กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๘ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๘

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 08-11-2025, 16:43
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 11,281
ได้ให้อนุโมทนา: 226,754
ได้รับอนุโมทนา 818,231 ครั้ง ใน 40,409 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๘

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๘


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า เมื่อวานนี้, 00:28
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,424
ได้ให้อนุโมทนา: 160,037
ได้รับอนุโมทนา 4,516,394 ครั้ง ใน 37,038 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ ๘ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๘ กระผม/อาตมภาพเดินทางไปยังมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ถนนพหลโยธิน หมู่ที่ ๑ ตำบลลำไทร อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อไปร่วมงานปฐมนิเทศนิสิตปริญญาเอก ๓ สาขา เช่น สาขาการจัดการเชิงพุทธ สาขารัฐประศาสนศาสตร์ และสาขารัฐศาสตร์ ซึ่งสาขาการจัดการเชิงพุทธนั้นเป็นรุ่นที่ ๑๕ แล้ว พอเห็นรุ่นเข้าก็ยังตกใจ เนื่องเพราะว่าตัวกระผม/อาตมภาพนั้น จบปริญญาเอกสาขาการจัดการเชิงพุทธรุ่นที่ ๒ โดยที่เป็นนิสิตที่แซงขึ้นมาจบพร้อมกับรุ่นพี่ รุ่น ๑

เนื่องเพราะว่าในการเรียนครั้งแรก ๆ นั้น ทางคณาจารย์เข้มงวดเป็นอย่างยิ่ง อย่างเช่นว่าหนังสืออ้างอิงต้องมีของต่างประเทศไม่น้อยกว่า ๒๐ เล่ม แล้วกระผม/อาตมภาพเองก็หาได้แค่ ๑๗ เล่มเท่านั้น ซ้ำครูบาอาจารย์ยังขู่เอาไว้เป็นการหนักว่า ทุกเล่มที่อ้างอิงต้องมีอยู่ในมือ ถึงเวลาสอบ ถ้าสงสัยตรงไหนจะขอดูต้นฉบับ..!

ทำเอาพวกกระผม/อาตมภาพประสาทกลับไปตาม ๆ กัน บรรดารุ่นพี่ก็เลย "ตัดช่องน้อยแต่พอตัว" ด้วยการปล่อยให้รุ่นของกระผม/อาตมภาพจบก่อน แล้วหลังจากนั้นก็มาอ้างอิงวิทยานิพนธ์รุ่นของกระผม/อาตมภาพ เพื่อที่จะจบตามบ้าง สมกับที่เป็นรุ่นพี่ผู้ชาญฉลาดเสียจริง ๆ..!

แต่ด้วยความที่ว่าวันนี้กระผม/อาตมภาพมีงานรับโล่และประกาศเกียรติคุณ "พระวิปัสสนาจารย์เกียรติคุณ" ประจำสถาบันวิปัสสนาธุระ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ดังนั้น..เมื่อทักทายครูบาอาจารย์และรุ่นน้องที่มาเข้าปฐมนิเทศแล้ว ก็ได้เดินทางไปยังอาคารพระวิสุทธาธิบดี ชั้น ๔ สถาบันวิปัสสนาธุระ ซึ่งบางทีก็เรียกง่าย ๆ ว่า "อาคารหอฉัน"

เมื่อเข้าไปถึง ท่านพระครูภาวนาวรบัณฑิต วิ., ดร. (วริทธิ์ธร วรเวที) ผู้อำนวยการส่วนงานวางแผนและพัฒนาการอบรม สถาบันวิปัสสนาธุระ เจ้าของงาน ก็รีบมาต้อนรับ พาเข้าไปนั่งในส่วนของพระวิปัสสนาจารย์เกียรติคุณ ซึ่งได้รับในงานนี้ทั้งหมด ๑๘ รูปด้วยกัน มองหน้ากันแล้วก็ประมาณว่า "ท่านก็มาด้วยหรือ ?" ก็คืออยู่ในลักษณะที่ว่ารู้จักมักคุ้นกันหมดแล้ว ในเมื่อเป็นเช่นนั้นก็เลยทำให้รู้สึกสะท้อนใจว่า
ผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับการสอนธรรมนำปฏิบัติฝ่ายวิปัสสนากรรมฐานนั้น ทำไมช่างมีน้อยเหลือเกิน ?!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : เมื่อวานนี้ เมื่อ 17:01
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 26 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า เมื่อวานนี้, 00:44
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,424
ได้ให้อนุโมทนา: 160,037
ได้รับอนุโมทนา 4,516,394 ครั้ง ใน 37,038 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อีกท่านหนึ่งที่กระผม/อาตมภาพพิจารณาแล้วว่าสมควรที่จะได้ ก็คือท่านเจ้าคุณสุรศักดิ์ - พระราชภาวนาวชิรญาณ วิ. (สุรศักดิ์ เขมรํสี) วัดมเหยงคณ์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา แต่ว่าไม่มีรายชื่อของท่าน ไม่ทราบเหมือนกันว่าถวายเกียรติยศไปแล้ว แต่ท่านปฏิเสธไม่รับตามประสานักปฏิบัติธรรมหรืออย่างไร ?

แต่ที่สะท้อนใจก็คือว่า ไม่ว่าจะเป็นพระวิปัสสนาจารย์เกียรติคุณก็ดี พระวิปัสสนาจารย์ดีเด่นก็ดี หรือว่าคนดีศรีวิปัสสนาธุระ ซึ่งต่างก็มารับรางวัลรับโล่กันในวันนี้ ล้วนแล้วแต่เป็นผู้ที่รู้จักคุ้นเคยกันทั้งสิ้น ทำเอาพระครูวิลาศกาญจนธรรมต้องนั่งเป็นศาลพระภูมิให้คนโน้นก็มาไหว้ คนนี้ก็มากราบ แล้วแถมหลายคนก็ยังบ่นอีกต่างหากว่า "ไปตามงานแล้วเข้าไม่ถึงหลวงพ่อ เลยขออนุญาตกราบตรงนี้" เป็นเสียอย่างนั้นไป บางท่านก็บอกย้ำแล้วย้ำอีกว่า "ผมจะไปกราบถึงที่วัดนะครับ" จึงได้กราบเรียนถวายท่านไปว่า "ถ้าไปวัดไม่ได้เจอผมหรอกครับ ยกเว้นมาเจอกันในงานแบบนี้แหละ..!"

ปรากฏว่าองค์ประธานก็คือ พระเดชพระคุณพระพรหมวัชรธีราจารย์, ศ.ดร. (สมจินต์ สมฺมาปญฺโญ, ป.ธ. ๙) องค์อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยนั้น ท่านต้องไปปฐมนิเทศนักศึกษาปริญญาเอก ๓ สาขาเสียก่อน ดังนั้น..แทนที่ ๘ โมงครึ่งแล้วจะเป็นการเปิดงานของสถาบันวิปัสสนาธุระ ก็กลายเป็นว่าต้องเริ่มพิธีบำเพ็ญกุศล ๑๒๒ ปีสมเด็จพระพุฒาจารย์ (อาสภมหาเถร) อธิบดีสงฆ์วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ราชวรมหาวิหาร อดีตทุติยนายกสภามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยก่อน แล้วก็ต่อด้วยการเจริญพระพุทธมนต์เนื่องในวันครบรอบ ๑๒ ปี การก่อตั้งสถาบันวิปัสสนาธุระ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย จากนั้นถึงเป็นการเข้าสู่พิธีการ มอบโล่เกียรติคุณ ตลอดจนกระทั่งพัดรอง และประกาศนียบัตร แก่บรรดาผู้ที่ได้รับตามลำดับไป

ทำเอากระผม/อาตมภาพซึ่งกระซิบบอกผู้คนรอบด้านว่า "วันนี้เมื่อรับโล่แล้ว ไม่ได้อยู่ต่อนะครับ ต้องเดินทางกลับเลย" ซึ่งส่วนใหญ่เขาก็รู้ดีกันว่า หลวงพ่อเล็กวัดท่าขนุนนั้นงานมาก เพราะว่าเมื่อติดตามภายในเฟซบุ๊ก ซึ่งกระผม/อาตมภาพเล่นไม่เป็นก็ดี หรือว่าติดตามในกลุ่มไลน์ ซึ่งกระผม/อาตมภาพยืมคนอื่นใช้ก็ตาม จะเห็นว่ามีงานส่งเข้าอยู่ทุกวัน..วันละมาก ๆ..!

ในส่วนนี้ทำให้พรรคพวกเพื่อนฝูงจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมรุ่นในการศึกษา เพื่อนร่วมรุ่นในการอบรมต่าง ๆ ท้ายที่สุดจากเพื่อน ส่วนหนึ่งก็มาฝากตัวเป็นลูกศิษย์เสียอย่างนั้น ประมาณว่า "ตีก็ไม่ไป ไล่ก็ไม่หนี"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : เมื่อวานนี้ เมื่อ 17:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 26 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า เมื่อวานนี้, 00:47
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,424
ได้ให้อนุโมทนา: 160,037
ได้รับอนุโมทนา 4,516,394 ครั้ง ใน 37,038 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

บุคคลที่เป็นตัวอย่างที่ดีที่สุด ซึ่งเพื่อนฝูงยกไว้เลยก็คือท่านพระครูสังฆกิจจารักษ์ วัดสิงห์ อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม หรือที่กระผม/อาตมภาพเรียกท่านว่า "พี่กวง" เพราะว่าท่านอายุมากกว่า ๖ ปี

ตั้งแต่เรียนประกาศนียบัตรบริหารกิจการคณะสงฆ์มาด้วยกัน ๑ ปี พอถึงปีที่ ๒ ของปริญญาตรี สาขาพระพุทธศาสนา "พี่กวง" ซึ่ง "ปะฉะดะ" ทุกคนที่ขวางหน้า อยู่ ๆ ก็เปลี่ยนความประพฤติ จากหลังเท้าเป็นหน้ามือเสียอย่างนั้น..!

เมื่อพรรคพวกสอบถามท่านก็บอกว่า "ผมดูจากพี่เล็กครับ เนื่องเพราะว่าท่านเป็นพระเถระ ภาระงานมากขนาดนั้นแล้วยังทำทุกอย่าง อยู่ในลักษณะที่สมบูรณ์ตามหน้าที่ไม่เคยพลาด เวลาเรียนเต็มทุกชั่วโมงยังไม่พอ นั่งหน้าห้องพร้อมที่จะถกเถียงทางวิชาการกับครูบาอาจารย์โดยตลอด แต่ไม่เคยก้าวร้าวครูบาอาจารย์เลย ทุกคนก็เห็นแล้วว่า ท่านให้ความเคารพครูบาอาจารย์ทั้งพระและฆราวาสเสมอกัน คำว่าเสมอกันในที่นี้ ก็คือยกให้เป็นครูบาอาจารย์จริง ๆ ในเมื่อผมเห็นเช่นนั้น ถึงได้พยายามเลียนแบบและทำตาม จนกระทั่งทุกวันนี้"

พรรคพวกเพื่อนฝูงเขาก็จะรู้ดีว่า "พี่กวง" ซึ่งเป็นคนค่อนข้างหัวดื้อ หัวรั้น พร้อมที่จะลุยทุกสนาม แต่ถ้าหากว่าเจอกระผม/อาตมภาพ จะมาขอกราบก่อนในฐานะลูกศิษย์ทุกครั้ง เป็นเรื่องที่อัศจรรย์อยู่เหมือนกัน

ท่านอาจารย์ ดร.จักรฤกษณ์ จันทร์ดำ ซึ่งสอนกระผม/อาตมภาพในปริญญาตรี ท่านบอกไว้อย่างชัดเจนว่า "ท่านอาจารย์พระครูธรรมธรเล็ก ควรที่จะไปเรียนมหาวิทยาลัยข้างนอกมากกว่า ผมมั่นใจว่าภายใน ๓ เดือนเท่านั้น ท่านสามารถเอาเขาเป็นลูกศิษย์ได้ทั้งมหาวิทยาลัย" กระผม/อาตมภาพก็ได้แต่คิดว่า ไม่ทราบท่านอาจารย์เอาอะไรเป็นเครื่องวัด ?

แต่ตอนที่สอบเข้าปริญญาโทนั้น ท่านอาจารย์ ดร. ธัชชนันท์ อิศรเดช ท่านได้บอกว่า "ท่านอาจารย์พระครูทราบไหมครับว่า ท่านเป็นคนที่มั่นใจตัวเองสุด ๆ เลย ?" กระผม/อาตมภาพก็ถามว่า "ท่านอาจารย์ดูจากตรงไหนครับ ?" ท่านบอกว่า "แค่ดูจากท่าเดินตอนเข้ามาในห้องสัมภาษณ์นี่แหละครับ ปกติแล้วจะไม่มีใครเดินท่านี้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : เมื่อวานนี้ เมื่อ 17:06
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 27 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า เมื่อวานนี้, 00:50
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,424
ได้ให้อนุโมทนา: 160,037
ได้รับอนุโมทนา 4,516,394 ครั้ง ใน 37,038 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ทำเอากระผม/อาตมภาพไปนึกถึงเพื่อนฝูงที่จบปริญญาเอกพร้อมกันท่านหนึ่ง ซึ่งปัจจุบันนี้เป็นเจ้าคุณรองจังหวัดนนทบุรี ก็คือท่านเจ้าคุณกำพล - พระอุดมสิทธินายก (กำพล คุณงฺกโร ป.ธ. ๙), รศ.ดร. ท่านเป็นเปรียญธรรม ๙ ประโยค ปัจจุบันนี้จบด็อกเตอร์ไป ๓ ใบแล้ว ทำหน้าที่คณบดีคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ท่านบอกว่า "หลวงพ่อเล็กเดินไม่เหมือนคนแก่..!" ทำเอากระผม/อาตมภาพอึ้งไปพักใหญ่ ประมาณว่าแล้วคนแก่เขาเดินกันอย่างไรวะ ?

แต่เมื่อมาพิจารณาดูตนเองแม้แต่บัดนี้ ก็คือถ้าหากจะลุกจากที่นั่งก็แทบจะไม่เคยเอามือค้ำพื้น เนื่องเพราะเคยชินกับการระมัดระวัง เพราะว่ามีศีลพระอยู่ข้อหนึ่ง ซึ่งท่าน "ห้ามเอามือค้ำกาย" คำว่าเอามือค้ำกายนี้ กระผม/อาตมภาพมั่นใจว่า ความจริงน่าจะเป็นการเท้าเอว แต่ด้วยความที่ครูบาอาจารย์ท่านอธิบายว่า เป็นการนั่งเอามือค้ำพื้น ในเมื่อเป็นเช่นนั้น จึงระมัดระวังที่จะไม่เอามือค้ำพื้นไปด้วย ทำให้การลุกขึ้นก็เลยลุกแบบไม่เอามือค้ำพื้น เหมือนกับคนหนุ่มสาวเขา ทั้ง ๆ ที่ตนเองก็เฒ่าชะแรแก่ชราจนป่านนี้แล้ว ยังรู้สึกอยู่ว่าเรายังสามารถลุกได้โดยไม่ต้องค้ำพื้นในอายุขนาดนี้ ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าพอใจมากแล้ว..!

ในส่วนของงานทุกอย่าง เมื่อเสร็จสรรพเรียบร้อย กระผม/อาตมภาพก็ขออนุญาตเดินทางกลับยังที่พัก เพื่อที่จะเตรียมตัวไปทำหน้าที่ของตนเองต่อไป แต่ว่าในส่วนที่กล่าวถึงตนเองดังที่ผ่านมานั้น อยากจะเรียนถวายถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมทุกท่านที่ฟังอยู่ ก็คือว่า
แม้ดูเปลือกนอกหน้าตาดูน้อยกว่าอายุก็จริง แต่ภายในใจของกระผม/อาตมภาพทราบดีถึงความแก่ของตนเอง และซาบซึ้งเป็นอย่างยิ่งตั้งแต่หลังอายุ ๓๐ มาแล้ว

เนื่องเพราะว่าบวชใหม่ ๆ ทำหน้าที่เฝ้าหน้าตึกให้กับพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ ในช่วงฤดูหนาว ก็ยังใส่อังสะนุ่งสบงแค่นั้น ส่วนหลวงพ่อท่านมาทั้งรองเท้า ถุงเท้า หมวกไหมพรม เสื้อไหมพรม ท่านยังทักว่า "แกไม่มีเครื่องกันหนาวหรือ ?" กราบเรียนถวายหลวงพ่อว่า "มีครับ..แต่ผมยังไม่หนาว"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : เมื่อวานนี้ เมื่อ 17:09
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 26 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า เมื่อวานนี้, 00:53
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,424
ได้ให้อนุโมทนา: 160,037
ได้รับอนุโมทนา 4,516,394 ครั้ง ใน 37,038 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ครั้นพอหลังอายุ ๓๐ มา ไม่ต้องรอให้หลวงพ่อท่านทักแล้ว หากแต่วิ่งไปหาเสื้อกันหนาวมาใส่เอง..!

พอหลังอายุ ๔๐ ทำงานอะไรก็เริ่มรู้สึกว่าเหนื่อย

พอมาถึงอายุ ๕๐ นี่ก็เริ่มมีเวรมีกรรมแล้ว รู้สึกว่ากำลังแทบไม่พอที่จะทรงตัวได้ตลอดวัน ถ้าวันไหนทำงานหนัก ๆ ตั้งแต่เช้ายันเย็น ครั้นถึงเวลาทำวัตรค่ำ บางขณะก็เผลอไมโครโฟนหลุดมือเลยเพราะว่ากำลังหมด..!

เมื่อมาถึงอายุ ๖๐ คราวนี้ลุกก็โอย นั่งก็โอย ตื่นเช้าขึ้นมา ปวดเมื่อยไปทั้งตัว สิ่งแรกที่คิดอยู่ก็คือ "ทำอย่างไรที่เรา
จะลุกแล้วไม่ล้ม..!?

ดังนั้น..
ญาติโยมก็ดี พระภิกษุสามเณรของเราก็ตาม อย่าให้เปลือกนอกของสังขารหลอกลวงเราได้เป็นอันขาด เนื่องเพราะว่าเจ้าของสังขารนั้นรู้ดีว่าร่างกายนี้ผุพังทรุดโทรขนาดไหน ถ้าท่านทั้งหลายเห็นว่ายังพอมีสิ่งหนึ่งประการใดที่จะเลียนแบบและทำตาม ก็จงเร่งมือเข้าไว้ ไม่เช่นนั้นถ้าปุบปับร่างกายนี้พังทลายลงไป ท่านทั้งหลายยังมีกำลังใจไม่พอรักษาตัวเอง ก็จะเป็นอะไรที่อนาถมาก..!

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันเสาร์ที่ ๘ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : เมื่อวานนี้ เมื่อ 17:10
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 19:47



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว