กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๘ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนธันวาคม ๒๕๖๘

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 25-12-2025, 17:19
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 11,494
ได้ให้อนุโมทนา: 227,641
ได้รับอนุโมทนา 824,820 ครั้ง ใน 40,798 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๖๘

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๖๘


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 25-12-2025, 22:42
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,626
ได้ให้อนุโมทนา: 160,936
ได้รับอนุโมทนา 4,524,109 ครั้ง ใน 37,242 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๒๕ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ อากาศที่วัดท่าขนุน อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ที่ดูจากโทรศัพท์มือถืออยู่ที่ ๒๐ องศาเซลเซียส แต่ว่าสภาพอากาศจริงน่าจะต่ำกว่านี้ ๑ - ๒ องศาเซลเซียสเสมอ เพียงแต่ว่าไม่ได้มีเครื่องวัดที่อยู่ในพื้นที่ให้ตรวจสอบได้ จึงไม่ขอยืนยันในจุดนี้

กระผม/อาตมภาพเจริญพระกรรมฐานและทำวัตรเช้า ร่วมกับพระภิกษุสามเณรและญาติโยมที่วัดท่าขนุนแล้ว ก็ไม่ได้ออกบิณฑบาต หากแต่ว่าไปฉันเช้าที่โรงครัว จากนั้นก็วิ่งลงมาจังหวัดกาญจนบุรี เข้าไปยังวัดไชยชุมพลชนะสงคราม (พระอารามหลวง) หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่าวัดใต้ เพื่อร่วมงานวันครบรอบวันมรณภาพปีที่ ๒๓ ของพระเดชพระคุณพระธรรมคุณาภรณ์ (ไพบูลย์ กตปุญฺโญ ป.ธ. ๘) อดีตเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี อดีตเจ้าอาวาสวัดไชยชุมพลชนะสงคราม (พระอารามหลวง) ซึ่งท่านไปเสียชีวิตขณะที่นำคณะพระภิกษุและญาติโยมสักการะสังเวชนียสถานทั้ง ๔ แห่งที่ประเทศอินเดีย ซึ่งท่านนำญาติโยมไปเพื่อให้ได้พุทธานุสติแบบนี้ทุกปี

พระเดชพระคุณ "หลวงพ่อไพบูลย์" ของคนจังหวัดกาญจนบุรีนั้น ท่านเป็นทั้งที่รักของพระภิกษุสามเณรและญาติโยมทั้งหลาย เนื่องเพราะว่าท่านทำทุกอย่างเพื่อความเจริญของคณะสงฆ์ และความอยู่ดีกินดีของญาติโยมทุกท่าน

ในเรื่องของวัดวาอารามต่าง ๆ ซึ่งสมัยก่อนแทบจะไม่ได้รับการขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องกับทางกรมการศาสนา ทำให้เจ้าอาวาสจำนวนมากไม่ได้รับนิตยภัต ไม่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย ก็ได้หลวงพ่อไพบูลย์นี่แหละ ที่ "ท่อม ๆ" เข้าไป ไม่ว่าจะอยู่ในป่าลึกแค่ไหนก็ตาม ไปช่วยจัดการจนกระทั่งได้เอกสารสิทธิ์ในการครอบครองที่ดิน และสามารถตั้งเป็นวัดได้เสียเป็นส่วนใหญ่

มีเพียงบางแห่งที่ทางราชการทำเอกสารสูญหาย ทำให้ไม่สามารถจะเป็นวัดที่ถูกต้องได้ ถ้าอย่างของทางอำเภอทองผาภูมิก็ได้แก่วัดโบอ่อง เป็นต้น เพียงแต่ว่าเมื่อสิ้นหลวงพ่อไพบูลย์ไปแล้ว เรื่องนี้ก็ "กลายเป็นคลื่นกระทบฝั่ง" และโดยเฉพาะยุคนี้สมัยนี้ เหมือนกับว่าไม่มีใครอยากให้มีวัดเพิ่มมากขึ้น ทางวัดโบอ่องซึ่งเป็นวัดมาเนิ่นนานนับร้อยปี จึงต้องกลายเป็นสำนักสงฆ์โบอ่องไปโดยปริยาย..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-12-2025 เมื่อ 00:21
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 26 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 25-12-2025, 22:45
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,626
ได้ให้อนุโมทนา: 160,936
ได้รับอนุโมทนา 4,524,109 ครั้ง ใน 37,242 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

กระผม/อาตมภาพเองนั้นไข้จับหนักมาก จนต้องฉันยาก่อนที่จะเข้าร่วมพิธีทั้งหลาย เมื่อไปถึงได้ครู่เดียว หลวงพ่อเจ้าคุณปัญญา - พระเดชพระคุณพระเทพปริยัติโสภณ, ดร. (ปัญญา วิสุทฺธิปญฺโญ ป.ธ. ๙) เจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรีรูปปัจจุบัน ลูกศิษย์ก้นกุฏิของหลวงพ่อไพบูลย์ก็กวักมือเรียก ให้ไปช่วยแจกข้าวสารให้กับบุคคลในชุมชนรอบวัด ซึ่งถ้าเป็นคนในชุมชนจริง ๆ ก็จะมีบัตรที่ทางวัดมอบให้ไป เมื่อนำบัตรมาส่งให้กับทางพระภิกษุสามเณร ซึ่งคอยดูแลจัดแถวอยู่ กระผม/อาตมภาพก็มอบข้าวสารถุง ๕ กิโลกรัมให้แก่ทุกคน

แต่ว่าก็มีจำนวนหนึ่งที่มาจากชุมชนอื่น ๆ ที่ไม่ได้อยู่รอบวัด และรู้ว่าทุกวันสำคัญของทางวัดใต้ จะมีการแจกสิ่งของ โดยเฉพาะข้าวสาร จึงแห่กันมาอีกนับร้อย ๆ คน กระผม/อาตมภาพจึงต้องรอสามเณร ส่งข้าวสารถุงให้เพื่อแจกแก่บุคคลที่ไม่มีบัตร หมดข้าวสารไปอีก ๑ คันรถ ขนาดนั้นแถวก็ดูเหมือนจะไม่ได้สั้นลงเลย..! จึงได้แต่ประกาศว่าตั้งแต่นี้ไป จะมอบให้เฉพาะบุคคลที่ถือบัตรมาเท่านั้น เพราะว่ามีจำนวนที่แน่นอนอยู่แล้ว

จากนั้นก็เข้าไปกราบรายงานตัวกับพระมหาเถระทั้งหลายที่เดินทางมาร่วมงาน ซึ่งองค์ประธานในวันนี้คือ "หลวงปู่สมเกียรติ" ของกระผม/อาตมภาพเอง พระเดชพระคุณพระพรหมวัชรเมธี (สมเกียรติ โกวิโท ป.ธ. ๙) กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร

อีกท่านหนึ่งที่เป็นประธานในการเจริญพระพุทธมนต์ ก็คือพระเดชพระคุณพระธรรมโพธิมงคล (สมควร ปิยสีโล ป.ธ. ๙) เจ้าคณะภาค ๒ เจ้าอาวาสวัดนิมมานรดี (พระอารามหลวง)

ที่ดีใจมากที่สุดก็คือหลวงพ่อเจ้าคุณประสงค์ - พระเดชพระคุณพระเทพเมธาภรณ์ (ประสงค์ วราสโย ป.ธ. ๘) อดีตเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี (ธรรมยุต) ซึ่งท่านผ่าตัดสมอง จนกระทั่งทางคณะสงฆ์ต้องยกท่านขึ้นเป็นกิตติมศักดิ์ แล้วตั้งเจ้าคณะจังหวัดรูปใหม่ ท่านอยู่ในห้องไอซียูเป็นเวลานาน มาวันนี้รู้สึกว่าแข็งแรงกระปรี้กระเปร่ามาก ไม่ทราบเหมือนกันว่าบุญรักษาหรือว่ากรรมรักษา..!

เมื่อเข้าไปกราบ ท่านยังบอกว่า "ไม่ได้ไปวัดท่าขนุนมานานแล้ว" จนต้องเรียนท่านบอกว่า "หลวงพ่อรักษาสุขภาพก่อนครับ ถ้าแข็งแรงขึ้นเมื่อไร แจ้งมาก็แล้วกัน กระผมยินดีถวายการต้อนรับ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-12-2025 เมื่อ 00:25
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 26 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 25-12-2025, 22:48
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,626
ได้ให้อนุโมทนา: 160,936
ได้รับอนุโมทนา 4,524,109 ครั้ง ใน 37,242 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อีกท่านหนึ่งที่เป็นสุดยอดสปิริตของคณะสงฆ์จังหวัดกาญจนบุรี ก็คือหลวงพ่อพระครูนิโครธโยคาภิรักษ์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค ๑๔ เจ้าอาวาสวัดน้ำตก อดีตเจ้าคณะอำเภอไทรโยค ซึ่งท่านเป็นลูกศิษย์ก้นกุฏิของพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชสังวราภิมณฑ์ หรือหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ซึ่ง "หลวงพ่อแอ๋ม" ของเรานั้น ไม่ว่าจะงานเล็กงานใหญ่ของคณะสงฆ์ที่ไหน ท่านก็ไปร่วมงานเสมอ และที่แน่ ๆ ก็คืออยู่จนงานเลิกถึงจะกลับ เป็นตัวอย่างที่สุดยอดมาก ซึ่งกระผม/อาตมภาพและบรรดาคณะสงฆ์รุ่นหลัง ๆ เอาเป็นแบบอย่างอยู่เสมอ

ครั้นได้เวลาก็ขึ้นไปร่วมเจริญพระพุทธมนต์ แต่ด้วยความที่ว่าบางจังหวะต้องหยุดไอ แล้วขณะเดียวกันก็ต้องสั่งงานให้กับน้องเล็ก (นางสาวจิราพร ซื่อตรงต่อการ) ถ่ายรูปในบางมุม ซึ่งมีบุคคลสำคัญฝ่ายฆราวาสนั่งอยู่ อย่างเช่นนางพัชรินทร์ พัดทอง ผู้ตรวจราชการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ หรือว่านางสาวกมลชญา ประเสริฐสิน ปลัดจังหวัดหญิงของจังหวัดกาญจนบุรี เหล่านี้เป็นต้น แต่ว่าสามารถที่จะสวดมนต์ได้ตรงตามที่คนอื่นเขาสวดกันอยู่

ในขณะที่หลวงพ่อ ดร.พระครูสมบัติ (พระครูวิบูลกาญจโนภาส, ดร.) เจ้าคณะอำเภอท่ามะกา รองเจ้าอาวาสวัดพระแท่นดงรัง วรวิหาร ทำหน้าแปลกใจว่า "สั่งโน่นสั่งนี่หันกลับมาทีไรสวดตรงทุกที ขนาดผมสวดอยู่แท้ ๆ ยังมีทิ่มผิดเลย..!" กระผม/อาตมภาพไม่ทราบว่าจะกล่าวอย่างไร ว่าสามารถที่จะแยกใจทำงานหลาย ๆ อย่างพร้อมกันได้ จึงได้แต่เรียนท่านไปว่า "กระผมเองถนัดในการสวดมนต์ไปด้วย ทำงานไปด้วย ก็เลยสวดไม่ผิดครับ" พูดง่าย ๆ ว่าหลอกเพื่อนเสียอย่างนั้น..!

ส่วนอีกท่านหนึ่งที่นั่งอยู่ใกล้กัน
แม้ว่าจะสงสัยแต่ไม่พูดไม่จา ก็คือหลวงพ่อเจ้าคุณตี๋ - พระเดชพระคุณพระกิตติวชิรธาดา (วิทยา มหาวีโร) เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ประคองธรรม เจ้าคณะอำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี เพื่อนร่วมงานโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ มาด้วยกัน จนกระทั่งรู้ใจกันดีแล้ว ว่าควรที่จะทำอะไรต่อมิอะไรกันตอนไหน

กระผม/อาตมภาพเองมักจะสร้างความแปลกใจให้กับคนอื่นเสมอในหลายเรื่องด้วยกัน เรื่องแรกก็คือเขาเห็นอยู่ว่าป่วยหนักขนาดไหน บางทีต้องฉันยาวันละ ๓ เวลา แต่ว่าถึงเวลางานหนักงานเบาก็ไปทำให้เขาได้หมด..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-12-2025 เมื่อ 00:28
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 25 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 25-12-2025, 22:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,626
ได้ให้อนุโมทนา: 160,936
ได้รับอนุโมทนา 4,524,109 ครั้ง ใน 37,242 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ประการที่สองก็คือ ถ้าหากว่าเจริญพระพุทธมนต์ หรือว่าสวดพระพุทธมนต์ เมื่อถึงเวลาแล้วก็สามารถที่จะทำได้ถูก สวดได้ถูก ทั้ง ๆ ที่ทำงานอื่นไปด้วย แต่ว่าพระภิกษุสามเณรและญาติโยมวัดท่าขนุนนั้น จะเห็นอยู่เป็นประจำว่า กระผม/อาตมภาพนั้น ทำวัตรเช้า - ทำวัตรค่ำไปด้วย อ่านหนังสือไปด้วย ส่งงานทางไลน์ไปด้วย

เรื่องพวกนี้เป็นการซักซ้อมการแยกจิตแยกกาย ทำงานหลาย ๆ อย่างร่วมกัน ทุกท่านก็นึกไม่ถึงว่ากระผม/อาตมภาพเองนั้น บางทีก้มหน้าก้มตาส่งงานทางไลน์ แต่พอคนอื่นสวดมนต์ผิด ก็สามารถบอกที่ถูกได้ทันที หรือเห็นว่าอ่านหนังสืออยู่แท้ ๆ เขาจะกราบเขาจะไหว้อย่างไร สามารถลงได้ตรงจังหวะกับเขาทุกครั้ง

ลักษณะแบบนี้คือการฝึกซ้อมปฏิบัติในกีฬาสมาธิ ที่พวกเราทั้งหลายจะทิ้งเสียไม่ได้ เนื่องเพราะว่าสมาธิเป็นของไม่แน่นอน ถ้าสภาพร่างกายไม่ดี บางทีเขาก็ไม่เอากับเราเลย กระผม/อาตมภาพจึงต้องซักซ้อมในทุกสภาพ ในทุกอารมณ์ ในทุกสถานที่

คำว่า ทุกสภาพ ก็คือไม่ว่าจะอยู่ในลักษณะไหนก็ตาม ร่างกายดี หรือเจ็บไข้ได้ป่วย ก็ทำเป็นปกติ ในทุกสถานที่ก็คือ ทำอะไรอยู่ที่ไหนก็ตาม ก็ต้องซักซ้อมเข้าออกสมาธิให้คล่องตัว และในทุกเวลาก็คือ พยายามไม่ยอมให้เวลาผ่านไปเปล่า ๆ อย่างไรเสีย สติก็ต้องกำหนดรู้อยู่กับภาพพระ หรือว่าอยู่กับพระนิพพาน โดยเฉพาะอยู่กับลมหายใจเข้าออก และความรู้สึกที่ว่า "เราจะต้องตาย ตายเมื่อไร เราขอไปอยู่พระนิพพานกับองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้น" เนื่องเพราะว่าครูบาอาจารย์สอนอยู่เสมอว่า "อย่าได้ประมาท ความตายสามารถมาถึงเราได้ทุกเวลา"

ดังนั้น..ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายคิดว่าตนเองเป็นนักปฏิบัติธรรมแล้ว จะเอาปฏิปทาของกระผม/อาตมภาพไปใช้ดูบ้างก็ได้ ถ้าทำได้สำเร็จ ทำได้คล่องตัว กระผม/อาตมภาพก็อนุโมทนาด้วย ต่อให้ทำไม่สำเร็จ แต่ถ้าใช้ความเพียรพยายามจริง ๆ ก็จะเอาใจช่วย ขอให้ท่านทั้งหลายสำเร็จได้สักวันหนึ่ง

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพฤหัสบดีที่ ๒๕ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-12-2025 เมื่อ 00:31
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 28 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 13:50



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว