|
เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป |
![]() |
|
คำสั่งเพิ่มเติม |
#1
|
||||
|
||||
![]()
พระอาจารย์กล่าวว่า "วัดท่าขนุนถือปฏิปทาหลวงพ่อวัดท่าซุงเป็นหลัก ก็คือ อธิษฐานพรรษาในวันอาสาฬหบูชา แล้วไปปวารณาพรรษาวันตักบาตรเทโว คร่อมปิดหัวปิดท้ายไปเลย หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านบอกว่า "ตามพระวินัยระบุไว้ว่า ภิกษุที่จะรับกฐินได้ ต้องจำพรรษาถ้วนไตรมาส.." ถ้าเราไปอธิษฐานวันเข้าพรรษา ก็ไม่เต็มสามเดือน เพราะวันแรกคุณเสียไปแล้ว แล้วก็ไปปวารณาวันออกพรรษาวันสุดท้าย ก็ไม่ได้เต็มวันอีก
ในเมื่ออธิษฐานพรรษาตั้งแต่วันอาสาฬหบูชา พอเช้านี้อาตมาจึงมีสิทธิ์ลามารับสังฆทานที่นี่ได้ ถ้าไม่ได้ถือปฏิปทาตามหลวงพ่อวัดท่าซุง ก็คงต้องเลื่อนวันรับสังฆทาน"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-08-2012 เมื่อ 16:59 |
สมาชิก 279 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#2
|
||||
|
||||
![]()
พระอาจารย์กล่าวว่า "จังหวัดนครปฐมมีคนนับถือศาสนาคริสต์มาก ตอนแรกเขาตั้งนามสกุลว่าคริสต์เลย แต่ทางอำเภอเขาไม่ยอม นามสกุลที่เขาตั้งว่าคริสต์บุญชู เขาเปลี่ยนเป็นกิจบุญชู ส่วนกิจเจริญ ก็คือ คริสต์เจริญ นายทะเบียนเขาเก่ง เปลี่ยนนามสกุลพวกนี้หมด ก็เลยทำให้นามสกุลประหลาด ๆ ในสมัยนั้นยังไม่โผล่ขึ้นมา
แล้วที่อัศจรรย์ก็คือ พวกชาวคริสต์นครปฐมเป็นคนจีนทั้งนั้น เขาน่าจะนับถือคริสต์มาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษที่อพยพมา ช่วงนครปฐมกับบางนกแขวกก็ไม่ได้ห่างกัน พอออกแม่น้ำท่าจีนก็ถึงกันได้ มีแต่ชาวคริสต์แทบทั้งนั้น หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านเล่าว่า พวกคริสต์บางนกแขวกแขวนพระหลวงปู่ปานกันเกือบทุกคน"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-08-2012 เมื่อ 17:00 |
สมาชิก 266 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#3
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : การฝึกกสิณ ถ้าเพ่งให้เกิดนิมิต ตอนแรกต้องนึกภาพกสิณที่เรามองใช่ไหมครับ หรือว่าไม่ต้องนึก แค่มองภาพกสิณแล้วก็ภาวนาให้ภาพเกิดขึ้นเองครับ ?
ตอบ : ถ้าสามารถภาวนาให้เกิดภาพขึ้นมาเองได้ก็เก่งเกินพระพุทธเจ้าแล้ว การเพ่งกสิณ ก็คือ การลืมตามองดูวัตถุที่ใช้เป็นองค์กสิณ แล้วหลับตาลงนึกถึงภาพนั้น พร้อมกับคำภาวนา ถึงเวลาถ้าภาพเลือนไป ก็ลืมตาขึ้นมองใหม่ หลับตาลงแล้วนึกถึงใหม่พร้อมกับคำภาวนาอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ จนกว่าภาพนั้นจะติดตาติดใจของเราเอง แล้วเราก็ประคับประคองเอาไว้อย่างนั้น
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-08-2012 เมื่อ 17:01 |
สมาชิก 259 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#4
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : ในเรื่องของการระลึกถึงคุณพระรัตนตรัย คุณบิดา-มารดา และคุณครูอาจารย์ ในฐานะของนักปฏิบัติ เราสมควรยกพระคุณไหนขึ้นก่อน หรือถือไว้สูงสุด ? เพราะพระคุณทั้งสามนั้น ล้วนแต่สำคัญสำหรับทุกคนทั้งสิ้น
ตอบ : แสดงว่าคนถามต้องแก่เกินแกง ไม่เคยเรียนอนุบาลแน่เลย เขามีพระคุณที่หนึ่ง พระคุณที่สอง พระคุณที่สาม ขึ้นต้นด้วยพ่อแม่ ตามด้วยพระอุปัชฌาย์ ตามด้วยครูบาอาจารย์ พ่อแม่ถือว่าให้การเกิดในทางโลก พระอุปัชฌาย์ถือว่าให้การเกิดในทางธรรม ครูบาอาจารย์ คือ ผู้ที่สั่งสอนวิชาความรู้เพื่อให้เราสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ เขาระลึกกันไปตามลำดับดังนี้ ถาม : แล้วคุณพระรัตนตรัยสูงสุดอยู่แล้ว ? ตอบ : คุณพระรัตนตรัยสูงสุด เป็นที่พึ่ง กำจัดทุกข์ กำจัดภัยได้จริง
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-08-2012 เมื่อ 17:01 |
สมาชิก 262 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#5
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : การที่ลูกศิษย์ของพระสงฆ์ จัดทำนาฬิกาแบบแขวนและกระป๋องออมสิน ในรูปผลิตภัณฑ์นั้นเป็นพระสงฆ์ที่ยังมีชีวิตอยู่ จะเหมาะสมหรือจะเกิดโทษกับผู้จัดทำ และผู้ที่ขอบูชาต่ออีกทอดหรือไม่คะ ?
ตอบ : อาตมาก็กลายไปนาฬิกาเรือนหนึ่งแล้ว..! ถาม : แสดงว่ายังไม่ได้เป็นกระป๋องออมสิน ? ตอบ : สมัยก่อนมีคนทำรูปหลวงพ่อวัดท่าซุงใส่ในนาฬิกา เสร็จแล้วค่อยไปขออนุญาตท่าน หลวงพ่อท่านบอกว่า "มิน่าล่ะ..ระยะนี้รู้สึกเวียนหัวผิดปกติ"...(หัวเราะ)... เป็นเรื่องที่ไม่สมควรจะทำจ้ะ ไม่สมควรอย่างไรก็นึกเอาเองแล้วกัน
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-08-2012 เมื่อ 02:21 |
สมาชิก 251 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#6
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : ถ้าจะอัดรูปพระปัจเจกพุทธเจ้าในเว็บวัดท่าขนุนใส่กรอบบูชาไว้ที่ร้าน จะเป็นการปรามาสท่านหรือไม่คะ ?
ตอบ : ต้องไปถามท่านเอง...(หัวเราะ)...ถ้าทำด้วยความเคารพก็ไม่เป็นไร การบูชาพระปัจเจกพุทธเจ้าจริง ๆ ไม่ต้องมีรูปก็ได้ ให้ตั้งใจนึกถึงท่านแล้วสวดบูชาด้วยคาถาเงินล้าน ให้ทำโดยสม่ำเสมอ แต่ถ้ามีรูปแล้วเป็นเครื่องยึดโยงใจของเราได้ดีกว่า ก็ทำไปเถอะ อย่าถึงขนาดไปอัดรูปแจกนะ เพราะคนที่ไม่เคารพ เกิดไปปรามาสเข้า จะเกิดโทษแก่เขา
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-08-2012 เมื่อ 02:22 |
สมาชิก 266 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#7
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : ในโลกนี้มีสัตว์ที่ไม่มีวิญญาณหรือไม่ครับ ? ถ้ามีการฆ่าสัตว์เหล่านั้นเป็นบาปหรือไม่ ? และการฆ่าสัตว์เหล่านี้ เช่น แมงกะพรุน หรือหอยประเภทต่าง ๆ เป็นบาปหรือไม่ ?
ตอบ : หาเรื่องลงนรกแล้ว..! พูดง่าย ๆ ว่า สัตว์นั้นจะมีวิญญาณหรือไม่มีวิญญาณก็ไม่ต้องเสียเวลาไปเสาะหาคำตอบ ถ้าคุณคิดจะฆ่าใจก็เศร้าหมองแล้ว เพราะฉะนั้น..อย่าหาเรื่องลงนรก จะสัตว์เล็กสัตว์น้อยขนาดไหนก็ตาม ให้คิดว่าเขาเป็นดวงจิตดวงหนึ่งก็แล้วกัน จะได้ไม่เผลอไปทำกรรมชั่วเข้า ถาม : อย่าตั้งเจตนาให้เป็นอกุศล ? ตอบ : ไม่ใช่ไปตั้งใจว่า ไม่มีวิญญาณนี่กูเอาแน่..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-08-2012 เมื่อ 02:23 |
สมาชิก 258 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#8
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : เวลาปรารถนาหรืออยากได้สิ่งใด กำลังใจระหว่างรอคอยสิ่งนั้นมีผลหรือไม่ ? เพราะบางครั้งอยากได้มากกลับไม่ได้ แต่บางครั้งทำเฉย ๆ เสีย ไม่สนใจ กลับได้มาโดยง่าย
ตอบ : สำหรับเรื่องอื่นไม่รู้ แต่ถ้าในเรื่องของธรรมะการปฏิบัติ คนที่อยากจะไม่ได้ เพราะความอยากนั้นทำให้ใจยังฟุ้งซ่านอยู่ ในเมื่ออารมณ์ใจฟุ้งซ่าน สมาธิไม่ทรงตัว ก็เข้าไม่ถึงการปฏิบัติตามลำดับที่ตนเองต้องการได้ เรื่องทางโลกก็เหมือนกัน อย่างเช่น คาถาเงินล้าน ถ้าใครสวดเพราะอยาก โอกาสได้ก็ยากเต็มที แต่หมดอยากเมื่อไร จะไหลมาเทมาเมื่อนั้น ถาม : วางกำลังใจไม่ให้อยากนี่ยากครับ เพราะอยากถึงได้สวดครับ ? ตอบ : อยากได้..แต่ถึงเวลาภาวนาให้เลิกอยาก เรามีหน้าที่ภาวนาอย่างเดียว อะไรจะเกิดขึ้นก็แล้วแต่ท่านจะเมตตาสงเคราะห์ ถาม : ใช้วิธีสวดจนหายอยากได้ไหมครับ ? ตอบ : ได้..แต่อาจจะหลายปี อาตมาเป็นตัวอย่างที่ชัดที่สุด ตอนสมัยเรียนมัธยม อาตมาอ่านประวัติของหลวงปู่โต วัดระฆังแล้วเลื่อมใสมาก อยากได้พระสมเด็จวัดระฆัง มีคนบอกว่า ถ้าอยากได้พระสมเด็จวัดระฆัง ให้ตั้งใจสวดคาถาชินบัญชรทุกวัน แล้วท่านจะเสด็จมาเอง อาตมาก็ว่าคาถาชินบัญชรเป็นปกติ ปีแล้วปีเล่าผ่านไปก็ไม่ได้สักที เพราะว่าสวดด้วยความอยากได้ ผ่านไป ๑๑ ปีไม่มาเสียที หมดความอยากเลย คิดแค่ว่าเรามีหน้าที่สวดภาวนาของเราไป ส่วนพระองค์ท่านจะเสด็จมาโปรดหรือไม่โปรดก็แล้วแต่ท่านเถิด ปรากฏว่ามาอยู่เรื่อย ดังนั้น..ถ้าอยากก็ยังไม่ได้ ไม่อยากเมื่อไรจะได้เอง ถาม : ๑๑ ปีไม่ใช่น้อยนะครับ ตอบ : สวดด้วยความอยากนำหน้า ตัณหานำทางมาตลอดก็อย่างนั้นแหละ
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-08-2012 เมื่อ 11:22 |
สมาชิก 253 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#9
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : เจ้าหน้าที่คนหนึ่งมีอาชีพรับราชการ อายุราชการยังน้อยอยู่ ทำงานปกติตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย เมื่อเร็ว ๆ นี้ (ช่วงสิ้นงบประมาณแผ่นดิน) มีเจ้าหน้าที่ส่วนงานอื่นที่เคยติดต่อประสานงานกัน นำเงินใส่ซองมาให้ บอกว่าให้เป็นเงินค่าขนม ซึ่งเราเองไม่ได้เรียกรับหรือแสดงท่าทีว่าอยากจะได้เงินในส่วนนี้เลย เงินในลักษณะนี้ปกติจะได้รับในระดับหัวหน้าส่วนขึ้นไป
เราพยายามปฏิเสธการรับเงินแล้วหลายครั้ง แต่ถูกหัวหน้าหน่วยงานคะยั้นคะยอให้รับ จนต้องยอมรับมาก่อน สุดท้ายได้นำเงินก้อนนั้นไปแบ่งแจกจ่ายให้น้อง ๆ ในหน่วยงานส่วนหนึ่ง เก็บไว้ส่วนหนึ่ง อยากทราบว่าเงินที่เรารับมานี้มีความผิดข้อหาเป็นการฉ้อราษฎร์บังหลวงหรือไม่ ? หรือจะถูกจารึกชื่อในบัญชีคดีความของนายบัญชีในนรกหรือไม่ ? เพราะเกิดความไม่สบายใจในเงินที่ได้รับมาครับ ตอบ :ผิดข้อหาฉ้อราษฎร์บังหลวงเต็ม ๆ เอาเป็นว่าคราวหน้ารับมาแล้วบริจาคเข้ามูลนิธิที่เป็นสาธารณกุศล อย่างเช่น ราชประชานุเคราะห์ สายใจไทย ชัยพัฒนา หรือศิลปาชีพก็ได้ เท่ากับว่าคืนหลวงไป ถ้าเราไม่รับ ต่อไปจะอยู่ยาก ถาม : แล้วถ้าบริจาคให้พระศาสนา ? ตอบ : คนละเรื่องกัน เงินอะไรที่เกี่ยวข้องกับราชการก็คืนให้กับราชการไป
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-08-2012 เมื่อ 11:23 |
สมาชิก 258 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#10
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : แหวนจักรพรรดิ (ทองคำ) สมัยพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ เป็นรุ่นที่เขียนใต้ท้องแหวนว่า "พระราชพรหมยาน" ถ้าไม่ใช่แบบท้องตัด (ขยายขนาดใส่ได้ทุกขนาดนิ้ว) จะถือว่าเป็นของแท้ได้หรือไม่ครับ ?
ตอบ : ถ้าท้องไม่ตัดแสดงว่าเป็นของแท้ แต่ถ้าท้องตัดเป็นของปลอม เพราะของแท้ที่มีจารึกชื่อ จะไม่มีการตัดใต้ท้อง แต่ถ้าตัดใต้ท้องจะไม่มีการจารึกชื่อ ส่วนใหญ่ตัดใต้ท้องจะเป็นโลหะชุบทอง แต่ถ้าไม่ตัดใต้ท้องและมีจารึกชื่อ จะเป็นแหวนทองคำแท้ เพราะฉะนั้น..ถ้าจารึกชื่อแล้วตัดใต้ท้องมา ปลอมแน่นอน แต่ถึงจารึกชื่อแล้วไม่ตัดใต้ท้อง ก็ไม่แน่ว่าจะแท้ ถาม : หมายความว่าอย่างไรครับ ? ตอบ : ก็เขาทำเลียนแบบได้
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-08-2012 เมื่อ 11:24 |
สมาชิก 245 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#11
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : ขอคำแนะนำเรื่องการแขวนพระครับ คือผมมีพระหลายองค์ ผมอยากแขวนพระองค์เดียว แต่ก็มีความรักพี่เสียดายน้องครับ ที่เสียดายเพราะเรื่องอานุภาพครับ องค์นั้นดีอย่างนั้น องค์นั้นดีอย่างนี้ องค์นั้นเด่นเรื่องนั้นเรื่องนี้ พระอาจารย์พอจะมีวิธีแนะนำการอาราธนาคุณพระ มาอยู่ในพระเครื่องเพียงองค์เดียวได้ไหมครับ ?
ตอบ : ยาก..เอาวิธีง่าย ๆ ดีกว่า ทำสลากขึ้นมา แต่ละวันก็จับสลากว่าจะแขวนพระองค์ไหน..! ถาม : อย่างนี้มีวิธีไหมครับ ? ตอบ : มี..แต่คนถามยังทำไม่ได้หรอก ถาม : เผื่อคนทำได้ครับ ตอบ : ถ้าคนทำได้ ก็ตั้งพิธีบวงสรวง อาราธนาพระท่านมาสงเคราะห์ทีเดียว ก็เท่ากับทำพิธีพุทธาภิเษกนั่นแหละ ถาม : อย่างนี้เวลาพุทธาภิเษกเราอาราธนาเข้ามาในขันธ์ ๕ เลือดเนื้อ กระดูกร่างกายได้ไหมครับ ? ตอบ : ท่านก็ให้ทำอย่างนั้นอยู่แล้ว
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-08-2012 เมื่อ 11:25 |
สมาชิก 245 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#12
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : ผมได้ตะปูสังขวานรมา ว่าจะนำไปทำมีดหมอ โดยไม่เอาไปหลอม เอาตัวตะปูเป็นตัวมีดเลย แล้วไปให้เขาทำปลอกและด้ามมีดไว้ ไม่ทราบว่าต้องนำไปเข้าพิธีอีกหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : อยู่ที่ความเชื่อมั่น เพราะตะปูสังขวานรส่วนใหญ่จะใช้ยึดประตูโบสถ์ หรือประตูวัง ประตูตำหนัก เขาถือว่าเป็นของขลังในตัวอยู่แล้ว ถ้าเรามีความเชื่อมั่นก็ไม่ต้องนำไปเข้าพิธี แต่ถ้าไม่มีความเชื่อมั่นก็ให้เอาไปเข้าพิธีด้วย แต่อยากจะแนะนำว่า ให้เอาไปหลอมแล้วตีใหม่จะดีกว่า เพราะส่วนใหญ่ตะปูสังขวานรเป็นของเก่า มีสนิมขุมกินตัวอยู่ ทำเป็นมีดเลยก็แปลว่าต้องขยันเช็ด ขยันขัดถูอยู่ทุกวัน เผลอหน่อยเดียวก็สนิมขึ้นแล้ว ถาม : เขามีความเชื่อว่าตะปูสังขวานรเป็นของทนสิทธิ์ไหมครับ ? ตอบ : ถ้าอยู่กับโบสถ์ เจดีย์ คนสวดมนต์ไหว้พระอยู่ทุกวัน พลังจิตจะบันทึกเข้าไปเอง ในส่วนของวังหรือตำหนัก เขาถือว่าผู้มีบารมีอาศัยอยู่ พลังของผู้มีบารมีย่อมแผ่มาถึงด้วย ถาม : ถ้ามีความเชื่อไม่ต้องเข้าพิธี ? ตอบ : ถ้ามั่นใจก็ไม่ต้อง
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-08-2012 เมื่อ 11:27 |
สมาชิก 248 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#13
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : ผู้ที่มีเงินมากเป็นถึงมหาเศรษฐี แต่ตระหนี่กับตัวเอง เป็นเพราะทำกรรมอะไรคะ ?
ตอบ : ไม่ใช่ตระหนี่กับตัวเอง ต้องบอกว่าเป็นผู้ที่รอบคอบ จ่ายในสิ่งที่สมควรจ่าย ถ้าถามว่าทำกรรมอะไรไว้ ? ไม่ใช่กรรม..แต่เป็นสันดานของตนเอง เขาเรียกว่า มัจฉริยะ มีความตระหนี่ถี่เหนียวอยู่ในกมลสันดาน แบบเดียวกับพิฬารกเศรษฐี หรือไม่ก็มัจฉริยเศรษฐี ประเภทข้าวสามมื้อรวบกินเป็นมื้อเดียว ถึงเวลาจะทำขนมก็ต้องแอบไปทำกินอยู่คนเดียว อันนี้ไม่ได้ทำกรรมอะไรไว้ เป็นสันดานของเขาอย่างนั้นเอง ถาม : ที่เขารวยมาได้เพราะอาจจะเคยทำบุญ ? ตอบ : รวยมาได้เพราะเคยทำบุญใหญ่มาก่อน อย่างเช่น เศรษฐีที่ใช้ของดีไม่ได้ ใช้ผ้าใหม่ไม่ได้ นั่งรถหรือยานใหม่ไม่ได้ เพราะทำบุญโดยใช้ของเหลือของตัวเองแล้ว ที่เรียกว่าทาสทาน ต่อให้รวยแค่ไหนก็ใช้ของดีไม่ได้ ถึงเวลากินข้าวก็ต้องกินข้าวปลายเกวียน ก็คือปลายข้าวนั่นแหละ อาหารดี ๆ อย่างข้าวมธุปายาสกินไม่ได้ ต้องกินข้าวต้มกับน้ำผักดอง พวกนี้ทำบุญผิดประเภท สละให้ด้วยของเหลือจากตนเองกินหรือใช้แล้ว ส่วนความขี้เหนียวนั้นเป็นนิสัยเฉพาะตัว ว่ากันไม่ได้
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-08-2012 เมื่อ 11:28 |
สมาชิก 250 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#14
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : คุณตาเพิ่งเสียไปเดือนที่แล้วครับ อย่างนี้เวลาที่เราถวายสังฆทานต้องระบุชื่อเจาะจงทุกครั้งหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : เจาะจงหรือไม่เจาะจงก็ได้จ้ะ แต่ถ้าเพื่อความมั่นใจเราเจาะจงไปก่อน หลังจากนั้นเราค่อยอุทิศทั่วไป จะให้ใครก็ได้
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-08-2012 เมื่อ 11:29 |
สมาชิก 247 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#15
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : ศาลเพียงตาที่มีอยู่สูง ส่วนศาล ๔ เสาเตี้ย แล้วเราจะต่อเสาไม้ขึ้นไปประมาณนิ้วครึ่งได้หรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ถ้าไม่เกรงใจชาวบ้านจะหาว่าเราบ้า ก็ไม่เป็นไร ต่อไปเถอะ โดยทั่ว ๆ ไปแล้วคนเขาไม่เข้าใจกัน เขาจะตั้งศาลอากาศเทวดาเตี้ยกว่าศาลพระภูมิ กลายเป็นเจ้านายอยู่เตี้ยกว่าลูกน้อง ถ้าสถานที่นั้นเป็นหน่วยงาน จะทำให้ลูกน้องไม่ฟังเจ้านาย ทำตัวใหญ่กว่า ถ้าเป็นบ้านเรือนที่พักอาศัย เด็ก ๆ ก็ไม่ฟังผู้ใหญ่ แต่ว่าน้อยรายที่จะรู้ว่าศาล ๔ เสาเป็นศาลอากาศเทวดา ส่วนใหญ่เขาเรียกศาลตายายกัน ถาม : แล้วเราจะต่อไม้ขึ้นไปสักนิ้วครึ่ง ? ตอบ : ทำอย่างไรก็ได้ หนุนให้พื้นศาลสี่เสาสูงกว่าพื้นศาลเพียงตาก็แล้วกัน
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-08-2012 เมื่อ 11:29 |
สมาชิก 242 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#16
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : หลวงพ่อ...บอกว่า อดีต ๕ กิโล อนาคต ๕ กิโล ปัจจุบัน ๕ กิโล ไม่เอาอดีตกับไม่เอาอนาคต ก็หมดไป ๑๐ กิโล เหลือปัจจุบันท่านบอกให้ทิ้ง ปัจจุบันเหลือ ๕ กิโล แล้วปัจจุบันทำอย่างไรครับ ?
ตอบ : สักแต่ว่ารับรู้เฉย ๆ ถาม : แล้วที่ว่าสักแต่รับรู้เฉย ๆ คือนิโรธ หรือนิโรธสัญญา ? ตอบ : อยู่ที่ตัวเรา ถ้าหากว่าสภาพจิตไม่ปรุงไม่แต่งอะไรเลยก็เป็นนิโรธ ถ้าหากว่าปรุงแต่งอยู่เป็นบางครั้ง ก็ได้แค่นิโรธสัญญา ถาม : แล้วนิโรธสัญญายังปรุงแต่งอยู่หรือเปล่าครับ ? ตอบ : จำได้ว่าต้องละ แต่ว่ายังต้องอาศัยอยู่ ก็เลยเป็นนิโรธสัญญา ถาม : เหมือนลืมชั่วคราวใช่ไหมครับ ? ตอบ : ถึงเวลาก็ทำหน้าที่ของเราไป ทำหน้าที่เสร็จก็วางทิ้งไปเลย
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-08-2012 เมื่อ 11:34 |
สมาชิก 232 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#17
|
||||
|
||||
![]()
พระอาจารย์กล่าวว่า "วันนี้วิหารพระศาสดาเปิดนะจ๊ะ ปีหนึ่งเปิดครั้งเดียวคือวันเข้าพรรษา แต่เจ้าหน้าที่ขอร้องว่าให้ไปช่วงบ่าย เพราะช่วงเช้าจะเป็นเชื้อพระวงศ์ผู้ใหญ่ไปกราบพระศาสดากัน
วิหารพระศาสดา วัดบวรนิเวศวิหาร อยู่เลยพระเจดีย์ไพรีพินาศไป ถัดจากพระเจดีย์ไพรีพินาศเข้าไปจะเป็นวิหารเก๋ง แล้วถัดไปจะเป็นวิหารพระศาสดา หลังวิหารพระศาสดาจะเป็นพระนอนที่สวยที่สุดในประเทศไทย องค์เล็ก ๆ ยาวประมาณ ๑ วา แล้วด้านหลังของวิหารพระนอนก็เป็นเรือนโพธิ์"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-08-2012 เมื่อ 11:34 |
สมาชิก 237 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#18
|
||||
|
||||
![]()
พระอาจารย์กล่าวว่า "ผู้ใหญ่ต้องทำตัวเป็นตัวอย่าง แล้วเด็กเขาจะตาม เรานั่งอ่านหนังสือทั้งวัน เด็กก็สงสัยว่ามีอะไรดี ก็เอามาอ่านบ้างเท่านั้นเอง"
ถาม : ตอนนี้เขาอ่านมากขึ้นแล้วค่ะ แต่ยังอ่านแต่หนังสือการ์ตูน ตอบ : ไม่เป็นไร..จะเป็นการ์ตูนหรือเป็นหนังสืออะไรก็ได้ แรก ๆ เขาจะชอบอย่างนั้น เดี๋ยวโตขึ้นเขาพัฒนาได้เอง สมัยเด็ก ๆ อาตมาก็ดูแต่การ์ตูน สมัยนั้นการ์ตูนก็มีแค่ หนูจ๋า เบบี้ ตุ๊กตา อย่างอื่นก็ไม่มี
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-08-2012 เมื่อ 11:35 |
สมาชิก 233 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#19
|
||||
|
||||
![]()
พระอาจารย์พูดถึงไข่แก้วว่า "อาตมาข้ามไปฝั่งพม่าแล้วผีมาบอกว่า ให้ช่วยมาเอาแก้วลูกนี้ไปที เขาจะไปเกิดแล้ว ไข่แก้วที่เอามาหน้าตาเหมือนกับไม้กลายเป็นหิน อะไรทำนองนั้น พอส่องดูออกเขียว ๆ แต่เมื่อเกลาออกมาใสปิ๊งเลย
สรุปว่าน่าจะเป็นมรกตนะ แต่สภาพความแข็งดู ๆ แล้วเหมือนพวกยางไม้ที่เป็นอำพันมากกว่า นี่ยังไม่รู้ราคาจริง ๆ เลย ถ้าเป็นมรกตจริง ๆ เขาบอกกะรัตละ ๘๐,๐๐๐ บาท"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-08-2012 เมื่อ 11:35 |
สมาชิก 243 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#20
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : ตอนนี้นั่งสมาธิได้ดีขึ้น อยากได้สมาธิลึก ๆ ค่ะ
ตอบ : อย่าอยาก..ถ้าอยากจะไม่ได้ ทำใจสบาย ๆ ว่า เรามีหน้าที่เพียงภาวนา จะเป็นสมาธิลึกตื้นอย่างไรก็ช่าง เพราะว่าตัวสมาธิจะต้องมีอุเบกขาอยู่ด้วย ตัวอุเบกขาก็คือตัวช่างหัวมัน ทำไปเรื่อย ๆ เรามีหน้าที่ทำ จะเป็นหรือไม่เป็นเรื่องของเขา คิดอย่างนี้จึงจะได้เร็ว
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-08-2012 เมื่อ 02:54 |
สมาชิก 241 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
![]() |
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
คำสั่งเพิ่มเติม | |
|
|