กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

Notices

พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) รวมธรรมะจากพระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 26-11-2010, 01:04
โอรส's Avatar
โอรส โอรส is offline
นายทะเบียน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 897
ได้ให้อนุโมทนา: 37,411
ได้รับอนุโมทนา 206,511 ครั้ง ใน 3,180 โพสต์
โอรส is on a distinguished road
Default ต้องระวังเมื่อญาณเกิดขึ้น

ถาม : เวลาเรากำหนดดูสิ่งที่เราได้มา พอได้มาเราก็กำหนดดู เรารู้เลยว่าสิ่งที่เราได้มาต้องทำอย่างไร อันนี้เป็นปัญญาอะไรคะ ?
ตอบ : เขาเรียกว่า ญาณ คือความเป็นทิพย์ของจิต จัดเป็นปัญญาในทางธรรม

ความเป็นทิพย์ของจิต ไม่ว่าทางโลกหรือทางธรรม จะอยู่ในลักษณะที่สมบูรณ์พร้อม คือ พอรู้ขึ้นมา ความรู้สึกที่เกิดอาจจะไม่ถึงนาที แต่ถ้าให้อธิบายนี่หลายหน้ากระดาษ จะรู้พร้อมสมบูรณ์หมด เห็นภาพขึ้นมาจะรู้เลยว่า ต้องจัดการอย่างไรตั้งแต่ต้นยันปลาย

ความเป็นทิพย์นี้ใช้ได้ทั้งทางโลกและทางธรรม ถ้าหากว่าทางโลกเกิดเหตุการณ์อย่างนี้จะทำอย่างไร ทางธรรมเกิดเหตุนี้จะจัดการอย่างไร จะบอกเอาไว้หมด

ตัวนี้ภาษาพระเรียกว่า ญาณ คือ มีเครื่องรู้เกิดขึ้น

ในเมื่อเครื่องรู้เกิดขึ้น ถ้าหากว่าเรายึดติดอยู่ตรงนั้น ก็จะเป็นอุปกิเลส แต่ถ้าเราไม่ยึดติด ก็จะได้อาศัยเครื่องรู้เสริมความก้าวหน้าในการปฏิบัติให้ยิ่งขึ้นไปอีก

จำได้ไหม..อุปกิเลส ๑๐ อย่างมีอะไรบ้าง ?

โอภาส เห็นแสงสว่าง ถ้าเป็นกลางคืนบางทีสว่างเหมือนกลางวันเลย แต่สว่างแบบเย็นสบาย
ปีติ ความอิ่มใจ ไม่เบื่อไม่หน่ายที่จะปฏิบัติ
ปัสสัทธิ เกิดความสงบ กิเลสทุกอย่างเหมือนกับไม่มีเหลือแล้ว จึงคิดว่าบรรลุแล้ว
สุข เกิดความสุขละเอียด ลึกซึ้งอย่างที่ไม่เคยพบมาก่อน ทำให้หลงคิดว่าบรรลุมรรคผลแล้ว
ญาณ มีเครื่องรู้เกิดขึ้น อยากรู้อะไรก็รู้ทุกเรื่อง แต่กลับเผลอ ลืมที่จะรู้ในเรื่องการละกิเลส
อธิโมกข์ น้อมใจเชื่อโดยไม่มีปัญญาประกอบ เมื่อรู้เห็นเองก็เชื่อแบบไม่ลืมหูลืมตา
ปัคคาหะ มีความเพียรกล้า ทุ่มเทกับการปฏิบัติแบบไม่ยอมพักผ่อนหลับนอนกับใครเลย
นิกกันติ ความใคร่น้อยลง อารมณ์ทางเพศเหมือนกับไม่มี คิดว่าบรรลุแล้ว ความจริงยังมีอยู่เต็ม ๆ เลย เพียงแต่โดนกดไว้ชั่วคราวด้วยอำนาจของฌานสมาบัติ
อุปัฏฐาน จิตตั้งมั่นเหมือนกับเสาที่ไม่เคลื่อน เหมือนก้อนหินใหญ่กลางน้ำ น้ำซัดมาอย่างไรก็ไม่หวั่นไหว คิดว่าตัวเองบรรลุแล้ว
อุเบกขา มีความวางเฉยในทุกเรื่อง จะดีก็เฉย จะร้ายก็เฉย จนคิดว่าบรรลุแล้ว ถึงจุดที่ไม่หวั่นไหวกับโลกธรรมใด ๆ แล้ว แต่ความจริงแค่เฉยด้วยอำนาจของฌาน ไม่ใช่เฉยเพราะเกิดปัญญาปล่อยวางได้

ถาม : ปัญญาจริง ๆ เมื่อสำเร็จแล้วจะเข้าใจทุกอย่าง ?
ตอบ : ทุกอย่างที่เข้าใจนั่นให้ถือเอาเฉพาะที่ช่วยให้หมดกิเลสอย่างเดียว อย่างอื่นถือเป็นข้อรุงรังที่จะต้องตัดทิ้งหมด จะเหลือเฉพาะหน้า เหลือแค่ตอนนี้เดี๋ยวนี้เท่านั้น

เอาแค่งานเฉพาะหน้าที่เท่านั้น อย่างอื่นจะไม่เอาเลย ต้องการรู้อะไรก็รู้ แต่ว่าความต้องการไม่มีอีกแล้ว

สนใจขึ้นมาก็แวบไปหน่อยหนึ่ง แต่ก็แวบไปด้วยความระมัดระวังเป็นอย่างสูง เหมือนกับนักมวยที่กลัวว่า เปิดช่องเมื่อไรจะถูกคู่ต่อสู้ชกร่วง ต้องตั้้งท่าปิดให้แน่นก่อน แล้วค่อยไปสนใจเรื่องอื่น


สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนกุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๔๔

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-06-2015 เมื่อ 07:35
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 108 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ โอรส ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 01:19



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว