|
เส้นทางพระโพธิสัตว์ การท่องไปในเมืองพม่า โดยพระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) |
![]() |
|
คำสั่งเพิ่มเติม |
#1
|
|||
|
|||
![]()
ไข้จับซะแล้ว.. อากาศเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา เดี๋ยวหนาวเดี๋ยวร้อน วัดหนองบัวก็อยู่ริมแม่น้ำ อากาศชื้นมากด้วย ดูท่าจะเป็นหวัดกันทุกคน อนุสนธิมาจากการตรากตรำเดินทางนั่นแหละ...
หลังอาหารเช้า หลวงตาเย็นพาพวกเราทั้งหมดไปบ่อน้ำร้อนบ้านสองแคว องจีเมียผู้ใหญ่บ้านขอติดเรือไปซื้อของ พอดีพบกับผู้ใหญ่องไล ที่เพิ่งกลับมาจากมุด่ง สองผัวเมียอยู่ใกล้แค่นี้ แต่ไม่เคยไปบ่อน้ำร้อน จึงขอตามไปด้วยทั้งคู่... แถวนี้เขาทำนาด้วยน้ำร้อน..! บ่อน้ำร้อนอยู่ตรงดงมะพร้าวโน่น อาตมาเหมาขนมทอดในตลาดสองแควหมดทั้งถาด ๒๒๐ จั๊ต เอาไปเผื่อฉันเพล เป็นแป้งทอดวงกลมราดน้ำเชื่อม หน้าตาดูคล้ายโดนัท ส่วนองจีเล่นยืมปิ่นโตเขาซื้ออาหารใส่ แล้วหิ้วไปทั้งเถาเลย... เดินลัดมาทางโรงพยาบาลสองแควที่เงียบจนผีหลอก ออกมากลางทุ่งนาหลังหมู่บ้าน ชาวบ้านกำลังไถนาเตรียมไว้ทำนาครั้งที่สอง หลวงตาเย็นชี้ให้ดูดงมะพร้าวลิบ ๆ ข้างหน้า บอกว่าบ่อน้ำร้อนอยู่ที่นั่น... ลุยผ่านน้ำถึงกับสะดุ้งโหยง..! น้ำมันร้อนจี๋ทั้ง ๆ ที่ไหลมาห่างขนาดนี้ ชาวบ้านอาศัยน้ำนี่แหละ กักไว้ให้เย็นแล้วไขน้ำเข้าไปทำนา เดินไปครึ่งชั่วโมงก็ถึงที่หมาย เสียงน้ำไหลพลั่ง ๆ ไอร้อนลอยกรุ่นไปทั่ว...
__________________
ไม่ติดในสุข ไม่กังวลในทุกข์ วางเฉยในร่างกายนี้ ปล่อยวางภาระทั้งปวง ยอมรับกฎของกรรม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-03-2012 เมื่อ 03:28 |
สมาชิก 81 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ คิมหันต์ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#2
|
|||
|
|||
![]()
บ่อน้ำร้อนเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ๑๐ เมตร ขอบบ่อเป็นหินพรุนแบบหินฟองเถ้าลาวาชัด ๆ..! น้ำร้อนฉ่าประมาณ ๘๐ องศาเซลเซียส ขืนอาบมีหวังกลายเป็นไก่ต้มแน่ ๆ..!
มัวแต่ดูบ่อน้ำร้อนเพลิน ท่านชา ท่านตู่ ท่านป๊อป หายพระเศียรไปกันหมดแล้ว อาตมาเดินเลาะรั้วไม้ไผ่ตรงไปทางกุฏิพระ ที่รู้ว่าเป็นกุฏิเพราะมีจีวรตากอยู่ด้วย ต้องขุดบ่อชักน้ำออกมาจนไกล เพื่อให้เย็นพอที่จะอาบได้ เสียงท่านชาเรียกมาจากหลังรั้ว ที่แท้บริเวณนี้ทั้งหมดเป็นเขตวัด ด้านในวัดเขาก่ออิฐทำบ่อไว้ ๒ บ่อ ขนาดราว ๒ x ๓ เมตร ชักน้ำมาจากอีกบ่อที่อยู่ด้านบนซึ่งกว้างกว่าบ่อแรก มีลักษณะเป็นปากปล่องภูเขาไฟอย่างชัดเจน... ผลัดผ้าลงแช่ในบ่อที่เขาทำไว้ น้ำร้อนกำลังดี ประมาณ ๑๕ นาทีก็ขึ้น แช่นานเกินไปไม่ค่อยดี ถ้าความดันต่ำมีปัญหาแน่ พระเจ้าถิ่นบอกว่า มีพระจากที่อื่นตายมาแล้ว ๒ รูป เพราะแช่นานจนเป็นลมจมน้ำตาย..! ผู้ใหญ่องไลเล่าตำนานว่า บริเวณนี้เดิมเป็นเมืองเก่ามาก่อน ชื่อ เมืองเกิน มีพระอรหันต์องค์หนึ่งมาบิณฑบาต เจ้าเมืองไม่ชอบหน้า สั่งทุกคนบ้วนน้ำลายลงในบาตร มีคนหนึ่งไม่ทำตาม ช่วยเอาบาตรไปล้างที่บ่อ แล้วน้ำเกิดเดือดขึ้นมา..!
__________________
ไม่ติดในสุข ไม่กังวลในทุกข์ วางเฉยในร่างกายนี้ ปล่อยวางภาระทั้งปวง ยอมรับกฎของกรรม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-03-2012 เมื่อ 03:28 |
สมาชิก 82 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ คิมหันต์ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#3
|
|||
|
|||
![]()
พระอรหันต์บอกให้คนนั้นรีบหนีออกไปจากเมือง พอตกค่ำแผ่นดินทรุดตัว เมืองเกินจมหายไปทั้งเมือง เหลือแต่บ่อน้ำร้อนไว้เป็นหลักฐาน ถ้าสมัยนี้คงเป็นแผ่นดินไหวหรือภูเขาไฟระเบิด..!
ขึ้นไปกราบหลวงปู่เจ้าอาวาส ท่านบวชตอนอายุ ๕๙ ปีนี้ ๘๑ แล้ว พวกเราฉันเพลด้วยกัน อิ่มแล้วจึงกราบลา กลับมารอเรือที่สองแคว หลวงตาเย็นแยกขึ้นเรือเมล์ ไปงานบุญข้าวจี่ที่บ้านป่าหวาย... ดูอย่างไรก็ปากปล่องภูเขาไฟชัด ๆ..! กำลังลงเรือพอดีพบครูบาญาณ ท่านกลับจากประชุมสงฆ์ที่ไจ๊มะยอ หลวงตาอินพานก็มาพักกับท่านที่นี่ กลับถึงวัด หนุ่ม ๆ สาว ๆ มาช่วยกันทำความสะอาดเต็มไปหมด รุ่นนี้ได้งานแต่อันตราย เพราะผู้สาวหน้าตางาม ๆ ทั้งนั้น..! ครูบาน้อยสะพายเครื่องตัดหญ้าตัดไปรอบวัด เสียงโยมบ่นว่า ทำแต่งานเช้ายันค่ำ จนเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก ดีแล้วโยมเอ๋ย...ขืนหล่อมากกว่านี้มันจะแย่ ได้ยินว่าสาว ๆ มาทำหัวใจหล่นไว้แถวนี้เยอะแล้ว..! กล้าขนาดตะโกนกันในวัดว่า โอ๊ย..หัวใจหล่นหายแล้ว..!
__________________
ไม่ติดในสุข ไม่กังวลในทุกข์ วางเฉยในร่างกายนี้ ปล่อยวางภาระทั้งปวง ยอมรับกฎของกรรม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-03-2012 เมื่อ 03:30 |
สมาชิก 81 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ คิมหันต์ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#4
|
|||
|
|||
![]()
เคยรู้สึกว่าเส้นเอ็นทั้งร่างสูญหาย กระดูกกล้ามเนื้อหลุดกระจายจากกันหรือไม่..? อาตมากำลังเป็นอย่างนี้อยู่ ไข้หวัดมันฟัดซะงอมพระรามไปเลย ดูเหมือนมาเลเรียมันจะช่วยซ้ำด้วย..!
หลวงตาเย็นขึ้นเรือไปงานบุญข้าวจี่ที่บ้านป่าหวาย ชาวบ้านแห่กันมาทำบุญให้ พ่อเฒ่าเคน ที่ตายไปแล้ว ขนอาหารมามากมายมหาศาล กำลังจะถวายทานอยู่ มีพระหรือเณรก็ไม่ทราบ ขึ้นมากราบ ๆ แล้วไปนั่งต่อท้ายแถวเฉยเลย ท่านนาวินบอกว่าชื่อ ท่านเต๊ก บวชด้วยตัวเอง..! ความหมายคือ ท่านโกนหัวห่มจีวรเอง ซึ่งนับไม่ได้ว่าเป็นพระหรือเณร ต้องแยกให้ท่านฉันอีกวงต่างหาก เห็นหน้าตาของท่านแล้ว ถ้ากลางคืนท่านกลายเป็นค้างคาวบินล่าเหยื่อ ก็ไม่ต้องประหลาดใจ ค้างคาวดูดเลือดอย่างไรก็อย่างนั้นเลย..!
__________________
ไม่ติดในสุข ไม่กังวลในทุกข์ วางเฉยในร่างกายนี้ ปล่อยวางภาระทั้งปวง ยอมรับกฎของกรรม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-03-2012 เมื่อ 03:33 |
สมาชิก 76 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ คิมหันต์ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#5
|
|||
|
|||
![]()
ไข้จับหลับยาวจนสิบโมง หลังเพลสาว ๆ แห่กันมาเต็มวัดตามเคย อาตมาแก่แล้ว ต่างคนต่างอยู่จึงไม่กระไรนัก ขาดสำรวมคิก ๆ คัก ๆ กับเขาแบบท่านป๊อปกับท่านตู่ มันจะไปได้กี่น้ำกันหนอ..? ตูละกลัวแทน..!
เดินกลับจากบ่อน้ำร้อนบ้านสองแคว อากาศร้อนอบอ้าว ฟ้าสลัวคล้ายกับฝนจะตก เสียงครืน ๆ ดังมาแต่ไกล ไม่ทราบว่าเป็นเสียงฟ้าร้อง หรือว่าทหารกะเหรี่ยงถล่มทหารพม่าด้วยปืนใหญ่อีกแล้วก็ไม่รู้ ถ้าเป็นอย่างนั้นก็นับว่าเฮงมาก..! ท่านเต๊กหอบบริขารเปิดไปแล้ว คราวก่อนท่านนาวินให้ร่วมฉันอยู่สิบกว่าวัน คราวนี้ให้แยกฉันท่านคงจะรู้ตัว ไม่ใช่พระแต่ไปร่วมกินร่วมนอนกับพระ ก็มีแต่จะลงนรกลึกเข้าไปทุกวัน ถ้าศรัทธาจริงน่าจะบวชให้ถูกต้องไปเลย คนที่เต็มใจจะเป็นเจ้าภาพให้มีเยอะแยะไป
__________________
ไม่ติดในสุข ไม่กังวลในทุกข์ วางเฉยในร่างกายนี้ ปล่อยวางภาระทั้งปวง ยอมรับกฎของกรรม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-03-2012 เมื่อ 03:35 |
สมาชิก 78 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ คิมหันต์ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#6
|
|||
|
|||
![]()
กรอด..กรอด..กรอด.. พั่บ..! โอ๊ย..! ผีหรือเปล่าวะ? ท่านป๊อปร้องลั่น เมื่ออาตมากระชากสังฆาฏิที่ท่านหนุนหัวฟาดซะเต็มหน้า..! โดนเข้าจนได้.. ท่านครางอ่อย ๆ
อนุสนธิมาจากวิธีแก้คนนอนกัดฟันของหลวงตาเย็น ท่านบอกว่าให้กระชากหมอนของเขามาฟาดหน้า แล้วจะเลิกนอนกัดฟัน พวกเราที่ฟังท่านป๊อปขบกระดูกมาทุกคืน จึงตกลงกับเจ้าตัวว่า ต่อไปนี้ถ้านอนกัดฟันก็จะโดนละนะ..! พวก "วัยอันตราย" ที่มาช่วยทำงานให้วัด ไม่ทราบว่าท่านนอนระแวงหรือเปล่า? สองวันที่ผ่านมาเลิกกัดไปได้ อาจจะเผลอคลายสติเพราะคิดว่าปลอดภัยแล้วกระมัง...มาโดนอาตมาฟาดซะเต็มที่ ยังดีที่ท่านนอนหนุนผ้าสังฆาฏิ ถ้าหนุนหมอนหวายหรือหมอนไม้ คงจะได้เย็บหลายเข็ม..! ผู้ใหญ่องไลกับชาวบ้านมาขอไม้ไผ่ของวัดแต่เช้า เพื่อเอาไปทำข้าวหลามสำหรับงานบุญข้าวจี่พรุ่งนี้ อาตมาเองไข้จับหงิกรับประทาน เห่าแข่งกับหมาเพราะเจออากาศครบทั้งสามฤดู ได้แต่นอนดูตาปริบ ๆ...
__________________
ไม่ติดในสุข ไม่กังวลในทุกข์ วางเฉยในร่างกายนี้ ปล่อยวางภาระทั้งปวง ยอมรับกฎของกรรม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-03-2012 เมื่อ 03:37 |
สมาชิก 73 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ คิมหันต์ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#7
|
|||
|
|||
![]()
กินตับเด็กพวกนี้ดีกว่าว่ะ..! ท่านชาลุกพรวดขึ้นมาจากการอ่านหนังสือ เฮ้ย..ปาราชิกเชียวนะคุณ..! เด็กมันต้องดื้อต้องซนเป็นธรรมดา ถึงจะเอะอะเอ็ดตะโรไปหน่อย เขาก็มาทำงานให้วัดนะครับ...
ทำงานเสร็จก็มานั่งดูรูปกัน สงสัยว่าไอ้ที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ จะน่าดูกว่ารูป..! ตอนเย็นหลวงตาอินพานกลับจากสองแคว มาสมทบเพื่อเก็บเงินในงานบุญข้าวจี่ เนื่องจากแพพระอุปคุตออกไปบ้านอื่นแล้ว..หลวงตาครับ อายุก็มาก เป็นพระอีกต่างหาก ขนเงินสงฆ์ไปให้ญาติโยมใช้ มันจะไปนรกทั้งขบวนนะครับ..! ฉันยาแก้แพ้เข้าไปทำให้ง่วงจนไม่เป็นผู้เป็นคน หลังทำวัตรเย็นจึงนอนยาว แต่ก็ถูกขัดคอจนได้ กำลังสะลึมสะลืออยู่ ท่านตู่ก็มุดมุ้งมาปลุก บอกว่าชาวบ้านนิมนต์ไปเจริญพระพุทธมนต์ที่ศาลากลางบ้าน..!
__________________
ไม่ติดในสุข ไม่กังวลในทุกข์ วางเฉยในร่างกายนี้ ปล่อยวางภาระทั้งปวง ยอมรับกฎของกรรม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-03-2012 เมื่อ 03:39 |
สมาชิก 75 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ คิมหันต์ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#8
|
|||
|
|||
![]()
ฝนชะช่อมะม่วงพรำทั้งคืน เดี๋ยวหนาวเดี๋ยวร้อน แถมยังถูกซ้ำด้วยฝนแบบนี้ ไม่ตายก็เลี้ยงไม่โต...ยังไม่ทันสว่างดี ครอบครัว นางเว ก็มาทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เขา แต่นางผีตายทั้งกลมเล่นมาขอตรงกับอาตมา ก็ต้องให้มันซิ..!
จากนั้นไปสวดมนต์ฉันเช้างานบุญข้าวจี่ที่ศาลากลางหมู่บ้าน ข้าวหลามเอย ข้าวราหูเอย เป็นกาละมัง ๆ ขืนฉันตามใจโยม พระมีหวังจุกตาย..! ทายกทองแดงถูกท่านนาวินดุไปวันก่อน เลิกขอถึงพระนิพพานในอนาคตกาลไปเลย..! มีงานเมื่อไรเขาจะหุงข้าวเลี้ยงแขกด้วยการนึ่งแบบนี้ แล้วเป็นการสวดสะเดาะเคราะห์ขึ้นบ้านใหม่ให้กับเจ้าของ บ้านหลายหลังนอกจากข้าวและขนมในกระทงแล้ว ยังมีดินเหนียวปั้นตามจำนวนคน และวัวควายในบ้านด้วย เจ้าโตน้องชายคนเล็กของท่านนาวิน เอาดอกไม้ธูปเทียนมาขอน้ำมนต์ เกือบชั่วโมงกว่าจะทำเสร็จ ต่อด้วยคณะญาติโยมที่ทำบุญซ่อมหลังคาโบสถ์ มาทำพิธีกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศล แล้วจึงเป็นการถวายอาหารเพล เฮ้อ..เหนื่อยแทบขาดใจ..!
__________________
ไม่ติดในสุข ไม่กังวลในทุกข์ วางเฉยในร่างกายนี้ ปล่อยวางภาระทั้งปวง ยอมรับกฎของกรรม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-03-2012 เมื่อ 18:23 |
สมาชิก 69 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ คิมหันต์ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#9
|
|||
|
|||
![]()
หลังเพลญาติโยมแห่มาส่งเต็มท่าน้ำ อาตมาบังคับทุกคนว่า ภายในสามปีนี้ห้ามตาย ใครตายจะไม่ได้เห็นอาตมาสร้างศาลาหอพระหลังใหม่ให้วัดหนองบัว ร่ำลากันแล้วลงเรือมาขึ้นที่สองแคว รถทหารสิบกว่าคันเรียงรายพรืดไปหมด..!
ที่แท้ทหารพม่าเคลื่อนกำลังไปเพิ่มเติมที่เมืองจะอีน เพื่อเตรียมกวาดล้างทหารกะเหรี่ยงอีกแล้ว พวกเราขึ้นสองแถวมาลงที่มุด่ง แวะหาทิดจิตร ปรากฏว่าพ่อตัวดีไปเที่ยวไหนก็ไม่รู้ ? พวกเราจึงตรงเข้าไปกราบท่านอาจารย์ใหญ่ธัมมะเสนะ ขอพักกับท่านตามเคย... ว่างจากงานลูกหลานพระมหาอุปราชก็เล่นชนไก่กันแบบนี้ ท่านอาจารย์ใหญ่บอกว่ากำลังเป็นห่วงอยู่ พอเราไปได้ ๓๔ วัน บรรดานักประท้วงทั้งจากเมืองเยและมะละแหม่ง เดินทางไปประท้วงที่ย่างกุ้ง พระก็ร่วมขบวนไปด้วย ปะทะกับตำรวจทหารวุ่นวายไปหมด... เห็นอาตมาและคนอื่นเป็นหวัดจามกันฟืดฟาด ท่านจึงให้ยาแก้หวัดมาหลายชุด ฉันแล้วมันง่วงตาปิด อาตมาจึงกางมุ้งนอน ได้ยินเสียงของทิดจิตรดังมาแว่ว ๆ แล้วก็หลับผล็อยไปเลย..! คลิกเพื่ออ่านตอนต่อไป
__________________
ไม่ติดในสุข ไม่กังวลในทุกข์ วางเฉยในร่างกายนี้ ปล่อยวางภาระทั้งปวง ยอมรับกฎของกรรม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-03-2012 เมื่อ 18:24 |
สมาชิก 62 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ คิมหันต์ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
![]() |
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
คำสั่งเพิ่มเติม | |
|
|