กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๘ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๘

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 13-11-2025, 15:28
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 11,336
ได้ให้อนุโมทนา: 226,842
ได้รับอนุโมทนา 819,682 ครั้ง ใน 40,503 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๘

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๘


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 14-11-2025, 00:30
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,456
ได้ให้อนุโมทนา: 160,090
ได้รับอนุโมทนา 4,517,594 ครั้ง ใน 37,070 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๑๓ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๘ เมื่อวานนี้กระผม/อาตมภาพนอนไปตั้งแต่ยังไม่ทันจะ ๖ โมงเย็นของมาเลเซีย ไปตื่นเอาเที่ยงคืนครึ่งของบ้านเขา ไม่เคยได้นอนยาว ๆ แบบนี้มาหลายปีแล้ว..!

ตื่นขึ้นมาก็เจริญกรรมฐานตามปกติ ซึ่งกระผม/อาตมภาพจะจัดชุดในการเจริญกรรมฐาน ว่าต้องเริ่มด้วยอะไร ? ลงด้วยอะไร ? ถ้าครบชุดแล้วก็เป็นอันว่าวันนั้นสบายใจ เรารอดตัวแน่ แต่ด้วยความที่ตื่นตั้งแต่เที่ยงคืนครึ่ง จึงเจริญกรรมฐานครบชุดไป ๓ รอบ แล้วทำการอุทิศส่วนกุศลให้กับเจ้าที่เจ้าทางทั้งหลาย โดยเฉพาะ "หลงโถว" และบริวาร จากนั้นจึงได้เข้าไปตรวจแก้บันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ซึ่งขนาดตรวจแก้แล้ว บางทีก็ยังมีที่ผิดให้คนมาตรวจซ้ำ อ่านซ้ำ เจอเข้าจนได้..!

ครั้นประมาณตี ๕ กว่าก็จัดการไปสรงน้ำแล้วลงไปข้างล่าง นึกว่าตนเองตื่นเช้าแล้ว ปรากฏว่าทั้งพี่ศุ (นางศุภากาญจน์ หว่อง) ทั้งน้องเล็ก (นางสาวจิราพร ซื่อตรงต่อการ) ทั้งน้องปุย (นางสาวปิยะพร เพิงจันดา) ลงมานั่งรออยู่ที่ล็อบบี้ชั้น ๑ กันหมดแล้ว..!

พี่ศุควักกระเป๋าจ่าย "พ็อคเก็ตมันนี่" ให้กระผม/อาตมภาพ ๑,๐๐๐ ริงกิต ให้น้องเล็กไปอีก ๕๐๐ ริงกิต บอกว่า "เอาไว้ใช้ที่นี่ อย่าคิดมาก..!" ซึ่งเรื่องนี้ต้องบอกว่า กระผม/อาตมภาพเองไม่ค่อยคิดมาก แต่เป็นห่วงอยู่เหมือนกันว่าญาติโยมควักกระเป๋าจ่ายแบบนี้ กระผม/อาตมภาพจะทำเขาสิ้นเปลืองหรือเปล่า ? จากนั้นก็ออกไปเดินดูบ้านดูเมืองของเขา กะว่าถ้าเจอร้านอาหารก็จะได้แวะเลย ครั้นเดินไปได้ไม่ไกล เห็นแต่ตึก เห็นแต่ตัวอาคารชิโน-โปรตุเกสเก่า ๆ ก็รู้สึกสะท้อนใจ

เมื่อคืนนี้ตอนเจริญกรรมฐานก็ได้เจอครูบาอาจารย์ ไม่ว่าจะเป็นหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค หลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ตลอดจนกระทั่งหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ กระผม/อาตมภาพได้ปรารภเรื่อง
ในอดีตที่เกาะหมาก หรือว่ารัฐปีนังแห่งนี้ ยังเป็นของไทยอยู่ ปรากฏว่าพระเดชพระคุณหลวงปู่ทวดท่านเมตตาบอกว่า "การโหยหาอดีต การยึดติดกับปัจจุบัน การเพ้อฝันถึงอนาคต ล้วนแต่ทำให้หลุดพ้นไม่ได้..!"

กระผม/อาตมภาพกราบก้นโด่งไปตามระเบียบ เรียนถวายท่านไปว่า "หลวงปู่สอบผ่านแล้วก็พูดได้เต็มปากเต็มคำ แต่บรรดากระผมนั้นยังลากถูลู่ถูกังอยู่แบบนี้ ก็ต้องมีบ้างแหละครับ..!" ยังโชคดีที่หลวงปู่ท่านไม่ได้ถือไม้เท้ามา ไม่เช่นนั้นคงโดนไม้เท้าลงหัวแน่นอน..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-11-2025 เมื่อ 02:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 28 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 14-11-2025, 00:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,456
ได้ให้อนุโมทนา: 160,090
ได้รับอนุโมทนา 4,517,594 ครั้ง ใน 37,070 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อเดินดูบ้านดูเมืองเขา ฟ้าก็ยังไม่ทันจะสว่าง เพราะว่าเวลาของมาเลเซียเร็วกว่าเมืองไทย ๑ ชั่วโมง ทั้งที่อยู่ในโซนเวลาเดียวกัน เนื่องเพราะว่าแต่แรกนั้น สิงคโปร์ซึ่งถือว่าเป็นศูนย์กลางการเงินของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้ปรับการทำงานของตนเองให้เข้ากับฮ่องกง ที่เป็นศูนย์กลางการเงินของเอเชียตะวันออกไกล ถ้าหากว่าปรับเวลาแบบนี้ ก็ทำให้ติดต่อกับต่างประเทศทางยุโรปและอเมริกาได้เร็วขึ้น

มาเลเซียเห็นดังนั้นจึงปรับตามไปด้วย ทำให้ทั้งที่อยู่ในโซนเวลาเดียวกันกับบ้านเราแท้ ๆ แต่เวลากลับเดินเร็วกว่า ๑ ชั่วโมง พวกเราลองนึกดูว่าถ้าอีกฝ่ายทำธุรกรรมการเงินก่อนเรา ๑ ชั่วโมง บรรดาธนาคารต่าง ๆ หรือว่าพ่อค้าผู้ส่งออกผู้นำเข้าสารพัดจากทั่วโลก ติดต่อก่อนเรา ๑ ชั่วโมง เขาจะรับผลประโยชน์มากมายมหาศาลขนาดไหน ?!!

พวกเราเดินไปได้หน่อยหนึ่งก็เจอร้านผลไม้ ซึ่งส่วนใหญ่ก็คล้ายคลึงกับบ้านเรานี่เอง เพียงแต่ว่าแตงแคนตาลูป หรือที่เรียกบ้านเราว่า "เมล่อน" นั้น ที่นี่ลูกโตกว่ากำปั้นของกระผม/อาตมภาพนิดเดียว คงประมาณสัก ๖ ลูกกว่าที่จะเท่ากับบ้านเราลูกหนึ่ง ไม่ทราบว่ารสชาติเป็นอย่างไรเหมือนกัน แต่ว่าให้พี่ศุซื้อเอาสับปะรดและมะละกอที่เขาปอกใส่กล่องมาแล้ว อย่างละ ๑ กล่อง กับส้มจีนอีก ๔ ลูก ติดไปเป็นอาหารเช้าด้วย

ตอนแรกว่าจะไปเข้าภัตตาคารไต่ตง (Tai Tong) แต่ปรากฏว่าภัตตาคารเขาเปิดช้า มีผู้เมตตาเดินผ่านมาชี้ว่าให้ไปกินที่ร้านโน้น ทำเอากระผม/อาตมภาพยังงง ๆ อยู่เหมือนกัน อีกฝ่ายยืนยันว่าอร่อยแล้วก็ราคาถูกด้วย เพราะว่าเป็นร้านที่ชาวบ้านกินกัน น้องปุยเองไม่แน่ใจ ยังเดินตามไปถามอีกว่า "ห่าวชือมา ?" ก็คืออร่อยแน่หรือเปล่า ? อีกฝ่ายหนึ่งตอบกลับมาเป็นภาษาไทยว่า "อร่อย" เล่นเอาพวกเราหัวเราะกันแทบตาย..!

หลังจากเดินเข้าไปแล้ว ปรากฏว่าเป็นร้านค่อนข้างจะใหญ่ มีโต๊ะอยู่นับสิบตัวทีเดียว อาหารก็เป็นพวกติ่มซำ แล้วก็อาหารจานเดียวออกไปทางจีนแท้ กระผม/อาตมภาพชี้จิ้มพวกติ่มซำมาทั้งหมด ๔ เข่งด้วยกัน แต่ว่าเข่งที่นี่ไม่ใช่ไม้ไผ่สานแบบบ้านเรา หากแต่ว่าเป็นโลหะสเตนเลส หลังจากที่ชิมเข้าไปคำแรก ก็ต้องยกนิ้วให้เขาว่ารสชาติดีทีเดียว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-11-2025 เมื่อ 02:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 26 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 14-11-2025, 00:49
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,456
ได้ให้อนุโมทนา: 160,090
ได้รับอนุโมทนา 4,517,594 ครั้ง ใน 37,070 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อทำธุระกันจนอิ่มแปล้แล้วก็หันมามองหน้ากัน ประมาณยอมรับว่าของเขาอร่อยจริงด้วย แต่ตอนที่จ่ายเงินแล้วเดินออกมานอกร้าน น้องเล็กชี้ให้ดู ปรากฏว่าเขาได้รับคำแนะนำจากมิชลินมา ๒ ปี ๓ ปีติดต่อกัน ยังสงสัยว่าอยู่วันนี้ใครผลักเราให้เข้าร้านนี้ก็ไม่รู้ ? นอกจากอร่อยแล้วยังราคาถูกอีกต่างหาก..!

หลังจากนั้นกระผม/อาตมภาพก็พาทุกคนเดินกลับโรงแรม เนื่องเพราะว่าเป็นบุคคลที่มีความจำเกี่ยวกับหนทาง ประมาณว่าถ้าเคยผ่านก็จำได้เกิน ๘๐ เปอร์เซ็นต์ ถ้าผ่านสองครั้งเมื่อไร ก็เป็นอันว่าจำได้แน่นอน กลับขึ้นไปหวังว่าจะพัก เนื่องจากว่าวัด Kek Lok Si ที่วันนี้เราจะไปกันนั้นเขาเปิด ๙ โมงเช้า

แต่ปรากฏว่าเพิ่งจะนอนภาวนาไปได้เล็กน้อย ก็มีเสียงกดกริ่งหน้าประตู แล้วบริกรชายคนขยัน ก็เข้ามาทำเตียง ทำความสะอาด เปลี่ยนผ้าห่ม เปลี่ยนผ้าเช็ดตัวต่าง ๆ ให้ แล้วก็เก็บขยะไป พร้อมกับบอกว่า "Ok, Sir." แต่ว่า Sir ไม่ค่อยจะโอเค เพราะว่ากูจะนอนแต่ไม่ได้นอนเสียแล้ว..! ก็เลยแต่งตัวห่มดองพาดสังฆาฏิเต็มยศลงมาข้างล่าง สรุปว่ามาช้ากว่าเขาอีกตามเคย..!

น้องปุยจัดการเรียกรถแท็กซี่ประมาณ Grab ของบ้านเรามา ระยะทางจากโรงแรม OZO ไปวัด Kek Lok Si อยู่ที่ ๘ กิโลเมตร แต่ด้วยเหตุที่ว่าช่วงเช้าแบบนี้รถติด จึงใช้เวลาวิ่งไปถึง ๑๕ นาที แล้วทางวัดก็ไม่ให้รถเข้าไปจอดข้างในเสียด้วย หากแต่ว่าจอดข้างนอกแล้วเข้าไปซื้อตั๋วข้างใน กระผม/อาตมภาพไม่ต้องจ่าย เดินออกมาข้างนอกจะขึ้นรถตู้ของทางวัด เมื่อคนขับรถเห็นกระผม/อาตมภาพยังตะโกนถามว่า "ได้จ่ายค่าตั๋วไปหรือเปล่า ? ถ้าจ่ายไปแล้วให้รีบไปขอคืน" เมื่อได้ยินพวกเราบอกว่าจ่ายแค่ ๓ ใบ ของพระฟรี เขาถึงได้พยักหน้าด้วยความพอใจ..!

แล้วคนขับก็พาพวกเราวิ่งขึ้นเขาไป จนกระทั่งถึงอาคารใหญ่หลังหนึ่ง เข้าไปจอดอยู่ทางด้านใต้อาคารหลังนั้น ที่มีรถรางเทียมจอดอยู่ พวกเราเปลี่ยนมาขึ้นรถรางเทียมแล้วก็วิ่งขึ้นเขาไปจนถึงด้านบนสุด มาจอดอยู่บริเวณทางเข้า ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายสินค้าที่ระลึก พวกเราเองต้องใช้บัตรที่ซื้อมา ซึ่งสามารถฉีกเป็นท่อน ๆ ได้ ท่อนแรกก็คือใช้ในการขึ้นรถกระเช้าไฟฟ้าไปบนยอดเขา เมื่อลงจากรถกระเช้าไฟฟ้ามา ก็ต้องผ่านร้านขายของที่ระลึก มาอยู่บนระเบียงค่อนข้างจะกว้างขวาง มีวิหารท่านแม่กวนอิมองค์ใหญ่อยู่ด้านบนนี้ แต่ว่าตัววิหารยังสร้างไม่เสร็จดี
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-11-2025 เมื่อ 03:01
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 26 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 14-11-2025, 00:52
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,456
ได้ให้อนุโมทนา: 160,090
ได้รับอนุโมทนา 4,517,594 ครั้ง ใน 37,070 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พวกเราหลังจากที่ถ่ายรูปกันแล้ว ก็เดินไปยังวิหารหลัก ซึ่งปกติใช้เป็นที่สวดมนต์ไหว้พระ อธิษฐานขอพร มีรูปพระศรีศากยมุนีอยู่ข้างใน น่าจะทำด้วยไม้ องค์ใหญ่มาก เป็นปางแสดงปาฏิหาริย์ มีพระหัตถ์ถึง ๙ คู่ด้วยกัน

กระผม/อาตมภาพที่ตั้งใจมาทำบุญที่นี่อยู่แล้ว จึงได้บูชาดวงประทีปขนาดใหญ่ไป ๑ คู่ ราคา ๔๐๐ ริงกิต แต่ละดวงนี้ต้องอุ้มกันชนิดตึงมือเลยทีเดียว เมื่อจุดถวายเรียบร้อยแล้วก็ไปซื้อกระเบื้อง ซึ่งได้ซื้อทั้งกระเบื้องปกติ และกระเบื้องปิดหัวแถวไปอย่างละ ๑ แผ่น รวมราคา ๓๐๐ ริงกิต เมื่อทำการอธิษฐานถวายเรียบร้อยแล้ว ยังมาร่วมบุญการสร้างโรงพยาบาลไป ๑๕๐ ริงกิต แล้วก็ซื้อโคมประดับตอนปีใหม่ ๑ คู่ ราคา ๑๐๐ ริงกิต ซึ่งเขาจะเขียนชื่อของเราติดโคมไว้ให้ด้วย กระผม/อาตมภาพจึงต้องเขียนชื่อเป็นภาษาอังกฤษให้เขาไป

แล้วก็มาช่วยพี่ศุเลือกลูกประคำหยก ซึ่งคนเลือกเป็นก็คงต้องเลือกแบบกระผม/อาตมภาพนี่เอง พี่ศุบอกว่าให้เลือกได้ ๒๐ เม็ด แล้วหลวงพ่อเสกเสร็จก็จะขอกลับคืนไป ๓ เม็ด ที่เหลือให้หลวงพ่อนำไปจำหน่ายให้ลูกศิษย์ได้บูชากันต่อไป ลูกประคำหยกเม็ดละ ๑๐๐ ริงกิต เท่ากับว่าพวกเรามาที่นี่ที่เดียว จ่ายเงินไปหลายพันริงกิตเลยทีเดียว..!

จากนั้นก็นั่งรถกระเช้าไฟฟ้าลงมา ตรงไปยังวิหารหลักซึ่งใช้สวดมนต์ภาวนา มีรูปพระพุทธเจ้า ๓ กาล ก็คืออดีตกาล ปัจจุบันกาล และอนาคตกาล ตลอดจนกระทั่งพระอานนท์และพระมหากัสสปะเป็นอัครสาวก รูปพระแม่กวนอิม เหล่านี้เป็นต้น

กระผม/อาตมภาพภาวนา "พระคาถาเงินล้านสูตรพิเศษ" ถวายไป ๑๐ จบ จากนั้นก็เดินไปไหว้พระตามวิหารต่าง ๆ ซึ่งมีวิหารของพระธยานิพุทธะทั้ง ๕ พระองค์ ก็คือพระไวโรจนะ พระอักโษภยะ พระอมิตาภะ พระรัตนสัมภวะ และพระอโมฆสิทธิ เป็นต้น แล้วเดินขึ้นไปยังพระเจดีย์หลักซึ่งยังสร้างไม่เสร็จ เจ้าหน้าที่อธิบายเป็นภาษาอังกฤษว่าให้ขึ้นได้แค่ ๒ ชั้นเท่านั้น เพราะว่าชั้นที่เหลือยังสร้างไม่เสร็จ

แต่พวกเราเมื่อขึ้นมาแล้วก็เดินไปจนหมดทางเท่านั้นเอง..! ที่ชอบใจที่สุดก็คือกระเบื้องติดผนังเป็นรูปพระพุทธเจ้าของเขา แผ่นหนึ่งก็คือพระพุทธเจ้า ๑ องค์ ติดรอบเจดีย์ก็เป็นหมื่น ๆ องค์เลยทีเดียว..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-11-2025 เมื่อ 03:05
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 25 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า 14-11-2025, 01:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,456
ได้ให้อนุโมทนา: 160,090
ได้รับอนุโมทนา 4,517,594 ครั้ง ใน 37,070 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อดูจนครบถ้วนแล้ว ก็วนลงมาทางด้านล่าง เป็นที่น่าเสียดายว่า วัดวาอารามเริ่มรกร้าง ทรุดโทรม เพราะว่าขนาดวัดใหญ่มาก แล้วระยะนี้นักท่องเที่ยวก็มาน้อย คาดว่าคงจะมาน้อยตั้งแต่หลังเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ ระบาดแล้ว พวกเราเดินวนไปยังอาคารซึ่งมีพระพุทธรูปสมัยเชียงแสนแบบไทยตั้งอยู่ หลังจากถ่ายรูปจนทั่วแล้ว จึงได้วนออกมาทางด้านนอก นั่งรถรางกลับไปต่อรถตู้ มาลงที่ลานจอดรถ ปรากฏว่ารถบัสทัศนาจรขนาดใหญ่หลายคันมาจอดอยู่ นักท่องเที่ยวกำลังแห่กันขึ้นมา แต่เราลงมากันแล้ว..!

ทั้งจากที่ได้ทำการเรียกรถแกร็บมาถึง ปรากฏว่าอาเจ๊คนขับแกไม่รู้จักร้านอาหารที่เราจะไป หรือไม่ก็อาจจะโดนท่านผู้หวังดีบังตาเอาหรือเปล่าก็ไม่รู้ ? จึงเลี้ยวผิดแล้วผิดอีก จนกระทั่งพวกเราต้องอาศัย "กูเกิ้ลแม็พ" บอกทาง อาเจ๊พูดเป็นภาษาไทยว่า "ก็ไม่เห็นนิ" ก็คือออกสำเนียงปักษ์ใต้ของเราเลย ทำเอาพวกเราหัวเราะกันท้องคัดท้องแข็ง..!

หลังจากที่เดินหาร้านอาหารจนอ่อนใจ ก็เลี้ยวเข้าร้านที่ใกล้ที่สุด เมื่อกินแล้วก็ยังทึ่งว่าอาหารรสชาติดีมาก แถมราคาถูกเป็นพิเศษ เนื่องเพราะว่าหมูกรอบและไก่สับนั้น นอกจากจะกรอบอร่อย และหอมกลิ่นควันไ แบบย่างด้วยฟืนชนิดที่หอมติดจมูกเลยทีเดียว เนื้อหนังทั้งไก่ทั้งหมูยังนุ่มมากเป็นพิเศษ ที่ทึ่งกว่านั้นก็คือสั่งมา ๓ ชุดใหญ่ ราคาแค่ ๔๐ ริงกิตเท่านั้น..! ยังมองหน้ากันแล้วบอกว่า "ถ้าได้ของอร่อยราคาถูกแบบนี้ทุกครั้ง ต่อให้ท่านตั้งใจจะปิดหูปิดตา จูงไปทางไหนก็ยอมตามแต่โดยดี..!"

ออกจากร้านอาหารมา พวกเราก็เรียกรถแท็กซี่ ตรงไปยังปีนังฮิลล์ ซึ่งเป็นจุดไฮไลท์ส่วนหนึ่งของที่นี่ ทำการตีตั๋วแล้วก็นั่งรถรางไฟฟ้าขึ้นไปบนยอดเขา ด้านบนนี้มีทั้งสกายวอล์ค มีทั้งสถานที่จัดนิทรรศการ มีห้องน้ำหรู ๆ ให้เข้าอีกต่างหาก แล้วก็มีสารพัดร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก ที่น่าทึ่งก็คือมีเทวาลัยของศาสนาฮินดู ซึ่งกระผม/อาตมภาพเข้าไปหยอดตู้ทำบุญด้วย มีมัสยิดของศาสนาอิสลาม แต่ว่าไม่ได้เข้าไปข้างใน เพราะเป็นข้อห้ามทางศาสนาของเขา ได้แต่ถ่ายรูปอยู่ข้างนอกเท่านั้น เดินขึ้นไปถึงจุดสูงสุดยังเป็น Guest House อีกต่างหาก..!

กระผม/อาตมภาพปรารภกับน้องปุยที่ตามมาคนเดียว เนื่องเพราะว่าน้องเล็กเจ็บสะโพก ขออนุญาตนั่งรออยู่ที่บริเวณที่นั่งหน้าห้องน้ำ ส่วนพี่ศุนั้นยอมแพ้อยู่ข้างล่าง ไม่ขึ้นบันไดมาด้วย บอกกับน้องปุยว่า ถ้าเป็นกระผม/อาตมภาพจะไม่สร้าง Guest House ตรงนี้ เนื่องเพราะว่าข้างล่างก็คือมัสยิดและเทวาลัย ซึ่งถ้าหากว่าศาสนาของเขาถือสาก็จะเป็นเรื่องแน่นอน..! ต่อให้ไม่ถือสาก็ยังถือว่าเป็นการปรามาสศาสนาของเขาอยู่ดี

พวกเราเดินย้อนกลับลงมา เจอพี่ศุรออยู่บริเวณตีนบันได แล้วก็เดินมารับน้องเล็กกลับไป เพื่อจะขึ้นรถรางลงข้างล่าง ขาลงนี้คนแน่นไปหมด พวกเราต้องรอรถรางวิ่งรับถึงสองรอบจึงได้ลงมา ตอนแรกยังตั้งใจจะไปวัดไทยในปีนังนี่อีก แต่กระผม/อาตมภาพบอกว่ากลับไปพักผ่อนกันเถอะ เดี๋ยวถ้าฝนมาแล้วจะลำบาก..! จึงได้เปลี่ยนแผนกลับโรงแรมไปพักผ่อน แล้วตอนค่ำบรรดาขาช็อปปิ้งเขาจะไปเดินกันเอง ส่วนกระผม/อาตมภาพ หลังจากที่บันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนแล้ว ก็อาจจะได้นอนยาว ๆ อีก ๑ วัน

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพฤหัสบดีที่ ๑๓ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-11-2025 เมื่อ 03:08
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 01:22



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว