|
#1
|
||||
|
||||
|
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๘
|
| สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
|
#2
|
||||
|
||||
|
วันนี้ตรงกับวันอังคารที่ ๒๕ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๘ เรื่องใหญ่เรื่องสำคัญก็คืออุทกภัยที่ภาคใต้ โดยเฉพาะอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ซึ่งคณะสงฆ์หนต่าง ๆ ได้ทุ่มเทสรรพกำลังร่วมกับคณะสงฆ์หนใต้ ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความยากลำบากเดือดร้อน
โดยเฉพาะท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหาธีราจารย์ (ปสฤทธ์ เขมงฺกโร) กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ ประธานคณะกรรมการสาธารณสงเคราะห์คณะสงฆ์ไทยของมหาเถรสมาคม ร่วมกับท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหาวชิรมังคลาจารย์ (สงัด ปญฺญาวุโธ ป.ธ. ๗) ที่ปรึกษามหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนใต้ วัดกะพังสุรินทร์ จังหวัดตรัง รองประธานคณะกรรมการสาธารณสงเคราะห์คณะสงฆ์ไทยของมหาเถรสมาคม ร่วมกันมอบปัจจัยงวดแรกจำนวน ๕๐๐,๐๐๐ บาท ให้คณะสงฆ์ได้ซึ่งร่วมกันดำเนินการทุกวิถีทาง ที่จะบรรเทาความเดือดร้อนของญาติโยมในพื้นที่ คณะสงฆ์ส่วนอื่น ๆ ก็ได้ช่วยเหลือกันอย่างชนิดที่เรียกว่าเร่งด่วน..! กระผม/อาตมภาพเองก็ร่วมกับทางมูลนิธิวัดอินทารามของหลวงพ่อแดง - ท่านเจ้าคุณพระเมธีวัชรประชาทร, ผศ.ดร. (ประยูร นนฺทิโย) ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค ๑๕ เจ้าอาวาสวัดอินทาราม จังหวัดสมุทรสงคราม จำนวน ๒๐,๐๐๐ บาท เหตุที่ถวายแค่นั้นก็เพราะว่าหลวงพ่อเจ้าคุณสุรศักดิ์ - พระราชภาวนาวชิราจารย์ วิ. (สุรศักดิ์ อติสกฺโข ป.ธ. ๕) เจ้าอาวาสวัดประดู่ (พระอารามหลวง) เจ้าคณะจังหวัดสมุทรสงคราม ท่านเริ่มต้นให้ ๒๐,๐๐๐ บาท ไปทำอะไรเกินหน้าเกินตาผู้เป็นใหญ่ในพื้นที่ ก็ท่าจะไม่ดีไม่งาม แล้วก็มาร่วมกับคณะกรรมการโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ทั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการหนกลางและคณะกรรมการบริหารกลางอีก ๓๐,๐๐๐ บาท สรุปว่าวันนี้นอนเฉย ๆ ก็จ่ายไป ๕๐,๐๐๐ บาทแล้ว..! โดยที่มีรายรับวันนี้จากงานเจริญพุทธมนต์งานอายุวัฒนมงคล พระเดชพระคุณพระเทพปริยัติโสภณ, ดร. (ปัญญา วิสุทฺธิปญฺโญ ป.ธ. ๙) เจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี ๕,๐๐๐ บาท รับซ้าย ๕,๐๐๐ บาท จ่ายขวา ๕๐,๐๐๐ บาท กำไรมา ๔๕,๐๐๐ บาท..! กระผม/อาตมภาพทำอย่างนี้มาตลอด ไม่ทราบเหมือนกันว่าเอาเงินที่ไหนมาจ่าย..!?
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-11-2025 เมื่อ 00:35 |
| สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
|
#3
|
||||
|
||||
|
ในช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้ เราต้องการความสามัคคีจากทุกหมู่คณะ ดังนั้น..บรรดาท่านที่ไป "แทะหัว" นายกรัฐมนตรี ว่า "ปฏิญาณตนเข้ารับหน้าที่ก็ดินถล่ม เป็นนายกรัฐมนตรีก็อุทกภัยท่วมมันทุกภาค..!" กรุณาหุบปากไว้ก่อน หรือไม่ก็บุคคลที่ได้รับแต่งตั้งเข้าไปเพื่อที่จะบรรเทาสาธารณภัยตรงนี้ ก็อุตส่าห์ไปแสดงความคิดเห็นลักษณะโยนความผิดให้ชาวบ้านว่า "ทางการได้ตักเตือนมาหลายวันแล้ว แต่ชาวบ้านห่วงสมบัติ ไม่ยอมอพยพหนี..!" แสดงว่ามารดามันถนัดแต่ "ขายแป้ง" อย่างเดียว ไม่ได้หาข้อมูลเลยว่า เมื่อวานนี้ในพื้นที่เขายังแจ้งว่า "ระดับน้ำอยู่ในระดับสีเขียว ยังรับมือได้..!"
ในเมื่อหน่วยงานในพื้นที่ประเมินผิดพลาด ชาวบ้านก็เดือดร้อนหนัก แล้วขอถามพ่อเจ้าประคุณหน่อยเถอะว่า "มึงจะให้ชาวบ้านอพยพไปอยู่ที่ไหน ?" เนื่องเพราะว่าเรื่องของน้ำท่วมหาดใหญ่นั้น เกิดจากหลายสาเหตุด้วยกัน สาเหตุสำคัญที่สุดก็คือความกดอากาศต่ำ ที่ก่อให้เกิดเมฆฝนจำนวนมหึมามโหฬาร ที่ภาษาอังกฤษเขาเรียกว่า Rain Bomb ซึ่งคาโด่เด่อยู่ตรงนั้นมา ๔ - ๕ วัน ไม่ยอมไปไหน..! ต้องบอกว่าเป็นเรื่องของเวรของกรรมก็ว่าได้ ประการที่สองก็คือการก่อสร้างที่ไปขวางทางน้ำเอาไว้ โดยเฉพาะถนนหนทางต่าง ๆ ในเมื่อน้ำมา แต่ไม่สามารถที่จะไปได้ ก็ต้องท่วมเป็นปกติ ยิ่งน้ำมากเป็นพิเศษ ก็ยิ่งท่วมหนักเป็นพิเศษ..! ดังนั้น..สิ่งที่บรรดาท่านทั้งหลายที่อยู่ "ข้างบน ๆ" ถ้าทำงานไม่เป็น กระผม/อาตมภาพจะแนะนำให้ว่า หาทางแก้ไขน้ำท่วมหาดใหญ่แบบยั่งยืนได้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการขุดคลองระบายน้ำรอบพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ สร้างอุโมงค์ระบายน้ำขนาดใหญ่ภายใต้พื้นที่ส่วนกลาง แล้วก็ขุดลอกคลองต่าง ๆ ที่ลงทะเล ก็สามารถที่จะแก้ไขปัญหาตรงนี้ไปได้ ส่วนถ้าหากว่าใครคิดจะระเบิดถนนเพื่อระบายน้ำก็ทำได้อยู่ แต่โปรดควักกระเป๋ามาสร้างถนนลอยฟ้าคืนให้เขาด้วย ไม่ใช่เอางบประมาณจากภาษีชาวบ้านไปทำ..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-11-2025 เมื่อ 11:46 |
| สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
|
#4
|
||||
|
||||
|
แต่ละเรื่องที่เกิดขึ้น ควรที่จะมีการวางแผนแก้ไขอย่างเป็นระบบมาตั้งแต่ต้นแล้ว เพราะไม่ใช่น้ำท่วมหาดใหญ่ครั้งแรก แต่ไม่มีการวางแผนแก้ไขอย่างเป็นระบบเลย เกิดอะไรเสียหายขึ้นมา ก็ขยับตัวช้าอีกต่างหาก ส่วนที่น่าสงสารที่สุดก็คือบรรดาหน่วยกู้ภัยต่าง ๆ จะนำรถยนต์บรรทุกเครื่องไม้เครื่องมือ และสิ่งของเข้าไปช่วยชาวบ้าน ก็ลอยน้ำไปเสียหลายคัน..! ส่วนบรรดาเรือท้องแบนนั้น แค่ผู้เข้าไปกู้ภัยนั่งก็เต็มแล้ว จะไปช่วยใครได้ ?!
ดังนั้น..นอกจากการแก้ไขปัญหาอุทกภัย ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาหลายปี เพราะเป็นโครงการมหึมามโหฬาร รัฐบาลไม่ต้องกังวล งบประมาณช่วยน้ำท่วมบอกว่า "ไม่มี" ฟังดูแล้วอยากจะร้องไห้..! ทีไอ้งบประมาณแข่งรถ ๔,๐๐๐ ล้านบาท กูเซ็นอนุมัติเดี๋ยวนี้เลย ก็เพราะทำงานกันแบบนี้แหละ มันถึงโดนชาวบ้าน "แดกหัว" มาโดยตลอด..! แต่ว่าตอนนี้เราจำเป็นจะต้องเก็บปากเก็บคำเอาไว้ก่อน เพื่อที่ทุกฝ่ายจะได้ช่วยกันคิด ช่วยกันทำ ช่วยกันแก้ไข ก่อนที่จะทำโครงการใหญ่โตมโหฬาร ถ้าหากว่ารัฐบาลไม่มีงบประมาณก็ไม่เป็นไร แต่อนุญาตให้เขาใช้งบท้องถิ่นด้วย โดยเฉพาะเทศบาลนครหาดใหญ่ งบประมาณมีเหลือเฟืออยู่แล้ว อีกส่วนหนึ่งก็คือเตรียมศูนย์อพยพสำหรับเหตุการณ์ฉุกเฉินแบบนี้เอาไว้ด้วย ไม่ใช่ว่าถึงเวลาขึ้นมาแล้ว ชาวบ้านห่วงสมบัติ ไม่ยอมอพยพ แล้วมึงจะให้อพยพไปที่ไหน ? ไม่มีสักที่หนึ่ง แม้กระทั่งวัดวาอารามที่เคยช่วยเหลือ เคยรับชาวบ้านที่เดือดร้อน ก็จมน้ำกันหมด..! ดังนั้น..ก่อนที่จะพูดอะไร โปรดใช้หัวแม่เท้าตรองด้วย ไม่อย่างนั้นก็จะได้รับปลัดขิกเป็นคันรถอย่างที่เห็นอยู่นั่นแหละ..! ยิ่งอยู่ในตำแหน่งสูงเท่าไร สิ่งที่เราพูดยิ่งจะมีผลกระทบมากเท่านั้น โดยเฉพาะผลกระทบด้านลบที่ทำให้คนทำงานเขาหมดกำลังใจ ให้ดูตัวอย่างคนใต้ ก็คือท่านรัฐบุรุษ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ไม่จำเป็นกูไม่พูด นักข่าวสัมภาษณ์ให้ตายก็ "กลับบ้านเถอะลูก" เพราะท่านรู้ว่าสิ่งที่ท่านพูดออกไปนั้นจะก่อให้เกิดผลอย่างไร โดยเฉพาะเป็นผู้นำสูงสุด ผลกระทบไม่เพียงแต่ทั้งประเทศ อาจจะไปถึงหลายประเทศอีกด้วย..! หรือที่ท่านพลเอกชาติชาย นายกรัฐมนตรีอีกท่านหนึ่งบอกไว้ ก็คือ "ก่อนพูดเราเป็นนายของคำพูด แต่พูดไปเมื่อไรแล้ว คำพูดจะเป็นนายของเรา" เนื่องเพราะสิ่งที่พูดออกไปโดยเฉพาะยุคนี้สมัยนี้ เขาก็จะบันทึกเอาไว้ แล้วพร้อมที่จะขุดออกมาใหม่ทุกเมื่อ..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-11-2025 เมื่อ 00:44 |
| สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
|
#5
|
||||
|
||||
|
ดังนั้น..ท่านทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นพระภิกษุสามเณรที่ทุ่มเทสรรพกำลังเข้าไป หรือว่าญาติโยมทั้งหลายที่อยู่ในสถานที่ส่วนอื่น ซึ่งไม่ได้รับความเดือดร้อน ตอนนี้การช่วยเหลือต่าง ๆ เริ่มมีการเปิดรับบริจาค ช่วยเป็นเงินได้ก็ช่วยเป็นเงิน ช่วยเป็นของได้ก็ช่วยเป็นของ ไม่มีอะไรจะช่วย อย่างน้อยก็ คิดดี พูดดี เอาไว้ อย่าไปพูดในสิ่งที่บั่นทอนกำลังใจของคนทำงาน
กระผม/อาตมภาพเองนั้น อยู่ในจุดที่ไม่สามารถจะขยับออกหน้าได้ จึงเป็นฝ่ายสนับสนุน หน่วยงานไหนเขาทำก็โอนเงินไปช่วย ให้กำลังใจเขา ไม่มีอะไร ส่งสติกเกอร์สู้ ๆ ไปก็ยังดี..! ถ้าหากว่าเรารักใคร่สามัคคีกันในลักษณะอย่างนี้ เรื่องหนักก็จะเป็นเบา เรื่องเบาก็จะเป็นหาย อีกส่วนหนึ่งก็คือคณะญาติโยมทั้งหลายที่ติดน้ำอยู่ ไม่สามารถจะไปไหนได้ กระผม/อาตมภาพเห็นคลิปที่เขาส่งมาแล้ว สงสารโยมก็จริง แต่อยากจะให้โยมพิจารณาเหตุการณ์ด้วย เรือท้องแบนลำเดียวบรรทุกเจ้าหน้าที่ ๕ คนก็เต็มแล้ว พวกท่านทั้งหลายตะโกนโวยวาย ขอความช่วยเหลือให้เสียงเพรียกไปหมด แล้วเขาจะช่วยแบบไหน ? อาคารที่ท่านติดอยู่ยังมีอีกตั้ง ๔ ชั้น ๕ ชั้น ถ้าหากว่าอดทนเอาไว้จนการช่วยเหลือใหญ่เข้าไปถึง หรือพยายามช่วยเหลือตนเองก่อนได้จะเป็นเรื่องดี สิ่งที่ท่านส่งเสียงออกไปนั้น มีแต่จะทำให้คนเขาเสียกำลังใจ หรือไม่ก็เครียดหนักเข้าไปอีก เลียนแบบนักรบโบราณก็ได้ ถึงเวลาก็กัดไม้หรือแผ่นหนังเอาไว้แล้วออกไปรบ โดนฟันโดนแทงเท่าไรก็ร้องไม่ออก เพราะว่าปากกัดเอาไว้แล้ว จะได้ไม่ทำให้พรรคพวกเพื่อนฝูงเสียกำลังใจ..! หรือไม่ก็ฉวยโอกาสสำหรับท่านที่ปฏิบัติมาอย่างเข้มข้น ก็คือนั่งปฏิบัติธรรม วัดกำลังใจไปเลยว่า "กูยังกลัวตายหรือเปล่า ?" อย่าไปส่งเสียงโหยหวนแบบขอส่วนบุญลักษณะอย่างนั้น ซึ่งสร้างความเครียดให้กับคนทำงานมากกว่า ต้องบอกว่าอาศัยสถานการณ์ฉุกเฉินวัดกำลังใจตนเองว่าเราทำมาได้เท่าไร ? เวลาเหตุการณ์ฉุกเฉินเกิดขึ้น เราจะได้รู้ว่ากำลังที่แท้จริงซึ่งเราปฏิบัติมานั้น มีมากน้อยเท่าไร ์ เพียงพอแล้วหรือว่ายังต้องเพิ่มเติมเข้าไปอีก ? ดังนั้น..สิ่งสำคัญที่สุดก็คือช่วยกันทำให้สถานการณ์สงบ ง่ายต่อการช่วยเหลือ ก็แปลว่าต้องอดทนอดกลั้นในสิ่งที่ทนและกลั้นได้ยาก ประมาณว่าถ้ากัดฟันแล้วเอาไม่อยู่ ก็ต้องกัดลิ้นไปด้วย..! เพราะว่าทุกคนลำบากเหมือน ๆ กัน ถ้าท่านสามารถทำอย่างนี้ได้ ก็จะทำให้การช่วยเหลือนั้นง่ายขึ้น หรือไม่ก็สร้างความเครียดให้กับคนอื่นน้อยลง ไม่ใช่เห็นเรือมาลำหนึ่ง คนนั่งเต็มแล้ว ไปตะโกนขอให้เขาช่วยเหลือขนาดนั้น กรุณาใช้ปัญญาดูด้วยว่าเขาจะช่วยเราได้หรือเปล่า ? เก็บแรงเอาไว้ อาจจะอดข้าวทนขึ้น ได้นานขึ้นอีกสักชั่วโมงสองชั่วโมงก็ยังดี ไม่ใช่ไปตะโกนจนเสียงแหบเสียงแห้ง ทำให้หิวข้าวหิวน้ำหนักขึ้นไปอีก..! สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้ พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๒๕ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๘ (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-11-2025 เมื่อ 00:47 |
| สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
![]() |
| ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
| คำสั่งเพิ่มเติม | |
|
|