กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี

Notices

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #21  
เก่า 08-06-2012, 09:05
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,692
ได้ให้อนุโมทนา: 152,019
ได้รับอนุโมทนา 4,417,889 ครั้ง ใน 34,282 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : อยากให้สอนสมาธิให้เด็ก ๆ ค่ะ
ตอบ : ถ้าอยากฝึกสมาธิต้องมาตอนเย็น ๆ ถ้าเด็ก ๆ อยากเก่งให้ทำสมาธิเยอะ ๆ หลวงตาเรียนตอนแก่ ๆ ยังสอบได้ที่ ๑ ตลอด ถ้าทำสมาธิไว้นะจ๊ะ แล้วจะเรียนเก่งทุกคน

ถ้าเรานั่งพุทโธ ๆ เป็นแล้วก็อย่าทิ้ง พุทโธก็ได้ นะมะพะธะก็ได้ สัมมาอะระหังก็ได้ พองหนอยุบหนอก็ได้ ทำสมาธิไว้ทุกวัน วันละนิดวันละหน่อยแล้วจะเก่ง มีโอกาสต้องรีบทำนะจ๊ะ จะได้แซงเพื่อน เอาที่ ๑ มาเลย หลวงตาเรียนตั้งแต่เด็กจนแก่ ยังไม่มีใครแย่งที่ ๑ จากหลวงตาได้เลย

ใช้วิธีหายใจเข้าพุท หายใจออกโธ แล้วก็นับ ๑ พอครบ ๑๐ ก็งอนิ้วไว้หนึ่งนิ้ว แล้วก็พุทโธ ๑ พุทโธ ๒ ไปเรื่อย พอครบ ๑๐ นิ้วเมื่อไรก็ไปวิ่งเล่นได้ เราพุทโธได้ตั้ง ๑๐๐ เดี๋ยวนี้ข้าวของแพง ถ้าหาได้ไม่ถึง ๑๐๐ บาท ก็ไม่พอกิน ดังนั้นพุทโธก็เลยต้องให้ได้วันละ ๑๐๐ ครั้งด้วย (หัวเราะ)

ขอให้เรียนเก่ง ๆ นะจ๊ะ สมองคนพัฒนาได้ลูก สมองคนพัฒนาตามสมาธิ ถ้าสมาธิดี สมองจะดีเอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-06-2012 เมื่อ 10:23
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 231 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #22  
เก่า 08-06-2012, 10:11
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,692
ได้ให้อนุโมทนา: 152,019
ได้รับอนุโมทนา 4,417,889 ครั้ง ใน 34,282 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "เสาเสมาธรรมจักร เป็นรางวัลผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา ต้องถือว่าเป็นรางวัลที่ได้ยากที่สุดของสายพระ เมื่อรับมาแล้ว อาตมากับหลวงพ่อปรีชา วัดเขาอิติสุคโต ก็นั่งมองหน้ากัน "ต่อไปก็ไม่เหลือรางวัลอะไรให้เราแล้วสิ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-06-2012 เมื่อ 10:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 232 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #23  
เก่า 08-06-2012, 11:01
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,692
ได้ให้อนุโมทนา: 152,019
ได้รับอนุโมทนา 4,417,889 ครั้ง ใน 34,282 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวถึงงานฉลองพัดยศว่า "หนังสือปกิณกธรรม ๓ พระนาคปรกชุบทองพ่นทรายและกระเป๋าสตางค์ ไทยธรรมงานอาตมามีเท่านี้แหละ มั่นใจว่าพระท่านต้องพอใจ เพราะไทยธรรมมาก เงินในซองจะน้อย แต่ถ้าไทยธรรมน้อย เงินในซองจะมาก เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว

เวลาพระผู้ใหญ่ท่านเดินทางไกล ๆ ข้าวของท่านมาก ท่านก็ขนกันลำบาก ของบางอย่าง เช่น กระเช้าผลไม้ หรือกระเช้าเครื่องดื่ม ของพวกนั้นหมดอายุได้ แต่ละท่านก็มีของพวกนี้เป็นคันรถสิบล้อทั้งนั้น เพราะฉะนั้น..เราพับปัจจัยใส่ซองถวายท่านน่าจะดีที่สุด

ความจริงอยากจะนิมนต์หลวงพ่อสมเด็จฯ ท่านไป แต่ระยะทางไกลมาก การเดินทางต้องใช้ความเร็วสูง ไม่อย่างนั้นจะไม่ทันเวลา ก็เลยตัดใจไม่นิมนต์ เพราะถ้าเกิดอุบัติเหตุอะไรขึ้นมา การสูญเสียท่านเป็นเรื่องที่เหลือที่จะรับได้ นิมนต์พระระดับรอง ๆ ลงไปก็แล้วกัน

ตอนนี้หลวงพ่อสมเด็จฯ ที่ออกงานได้จริง ๆ ก็มีหลวงพ่อสมเด็จฯ วัดปากน้ำกับหลวงพ่อสมเด็จฯ วัดพิชัยญาติ พอหลวงพ่อสมเด็จ ฯ วัดพิชัยญาติรับตำแหน่งเข้าไปก็โทรมจนดูไม่ได้เลย ถึงได้รู้ว่าประเภทงานหัวไม่วางหางไม่เว้นเป็นอย่างไร วันหนึ่งรับ ๗ - ๘ งาน เขานิมนต์จะไม่ไปก็เสียน้ำใจ ไปก็อยู่นานไม่ได้เพราะงานต่อไปรออยู่ ไปแค่ให้เจ้าภาพเห็นหน้าแล้วก็ต้องรีบไปต่ออีกงานหนึ่ง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-06-2012 เมื่อ 12:15
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 226 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #24  
เก่า 08-06-2012, 11:13
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,692
ได้ให้อนุโมทนา: 152,019
ได้รับอนุโมทนา 4,417,889 ครั้ง ใน 34,282 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "เรื่องของวัตถุมงคล บางทีคนใกล้ตัวไม่ค่อยเห็นประโยชน์ ไม่เห็นความสำคัญ สมัยหลวงพ่อวัดท่าซุงยังอยู่ อาตมาไปเอาพระคำข้าว พระหางหมาก ครั้งหนึ่ง ๓๐๐ , ๕๐๐ , ๗๐๐ องค์ เพราะรู้ว่าเงินอยู่กับอาตมาก็มีประโยชน์น้อย แต่ถ้าอยู่กับหลวงพ่อท่านเอาไปใช้สร้างความเจริญให้กับพระพุทธศาสนาอยู่แล้ว

พอเวลาอาตมาทำบุญหลวงพ่อท่านก็ให้เป็นพระมา ทำทีหนึ่งคนอื่นก็บอกว่าบ้า เอาพระไปทำไมเยอะแยะ ? พอสิ้นหลวงพ่อ พระขึ้นราคาพรวดไปเป็นองค์ละ ๑๐๐ บาท พวกที่ว่าอาตมาบ้านั่นแหละ มาเอาพระจากอาตมาไปเกลี้ยงเลย แล้วเขาให้องค์ละ ๑๐ บาทเท่านั้น เพราะออกมาช่วงแรก ๆ ราคาแค่องค์ละ ๑๐ บาท"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-06-2012 เมื่อ 12:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 228 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #25  
เก่า 08-06-2012, 11:30
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,692
ได้ให้อนุโมทนา: 152,019
ได้รับอนุโมทนา 4,417,889 ครั้ง ใน 34,282 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ตำราสร้างพระกริ่งเพื่อรักษาโรค สืบทอดมาจากสมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว สืบสายมาเรื่อย ๆ จนมาปรากฏเด่นชัดในสมัยสมเด็จฯ กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ ปัจจุบันพระกริ่งที่ท่านสร้าง เป็นพระกริ่งอันดับหนึ่งของประเทศไทย ซ้ำยังมีแค่ไม่กี่องค์ เขามั่นใจว่าน่าจะไม่เกิน ๓๐ องค์ แต่ในวงการมีเกิน ๓๐๐ องค์ ไม่รู้องค์ไหนจริงองค์ไหนปลอม

เพราะสมัยก่อนท่านจะสร้างตามกำลังวัน ถ้าวันเกิดตรงกับวันอาทิตย์ก็สร้างได้แค่ ๖ องค์ วันเกิดปีนั้นตรงกับวันศุกร์ก็สร้างได้ ๒๑ องค์ ในเมื่อสร้างตามกำลังวันก็เลยมีน้อย แล้วท่านเองเป็นเชื้อพระวงศ์ด้วย รับมหาสมณุตตาภิเษกเป็นพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ ท่านก็เลยทำแจกบรรดาเชื้อพระวงศ์ที่ไปมาหาสู่กันเป็นปกติ ทำแค่ไม่กี่องค์ แต่ว่าฝีมือสุดยอดมาก ใช้แบบพระกริ่งใหญ่ประเทศจีน

สมัยก่อนเวลาคนจีนเดินทางไปค้าขายต่างประเทศ จะพกของที่ตัวเองมั่นใจไปด้วย ก็พกพระกริ่งใหญ่แบบนั้น มีทั้งเนื้อสำริด เนื้อโลหะเปียกทอง สมัยนั้นเขาไม่เรียกชุบทอง เขาเรียกเปียกทอง เพราะว่าไม่ได้ใช้ระบบไฟฟ้า แต่ว่าใช้ความร้อนเป็นตัวทำละลาย ถ้าจะหลอมโลหะพวกนี้เข้าด้วยกัน อุณหภูมิต้องเกิน ๑,๐๐๐ องศาเซลเซียส เงินจะหลอมละลายจริง ๆ ที่อุณหภูมิประมาณ ๙๐๐ องศาเซลเซียส ส่วนทองคำหลอมละลายที่อุณหภูมิ ๑,๑๐๐ องศาเซลเซียส"

ถาม : เวลาหล่อพระ เอาทองไปใส่เบ้า ทองจะหลอมหรือคะ ?
ตอบ : ละลายเลย เพราะเบ้าที่ใช้เผามีความร้อนสูงกว่านั้น ละลายเป็นน้ำเดี๋ยวนั้นเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-06-2012 เมื่อ 12:20
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 224 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #26  
เก่า 08-06-2012, 11:35
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,692
ได้ให้อนุโมทนา: 152,019
ได้รับอนุโมทนา 4,417,889 ครั้ง ใน 34,282 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ประกาศแจ้งให้โยมทราบ คนที่โอนเงิน ๘๔,๐๐๐ บาทเข้ามาเมื่อครู่ ไม่ได้อะไรนอกจากจะโอนมาถวายฟรี ๆ จะไปคิดว่าโอนเงินแล้วจะบีบอาตมาให้สร้างพระขรรค์ขึ้นมาอีกเล่มหนึ่ง..ไม่ได้หรอก งานนี้พระท่านบอกแล้วว่าเสกให้เฉพาะ ๘๔ เล่มแค่นั้น ใครเอาของอื่นไปเข้าพิธีก็ไม่มีประโยชน์"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-06-2012 เมื่อ 12:20
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 226 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #27  
เก่า 08-06-2012, 11:41
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,692
ได้ให้อนุโมทนา: 152,019
ได้รับอนุโมทนา 4,417,889 ครั้ง ใน 34,282 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : หลวงปู่....(ไม่ชัด)
ตอบ : ไม่ต้องห่วง ก่อนหน้านี้ท่านเป็นพุทธภูมิ ปัจจุบันนี้เลิกเป็นแล้ว จบหรือยัง ?

ถาม : คนเขาไปลือกันว่าท่าน..
ตอบ : ต้องถามท่าน คนเขาลือถึงท่าน ถ้าเขาลือถึงอาตมาจะบอกได้

เรื่องการทำนายเกี่ยวกับอดีตของคนนั้น อนาคตของคนนี้ อาตมาไม่เห็นประโยชน์อะไรเลย เพราะคนสมัยนี้ปัญญาไม่ถึง พระพุทธเจ้าทรงเล่าชาดกและพยากรณ์ว่า ท้ายสุดคนนั้นเป็นอย่างนั้น คนนี้เป็นอย่างนี้ เขาก็ได้มรรคผลกัน สมัยนี้พยากรณ์ให้ตายนอกจากไม่ได้มรรคผลแล้ว ยังยึดติดมากขึ้นอีก เพราะปัญญาไม่พอ

สมัยนั้นเขามองเห็นเลยว่า โอนี่..เราเกิดมานับชาติไม่ถ้วนแล้วยังไม่พ้นทุกข์เสียที เกิดกี่ชาติก็ทุกข์อย่างนี้ อย่าไปเกิดอีกเลย ท่านตัดใจได้ก็เป็นพระอรหันต์ไปเลย สมัยนี้เล่าให้ฟัง เขาก็ฟังเป็นนิทานเฉย ๆ

นี่ยังลังเล ๆ อยู่ว่าผจญกรรมตอนต่อไปจะลงดีไหม ? เพราะเดี๋ยวตัวตนจะชัดเจนขึ้นมา ยกเว้นคุณสุธรรมแอบขโมยไปลงอีก ตานี่ไม่ไหว..เข้าถึงความลับอยู่เรื่อย..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-06-2012 เมื่อ 12:21
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 239 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #28  
เก่า 12-06-2012, 15:47
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,692
ได้ให้อนุโมทนา: 152,019
ได้รับอนุโมทนา 4,417,889 ครั้ง ใน 34,282 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวถึงพระปิดตารุ่น ๒ "พระปิดตารุ่นนี้เป็นรุ่นที่เซียนปลอมไม่ได้ เพราะว่าแบบชำรุด พลิกดูข้างหลังองค์พระจะเห็นว่ามีตุ่มยื่นออกมานิดหนึ่ง จะมีอยู่จุดหนึ่งเป็นจุดที่ปลอมไม่ได้ ถ้าถอดแบบไปก็จะตื้น

แบบชำรุดเอง เหมือนอย่างกับตั้งใจทำให้ชำรุดเลย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-06-2012 เมื่อ 16:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 222 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #29  
เก่า 12-06-2012, 15:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,692
ได้ให้อนุโมทนา: 152,019
ได้รับอนุโมทนา 4,417,889 ครั้ง ใน 34,282 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เอาวัตถุมงคลไปเข้าพิธีเป่ายันต์เกราะเพชรรอบนี้ได้ไหมครับ ?
ตอบ : ได้..เป่ายันต์เกราะเพชรก็เอาวัตถุมงคลเข้าพิธีอยู่แล้ว แต่ถ้าจะเอาอานุภาพแบบพระขรรค์โสฬสคงไม่ได้ ท่านให้แค่นั้น ใครจองพระขรรค์เอาไว้ก็รับไปแค่นั้น แต่ขออภัย...ใครมีพระขรรค์โสฬสนี่อย่าเอาไปรังแกเทวดานะ ตอนรังแกท่านไม่สู้หรอก เผลอเมื่อไรท่านเอาคืน..!

ถาม : แล้วให้เสก...ได้เหมือนเดิมหรือไม่ครับ ?
ตอบ : อะไรที่พระท่านเคยให้ ครั้งต่อไปท่านจะไม่ให้น้อยกว่านั้น ยกเว้นว่ามีอะไรพิเศษท่านจะบอกเพิ่มต่างหาก หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านถึงได้บอกว่า สายของท่านนี่หาวัตถุมงคลรุ่นสุดท้ายไว้ ที่ผ่าน ๆ มาได้เท่าไรรุ่นสุดท้ายก็ได้ทั้งหมด ใครก็ตามที่ได้วัตถุมงคลสายวัดท่าขนุนคงยิ้มได้ เพราะยังไม่มีคำสั่งให้สร้างอีก คาดว่าหมดตรงพระนาคปรกลอยองค์ชุดสุดท้ายนี่คงว่างไปเป็นปี ๆ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 12-06-2012 เมื่อ 16:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 221 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #30  
เก่า 12-06-2012, 16:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,692
ได้ให้อนุโมทนา: 152,019
ได้รับอนุโมทนา 4,417,889 ครั้ง ใน 34,282 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ลูกน้องที่ทำงานเขาป่วยทางจิต ทำอย่างไรดี ?
ตอบ : ก็ทนไปสิ..ถ้าไม่กล้าไล่เขาออกก็ต้องยอมทนไป ต้องหาให้ได้ว่าเขากลัวอะไร แล้วก็ใช้สิ่งนั้นขู่เขา เคยดูเรื่องจริงผ่านจอไหม ? เจ้าแม่ตะเคียนทองไปโรงพักแล้วไปขู่ตำรวจ เจอสารวัตรใหญ่ตะคอกทีเดียวหัวหดเลย สารวัตรใหญ่บอกว่ากูเป็นพระอินทร์ ถ้ามึงเรื่องมากเดี๋ยวกูจะสาปให้เป็นลิง..! เล่นเอาเจ้าแม่ตะเคียนทองหงอไปเลย บ้าขนาดนั้นเขายังขู่ได้เลย ฉะนั้น..เราก็หาจุดอ่อนเขาบ้างสิ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-06-2012 เมื่อ 16:30
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 208 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #31  
เก่า 12-06-2012, 17:00
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,692
ได้ให้อนุโมทนา: 152,019
ได้รับอนุโมทนา 4,417,889 ครั้ง ใน 34,282 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ภาพนิมิตเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ต้องทำอย่างไรครับ ?
ตอบ : เปลี่ยนแปลงไป..ถ้าหากว่าเป็นการปฏิบัติในพุทธานุสติ แล้วยังเป็นพระพุทธรูปอยู่ จะเปลี่ยนเป็นปางอื่นก็ไม่เป็นไร จับภาพต่อไปได้เลย แต่ถ้าหากเรากำหนดพระพุทธรูปอยู่ แต่ว่าเกิดรูปเทวดาหรือว่ารูปพระสงฆ์มาแทนนี่ให้ทิ้งไปเลย แล้วก็จับภาพพระพุทธรูปใหม่
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-06-2012 เมื่อ 17:32
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 212 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #32  
เก่า 12-06-2012, 17:44
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,692
ได้ให้อนุโมทนา: 152,019
ได้รับอนุโมทนา 4,417,889 ครั้ง ใน 34,282 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ถ้าทำบุญต้องทำอย่างอาตมา มีเท่าไรเทโครมเดียวไปเลย เวลาได้อะไรก็จะได้มาเป็นชุดเหมือนกัน สังเกตตัวเองมาหลายทีแล้ว เวลาจะรับอะไรก็มักจะรับทีหนึ่งไม่ต้องไม่ลืมหูลืมตาไปเลย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-06-2012 เมื่อ 17:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 223 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #33  
เก่า 12-06-2012, 22:00
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,692
ได้ให้อนุโมทนา: 152,019
ได้รับอนุโมทนา 4,417,889 ครั้ง ใน 34,282 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "เราเรียกส้มตำ แต่ทำไมถึงเป็นมะละกอตำ ? เพราะคำว่า "ส้ม" ไม่ได้แปลว่าส้มที่เป็นผล แต่ส้มในที่นี้แปลว่าเปรี้ยว อะไรที่ตำแล้วรสชาติออกเปรี้ยวเรียกว่าตำส้ม เช่น อีสานว่าตำส้มบักหุ่ง ส่วนเราเรียกส้มตำ

เรื่องของภาษาลักลั่นกันมาก ถ้าไปอีสานสั่งไก่ย่างไม่มีหรอก เพราะย่างแปลว่าเดิน (หัวเราะ) ที่นั่นต้องใช้คำว่า "ปิ้งไก่" ถึงจะได้กิน ไปสั่งน้ำอย่าสั่งเป็นแก้ว ถ้าสั่งเป็นแก้วจะได้เป็นขวด เพราะแก้วของเขาก็คือขวด ถ้าแก้วแบบบ้านเราเขาเรียกว่าจอก"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-06-2012 เมื่อ 02:32
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 209 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #34  
เก่า 12-06-2012, 22:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,692
ได้ให้อนุโมทนา: 152,019
ได้รับอนุโมทนา 4,417,889 ครั้ง ใน 34,282 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"พอรู้หลาย ๆ ภาษาก็สนุกดี แต่อาตมาไปเมืองจีนแล้วใช้ภาษาที่นั่นไม่ได้ เพราะภาษาที่อาตมาใช้เป็นภาษาที่ปู่ย่าพ่อแม่พูด ตกยุคไป ๗๐-๘๐ ปีแล้ว ปู่ย่ามาจากเมืองจีนอย่างไรเขาก็ใช้อย่างนั้น แต่เมืองจีนพัฒนาภาษาไปเรื่อย พวกเราไปที่นั่นพูดไปเขาพอรู้เรื่อง แต่ที่เขาพูดมาเราฟังไม่รู้เรื่องเลย

พอเข้าไปในวังต้องห้าม ถึงได้รู้ว่าเขาตีวังยากเย็นนักหนาเพราะประตูทางเข้าใหญ่ที่สุดแค่ม้า ๓ ตัวเรียงกัน ศัตรูมามากแค่ไหน ก็เข้าได้แค่ทีละ ๓ - ๕ คน

พอเข้าไปจนถึงด้านในของวัง บรรดาที่พักของฮองเฮาหรือสนมกำนัล รู้สึกว่ามืด ๆ ทึบ ๆ ถ้าสมัยนั้นไม่ได้ใช้ไฟช่วย คาดว่าคนสมัยนั้นต้องสายตาดีเป็นพิเศษ และไม่ต้องห่วง..พวกที่มาขอส่วนบุญมีเพียบเลย ตายแล้วไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด บางทีเป็นประเภทจิตใจอาฆาตพยาบาท ไม่รับอะไรเลยก็มี ตายเพราะโดนใส่ร้าย อยุติธรรมอะไรพวกนี้

เรื่องของในรั้วในวัง สภาพจริง ๆ ในสมัยนั้นอยู่ในลักษณะที่ว่า เหยียบใครลงไปได้ก็ต้องรีบเหยียบ เพราะฮ่องเต้แต่ละองค์มีพระสนมเป็นพัน ถ้าใครมีลูกชายก็จะกลายเป็นเป้าทันที ทีนี้ไม่ใช่มีลูกชายคนเดียว ยังมีคุณชายที่ ๑ คุณชายที่ ๒ จนถึงที่ ๑๐ อาจจะถึงที่ ๑๐๐ ก็ต้องแย่งชิงกัน พออยู่ในภาวะได้เปรียบ เหยียบใครลงไปได้ก็ต้องเหยียบเลย ทำให้บางคนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่โดนโยนความผิดให้ ต้องตายอย่างทุกข์ทรมานด้วยความเคียดแค้น ขนาดพระจะอุทิศส่วนกุศลให้ เขายังไม่เอาเลย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-06-2012 เมื่อ 02:34
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 215 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #35  
เก่า 12-06-2012, 22:39
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,692
ได้ให้อนุโมทนา: 152,019
ได้รับอนุโมทนา 4,417,889 ครั้ง ใน 34,282 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ภาษิตจีนบอกว่าวีรบุรุษกลัวการเจ็บไข้ได้ป่วย วีรบุรุษให้ออกรบกี่ร้อยสนามก็สู้ แต่เจ็บไข้ได้ป่วยที่มาจากข้างในนั้นสู้ไม่ได้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-06-2012 เมื่อ 02:35
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 216 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #36  
เก่า 12-06-2012, 22:57
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,692
ได้ให้อนุโมทนา: 152,019
ได้รับอนุโมทนา 4,417,889 ครั้ง ใน 34,282 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ขอเมตตาจารตะกรุดมหาสะท้อนครับ
ตอบ : เลิกทำแล้ว ม้วนไม่ไหว นิ้วหมดแรง ไปรอประมูลเอาก็แล้วกัน

ไม่น่าเชื่อว่ามีตะกรุดมหาสะท้อนของปลอมแล้ว มีโยมเขาแกะมาให้ดู ถามว่าใช่ไหม ? อาตมาบอกว่าไม่ใช่ลายมืออาตมา ใครจารมาก็ไม่รู้ ? ที่ตลาดท่าพระจันทร์ปลอมกันเยอะ เห็นมีพระกริ่งพิชัยสงคราม มีพระองค์ที่ ๑๑ เขาปลอมกระทั่งพระองค์ที่ ๑๑ องค์ใหญ่ มีเหรียญจักรพรรดิ ฯลฯ ปลอมกระจายเลย ขนาดวัตถุมงคลของอาตมาไม่เข้าวงการยังปลอมขนาดนี้ เข้าวงการเมื่อไรจะปลอมกันขนาดไหน

ถาม : ถ้าปลอมตะกรุดมหาสะท้อนนี่ดูยากไหมครับ ?
ตอบ : ดูลายมือออก แต่จะเสียตอนแกะออกมาดู

ถาม : แล้วจะมีวิธีดูอย่างไรครับว่าของจริงหรือของปลอม ?
ตอบ : ทุกคนที่ได้ตะกรุดมหาสะท้อนไปจะมีรายชื่ออยู่ที่อาตมา ที่อาตมาขอชื่อไปก็เพราะอย่างนี้แหละ ถึงเวลาเรารับมาจากใครนี่สาวต่อไปได้เลยเลย เอ็งรับจากใคร ไล่ไปจนถึงชื่อที่รับจากมือ ของใครเนื้อเงิน ของใครเนื้อทองนี่อาตมาแยกไว้หมด อุตส่าห์ตั้งใจทำไว้กันพวกนี้โดยเฉพาะเลย แต่เขาก็ยังปลอมกันได้

ถาม : โค้ตล่ะครับ ?
ตอบ : โค้ตนี่แค่ตัวเลขนะ ถ้าเจอแนน (ศิริลักษณ์ พินิจสุขใจ) ก็เสร็จเขา เพราะลูกคนนี้ปลอมลายมืออาตมาได้เหมือนมาก แต่น้ำหนักมืออาจจะต่างกัน ตอนแรกเขาเอาสมุดเขียนยันต์มาส่งให้ อาตมายังงงว่าตัวเองไปนั่งเขียนเอาตอนไหน คนที่เขาเก่งก็เก่งจริง เลียนแบบลายมืออาตมาได้เหมือนเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-06-2012 เมื่อ 02:38
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 221 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #37  
เก่า 12-06-2012, 23:47
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,692
ได้ให้อนุโมทนา: 152,019
ได้รับอนุโมทนา 4,417,889 ครั้ง ใน 34,282 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ได้ยินว่าคำสอนของท่าน....ขัดกับคำสอนของพระพุทธเจ้า ทุกวันนี้ก็ยังมีคนนิยมเคารพศรัทธาในตัวท่าน จริง ๆ แล้ว..?
ตอบ : อย่างที่เขาว่ามานั่นแหละ

ถาม : ส่วนที่ขัดอยู่
ตอบ : ส่วนที่ขัดอยู่มีเยอะมากเลย แต่พวกนักวิชาการเขาชอบ เขาถือว่าท่านเป็นคนกล้าคิดกล้าทำ

ถาม : ผมเคยเจอคนที่ยกคำสอนของท่านอ้างมาคุยกัน แล้วเกิดประเด็นโต้แย้งกัน
ตอบ : ปล่อยเขาไป ไม่รู้ว่าเขาเลิกโต้เถียงกันในกระทู้นั้นหรือยัง ? ถ้าเป็นอาตมาจะทิ้งเอาไว้ คนบ้าประเภทนี้ต้องมีไว้บ้าง โลกจะได้เจริญ ลักษณะคนอย่างนี้ถ้าเป็นโบราณ เขาเรียกว่าไม่รู้กาลเทศะ เหมือนกับไปด่าเจ้าของบ้านในบ้านเขา..(หัวเราะ)..แต่เขามีความพยายามมากนะ ตามติดกระทู้ ลักษณะเดียวกับบรรดาตัวป่วนในเว็บวัดท่าขนุนนั่นแหละ เขาเข้าใจว่าสิ่งที่เขาทำนั้นถูก แต่เขาลืมไปว่าสิ่งที่ทำนั้นผิดจังหวะ แม้ว่าในสิ่งที่ทำเป็นเรื่องที่ถูก ในเมื่อนำเสนอผิดกาลเทศะก็กลายเป็นก้าวร้าว


__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 13-06-2012 เมื่อ 07:01
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 212 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #38  
เก่า 13-06-2012, 20:48
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,692
ได้ให้อนุโมทนา: 152,019
ได้รับอนุโมทนา 4,417,889 ครั้ง ใน 34,282 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ความจริงวันนี้ที่วัดมีการโกนหัวนาค เทศน์สอนนาค แต่อาตมามารับสังฆทานที่นี่ ก็ต้องให้ท่านอื่นทำแทน ที่วัดจะใช้ระบบที่ว่า เวลาไม่มีเราเขาต้องอยู่กันได้ ก็เลยกลายเป็นระบบงานที่ไม่ได้รวมศูนย์อยู่ที่ตัวคนเดียว พยายามกระจายงานออกให้เขาทำกันเองให้ได้ ใหม่ ๆ เขาก็ไม่เคยชิน มีแต่จะให้อาตมาสั่งถึงจะกล้าทำกัน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-06-2012 เมื่อ 02:31
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 204 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #39  
เก่า 13-06-2012, 21:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,692
ได้ให้อนุโมทนา: 152,019
ได้รับอนุโมทนา 4,417,889 ครั้ง ใน 34,282 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : พุทธชยันตี ๒,๖๐๐ ปี ?
ตอบ : เขาเอา พ.ศ. ๒๕๕๕ บวกกับอีก ๔๕ ปีที่พระองค์ท่านตรัสรู้แล้วสั่งสอนประชาชน ก็เป็น ๒,๖๐๐ ปี

ถาม : แล้วเขามีต่อเนื่องกันมาตั้งแต่เริ่มแรกเลยหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : เพิ่งจะจัดงานกันไม่นานนี้เอง ครั้งแรกเขาจัด ๒๕ พุทธศตวรรษ ตอน พ.ศ. ๒๕๐๐ แต่ปรากฏว่าการนับ พ.ศ. มีการลักลั่นกัน ทางด้านอินเดีย ลังกา เขานับวันปรินิพพานเป็น พ.ศ. ๑ แต่ทางประเทศไทยนับครบรอบปีปรินิพพานเป็น พ.ศ. ๑ ฉะนั้น..ของเขาจะเร็วกว่าเรา ๓๖๔ วัน ดังนั้น ๒๕ พุทธศตวรรษของเขาจะจัดปี ๒๔๙๙ ของเราจัดปี ๒๕๐๐ เพราะเรานับ พ.ศ.ไม่ตรงกัน

ปัจจุบันนี้เรื่องการแข่งขันทางศาสนามีมาก ก็เลยใช้วิธีหาทางจัดงานสำคัญเกี่ยวกับศาสนาขึ้นมา เมื่อเล็งเห็นว่ามีวาระสำคัญที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ครบ ๒,๖๐๐ ปีพอดี เอา พ.ศ. ๒๕๕๕ กับเวลาที่พระองค์ท่านตรัสรู้แล้วสั่งสอนสัตว์โลกอยู่ ๔๕ ปีรวมกันได้ ๒,๖๐๐ ก็จัดงานสำคัญขึ้นมา ก็แปลว่าอีก ๔๕ ปีข้างหน้าถ้าไม่ตายเสียก่อน จะเห็นงานฉลอง ๒๖ พุทธศตวรรษอีกรอบหนึ่ง

คำว่า พุทธะ หมายถึง องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า คำหลังมาจาก ชยะ ที่แปลว่าชนะ กับ อนันตะ ที่แปลว่าไม่มีที่สิ้นสุด คือ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงชนะกิเลส เป็นชัยชนะที่ไม่มีอะไรเปรียบได้ เขาก็เลยเรียกพุทธชยันตี
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-06-2012 เมื่อ 02:41
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 209 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #40  
เก่า 13-06-2012, 21:13
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,692
ได้ให้อนุโมทนา: 152,019
ได้รับอนุโมทนา 4,417,889 ครั้ง ใน 34,282 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : พระฝางองค์จริงอยู่ที่ไหนครับ ?
ตอบ : องค์จริงอยู่ที่หน้าบันอุโบสถวัดเบญจมบพิตร เขาเชื่อว่าเป็นพระพุทธรูปประจำองค์ของเจ้าพระฝาง ที่สมัยอยุธยาแตกแล้วแข็งเมือง ตั้งใจจะเป็นพระราชาเอง

ก๊กเจ้าพระฝางที่เขาใช้คำว่าพระ เพราะว่าท่านเป็นพระจริง ๆ เป็นพระที่มีชาวบ้านเคารพนับถือมาก ก็เลยรวบรวมชาวบ้านตั้งตัวขึ้นเป็นเจ้า เป็นก๊กเดียวที่ทำเอาพระเจ้าตากเสียท่าไปหน่อย ตีครั้งแรกไม่สำเร็จ ต้องไปใหม่อีกครั้งถึงตีได้ แสดงว่าสุดยอดฝีมือจริง ๆ

ถาม : ท่านเป็นพระแล้วออกรบได้หรือครับ ?
ตอบ : ต้องถามท่านเอง การกระทำของแต่ละคนในแต่ละสถานการณ์ เราไม่สามารถที่จะวิพากษ์วิจารณ์ได้ เพราะท่านอาจจะเห็นว่าเหมาะสม บ้านเมืองอยู่ในลักษณะบ้านแตกสาแหรกขาด ชาวบ้านไม่มีที่พึ่ง ถ้าหากว่าตนเองไม่ให้ชาวบ้านเขาพึ่ง เขาก็เคว้งคว้างหาที่ไปไม่ได้ เมื่อชาวบ้านมาพึ่งกันมาก ๆ ในสายตาคนอื่นก็เห็นว่าตั้งตัวเป็นเจ้า ก็ต้องมีการปราบปรามกัน ถึงเวลาไม่ทันจะคุยกันรู้เรื่องก็ใส่กันแล้ว ไม่สู้ก็ไม่ได้ กว่าจะอธิบายกันรู้ก็พังกันไปข้างหนึ่งแล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-06-2012 เมื่อ 02:35
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 196 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 16:45



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว