กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๘ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนตุลาคม ๒๕๖๘

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 11-10-2025, 19:50
พิชวัฒน์'s Avatar
พิชวัฒน์ พิชวัฒน์ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Aug 2014
ข้อความ: 588
ได้ให้อนุโมทนา: 3,308
ได้รับอนุโมทนา 28,166 ครั้ง ใน 1,076 โพสต์
พิชวัฒน์ is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๑๑ ตุลาคม ๒๕๖๘

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๑๑ ตุลาคม ๒๕๖๘


ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 12-10-2025, 00:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,258
ได้ให้อนุโมทนา: 160,505
ได้รับอนุโมทนา 4,511,406 ครั้ง ใน 36,874 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ ๑๑ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ อยากจะกล่าวถึงเรื่องอื้อฉาวในวงการคณะสงฆ์ช่วงนี้ เพื่อที่พวกเราจะได้ยึดถือเป็นแบบอย่าง ก็คือเรื่องของพระมหาอุเทน ปัญญาปริทตฺโต ป.ธ. ๙ ที่โดนทางวัดชนะสงครามขับไล่ออกจากวัด ซึ่งความจริงท่านไม่ได้โดนไล่ออกจากวัด หากแต่ไล่ออกจากคณะ ๙ ที่สังกัดอยู่ แล้วคณะอื่น ๆ ไม่อยากมีปัญหา จึงไม่มีคณะไหนรับท่านเข้าไปอยู่ด้วย ทำให้ต้องออกไปหาวัดอื่นอยู่ต่อไป

แต่ที่เป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมาก็เพราะว่ามีฆราวาสเข้ามายุ่งเกี่ยว ก็คืออยู่ในลักษณะที่ว่าการขับไล่นั้นไม่ถูกต้องตามกฎหมาย..กูจะบ้า..! เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า เรื่องของคณะสงฆ์ต้องจัดการกันโดยพระธรรมวินัย ไม่ใช่จัดการกันโดยกฎหมายบ้านเมือง มึงจะหลงประเด็นกันไปใหญ่แล้ว..!

แม้กระทั่งในปัจจุบันนี้ หลายต่อหลายเรื่องก็หลงประเด็นกันไปใหญ่โต
อย่างเช่นว่าถ้าหากพระนำเงินสงฆ์ไปเป็นของตนเอง ก็คือต้องอาบัติปาราชิก คำว่าต้องอาบัติปาราชิกก็คือ ถ้าเงินเกิน ๑ บาท ก็แปลว่าขาดความเป็นพระไปเลย ไม่ใช่ต้องรอศาลมาตัดสินว่าท่านต้องอาบัติปาราชิกแล้วถึงจะโดนอาบัติ หากแต่ว่าโดนอาบัติทันทีที่ทำกรรมนั้นสำเร็จลง

แต่ในปัจจุบันนี้ พอศาลชั้นต้นตัดสินก็ยังอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน กูก็ฎีกา ต่อให้ศาลฎีกาพิพากษายืน กูก็จะฟ้องศาลปกครองต่อไป จะหลงประเด็นกันไปถึงไหน ? เรื่องของพระเป็นเรื่องที่ต้องตัดสินกันโดยพระธรรมวินัย ยกเว้นบางอย่างที่ไปละเมิดกฎหมายบ้านเมือง หลังจากการตัดสินโดยธรรมวินัยแล้ว จึงมอบให้ทางบ้านเมืองเขาไปจัดการต่อ

คราวนี้เรื่องของพระมหาอุเทนที่โด่งดังขึ้นมา ก็เพราะว่ามีอาการเจ็บไข้ได้ป่วยของ "คนตื่นธรรม" แล้วท่านไปฟันธงว่าเจ็บป่วยเพราะว่าไปล่วงเกินท่านแล้วไม่ขอขมา ซึ่งตรงนี้
ต่อให้ใช่ก็ไม่มีหลักฐานอะไรที่เป็นวิทยาศาสตร์ได้เลย จะเรียกว่ากล่าวหากันลอย ๆ ก็ได้ แต่เมื่อคนตื่นธรรมตอบโต้กลับขึ้นมา เรื่องก็ใหญ่โตไปอีก เพราะว่าท่านยังเล่นไม่เลิก แล้วก็ลามไปถึง "คุณแพรี่" อีกด้วย เพียงแต่ว่าอยู่ในลักษณะที่ท่านไปว่าคนอื่นเสีย ๆ หาย ๆ ต้องใช้คำว่าด่าเลย โดยเฉพาะคำว่า "อัปรีย์ จัญไร" หรือคำว่า "สลิดดก" ซึ่งกระผม/อาตมภาพเห็นว่าเป็นคำที่แรงมาก..!

ทางวัดชนะสงครามมีหนังสือคำสั่งให้หยุดความประพฤตินั้นลง เพราะว่าแม้กระทั่งทาง "คุณแพรี่" ยังมีสติยั้งคิด บอกว่าจะไม่ด่าท่านคืน แต่ท่านก็ยังไม่เลิก นี่กระผม/อาตมภาพว่าไปตามข่าวที่คนเขาส่งมาให้ แล้วก็ได้ดูคลิปบางส่วนที่เขาส่งมาให้ ข้อมูลอาจจะไม่ครบถ้วน แต่เป็นไปในลักษณะอย่างที่ว่านี้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เผือกน้อย : 12-10-2025 เมื่อ 10:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 12-10-2025, 00:41
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,258
ได้ให้อนุโมทนา: 160,505
ได้รับอนุโมทนา 4,511,406 ครั้ง ใน 36,874 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเมื่อท่านเล่นไม่เลิก ทางเจ้าคณะ ๙ จึงมีคำสั่งให้พ้นจากคณะ ไปหาที่อยู่ใหม่ แต่ปรากฏว่าไม่มีคณะไหนอยากจะรับ "เผือกร้อน" เอาไว้ ท่านก็เลยต้องหาวัดอื่นอยู่ แล้วก็มี "ดราม่า" ขึ้นมาตรงที่ว่าท่านสร้างคุณงามความดีให้กับคณะสงฆ์ไว้มากมาย ทำไมไม่เห็นความดีกันบ้างเลยหรือ ? ตรงนี้กระผม/อาตมภาพก็ว่าหลงประเด็นอีก เพราะว่าการทำความดีก็คือความดี การทำความไม่ดีก็คือความไม่ดี จะเอามาปะปนหักล้างกันไม่ได้ พูดแบบนี้เดี๋ยวกระผม/อาตมภาพก็จะโดนไปด้วย..!

ทุกท่านจะต้องพิจารณาก่อนว่า ความจริงแล้วเรื่องนี้
ถ้าว่ากันตามพระธรรมวินัยจะเป็นเรื่องใหญ่กว่าที่คิด ก็คือการที่พระภิกษุไปด่าว่าคฤหัสถ์เสีย ๆ หาย ๆ โดยปกติถ้าลงโทษกันตามพระวินัยก็คือต้องทำปฏิสารณียกรรม คือ บังคับให้พระรูปนั้นไปขอขมาต่อฆราวาส แบบเดียวกับที่คณะสงฆ์บังคับท่านสุธรรมเถรไปขอขมาท่านจิตตคฤหบดี แล้วท่านทั้งหลายลองพิจารณาดูว่า จากความประพฤติของท่านพระมหาอุเทน ถ้าบังคับแบบนั้นท่านจะไปไหม ? นี่คือข้อที่ ๑

ข้อที่ ๒ ก็คือ
เมื่อคณะสงฆ์ตักเตือนแล้วท่านไม่ฟัง ยังคงด่าว่าต่อไปแบบเมามันมาก ลักษณะอย่างนี้ ถ้าหากว่าคณะสงฆ์ไม่เมตตา สวดประกาศขึ้นมา ท่านจะต้องอาบัติหนักก็คือสังฆาทิเสส

ปัจจุบันนี้ทางด้านสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ แจ้งมติมหาเถรสมาคมออกมาแล้วว่า พระที่ต้องสังฆาทิเสส ถ้าสร้างความเสียหายมาก ให้ถอดยศถอดสมณศักดิ์ทั้งหมด แล้วค่อยดำเนินการเรื่องอื่นภายหลัง ก็แปลว่าถ้าทำในด้านนี้ แม้กระทั่งเปรียญธรรม ๙ ประโยคท่านก็จะโดนยึดไปด้วย..!

หวังว่าทุกท่านคงจะจำสิกขาบทที่ ๑๒ ในสังฆาทิเสสได้ ก็คือ "ภิกษุว่ายาก สอนยาก ภิกษุอื่นห้ามไม่ฟัง สงฆ์สวดประกาศให้ละความประพฤตินั้น ถ้าไม่ละ ต้องอาบัติสังฆาทิเสส" ก็แปลว่าคณะสงฆ์ท่านเมตตามากแล้วที่ไม่เล่นลงมาตรงนี้ ในเมื่อไม่มาตรงนี้ ทางด้านเจ้าคณะก็ใช้หลักการตามพระธรรมวินัย ก็คือ "ปัพพาชนียกรรม" ก็คือไล่ออกเสียจากหมู่

ด้วยความที่ไม่มั่นใจว่าท่านเองจะสามารถละความประพฤตินั้นได้หรือไม่ ถ้ามาร่วมหมู่กับตนเองแล้ว จะสร้างความเดือดร้อนให้กับหมู่ของตนหรือไม่ บรรดาเจ้าคณะอื่นในวัดชนะสงครามจึงไม่มีใครรับเข้าคณะไว้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-10-2025 เมื่อ 02:09
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 28 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 12-10-2025, 00:45
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,258
ได้ให้อนุโมทนา: 160,505
ได้รับอนุโมทนา 4,511,406 ครั้ง ใน 36,874 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เรื่อง "ดราม่า" ก็ออกมาตรงที่ว่า แม้แต่ "คุณแพรี่" และ "คนตื่นธรรม" ก็บอกว่าให้อภัย ถ้ามีอะไรให้ช่วยเหลือก็ติดต่อไป แต่คราวนี้ทางบรรดาทนายเข้ามายุ่งด้วย ทุกท่านจะเห็นว่าตั้งแต่บรรดานายแพทย์ออกมาแสดงความเห็นทางการเมืองบ้าง เล่นการเมืองบ้าง แล้วการเมืองบ้านเราเจริญไปถึงไหน ?

ปัจจุบันนี้บรรดาทนายก็ออกมาแสดงความเห็นในทุกเรื่อง เรื่องที่คนรู้สึกทุเรศที่สุดก็คือเรื่องของครูปรีชา แต่ปัจจุบันนี้ทนายจะออกมาฟ้องคณะสงฆ์วัดชนะสงคราม ว่าขับไล่พระมหาอุเทนไม่ถูกตามกฎหมาย กระผม/อาตมภาพอยากจะบอกว่า "คุณเป็นทนาย ยึดแต่กฎหมายบ้านเมือง แล้วลืมพระธรรมวินัยไปหรือเปล่า ?" เพราะว่าเรื่องที่เกิดขึ้นในคณะสงฆ์ต้องจัดการตามพระธรรมวินัยก่อน ถ้ามีส่วนเกี่ยวข้องอื่น แล้วค่อยว่ากันไปตามกฎหมายบ้านเมือง หรือว่าจารีตประเพณี

เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องที่พวกเราซึ่งเป็นคนวงนอก ต้องพิจารณาให้ชัดเจนด้วย ไม่เช่นนั้นจะมีการเข้าข้างฝ่ายโน้นฝ่ายนี้ แล้วก่อให้เกิดความแตกสามัคคีหนักขึ้น พูดง่าย ๆ ว่าทุกวันนี้เรื่องวุ่นวายในบ้านในเมืองของเรา ส่วนหนึ่งก็เกิดมาจากคนที่ไม่รู้จริงแล้วขยัน ไม่ทราบเหมือนกันว่าเพราะทนเห็นความยุติธรรมไม่ได้ หรือต้องการ "หาแสง" ก็ไม่รู้ ? แต่ว่าทำให้สิ่งที่ถูกต้องผิดเพี้ยนกันไปมาก

สิ่งที่เห็นได้ชัดที่สุดอีกเรื่องหนึ่ง ก็คือเรื่องที่บรรดาสื่อมวลชนต่าง ๆ ไปปั่นสารพัดข่าว เพื่อที่จะเอายอดวิว ยอดไลค์ ยอดโฆษณา โดยที่ไม่ได้สนใจว่าสังคมของเราจะบรรลัยขนาดไหน ?! แล้วก็ไปปั่นจน "ลุงพล บ้านกกกอก" กลายเป็นวีรบุรุษ กลายเป็น "ยูทูบเบอร์" ชื่อดัง ทำให้ตำรวจและศาลทำงานยากมาก จนกระทั่งสุดท้าย เมื่อหลักฐานต่าง ๆ ชัดเจน ศาลตัดสินลงโทษลุงพลไป บรรดาพวกที่โดนปั่นจากสื่อโซเชียลโดยไม่ลืมหูลืมตา ก็ยังไปโวยวายว่าศาลลงโทษผิดคน..!
นี่คือความวิบัติของตรรกะและสังคมของเรา จากสื่อต่าง ๆ ทำให้เป็นไป แล้วก็น่าสงสารเป็นอย่างยิ่ง ก็คือส่วนใหญ่เรามักจะเชื่อสื่อเสียด้วย..!

จึงเป็นเรื่องที่เราท่านทั้งหลายที่เป็นพระภิกษุสามเณร แม่ชี และอุบาสกอุบาสิกา ทำอย่างไรที่เรารับเรื่องต่าง ๆ มาแล้ว ต้องมีสติ รู้พิจารณา เพราะว่าปัจจุบันนี้ AI สามารถสร้างได้ทุกเรื่อง วันนี้ก็มีโยมส่งคลิปมาให้ มีจระเข้คลานขึ้นบ้าน แล้วเด็กทารกปีนขึ้นไปบนหลังจระเข้ พอพ่อแม่วิ่งออกมา จระเข้ก็พาเด็กวิ่งหายลงบันไดไปเลย กระผม/อาตมภาพฟันธงทันทีว่า AI ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์..! เพราะอันดับแรก พวกสัตว์เลื้อยคลาน ถ้ามีอะไรเกาะหลังจะสะบัดตัวทันที ประการที่ ๒ ก็คือเด็กทารกนั่งบนหลังจระเข้ไม่มีที่จับ จระเข้พุ่งไปด้วยความเร็วสุดตัว ต่อให้เป็นผู้ใหญ่ยังหงายหลัง แต่เด็กตัวไม่โยกเลย..!

ดังนั้น..สิ่งทั้งหลายทั้งปวงที่ท่านได้เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ได้รส ได้สัมผัสในปัจจุบัน ปรุงแต่งให้เราแยกแยะยากขึ้น มากขึ้น พวกเรายิ่งต้องสร้างสติและปัญญาให้มากขึ้น เพื่อที่จะได้อยู่ในโลกนี้ได้อย่างมั่นคงมากกว่านี้

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันเสาร์ที่ ๑๑ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-10-2025 เมื่อ 02:13
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 13:35



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว