|
#1
|
||||
|
||||
|
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๒๐ ธันวาคม ๒๕๖๘
|
| สมาชิก 17 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
|
#2
|
||||
|
||||
|
วันนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ ๒๐ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ อากาศยามเช้าที่โรงแรม RAMADA By Wyndham อยู่ที่ ๑๒ องศาเซลเซียส หมอกหนาท่วมเมืองตามเคย "เจ้าแม่นภิสราเทวี" เจ้าแม่หลักเมืองเนปาล พร้อมด้วยบริวาร มาต้อนรับกระผม/อาตมภาพตั้งแต่เมื่อคืน ท่านบอกว่าความจริงพอเข้าเขตรัฐอุตตรประเทศ ก็เป็นเขตของท่านแล้ว แต่ในเมื่อมอบหมายให้ "มหามาตา" ทำหน้าที่ในส่วนของประเทศอินเดียไปแล้ว ท่านจึงมารับเฉพาะในส่วนของประเทศเนปาล กระผม/อาตมภาพยังแซว "เจ้าแม่น้ำพริกสละ" ว่า "เป็นเจ้านายทำไมถึงอู้แบบนี้ ?"
เมื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับทุกท่านแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ไปล้างหน้า แต่งตัว ลงไปข้างล่าง เพื่อที่จะเดินถ่ายรูปตามปกติของตน แต่ด้วยความที่ว่าลิฟท์นั้นมีชั้น ๑ ชั้น - ๑ โดยที่ไม่มีชั้นที่เป็นล็อบบี้ เพราะว่าพวกเราไม่รู้ ?! เมื่อลงไปถ่ายรูปเสร็จ กลับขึ้นมาก็เห็นมีคณะนักท่องเที่ยวชาวเกาหลี ๓ - ๔ คน ใช้ลิฟท์ขึ้น ๆ ลง ๆ อยู่ กระผม/อาตมภาพถามว่าจะไปไหน ? อีกฝ่ายหนึ่งตอบภาษาอังกฤษไม่ได้ แต่ทำท่ากินให้ดู กระผม/อาตมภาพจึงกดชั้น ๑ ให้ เนื่องเพราะว่าชั้น LG ก็คือชั้นล็อบบี้ แล้วยังมีชั้น - ๑ ซึ่งอยู่ทางด้านล่างเป็นที่จอดรถ ต้องเป็นชั้น ๑ ถึงจะเป็นห้องอาหาร เมื่อไปถึง ปรากฏว่าห้องอาหารเปิดตั้งแต่ตี ๕ ของประเทศเนปาลแล้ว กระผม/อาตมภาพก็เลยเข้าไปตักอาหารมา แล้วส่งไลน์ไปบอกในกลุ่มว่าตอนนี้ทางห้องอาหารเปิดแล้ว จากนั้นตนเองก็ฉันจนเกือบจะได้ครึ่งทางแล้ว น้องการ์ตูน (นางสาวศรัณย์พร บุรินทรโกษฐ์) ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะรถบัสคัน ๑ ของกระผม/อาตมภาพก็มาถึง ถามว่า "หลวงพ่อต้องการอะไรเพิ่มไหมเจ้าคะ ?" แต่ขอโทษเถอะ...หลวงพ่อต้องการอะไรก็มักจะตักมาเองจนเรียบร้อยแล้ว ดังนั้น..ข้าวปลาอาหารต่าง ๆ ที่ทางเอ็นซีทัวร์ขนมามากมายมหาศาล กระผม/อาตมภาพจึงแทบจะไม่ได้แตะต้องเลย..! เมื่อฉันเสร็จแล้ว กระผม/อาตมภาพก็มานั่งรับปัจจัยต่าง ๆ ที่คณะญาติโยมพร้อมใจกันถวายอยู่ทุกเช้า ไม่ทราบเหมือนกันว่าเป็นธรรมเนียมอะไร ? แต่กระผม/อาตมภาพก็ได้อาศัยปัจจัยนี่แหละ คอยไปเพิ่มเติมในกองผ้าป่าต่าง ๆ ซึ่งบรรดาญาติโยมหลายคนถวายให้กระผม/อาตมภาพมาตั้งแต่กรุงเทพฯ แล้ว แม้แต่ "ไอ้ตัวเล็ก" ก็ถวายทั้งเงินดอลลาร์และเงินรูปีมาด้วย จึงทำให้กระผม/อาตมภาพค่อนข้างที่จะรวยอู้ฟู่ นอกจากจะทำบุญถวายผ้าป่าวัดละ ๑๐,๐๐๐ รูปีแล้ว ยังถวายที่วัด ท่านเจ้าคุณกอล์ฟ - พระวิเทศวัชราจารย์ (เฉลิมชาติ ชาติวโร) เลขานุการธรรมทูตสายอินเดีย - เนปาล คือวัดสิทธารถราชมณเฑียร ๙๑๐ ไป ๕๐,๐๐๐ รูปี ส่วนกองผ้าป่า ถ้าหากว่าไม่ลงเลขกลม ๆ กระผม/อาตมภาพก็มักจะเติมให้เต็มทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเงินรูปี เงินไทย หรือว่าเงินดอลลาร์อเมริกัน
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เผือกน้อย : วันนี้ เมื่อ 06:17 |
| สมาชิก 12 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
|
#3
|
||||
|
||||
|
พวกเราทำบุญกันเสร็จเรียบร้อยก็ตรงมาขึ้นรถ ปรากฏว่าพลขับยังเช็ดรถไม่ทันจะเสร็จดี แต่ก็รีบเปิดรถให้พวกเราเข้าไปนั่งข้างใน เมื่อเข้ามาถึงข้างในจึงได้รู้สึกว่าอากาศข้างนอกนั้นความจริงแล้วหนาว แต่เป็นอากาศหนาวแบบสดชื่นมาก เนื่องเพราะว่าหมอกหนักและจับตัวตกลงมาเหมือนอย่างกับเม็ดฝน ทำให้นึกถึงบาลีที่กล่าวถึง "สิสิรฤดู" ก็คือฤดูที่น้ำค้างตกหนัก ซึ่งได้มาเห็นของจริงที่นี่เอง แสดงว่าทางด้านอินเดียเนปาลนี้ยังไม่เข้าฤดูหนาว หากแต่เป็นสิสิรฤดู ก็คือฤดูที่น้ำค้างตกหนักเท่านั้น
เมื่อพวกเรามาพร้อมกันแล้ว ประมาณ ๐๗.๐๕ น. ก็วิ่งตรงไปยังเมืองโบราณกบิลพัสดุ์ พวกเราได้ทำวัตรเช้าพร้อมกับอุทิศส่วนกุศลให้ "เจ้าแม่น้ำพริกสละ" และบรรดาบริวารที่แห่แหนติดตามดูแลกันเป็นจำนวนมากมาย พวกเรามาถึงทางด้านเมืองโบราณกบิลพัสดุ์ ปรากฏว่าไปเจอคณะของพระครูปลัดเลิศกมลชัย ธมฺมสโร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบางช้างเหนือ ลูกศิษย์ของหลวงพ่อเจ้าคุณแก้ว - พระราชวชิรสุตาภรณ์ (พนม รตนาโภ) เจ้าอาวาสวัดบางช้างเหนือ เจ้าคณะจังหวัดนครปฐม ท่านก็พาญาติโยมมาเหมือนกัน พวกเราเดินตามทางที่เขาบูรณะให้เป็นทางเดินบริเวณเมืองโบราณกบิลพัสดุ์ เข้าไปอยู่ตรงบริเวณปราสาทของพระเจ้าพระเจ้าสุทโธทนะ แล้วก็ฟังท่านอาจารย์พระครูธรรมธรวรัญญู อคฺควชิโร, ดร. พระธรรมทูตสายอินเดีย - เนปาล บรรยาย จากนั้นก็ถ่ายรูปหมู่ร่วมกัน แล้วเดินลึกเข้าไปทางด้านใน ซึ่งเป็นประตูออกจากเมือง ที่เจ้าชายสิทธัตถะ ม้ากัณฐกะ และนายฉันนะ ออกมหาภิเนษกรมณ์ทางด้านประตูนั้น เมื่อฟังบรรยายและถ่ายรูปกันเรียบร้อยแล้ว ท่านพระครูธรรมธรวรัญญู, ดร. ก็พาไปดูสระโบกขรณี ซึ่งทางด้านพระเจ้าสุทโธทนะสั่งให้ขุด เพื่อที่จะเป็นส่วนหนึ่งของความรื่นรมย์ ที่ช่วยดึงให้สิทธัตถราชกุมารจมอยู่กับทางโลก แต่ปรากฏว่าสังเกตดูแล้วมีบัวแค่ ๒ ตระกูล ไม่ครบ ๓ ตระกูล ก็คือบัวทั้ง ๓ ตระกูลนั้น ประกอบไปด้วย ๑) บัวหลวง ซึ่งเป็นบัวก้านแข็ง ชูช่อและใบเหนือน้ำขึ้นมา ถ้าแบบสีขาวเรียกว่าปุณฑริกา ถ้าแบบสีแดงเรียกว่าปัทมา ๒) บัวสาย เป็นบัวที่บานเสมอน้ำ ดอกใหญ่ ถ้าเป็นสีแดง เรียกว่าสัตตบุษย์ หรือว่าสัตตบรรณ ถ้าเป็นสีขาวเรียกว่าโกมุทหรือว่ากมุท ๓) ตระกูลบัวผัน บัวเผื่อน เป็นบัวปริ่มน้ำ ดอกเล็ก ถ้าเป็นสีเหลืองเรียกว่าจงกลนี ถ้าเป็นสีน้ำเงินเรียกว่านิลุบล หรือว่านิโลตบล บางคนเรียกง่าย ๆ ว่า "บัวขาบ" ปรากฏว่าในที่นี้ไม่มีตระกูลบัวสาย ไม่ว่าจะเป็นโกมุทหรือว่าเป็นสัตตบุษย์ก็ตาม แสดงว่าโดนเก็บเอาไปขายเพื่อที่จะให้บูชาพุทธสถานต่าง ๆ จนหมดเกลี้ยง..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เผือกน้อย : วันนี้ เมื่อ 06:17 |
| สมาชิก 13 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
|
#4
|
||||
|
||||
|
เมื่อวนมาถึงบริเวณปราสาทสามฤดูของเจ้าชายสิทธัตถะ กลายเป็นเทวาลัยเจ้าแม่กาลีไปแล้ว เสาอโศกที่พระเจ้าอโศกมหาราชอุตส่าห์ทำเอาไว้ เพื่อปักแสดงให้รู้ว่าสถานที่นั้นเป็นสถานที่สำคัญอย่างไรในพระพุทธศาสนา ก็โดนชาวฮินดูทำการเหลาจนกลายเป็นศิวลึงค์ไปเรียบร้อยแล้วเช่นกัน..!
เมื่อเสร็จจากตรงนี้ พวกเราก็ย้อนมาขึ้นรถ ตั้งใจจะไปยังพิพิธภัณฑ์เมืองกบิลพัสดุ์ แต่ปรากฏว่าทางพิพิธภัณฑ์ยังไม่เปิดให้พวกเราเข้าไปชม จึงวิ่งต่อไปยังบ้านนิกลิหาวะ ซึ่งเป็นสถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้าองค์ที่ ๒ ในภัทรกัปนี้ ก็คือพระโกนาคมสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อไปถึง ทางด้านเจ้าหน้าที่รีบเปิดวิหารเล็ก ๆ ที่มีเสาอโศกต้นใหญ่มหึมาอยู่ทางด้านในให้พวกเราได้เข้าไปชื่นชมว่า สถานที่ซึ่งองค์สมเด็จพระบรมครูประสูตินั้น อยู่ในบริเวณใกล้เคียงนี้เอง เพราะว่าเสาอโศกต้นนี้เขางมขึ้นมาจากสระน้ำด้านหลัง แล้วก็ชะลอมาเอาไว้ตรงสถานที่นี้ เมื่อฟังบรรยายและถ่ายรูปกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ควักกระเป๋าส่งให้ผู้เฝ้าไป ๒๐๐ รูปี ทำเอาอีกฝ่ายยิ้มไม่หุบ แถมยังชี้ให้ไปไหว้พระที่ทางมณฑปด้านหลังอีกต่างหาก เมื่อฟังบรรยายบริเวณสระบัวเสร็จเรียบร้อย พวกเราก็กลับขึ้นรถ วิ่งไปยังวัดไทยนิโครธารามซึ่งอยู่ติดกับวัดนิโครธารามสมัยพุทธกาล เพื่อที่จะมาอาศัยเข้าห้องน้ำที่นี่ ซึ่งการสร้างวัดไทยนั้น ส่วนใหญ่ก็เน้นเรื่องห้องน้ำ ที่วัดไทยนิโครธารามนี้ก็เช่นกัน มีห้องน้ำสะอาดสะอ้าน และมากมายเพียงพอ ไม่ต้องไปแย่งกัน เสร็จจากตรงนี้แล้ว พวกเราก็ชักแถวเดินขบวนไปยังวัดนิโครธารามในสมัยพุทธกาล ซึ่งสมเด็จพระเจ้าสุทโธทนมหาราชท่านได้ซื้อที่ตรงนี้จากเจ้าศากยะตระกูลหนึ่ง เพื่อทำการสร้างเป็นวัด ถวายองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่เสด็จมาโปรดถึงเมืองกบิลพัสดุ์ แล้วก็ได้จำพรรษาอยู่ที่นี่พรรษาหนึ่งอีกด้วย พวกเราไปทำการกราบสักการะ เจริญพระพุทธมนต์ถวายเป็นพุทธบูชา แล้วก็ทำการประทักษิณ ถ่ายรูปหมู่ จากนั้นก็เดินกลับออกมายังวัดไทยนิโครธาราม เพื่อร่วมกันในการทอดผ้าป่าพัฒนาวัดแห่งนี้ต่อไป โดยควักกระเป๋าเงินส่วนตัวถวายไป ๑๐,๐๐๐ รูปี แล้วให้พวกเราช่วยกันร่วมทำบุญ จากนั้นกระผม/อาตมภาพก็ปิดท้ายให้ครบ ได้เงินอินเดีย ๓๐,๐๐๐ รูปี เงินไทย ๑๐,๐๐๐ บาท ส่วนเงินดอลลาร์นั้นที่นี่ได้มา ๑๒ ดอลลาร์ กระผม/อาตมภาพเติมให้ครบ ๑๐๐ ดอลลาร์เช่นกัน
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 03:47 |
| สมาชิก 13 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
|
#5
|
||||
|
||||
|
เมื่อถวายผ้าป่า รับพรเรียบร้อยแล้วก็ไปรับประทานอาหารกลางวัน ซึ่งทางวัดเตรียมเอาไว้อย่างดีเลิศ มีแม้กระทั่งน้ำพริกปลาทู แต่กระผม/อาตมภาพนั้นฉันกะหล่ำปลีต้มกับน้ำพริกไป น่าจะประมาณครึ่งหัวใหญ่ ๆ ทีเดียว เพราะว่าถนัดในเรื่องของการกินผักมากกว่า แต่ถ้าหากว่าเจอลูกกิฟท์ (นางสาวอันตรา ลักษณะ) และน้องเล็ก (นางสาวจิราพร ซื่อตรงต่อการ) อีกฝ่ายหนึ่งจะระบุว่าตนเองเป็นคานิวอรัส ก็คือสัตว์กินเนื้อ ดังนั้น..อะไรที่เป็นเนื้อ โดยเฉพาะพวกสเต็กก็จะขย้ำกันจมเขี้ยว ขณะที่กระผม/อาตมภาพดูแล้วยังแหยง ๆ อยู่เลย..!
อิ่มจากตรงนี้ พวกเราเข้าห้องน้ำกันอีกรอบหนึ่ง จากนั้นก็วิ่งตรงไปยังรามคาม ซึ่งมีสถานที่สำคัญก็คือสถูปบรรจุอัฐิขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในสมัยที่แบ่งออกมาจากโทณพราหมณ์ สถานที่นี้บรรจุเอาไว้แล้ว ไม่เคยได้รับการขุดขึ้นมาเลย สมัยที่พระมหากัสสปเถรเจ้า ต้องการจะรวบรวมพระบรมสารีริกธาตุเอาไว้ที่เดียว เหล่าพญานาคทุกตระกูลที่ร่วมกันดูแลรักษาอยู่ ได้มาขอร้องพระเถระ พระเถระท่านก็ละเอาไว้ พอสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช เพื่อที่จะรวบรวมพระบรมสารีริกธาตุ เหล่าพญานาคก็มาขอร้องเอาไว้อีก บรรดานักโบราณคดี ตลอดจนกระทั่งฝรั่งมังค่า อยากจะลองฤทธิ์พญานาค พอให้คนขุดก็มักจะล้มตายกันไปทุกคน ก็เลยทำให้ไม่มีใครกล้าขุดอีกจนทุกวันนี้ พวกเราได้มาเจริญพระพุทธมนต์ นั่งกรรมฐาน และทำประทักษิณ สวดสรรเสริญคุณพระรัตนตรัย ปรากฏว่ามีนกอยู่ฝูงหนึ่งมาเล่นอยู่ใกล้ ๆ ท่านพระครูธรรมธรวรัญญู, ดร. บอกว่าเป็น "สัตตวิหก" ภายในบาลี เพราะว่านกตระกูลนี้ไปไหนอย่างน้อยจะไปกัน ๗ ตัว ในเมื่อเข้ามาจนแทบจะติดที่นั่ง พวกกระผม/อาตมภาพจึงได้ถ่ายรูปเอาไว้ด้วย แล้วก็กลับขึ้นมายังรถบัส โดยที่แจ้งกับทางด้านน้องการ์ตูนว่าให้กลับที่พักเลย แม้คุณนวลจันทร์ (คุณนวลจันทร์ เพียรธรรม) ประธานคณะกรรมการบริษัทเอ็นซีทัวร์ ถามว่า "จะถวายผ้าป่าที่วัดไทยลุมพินีหรือไม่ ?" กระผม/อาตมภาพก็แจ้งไปว่าถวายพรุ่งนี้ดีกว่า เราเอารถไปฝากที่นั่น แล้วร่วมทอดผ้าป่าบูรณะวัด จากนั้นก็ค่อยเดินทางไปสักการะสถานที่ประสูติขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พวกเราจึงได้กลับเข้าที่พักก่อน ๖ โมงเย็นเป็นครั้งแรกในทริปนี้..! เมื่อมาถึง ปรากฏว่าทางด้านผู้ทำความสะอาดนั้น ได้ปรับเครื่องทำความร้อนเป็นเครื่องทำความเย็นแล้วทั้งสองห้อง ทำให้กระผม/อาตมภาพรู้สึกสดชื่นรื่นรมย์ขึ้นมาก ไม่เช่นนั้นแล้วเข้ามาเหมือนอย่างกับอยู่ในเตาอบก็ไม่ปาน จึงได้ทำการบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนวันนี้อย่างมีความสุขเลยทีเดียว..! สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้ พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๒๐ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 03:51 |
| สมาชิก 17 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
![]() |
| ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 4 คน ( เป็นสมาชิก 1 คน และ บุคคลทั่วไป 3 คน ) | |
| สาวก |
| คำสั่งเพิ่มเติม | |
|
|