉะนั้น..ต้องดูที่ตัวเรา แก้ที่ตัวเรา ทุกอย่างจะจบ อย่างที่หลวงปู่ดู่ วัดสะแกบอกว่า คนดีเขาไม่ตีใคร ไม่ว่าจะตีด้วยคำพูด จะตีด้วยร่างกายอะไรก็ตาม

โดยเฉพาะพระเราดันไปออกม็อบกับเขา พระเราเมื่อถึงเวลาควรจะเป็นผู้ที่คอยเตือนสติญาติโยม ไม่ใช่ไปสนับสนุนข้างใดข้างหนึ่ง เพราะเราต้องยอมรับว่าทุกอย่างเป็นไปตามกรรม ถ้าตักเตือนแล้ว บอกกล่าวแล้ว เขาไม่ฟังก็ต้องปล่อยวาง ไม่ใช่ไปนั่งอยู่กลางม็อบ แล้วก็ไปยกไมค์ประกาศปาว ๆ เสียเอง ลักษณะอย่างนั้นกลายเป็นเอาพระพุทธศาสนาทั้งคณะสงฆ์ไปเป็นบันไดรองรับเท้า ส่งเสริมตัวเองให้เด่นขึ้นไป ซึ่งถือว่าเป็นการกระทำที่เลวร้ายมาก..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-12-2013 เมื่อ 16:12
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 193 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #31  
เก่า 24-12-2013, 11:58
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,789
ได้ให้อนุโมทนา: 152,290
ได้รับอนุโมทนา 4,422,037 ครั้ง ใน 34,380 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ธูปเทียนแพธรรมดากับธูปเทียนบูชาครู ?
ตอบ : สมัยก่อนการบูชาครูก็มีธูป เทียน ดอกไม้ คราวนี้ของเรามีหลักว่า ถ้าเป็นธูปเทียน ถ้าเป็นเทียนแพ ใช้เป็นพิธีหลวง ถ้าเป็นพิธีของพวกเราให้ใช้เทียน ธูป ก็ต้องพลิกบนพลิกล่าง จริง ๆ ก็ชุดเดียวกันนั่นแหละ แต่ว่าหลักการต่างกัน เราเองถ้ารู้ก็ทำให้ถูก ถ้าไม่รู้ก็มั่ว ๆ ไปเถอะ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-12-2013 เมื่อ 15:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 189 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #32  
เก่า 24-12-2013, 12:00
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,789
ได้ให้อนุโมทนา: 152,290
ได้รับอนุโมทนา 4,422,037 ครั้ง ใน 34,380 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ถ้าบ้านเมืองเรายังวุ่นวายอย่างนี้ไปอีกระยะหนึ่ง ค่าเงินบาทจะตก เพราะว่าเศรษฐกิจหยุดชะงัก ตอนนั้นทองก็จะแพงขึ้น"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-12-2013 เมื่อ 15:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 192 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #33  
เก่า 24-12-2013, 12:01
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,789
ได้ให้อนุโมทนา: 152,290
ได้รับอนุโมทนา 4,422,037 ครั้ง ใน 34,380 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวถึง คุณ ญ.ผู้หญิง ซึ่งเพิ่งเข้าโรงพยาบาลผ่าไส้ติ่งไปว่า "ขนาดสร้างบุญสร้างกุศลไว้เสียเยอะแยะยังไม่รอดเลย ความดีส่วนความดี ความชั่วส่วนความชั่ว ถึงเวลาดีความดีก็ส่งผล ถึงเวลาความชั่วส่งผล เราก็ลำบากเดือดร้อน จึงควรจะเลือกทำแต่ทางด้านดี "
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-12-2013 เมื่อ 15:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 200 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #34  
เก่า 24-12-2013, 12:01
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,789
ได้ให้อนุโมทนา: 152,290
ได้รับอนุโมทนา 4,422,037 ครั้ง ใน 34,380 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ช่วงนี้ญาติโยมหลายท่านแปรสภาพเป็นนักเล่นพระ แล้วไม่ใช่นักเล่นพระแบบสะสม แต่เล่นแบบตั้งใจขายเอากำไร..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-12-2013 เมื่อ 15:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 198 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #35  
เก่า 24-12-2013, 12:11
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,789
ได้ให้อนุโมทนา: 152,290
ได้รับอนุโมทนา 4,422,037 ครั้ง ใน 34,380 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ถวายสังฆทานแล้ว ช่วยอุทิศส่วนกุศลให้นายหัวสุเทพด้วยนะ ให้เขาเจอบันไดลงหน่อย ตอนนี้เลยธงไปเยอะ หาบันไดไม่เจอแล้ว ถ้าเลิกม็อบตั้งแต่ชนะเรื่อง พรบ.นิรโทษกรรม งวดหน้านี่เพื่อไทยสาหัสเลย เพราะกลายเป็นประชาธิปัตย์ฉกคะแนนเสียงไปหมด คราวนี้ไม่ยอมเลิก เลยธงมาจนป่านนี้ กลายเป็นสร้างความเดือดร้อนให้แก่ส่วนรวม โดยเฉพาะเรื่องของงบประมาณ ไปห้ามจ่ายเงินเดือน คนที่เดือดร้อนที่สุดก็คือ บรรดาข้าราชการชั้นผู้น้อยที่ใกล้ชิดกับประชาชน คราวนี้ฐานคะแนนเสียงก็หายไปด้วย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-12-2013 เมื่อ 15:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 192 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #36  
เก่า 24-12-2013, 12:16
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,789
ได้ให้อนุโมทนา: 152,290
ได้รับอนุโมทนา 4,422,037 ครั้ง ใน 34,380 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ใครที่จองพระไพรีพินาศทองคำไว้ โปรดระมัดระวังให้ดี อย่าไปกดแถวพระนาสิก คือจมูกพระ เพราะทองคำแท่งเนื้อเกือบ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ อ่อนมาก ถ้ากดแล้วท่านก็จะกลายเป็นพระจมูกบี้ ถ้าใครจะแงะออกดู ให้พยายามแกะออกทางด้านฐาน แล้วพอเวลาใส่คืนก็กดทางด้านฐาน

สมัยก่อนท่านเจ้าคุณพระราชปริยัติโมลี (โสภา เขมสรโณ) ท่านเป็นรองเจ้าคณะจังหวัดนครปฐม เจ้าอาวาสวัดพระงาม พระอารามหลวง จบประโยค ๙ มา ท่านชอบจริง ๆ เรื่องพระเครื่อง ท่านบอกว่าท่านจะเสาะหาแต่เหรียญคณาจารย์ที่จมูกไม่ถลอก คือบรรดาเหรียญต่าง ๆ จุดที่สูงที่สุดก็คือจมูก แล้วก็จะเป็นจุดที่โดนกระทบถลอกเร็วที่สุด ท่านก็บอกว่าจะหาเหรียญที่จมูกไม่ถลอก จะเป็นเหรียญอาจารย์รุ่นใหม่แค่ไหนก็ได้ ถ้าจมูกไม่ถลอกเอามาเถอะ ท่านรับทั้งนั้น

ท่านบอกว่าแรก ๆ ท่านก็ไม่คิดที่จะศึกษาเรื่องพระเครื่องหรอก แต่คราวนี้พอรับตำแหน่งใหญ่ขึ้นไปเรื่อย ๆ บรรดาผู้ใต้บังคับบัญชาก็หาวัตถุมงคลมาให้ พอเอาไปให้เซียนพระดูแล้วเขาบอกว่าปลอม..อายเขา ก็เลยต้องหัดดูเองจนเป็น ท่านบอกว่าขนาดเป็นแล้ว ยังมีคนเอาของปลอมมาหลอกอยู่เรื่อย

ท่านเจ้าคุณโสภาตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ ท่านบอกว่า “เล็ก..พอข้าเป็นเจ้าคณะภาคแล้ว แกมาเป็นเลขาฯ ให้ทีนะ” อาตมากราบเรียนว่า “ไม่รับหรอกครับ หลวงพ่อคงได้เป็นเจ้าคณะภาค ๑๙ แน่ ๆ” การปกครองคณะสงฆ์มหานิกายมีแค่ ๑๘ ภาค อาตมาบอกว่าท่านเป็นได้แค่ภาค ๑๙ แล้วก็จริง ๆ ท่านมรณภาพก่อน ท่านต้องการพระที่ทำงานคล่องตัว โดยเฉพาะผู้บังคับบัญชาแต่ละระดับชั้น ถ้ามีพระเลขาฯ เก่ง ๆ นี่ พูดง่าย ๆ ว่าเลขาฯ รับงานแทนได้เกือบหมด แล้วถ้าปลอมลายมือเป็นอย่างอาตมาก็เซ็นแทนได้ด้วย..!

อาตมาทำสถิติ อยู่ชายแดนเจ้านายไม่อยู่ เซ็นอนุมัติแทนมาแล้ว ปรากฏว่าเป็นการรุกล้ำของอากาศยานไร้สัญชาติ ซึ่งมีวี่แววว่าเป็นของฝ่ายตรงข้ามแน่นอน ออกคำสั่งให้ตรวจการ โดยเซ็นอนุมัติคำสั่งเอง ปรากฏว่าเป็นเรื่องจริง ตรวจสอบแล้วว่าเราป้องกันได้ทัน เขาไม่สามารถจะล่วงล้ำน่านฟ้าเข้ามาได้ลึก ผู้บัญชาการกองพลเรียกเจ้านายไปชม เจ้านายกลับมาแบบงง ๆ แกถามว่า “กูเซ็นไปตอนไหนวะ ?” ก็เลยเรียนท่านไปว่า “ฝีมือผมเองแหละครับ” ท่านก็ดูสมุดบันทึกคำสั่งหน้านั้น ดูเสร็จท่านบอกว่า “อย่าบ่อยนะมึง..!” เจ้าของลายเซ็นมาดูลายเซ็นเอง แล้วสงสัยว่าตัวเองเซ็นไปตอนไหน นึกเอาก็แล้วกัน

ทหารที่อยู่ชายแดนสมัยก่อน โดนบังคับให้จำแบบอากาศยานรบทุกประเภท มองเห็นบนฟ้าลิบ ๆ ต้องแยกออกว่าเป็นยี่ห้อไหนรุ่นไหน แล้วก็ยานยนต์รบทุกประเภท ตรวจการณ์เจอไกล ๆ ชนิดกล้องส่องทางไกลเห็นเท่าแมลงวันหัวเขียว ก็ต้องแยกออกว่าเป็นรถถังรุ่นไหน ยี่ห้อไหน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-12-2013 เมื่อ 16:03
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 196 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #37  
เก่า 24-12-2013, 12:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,789
ได้ให้อนุโมทนา: 152,290
ได้รับอนุโมทนา 4,422,037 ครั้ง ใน 34,380 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ตอนนี้อาตมาขอแรงทิดโต (สถิระ ชัยชนะกลาง) ถอดยันต์ดวงมหาพิชัยสงคราม คราวนี้ยันต์มหาพิชัยสงคราม ท่านเจ้ากรมฯ เสริมเป็นคนลอกแบบออกมาจากตำราพระร่วง แล้วตำราพระร่วงเล่มเล็ก ประมาณว่าใหญ่กว่าคัมภีร์เทศน์ แต่เล็กกว่าสมุดข่อย ท่านเจ้ากรมฯ เสริมไม่รู้ภาษาขอม แต่ท่านสามารถลอกออกมาได้ขนาดนั้น ก็เลยทิ้งปริศนาไว้ให้พวกเราเสียเยอะแยะเลย

ถ้าตัวคาถารอบนอกนี่อาตมาอ่านไม่เป็นก็ไม่รู้หรอก ว่าที่ท่านเขียน ๆ มานั่นทั้งตกทั้งหล่น จะไปโทษท่านเจ้ากรมฯ ก็ไม่ได้ เพราะท่านเห็นอย่างไรท่านเขียนอย่างนั้น ท่านไม่เข้าใจว่าภาษาขอมว่าอย่างไร ท่านลอกแบบตามมา เหมือนกับเราลอกภาษาต่างประเทศที่เราไม่รู้ พอลอกตัวที่เราไม่รู้ เขียนไป ๆ ก็งงว่าสมบูรณ์หรือยัง ? ก็เลยให้ทิดโตช่วยจัดการ เพราะว่าทิดโตฝากฝีมือเอาไว้ตอนทำยันต์มหาเศรษฐีเงินล้าน เห็นว่าเรื่องนี้ไว้ใจได้ก็เลย
ขอใช้บริการหน่อย

รุ่นของพวกเราได้เปรียบตรงที่ว่า คอมพิวเตอร์สามารถสร้างแบบอักษรต่าง ๆ ได้ แม้กระทั่งบาลีขอมก็ทำได้ แต่ว่ามี ๒ อย่างก็คือขอมไทย ขอมไทยบางทีใส่ไม้หันอากาศ ใส่วรรณยุกต์เข้าไปด้วย แต่ว่าขอมที่เป็นของเขมรจริง ๆ นั่นก็ต่างจากขอมโบราณเยอะ แม้กระทั่งอาตมาไปเขมรแล้วอ่านภาษาเขมรออกเกือบทั้งหมด แต่ก็แปลได้ไม่หมด ตอนนี้ก็เลยให้ทิดโตแกะลายแทงอยู่

กำลังรอพระนามพระพุทธเจ้า ๓๗ พระองค์อยู่ ถ้าได้ครบก็เป็นอันว่าสมบูรณ์ แต่ว่าตอนท้ายให้ลงเสียง ‘อะ’ หมดนะ ตัณหังกะระ เมธังกะระ โกณฑัญญะ ฯลฯ ยกเว้นท่านที่ท้ายลงด้วย ‘อิ’ ‘อี’ อย่างเช่น พระพุทธสิกขี เวสสะภู ฯลฯ ต้องลงตามปกติของเขา ชื่ออื่น ๆ ต้องลงอะหมด สิทธัตถะ ปุสสะ พระพุทธเทวเทพ ต้องเป็นเทวะเทวะ ๒ คำซ้อนกัน ถ้าเป็นปฐมาวิภัติ เอกวจนะ จะเป็นเทวะเทโว แต่คราวนี้ถ้าอยู่ในลักษณะการขานพระนามก็เป็นเทวะเทวะ ก็คือเทวเทพ พอมาถึงกัปของเราก็เป็น พระกะกุสันธะ โกนาคะมะนะ กัสสะปะ โคตะมะ

เกิดมามีผลงานฝากไว้ในพระศาสนาก็พอแล้ว ไม่ต้องเอาอะไรมาก"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-12-2013 เมื่อ 15:09
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 197 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #38  
เก่า 24-12-2013, 12:44
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,789
ได้ให้อนุโมทนา: 152,290
ได้รับอนุโมทนา 4,422,037 ครั้ง ใน 34,380 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ตอนนี้พระที่วัดกำลังสนุกสนานกับการสัก เพราะว่ามีมือสักระดับสุดยอดของโลกไปบวชอยู่ ท่านสักทีราคาเป็นแสนบาท แต่ที่วัดนั่นสักฟรี ท่านไปแข่งขันสักลายวิจิตรแล้วได้ที่ ๑ มา ตอนนี้พระที่วัดลายไปทั้งตัว ดูทิดหนุ่ยเล็กของเรา เต็ม ๒ แขนเลย เห็นแก่ของฟรี พวกไม่ต้องเสียเงิน ก็สักไปเถอะ

วันก่อนบอกกับพระทั้งวัดว่า พวกคุณขลังไปหมดทั้งตัวแล้ว มีผมไม่มีลายอยู่คนเดียว เลยไม่ขลัง เป็นอาจารย์พวกคุณไม่ได้แล้ว ...(หัวเราะ)... แต่เขาเก่งนะ อักขระขอมแม่นมากเลย ขอให้มีลายให้ลอกนิดเดียว อักขระไม่ต้องลอกเลย ประเภทเล่นสด อย่างยันต์เกราะเพชร ขอให้มีลาย เขาสักอักขระเองได้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-12-2013 เมื่อ 16:07
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 193 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #39  
เก่า 24-12-2013, 12:45
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,789
ได้ให้อนุโมทนา: 152,290
ได้รับอนุโมทนา 4,422,037 ครั้ง ใน 34,380 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "เรื่องของการทำดอกบัวครรภ์รักษา เหมือนกับการทดสอบกำลังใจว่าจะทำจริงหรือเปล่า ? คาถาสำหรับเสกแต่ละบทนี่ยาวเป็นกิโลเมตรทั้งนั้นเลย ญาติโยมไม่รู้หรอกว่า กว่าจะเสกเสร็จแต่ละครั้งไม่หนี ๒ ชั่วโมงครึ่ง..!

ครั้งก่อนมีโยมมาขอ พอทำเสร็จส่งให้ เขาถามว่า "ใช้อย่างไร ?" เลยด่ากระจาย กระทั่งใช้อย่างไรก็ไม่รู้ แล้วเสือกมาขอ..มึงเห็นกูว่างนักใช่ไหม..?!!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 24-12-2013 เมื่อ 20:45
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 191 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #40  
เก่า 24-12-2013, 12:50
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,789
ได้ให้อนุโมทนา: 152,290
ได้รับอนุโมทนา 4,422,037 ครั้ง ใน 34,380 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ครูดี ๆ ไปตั้งโรงเรียนสอนพิเศษกันหมด แบบเดียวกับเกาหลี ครูบางคนมีลูกศิษย์เป็นล้านเลย น่าจะเก่งกว่าครูอุ๊ของเรา ครูลิลลี่เก่งภาษาไทย ตกลงครูลิลลี่เป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ? อาตมายังสงสัยจนถึงทุกวันนี้

ครูประเภทนี้ที่เด็กเขาจะชอบ เพราะว่าสอนแล้วเด็กรู้เรื่อง อย่างวิชาเคมีน่าสับสนกับชีวิตจะตายไป แค่ท่องสูตรธาตุอย่างเดียวก็ตายแล้ว แต่ครูอุ๊สามารถทำให้เป็นของง่ายได้ ท่านทั้งหลายเหล่านี้น่าจะให้เป็นครูสอนครูด้วยกันเองมากกว่า สอนครูอีกที อย่างของต่างประเทศคนที่เรียนเก่งที่สุด เขาให้ไปเป็นครู เงินเดือนของเขาแพงมาก แพงกว่าหมออีก ถ้าอย่างนั้นเด็กจะพัฒนา เก่งขึ้นไปเรื่อย ๆ

แต่บ้านเรา คนเก่งที่สุดไปเรียนหมอ เรียนวิศวะ คนที่ไม่ได้เรื่องไปเรียนครู ก็เลยกลายเป็นกลับข้างกับที่อื่น ของเขายิ่งไปยิ่งเก่ง เพราะว่าครูมีคุณภาพ ของเราเอาคนไร้คุณภาพมาเป็นครู..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-12-2013 เมื่อ 16:11
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 186 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 02:22



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว