กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๘ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนธันวาคม ๒๕๖๘

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า เมื่อวานนี้, 23:01
พิชวัฒน์'s Avatar
พิชวัฒน์ พิชวัฒน์ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Aug 2014
ข้อความ: 617
ได้ให้อนุโมทนา: 3,308
ได้รับอนุโมทนา 29,206 ครั้ง ใน 1,106 โพสต์
พิชวัฒน์ is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๑๙ ธันวาคม ๒๕๖๘

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๑๙ ธันวาคม ๒๕๖๘


ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 13 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า วันนี้, 00:33
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,592
ได้ให้อนุโมทนา: 160,872
ได้รับอนุโมทนา 4,522,903 ครั้ง ใน 37,207 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ ๑๙ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ อากาศที่โรงแรมแพลตตินั่ม สาวัตถี อยู่ที่ ๑๒ องศาเซลเซียส รู้สึกเย็นสดชื่นมาก จนแทบจะเหาะจะบินได..! เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้วก็ได้ลงมาที่ล็อบบี้ด้านล่าง ซึ่งการตกแต่งโรงแรมของเขานั้นก็เน้นสายพุทธชัด ๆ เลย ก็คือมีพระพุทธรูปและสิ่งประกอบอื่น ๆ ทางศาสนาพุทธตั้งอยู่อย่างสวยงาม ซึ่งเป็นทั้งสถานที่บูชาและภาพประดับผนัง พร้อมทั้งมีร้านจำหน่ายสินค้าอยู่ภายในล็อบบี้ด้วย

กระผม/อาตมภาพติดใจไม้แกะสลักลักษณะเหมือนเสาอโศก แต่หัวด้านบนเป็นรูปดอกบัวบาน มีพระพุทธรูปอยู่ด้านใน สามารถที่จะทำให้ดอกบัวหุบหรือว่าบานออกได้ ถามราคาแล้วอยู่ที่ ๓,๘๐๐ บาทไทย กระผม/อาตมภาพต่อลงมาที่ ๒,๐๐๐ บาท นั่งถกเถียงกันอยู่หลายรอบกว่าที่จะได้มาในราคา ๒,๕๐๐ บาท นี่เป็นของชิ้นแรกที่ซื้ออย่างเป็นทางการตั้งแต่มาประเทศอินเดีย

ห้องอาหารของเขาเปิดตั้งแต่ยังไม่ทันจะ ๖ โมงเช้า พวกเรารับประทานอาหารกันเรียบร้อยแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ไปยังรถบัสที่ ๒ เพื่อถ่ายรูปร่วมกับญาติโยมที่อยู่ทางรถบัสนี้ แต่ด้วยความที่หลายคนมาช้า ทำให้ถ่ายไปแล้วก็ต้องถ่ายใหม่อีก ครั้งแล้วครั้งเล่า เพราะว่าคนมาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ครั้นได้เวลาแล้ว รถของเราก็ออกพาตรงไปยังวัดเชตวันมหาวิหาร ซึ่งห่างจากโรงแรมแค่ประมาณ ๗ - ๘ นาทีเท่านั้น

เมื่อเข้าไปทางด้านใน ท่านเจ้าคุณกอล์ฟ - พระวิเทศวัชราจารย์ (เฉลิมชาติ ชาติวโร) เจ้าอาวาสวัดสิทธารถราชมณเฑียร เลขานุการธรรมทูตสายอินเดีย - เนปาล ก็บรรยายให้พวกเราฟังถึงความสำคัญของวัดเชตวันมหาวิหาร ที่อนาถปิณฑิกเศรษฐีซื้อจากเจ้าเชตกุมาร ด้วยการเอาทองคำมาปูจนเกือบจะเต็มพื้นที่แล้ว เจ้าเชตกุมารเมื่อทราบว่าอนาถปิณฑิกเศรษฐีจะซื้อไปเพื่อสร้างวัดถวายองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงบอกว่าบริเวณทางเข้าออกนั้นไม่ต้องปูแล้ว ขอร่วมบุญถวายด้วย

อนาถปิณฑิกเศรษฐีได้สร้างซุ้มประตูขึ้นมาอย่างสวยงาม และให้ชื่อว่าวัดเชตวันมหาวิหาร ก็คือวัดป่าขอลเจ้าเชต เมื่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จมาที่นี่ ก็ได้จำพรรษาอยู่ที่วัดนี้ รวมแล้วทั้งสิ้นถึง ๑๙ พรรษาด้วยกัน บรรดาพระสูตรสำคัญ ๆ ต่าง ๆ จำนวนมาก พระองค์ท่านก็ตรัสที่วัดเชตวันมหาวิหารนี่เอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 05:05
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 10 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
กฤษฎากร (วันนี้), คนไกลบ้าน (วันนี้), ชุณหพงศ์ (วันนี้), เด็กบางบัวทอง (วันนี้), นาย ธีรัตน์ บุญศรี (วันนี้), พุทธภูมิ (วันนี้), ไพเดช (วันนี้), มารวย๙ (วันนี้), ศรัณย์ (วันนี้), สุธรรม (วันนี้)
  #3  
เก่า วันนี้, 00:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,592
ได้ให้อนุโมทนา: 160,872
ได้รับอนุโมทนา 4,522,903 ครั้ง ใน 37,207 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พวกเราตรงไปยังมหาคันธกุฎีขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทำการเจริญพระพุทธมนต์ กราบขอขมาพระรัตนตรัย สมาทานกรรมฐาน และเจริญกรรมฐานถวายเป็นพุทธบูชา เนื่องเพราะว่าสถานที่นี้นั้น จะเป็นสถานที่ซึ่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์ จะปรากฏมีคันธกุฎีขึ้น ณ ที่นี้ทั้งสิ้น เพียงแต่ว่าต้องระมัดระวัง เนื่องเพราะว่ามีฝูงลิงคอยเยี่ยม ๆ มอง ๆ อยู่ ทำเอาพนักงานทำความสะอาดต้องถือไม้กวาดไล่ตีกันหลายรอบ กว่าที่จะยอมหนีไปทางอื่น ไม่เช่นนั้นถ้าเผลอ มีหวังโดนฉกชิงวิ่งราวเอาสิ่งของไปแน่ ๆ..!

เมื่อพวกเรากราบขอขมาพระรัตนตรัยแล้ว ก็ได้ถ่ายรูปหมู่ร่วมกัน หลังจากนั้นค่อยเดินตรงไปยังอานันโพธิ ซึ่งเป็นต้นโพธิ์ที่ปลูกขึ้นตั้งแต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังดำรงพระชนม์ชีพอยู่ แต่ด้วยความที่ประวัติช่วงหนึ่งได้หายไป จึงทำให้ต้นโพธิ์ที่ประเทศศรีลังกากลายเป็นต้นไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก แต่เมื่อหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ตลอดจนกระทั่งหลักฐานบันทึกในพระไตรปิฎกระบุเอาไว้ ทำให้เชื่อได้ว่าอานันโพธิต้นนี้เป็นต้นที่เก่าแก่ที่สุด แต่ไม่ได้รับการรับรองจากกินเนสส์บุ๊ค พวกเรามาฟังประวัติ แล้วก็น้อมใจถวายสักการะ

กระผม/อาตมภาพขอต่อรุกขเทวดาที่รักษาต้นอานันโพธินี้ จนกระทั่งใบโพธิ์ตกลงมาตรงหน้า ๑ ใบ ซึ่งทิดเฟิร์ส (นายบัณฑิต เอี่ยมตระกูล) บอกว่า "ผมคาดอยู่แล้วว่าหลวงพ่อต้องขอแน่ เพียงแต่ว่าถ่ายวิดีโอไว้ไม่ทันว่าหล่นลงมาตอนไหน" กระผม/อาตมภาพจึงชี้ให้ดูอีกใบหนึ่ง ซึ่งตกอยู่ทางด้านข้าง จึงทำให้ทิดเฟิร์สได้ใบโพธิ์ติดตัวไปด้วย มาเล่าทีหลังว่ามีอีกใบหนึ่งตกลงมา ตนเองได้เก็บเอาไว้ แต่ว่าท่านปิง (พระมหากวีศิลป์ วิสุทฺธิกุโล) ขอเอาไป

เมื่อพวกเราฟังประวัติและถ่ายรูปหมู่ร่วมกันแล้ว ก็ได้เดินต่อไปยังบริเวณของกุฏิพระสีวลี ปรากฏว่าคณะของหลวงพ่อพระครูประเสริฐ - พระครูโกศลธรรมานุสิฐ เจ้าคณะอำเภอบางปลาม้า เจ้าอาวาสวัดสวนหงษ์ จังหวัดสุพรรณบุรี พาญาติโยมและพระภิกษุสงฆ์ ซึ่งมีพระครูใบฎีกาจำนงค์ ปิยวณฺโณ เจ้าอาวาสวัดตะลุ่ม เจ้าคณะตำบลมะขามล้ม จังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อนร่วมรุ่นพระอุปัชฌาย์ของกระผม/อาตมภาพอยู่ด้วย กำลังทำการสักการะกุฏิพระสีวลีอยู่
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 05:09
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 10 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
กฤษฎากร (วันนี้), คนไกลบ้าน (วันนี้), ชุณหพงศ์ (วันนี้), เด็กบางบัวทอง (วันนี้), นาย ธีรัตน์ บุญศรี (วันนี้), พุทธภูมิ (วันนี้), ไพเดช (วันนี้), มารวย๙ (วันนี้), ศรัณย์ (วันนี้), สุธรรม (วันนี้)
  #4  
เก่า วันนี้, 00:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,592
ได้ให้อนุโมทนา: 160,872
ได้รับอนุโมทนา 4,522,903 ครั้ง ใน 37,207 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แต่เป็นที่น่าเสียดายว่า ทุกคนไม่รู้ว่าสิ่งที่เหมือนกับแท่นกลม ๆ ทางด้านข้างนั้น ก็คือสถูปบรรจุอัฐิพระสีวลี พระอรหันต์ผู้เป็นเอตทัคคะทางผู้มีลาภมาก เมื่อกระผม/อาตมภาพบอกกล่าวไป ทุกคนที่วางของเอาไว้บนนั้นก็ตกใจ รีบหยิบออกกันเป็นการใหญ่ ท่านพระครูใบฎีกาจำนงค์ก็เลยทิ้งคณะ วิ่งมาร่วมกับพวกเราสวดมนต์ถวายสักการะ และปิดทองสถูปบรรจุอัฐิพระสีวลีด้วย

ครั้นเสร็จสรรพเรียบร้อยแล้ว พวกเราก็เดินอ้อมทางด้านหลัง เพื่อที่จะดูความกว้างขวางใหญ่โตของเชตวันมหาวิหาร ซึ่งถ้าหากว่าเป็นสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช ก็มีพื้นที่ถึง ๓,๐๐๐ ไร่ แต่ว่าตอนนี้เล็กลงไปมากแล้ว

เมื่อกลับมาขึ้นรถแล้ว วิ่งต่อไปเพียงเล็กน้อย ก็ถึงเรือนของท่านอนาถปิณฑิกเศรษฐี มหาเศรษฐีใจบุญ ผู้เป็นเอตทัคคะบุคคลทางอุบาสกผู้เลิศในการถวายทาน ซึ่งท่านได้ซื้อที่ดินสำหรับสร้างวัดเชตวันมหาวิหารไปถึง ๑๘ โกฏิ ทำการสร้างอาคารต่าง ๆ โดยเฉพาะมหาคันธกุฎี ถวายองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไปอีก ๑๘ โกฏิ จัดการฉลองด้วยการถวายทานต่อพระภิกษุสงฆ์ มีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นประธาน หมดไปอีก ๑๘ โกฏิ พวกเราจึงมาเพื่อที่จะอนุโมทนากับท่านมหาเศรษฐีผู้ใจบุญ

ครั้นพวกเราได้รับฟังประวัติและอนุโมทนากับท่านแล้ว ก็ได้ถ่ายรูปหมู่ร่วมกัน จากนั้นก็เดินข้ามถนนไปยังซากอาคารอีกหลังหนึ่ง ซึ่งเป็นของท่านปุโรหิตาจารย์ ผู้เป็นบิดาของพระองคุลิมาลเถระ แต่พวกเราไม่ได้สนใจอาคารแห่งนั้น หากแต่ว่าบริเวณด้านข้างอาคาร มีสถูปบรรจุอัฐิของพระองคุลิมาลเถระ ซึ่งเป็นสุดยอดของตัวอย่างในการกลับร้ายกลายเป็นดีของอุปฆาตกรรม

ก็คืออุปฆาตกรรมนั้นมีทั้งฝ่ายกุศลและฝ่ายอกุศล ถ้าฝ่ายอกุศลเข้า จากคนดี ๆ ก็อาจจะเป็นคนร้ายไปได้ แต่ถ้าฝ่ายกุศลเข้ามา ต่อให้คนที่ร้ายสุด ๆ อย่างองคุลิมาลโจร ก็กลับกลายมาบวช จนกลายเป็นพระอรหันต์ เป็นพระองคุลิมาลเถระ ที่ใคร ๆ ก็ชื่นชมว่าท่านสามารถกลับตัวได้ถึงขนาดนี้

จากนั้นพวกเราก็วิ่งกลับยังโรงแรม เพื่อที่จะเข้าห้องน้ำ เนื่องจากคนของพวกเรามาก จึงมีการเข้าคิวยาวกันเป็นเด็กนักเรียนไปเลยทีเดียว เมื่อเข้าห้องน้ำกันเรียบร้อยแล้ว ประมาณ ๑๐ โมงของประเทศอินเดีย พวกเราก็เดินทางยังเมืองบาลามปุระ ซึ่งเป็นที่ตั้งของวัดสิทธารถราชมณเฑียร ๙๑๐ ซึ่งท่านเจ้าคุณกอล์ฟเป็นเจ้าอาวาสอยู่

เส้นทางที่วิ่งไปนั้น ต้องข้ามแม่น้ำอจิรวดี ผ่านด่านเก็บเงินตามเคย จนกระทั่งมาถึงวัดสิทธารถราชมณเฑียร ในเวลาประมาณ ๑๑ โมงครึ่ง ไม่น่าเชื่อว่าอากาศตอนนี้ ๑๖ องศาเซลเซียส แต่พวกเรากลับรู้สึกหนาวกว่านั้นมาก..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 05:12
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 10 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
กฤษฎากร (วันนี้), คนไกลบ้าน (วันนี้), ชุณหพงศ์ (วันนี้), เด็กบางบัวทอง (วันนี้), นาย ธีรัตน์ บุญศรี (วันนี้), พุทธภูมิ (วันนี้), ไพเดช (วันนี้), มารวย๙ (วันนี้), ศรัณย์ (วันนี้), สุธรรม (วันนี้)
  #5  
เก่า วันนี้, 00:42
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,592
ได้ให้อนุโมทนา: 160,872
ได้รับอนุโมทนา 4,522,903 ครั้ง ใน 37,207 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อทุกคนเข้าห้องน้ำแล้ว ก็มีอาหารจัดเตรียมเอาไว้อย่างพร้อมมูล โดยเฉพาะก๋วยเตี๋ยวเรือซึ่งอร่อยที่สุดในสามโลก เพราะว่าแม้แต่ผีก็มาขอกินด้วย..! พร้อมทั้งมีคณะพระภิกษุและญาติโยมอีกคณะหนึ่ง ซึ่งมาอาศัยฉันเพลที่นี่เช่นกัน

ทางวัดสิทธารถราชมณเฑียรนั้นมีนโยบายว่า ถ้าเป็นนักบวช ไม่ว่าจะเป็นนิกายใด ศาสนาใดก็ตาม ถ้าพาคณะมาสามารถที่จะมาใช้ห้องน้ำและรับประทานอาหารได้ทั้งสิ้น ประมาณว่าไม่คิดเงิน แต่ถ้าหากว่าตั้งใจร่วมบุญอยู่ก็ยินดีที่จะรับ ตอนแรกคิดว่าคงจะเลี้ยงได้ไม่กี่วัน แต่ปรากฏว่า ๑๐ ปี ผ่านไปแล้ว เงินที่พระและญาติโยมทำบุญก็ยังเพียงพอที่จะเลี้ยงคนอยู่ โดยเฉพาะข้าวปลาอาหารนั้น ส่วนหนึ่งขนมาจากเมืองไทย จึงทำให้บุคคลที่มาถึงประเทศอินเดีย แล้วคิดถึงอาหารไทย สามารถที่จะมารับประทานอาหารที่นี่ให้หายคิดถึงได้

เมื่ออิ่มแล้ว ท่านเจ้าคุณกอล์ฟก็พากระผม/อาตมภาพลงไปทางหลังวัด ซึ่งซื้อที่ดินเอาไว้มากกว่าตัววัดเดิมประมาณสองเท่า เตรียมที่จะขยายพื้นที่ออกไปทางด้านหลัง มีทั้งการสร้างอุโบสถและกุฏิกรรมฐาน เหล่านั้นเป็นต้น กระผม/อาตมภาพจึงไปแผ่เมตตาและอุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้ที่รักษาในบริเวณนั้น ขอช่วยดลจิตดลใจให้ท่านนายอำเภอบาลามปุระ ทำการเซ็นอนุญาตให้มูลนิธิถือครองที่ดินเสียที จะได้ไม่ต้องอาศัยชื่อของคนอื่นในการถือครอง ทางวัดจะได้เริ่มสร้างอย่างเป็นทางการ

เมื่อกลับเข้ามาแล้ว กระผม/อาตมภาพก็นำทุกคนถวายผ้าป่าร่วมซื้อที่ดิน และสร้างวัดสิทธารถราชมณเฑียรส่วนทางด้านหลังที่เห็นอยู่ โดยที่รวบรวมเงินแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ทำการปิดยอดให้ จากที่ควักออกไปจากกระเป๋าตัวเอง ๕๐,๐๐๐ รูปี เมื่อปิดยอดแล้วก็ได้ ๗๐,๐๐๐ รูปีถ้วน ส่วนเงินไทย ตอนแรกได้มา ๒๖,๐๐๐ กว่าบาท กระผม/อาตมภาพเติมให้เต็ม ๓๐,๐๐๐ บาท ส่วนเงินดอลล่าร์อเมริกันได้มา ๑๐ ดอลล่าร์ กระผม/อาตมภาพเติมให้ครบ ๑๐๐ ดอลล่าร์

เงินทั้งหลายเหล่านี้ ญาติโยมไม่ต้องห่วง เนื่องเพราะว่าก่อนจะมานั้น ก็มีป้ามอย (นางสาวมณีวรรณ สัมฤทธิ์) มีน้องโอ (นางสาวปาริฉัตร อายุวัฒนะ) มีน้องตุ๊กตา (นางสาวมาลีรัตนา นาคทอง) ได้ถวายเงินรูปีมาให้กระผม/อาตมภาพหอบใหญ่ แล้วในระหว่างเดินทางนี้ ยังมีมาดามเฮง (นางสมหวัง งามพฤกษ์วานิชย์) ถวายให้วันละ ๕,๐๐๐ รูปี แต่ขอโทษเถอะ..กระผม/อาตมภาพใช้เกลี้ยงอยู่ทุกวัน..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 05:16
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 10 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
กฤษฎากร (วันนี้), คนไกลบ้าน (วันนี้), ชุณหพงศ์ (วันนี้), เด็กบางบัวทอง (วันนี้), นาย ธีรัตน์ บุญศรี (วันนี้), พุทธภูมิ (วันนี้), ไพเดช (วันนี้), มารวย๙ (วันนี้), ศรัณย์ (วันนี้), สุธรรม (วันนี้)
  #6  
เก่า วันนี้, 00:47
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,592
ได้ให้อนุโมทนา: 160,872
ได้รับอนุโมทนา 4,522,903 ครั้ง ใน 37,207 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเมื่อเงินพร้อม คนพร้อม พวกเราก็ทำการถวายผ้าป่า รับพรแล้วถ่ายรูปหมู่ร่วมกัน หลังจากนั้นท่านเจ้าคุณกอล์ฟก็ขอตัวเพื่อที่จะไปต้อนรับคณะใหญ่อีกคณะหนึ่ง ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของท่านท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (สุชิน อคฺคชิโน) กรรมการมหาเถรสมาคม เลขานุการในองค์สมเด็จพระสังฆราช โดยที่ตากล้องมือเอกของเราก็คือท่านเก้า (พระบัณฑิต) ได้ติดตามไปด้วย

กระผม/อาตมภาพอวยชัยให้พรทุกคนแล้ว ก็ขอตัวเดินทางต่อเพื่อตรงไปยังด่านที่จะออกจากประเทศอินเดีย ทั้ง ๆ ที่ด่านก็อยู่ตรงหน้าของทางวัดสิทธารถราชมณเฑียรนี่เอง แต่ด้วยความที่ว่า ถ้าข้ามตรงนี้ไปแล้ว ทำให้พุทธศาสนิกชนเข้าไปสักการะลุมพินีสถาน ที่ประสูติขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว สามารถที่จะกลับได้เลย ทำให้ทางด้านประเทศเนปาลได้ประโยชน์น้อย เขาจึงได้ทำการเปิดด่านถาวร ห่างจากที่นี่ ขนาดรถวิ่งไปประมาณ ๓ ชั่วโมง เพื่อที่ให้ทุกคนเสียเวลา นอกจากวิ่งไปเพื่อทำเอกสารผ่านด่านแล้ว ยังต้องวิ่งกลับมาเพื่อสักการะลุมพินีสถานอีกต่างหาก เมื่อใช้เวลาแบบนี้ จึงต้องพักต้องค้างอยู่ที่ประเทศของเขา เพิ่มรายได้ให้แก่เขาด้วย ฟังแล้ว "น้ำตาจิไหล..!"

รถของเราวิ่งไปตามถนนที่ค่อนข้างจะคับแคบ และมีหลายช่วงที่ฝั่งตรงข้ามก็ปิดเพื่อที่จะสร้างถนนเพิ่มเติม ทำให้รถต้องมาวิ่งสวนเลนกับเราอีกต่างหาก จึงได้ใช้เวลาไปประมาณ ๓ ชั่วโมง กว่าที่จะมาถึงวัดไทยนวราชรัตนาราม ๙๖๐ ซึ่งเป็นวัดที่สร้างขึ้นในสมัยที่ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทรงครองราชย์ ๖๐ ปี

วัดนี้เน้นในเรื่องของห้องน้ำห้องส้วม สร้างเอาไว้มากมาย เพื่อรองรับคนไทยที่จะข้ามไปสักการะสถานที่ประสูติขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แถมยังมีการนำสินค้ามาจำหน่ายภายในวัด ให้ท่านที่ยังไม่ทันได้ซื้อสินค้าที่ระลึกต่าง ๆ มาซื้อในวัดด้วย แถมมีน้ำชา กาแฟ และโรตีอร่อยเลี้ยงฟรีทุกคนอีกต่างหาก..!

กระผม/อาตมภาพฉันน้ำชาไปสองแก้ว แล้วก็นำทุกคนมาร่วมกันถวายผ้าป่ากับทางวัดนี้ เพื่อร่วมพัฒนาวัดอีกต่างหาก โดยที่ควักกระเป๋าลงไป ๑๐,๐๐๐ รูปี ญาติโยมร่วมกันทำบุญมาประมาณ ๑๘,๐๐๐ รูปี กระผม/อาตมภาพจึงเติมให้เต็มเป็น ๓๐,๐๐๐ รูปี แล้วในขณะเดียวกัน เงินไทยอยู่ที่ประมาณ ๘,๐๐๐ กว่าบาท ก็ได้เติมให้ครบ ๑๐,๐๐๐ บาท และเงินดอลลาร์ ๑๐ ดอลล่าร์ ก็เติมให้เต็ม ๑๐๐ ดอลลาร์ตามเคย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 05:20
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 10 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
กฤษฎากร (วันนี้), คนไกลบ้าน (วันนี้), ชุณหพงศ์ (วันนี้), เด็กบางบัวทอง (วันนี้), นาย ธีรัตน์ บุญศรี (วันนี้), พุทธภูมิ (วันนี้), ไพเดช (วันนี้), มารวย๙ (วันนี้), ศรัณย์ (วันนี้), สุธรรม (วันนี้)
  #7  
เก่า วันนี้, 00:49
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,592
ได้ให้อนุโมทนา: 160,872
ได้รับอนุโมทนา 4,522,903 ครั้ง ใน 37,207 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลังจากที่ถวายผ้าป่าและรับพรเรียบร้อยแล้ว พวกเราก็ขึ้นรถ ตรงไปยังด่าน ตม.อินเดีย ในไม่กี่นาทีก็มาถึงแล้ว แต่ขอโทษเถอะ...มีญาติโยมคณะหนึ่ง ซึ่งน่าจะเป็นชาวพม่า กำลังรอแสตมป์พาสปอร์ตเพื่อออกจากประเทศอินเดีย แม้ว่าในสายตาของกระผม/อาตมภาพ เห็นว่าสามารถทำเสร็จภายในไม่เกิน ๑๐ นาที แต่ทางเจ้าหน้าที่บอกว่าให้รอ ๔๕ นาที..! พวกเราจึงต้องไปหลบหนาว รออยู่ในร้านกาแฟ สั่งน้ำชา กาแฟของเขามากิน

เมื่อถึงเวลาแล้ว น้องการ์ตูน (นางสาวศรัณย์พร บุรินทรโกษฐ์) ก็นิมนต์กระผม/อาตมภาพและคณะไปทำการปั๊มพาสปอร์ต เพื่อออกจากประเทศอินเดีย แต่ว่าคนอื่นผ่านไปหลายต่อหลายคนแล้ว ของกระผม/อาตมภาพก็ยังไปไม่รอดเสียที โดยสาเหตุก็คือชื่อยาวอีกตามเคย จนเจ้าหน้าที่ซึ่งตรวจจนตาลายแล้ว บอกให้เพื่อนมาอ่านทีละตัวอักษรให้เขาพิมพ์เข้าเครื่อง กว่าจะได้ตราประทับมาก็ทุลักทุเลเต็มทน..!

จากนั้นก็ต้องขึ้นรถมาเข้าคิว เพื่อที่จะเข้าทางประเทศเนปาล รอแล้วรอเล่าเฝ้าแต่รอ กว่าที่เขาจะพร้อม พวกเราก็ต้องลงไปเข้าแถว เพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ตรวจดูว่า ได้ประทับตราพาสปอร์ตจากฝั่งอินเดียแน่นอนแล้ว ตรวจสอบรายชื่อกับบัญชีว่าตรงกับพาสปอร์ตแล้ว ก็ปล่อยให้พวกเราไปยังด่านตรวจคนเข้าเมืองเนปาล

แต่ว่าเวลานี้ก็ค่ำมืดลงแล้ว เจ้าหน้าที่หญิงที่เหลืออยู่คนเดียว ก็กำลังรบราฆ่าฟันอยู่กับน้องแหม่มคนหนึ่ง ซึ่งไม่ทราบว่ามีปัญหาอะไร ? ไม่สามารถที่จะประทับตราเข้าประเทศเนปาลได้เสียที กระผม/อาตมภาพเห็นว่ามีป้ายของนายด่าน ซึ่งถ้าเป็นชื่อไทยก็คือ "ท่านเศรษฐา" คุณนวลจันทร์จึงโทรไปหาตามเบอร์ใต้รูป บอกนายด่านท่านว่า ตอนนี้เจ้าหน้าที่เหลืออยู่คนเดียวเท่านั้น และนักท่องเที่ยวฝรั่งนางนี้ก็มีปัญหา ส่วนพวกเรามากันประมาณ ๖๐ รูป/คน ขอให้นายด่านช่วยส่งคนมาเพิ่ม เพื่อที่จะช่วยประทับตราพาสปอร์ตให้พวกเราเข้าประเทศเนปาลได้ทันก่อนด่านปิดด้วย..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 05:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 10 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
กฤษฎากร (วันนี้), คนไกลบ้าน (วันนี้), ชุณหพงศ์ (วันนี้), เด็กบางบัวทอง (วันนี้), นาย ธีรัตน์ บุญศรี (วันนี้), พุทธภูมิ (วันนี้), ไพเดช (วันนี้), มารวย๙ (วันนี้), ศรัณย์ (วันนี้), สุธรรม (วันนี้)
  #8  
เก่า วันนี้, 00:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,592
ได้ให้อนุโมทนา: 160,872
ได้รับอนุโมทนา 4,522,903 ครั้ง ใน 37,207 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ท่านนายด่านก็ดีเหลือใจ ส่งเจ้าหน้าที่มาให้อย่างทันอกทันใจ กระผม/อาตมภาพจึงได้รับการประทับตราและติดวีซ่าให้เข้าประเทศเนปาล ภายในไม่ถึง ๑ นาทีเท่านั้น และทุก ๆ คนก็ได้รับบริการในระยะเวลาที่ใกล้เคียงกัน

แต่ขอโทษเถอะ..น้องหนูเจ้าของเวรโกรธจนหน้าหงิก..! บอกว่าพวกเราทำไมต้องไปฟ้องเจ้านายด้วย ดังนั้น..ใครที่ผ่านทางด้านช่องที่น้องหนูเป็นคนตรวจประทับตราพาสปอร์ต ก็มีอันต้องโดนโยนหนังสือเดินทางคืนใส่หน้ามาเสียทุกคน..! แต่พวกเราก็ไม่สนใจ โกรธได้ก็โกรธไป ช่วยประทับตราและติดวีซ่าให้หน่อยก็แล้วกัน..!

เมื่อกลับขึ้นรถแล้ววิ่งตรงมาอีกประมาณ ๓๐ นาที ก็มาถึงที่พักของคืนนี้ ซึ่งก็คือโรงแรม RAMADA By Wyndham กระผม/อาตมภาพได้ห้องพักใหญ่สุด ๆ เป็นห้องสองช่วง น่าจะเป็นห้องรับแขกช่วงหนึ่ง ห้องนอนช่วงหนึ่ง แต่ขอโทษเถอะ..เขาเปิดฮีตเตอร์เอาไว้ให้อีกแล้ว กระผม/อาตมภาพจึงต้องไล่ปิดฮีตเตอร์ทั้งสองห้อง แล้วไปเปิดประตูด้านหลังเพื่อให้อากาศเย็นไหลเข้ามา แต่พอเห็นระเบียงด้านหลังก็ต้องสะดุ้ง เนื่องเพราะว่าใหญ่พอที่จะตั้งวงเตะตะกร้อหรือว่าเล่นวอลเล่ย์บอลกันได้เลย..!

เมื่อทำการเปิดหน้าต่างให้อากาศเย็นเข้ามาแล้ว จึงค่อยมาบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ถ้าท่านทั้งหลายถ้าได้ฟังช้าหน่อย ก็โปรดให้อภัยด้วย..!

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันศุกร์ที่ ๑๙ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 05:27
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 11 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 4 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 4 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 10:20



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว