กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๘ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนกันยายน ๒๕๖๘

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 19-09-2025, 17:00
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 11,325
ได้ให้อนุโมทนา: 227,023
ได้รับอนุโมทนา 816,795 ครั้ง ใน 40,293 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๖๘

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๖๘


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 20-09-2025, 00:58
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,187
ได้ให้อนุโมทนา: 160,366
ได้รับอนุโมทนา 4,509,142 ครั้ง ใน 36,800 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ ๑๙ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๘ ตั้งแต่ ๙ โมงเช้าจนป่านนี้ กระผม/อาตมภาพเข้าอบรมการทำบัญชีวัด และบัญชีทรัพย์สินของวัด ซึ่งจัดโดยมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย โดยมีนางกุลิสราพ์ บุญทับ รองผู้อำนวยการสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน เป็นวิทยากรร่วมกับท่านอื่น ๆ

ในเรื่องของบัญชีวัดนั้น
ทุกครั้งที่ได้มีการตรวจสอบบัญชี กระผม/อาตมภาพต้องกราบเท้าขอบพระคุณพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง เนื่องเพราะว่าพระเดชพระคุณท่านเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุด ในการทำบัญชีต่าง ๆ ด้วยความละเอียดรอบคอบเป็นอย่างยิ่ง

มีอยู่วันหนึ่ง ท่านเรียกกระผม/อาตมภาพเข้าไปหาภายในห้องทำงาน แล้วก็ชี้ไปที่ตู้ใบใหญ่ ซึ่งถ้าหากว่าเป็นสมัยนี้ก็น่าจะประมาณตู้เสื้อผ้า พร้อมกับบอกว่า "แกช่วยค้นหาใบเสร็จรับเงินการซื้อเครื่องปั่นไฟให้หน่อย ข้าจะเอามาเปรียบเทียบกับราคาที่เขาเสนอมาตอนนี้ ว่าขึ้นไปกี่เปอร์เซ็นต์ น่าจะประมาณปี ๒๕๒๔"

กระผม/อาตมภาพพอเปิดตู้ออกมาตอนแรกก็ใจหาย เนื่องเพราะว่าทุกตู้นั้น ทุกชั้นล้วนแล้วแต่มีแฟ้มใบเสร็จรับเงินต่าง ๆ แน่นไปหมด แต่เมื่อเห็นที่สันแฟ้มแล้วก็โล่งใจ เพราะว่าพระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านแยกให้เรียบร้อย ว่าแต่ละแฟ้มแต่ละปีเป็นใบเสร็จของ พ.ศ.ไหน กระผม/อาตมภาพแค่หาไม่กี่แฟ้ม ก็เจอใบเสร็จรับเงินการซื้อเครื่องปั่นไฟฟ้าเครื่องเก่าแล้ว จึงได้นำถวายให้หลวงพ่อท่าน และกำหนดจดจำวิธีการทำงานของท่านไว้ขึ้นใจ ถ้าไม่มีการแยกแยะละเอียดแบบนี้ คาดว่ากระผม/อาตมภาพคงใช้เวลาทั้งวันกว่าที่จะค้นหาเจอ

แล้วเมื่อออกจากวัดท่าซุงไปอยู่ที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมเกาะพระฤๅษี ได้ทำการก่อสร้างต่าง ๆ ไปเป็นเวลา ๘ เดือน วันหนึ่งพระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านก็ปรากฏตัวมาอยู่ต่อหน้าต่อตา ถามว่า "แกมีเงินส่วนตัวเท่าไร ?" กระผม/อาตมภาพตอบด้วยความภูมิใจ กึ่งจะอวดกับครูบาอาจารย์ว่า "ไม่มีเลยครับ ผมผลักลงเป็นสังฆทานทั้งหมด..!"

หลวงพ่อท่านถามต่อไปว่า "แล้วแกใช้เพื่อสงฆ์ไปเท่าไร ?" กระผม/อาตมภาพตอบว่า "ไม่ทราบครับ ?" "แล้วแกใช้เพื่อส่วนตัวไปเท่าไร ?" กระผม/อาตมภาพตอบว่า "ไม่ทราบครับ" เท่านั้นเอง ไม้เท้าที่ท่านที่ถือมาก็ลงกบาลเสียงดังสนั่นหวั่นไหว..! พร้อมกับสั่งว่า "ไปรื้อบัญชีทำใหม่ให้หมด เงินทุกบาททุกสตางค์รับมาจากใคร ? จ่ายไปเรื่องอะไร ? ถ้ามีใครตรวจสอบ เราต้องชี้แจงเขาได้ทั้งหมด..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-09-2025 เมื่อ 14:11
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 20-09-2025, 01:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,187
ได้ให้อนุโมทนา: 160,366
ได้รับอนุโมทนา 4,509,142 ครั้ง ใน 36,800 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

กระผม/อาตมภาพจึงต้องมานั่งตูดด้าน ทำบัญชีที่ไม่ได้แยกแยะเงินสงฆ์ เงินสังฆทาน เงินส่วนตัว มาเป็นเวลา ๘ เดือนแล้ว ยิ่งทำก็ยิ่งปวดหัว ท้ายที่สุดก็ใช้วิธีว่า ๘ เดือนแรกไม่มีเงินส่วนตัว คือผลักเข้ารวมเป็นเงินสงฆ์ทั้งหมด..! เดือนที่ ๙ จึงแยกแยะเงินถวายส่วนตัวออกมา

ดังนั้น..ถ้าหากว่าใครตรวจสอบบัญชีของวัดท่าขนุน ย้อนหลังไปถึงศูนย์ปฏิบัติธรรมเกาะพระฤๅษี จะเห็นว่าในปี ๒๕๓๖ นั้น กระผม/อาตมภาพจะไม่มีเงินส่วนตัวอยู่ใน ๘ เดือนแรก เพราะว่าต้องตัดใจทิ้งไปเลย ขืนมัวแต่ไปค้นหายอดอยู่ ก็อาจจะเครียดจนเส้นเลือดสมองแตกไปเสียก่อน แล้วหลังจากนั้นถึงได้แยกแยะเงินส่วนตัวและเงินสังฆทานออกจากกัน

คราวนี้จากที่ท่านรองผู้อำนวยการสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินบรรยายมานั้น ประเภทเงินที่เกี่ยวข้องกับวัดมีอยู่ทั้งสิ้น ๔ ประเภท

ประเภทที่ ๑ เงินแผ่นดิน ได้แก่ เงินนิตยภัต หรือที่หลายคนแกล้งโง่เรียกว่า "เงินเดือนพระ" หรืองบประมาณที่ได้จากเงินอุดหนุนของภาครัฐ เช่นเงินอุดหนุนการบูรณปฏิสังขรณ์วัด หรือ เงินอุดหนุนการศึกษาพระปริยัติธรรม เป็นต้น เงินประเภทนี้ต้องดำเนินการตามประกาศมหาเถรสมาคมฉบับที่ ๑/๒๕๖๐

ประเภทที่ ๒ เงินผลประโยชน์ ได้แก่ เงินค่าเช่าที่ เงินจากการค้าขายสิ่งของของวัด เงินที่งอกเงยมาจากศาสนสมบัติของวัด เงินส่วนนี้ต่างจังหวัดไม่ค่อยมีปัญหา แต่ว่าวัดในกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่จะมีการให้เช่าที่จัดประโยชน์บ้าง เช่าอาคารพาณิชย์ที่เป็นของวัดบ้าง ต้องปวดหัวมาแยกแยะออกจากบัญชีเงินส่วนอื่น

ประเภทที่ ๓ เงินจากการกุศล ได้แก่ เงินกฐิน เงินผ้าป่า หรือ
เงินบริจาคที่เจาะจงว่าให้ทำสิ่งหนึ่งสิ่งใด ต้องจัดการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของผู้บริจาค หรือว่าตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งไว้ก่อนรับบริจาค

ประเภทที่ ๔ เงินส่วนตัว ได้แก่ เงินที่ถวายเพื่อใช้ส่วนตัวของพระภิกษุรูปนั้น ๆ หรือว่าเงินที่ออกกิจนิมนต์ต่าง ๆ ในส่วนนี้จะ
เป็นเงินที่ใช้ได้สบายใจที่สุด เพราะถือว่าเป็นเงินส่วนตัว ต่อให้ไม่ทำบัญชีเลยก็ได้ แต่กระผม/อาตมภาพก็ทำมาตั้งแต่ต้นแล้ว แม้ว่าจะเป็นบัญชีอย่างง่าย ก็คือรับทางซ้ายจ่ายทางขวาก็ตาม แต่ก็ได้ทำมาจนสามารถตรวจสอบย้อนหลังไปจนถึงปี ๒๕๓๖ ก็คือปีที่ออกจากวัดท่าซุงมาอยู่ที่ทองผาภูมิ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-09-2025 เมื่อ 01:08
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 20-09-2025, 01:08
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,187
ได้ให้อนุโมทนา: 160,366
ได้รับอนุโมทนา 4,509,142 ครั้ง ใน 36,800 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

คราวนี้เรื่องทั้งหลายเหล่านี้จะมีปัญหา ก็ต่อเมื่อวัดวาอารามนั้น ๆ ไม่เคยทำบัญชีมาก่อน หรือว่าทำบัญชีก็จริง แต่การใช้จ่ายมั่วไปหมด ถ้าเป็นเช่นนั้นก็จะต้องปวดหัวหนัก อย่างที่เคยพบมาก็คือ การทำบัญชีของคณะสงฆ์อำเภอทองผาภูมิ ส่วนใหญ่แล้วไม่มีการทำบัญชีรายวัน รายเดือน หากแต่เป็นการทำบัญชีรายปี ส่วนใหญ่ก็จะหลง ๆ ลืม ๆ ว่าซื้ออะไรบ้าง ? จ่ายอะไรบ้าง ? เหล่านี้เป็นต้น

แล้วนิสัยพระส่วนหนึ่งก็คือ
ไม่ค่อยขอใบเสร็จรับเงินเอาไว้ กระผม/อาตมภาพเองนั้นขอใบเสร็จรับเงินเอาไว้เสมอ แต่ด้วยความที่ว่าโยกย้ายหลายครั้ง จากศูนย์ปฏิบัติธรรมเกาะพระฤๅษี ซึ่งปัจจุบันคือสำนักสงฆ์เกาะพระฤๅษี ไปอยู่วัดโน้นบ้าง วัดนี้บ้าง เพื่อช่วยเขาบูรณปฏิสังขรณ์ ทำให้ไม่สามารถที่จะแบกใบเสร็จรับเงินเป็นตู้ ๆ ตามไปด้วย

จนกระทั่งท้ายที่สุดก็ต้องทิ้งเอาไว้ที่นั่น แล้วก็โดนเขาชั่งกิโลขายบ้าง เกะกะสถานที่แล้วโดนเขาขนไปเผาทิ้งบ้าง แล้วใบเสร็จรับเงิน หรือว่าค่าใช้จ่ายในปัจจุบันนี้ กระผม/อาตมภาพก็ยังไม่มีเวลาไปแยกแยะให้เป็นแต่ละปีเสียด้วย จึงเป็นเรื่องอะไรที่ค่อนข้างจะยุ่งยาก หากว่าใครมาตรวจสอบ
กระผม/อาตมภาพก็จะชี้ให้ดูตู้เอกสาร ๔ ชั้น ซึ่งอยู่ ๒ ข้างโต๊ะทำงานว่า ให้ไปค้นหาเอาเองก็แล้วกันว่า รายจ่ายแต่ละครั้งนั้น มีใบเสร็จรับเงินอยู่ที่ใดบ้าง ?

แต่ยังโชคดีอยู่ตรงที่ว่า
วัดวาอารามของเรานั้นเป็นนิติบุคคลที่ไม่แสวงหากำไร ดังนั้น..ถ้าหากว่าไม่มีปัญหาจนเกิดเรื่องอื้อฉาวขึ้นมา ทางสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินก็ไม่เสียเวลาเข้าไปตรวจสอบ จะตรวจสอบก็เฉพาะในส่วนของเงินแผ่นดิน ก็คือส่วนที่อุดหนุนในการบูรณปฏิสังขรณ์วัด หรือว่าการอุดหนุนการศึกษาพระปริยัติธรรม เป็นต้น

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ส่วนราชการต่าง ๆ จึงลำบากกว่าวัดมาก กระผม/อาตมภาพขอถวายกำลังใจให้แก่พระสังฆาธิการทุกรูป ที่เป็นตั้งแต่เจ้าอาวาสขึ้นไปว่า เรื่องของบัญชีนั้นดูเหมือนว่าจะยาก แต่ถ้าทุกท่านทำอย่างกระผม/อาตมภาพก็จะง่าย ก็คือ
ทุกวันก่อนนอนจะลงบัญชีให้เรียบร้อย หรือถ้าหากว่าหมดสภาพนอนไปก่อน ตื่นขึ้นมาต้องรีบลงบัญชีให้เรียบร้อย

อย่าปล่อยให้เกินไปจากนั้น ไม่อย่างนั้นท่านอาจจะกำหนดจดจำไม่ได้ แล้วเมื่อถึงเวลาต้องส่งบัญชี เราก็จะเหลือแค่เดือนสุดท้าย หรือบรรทัดสุดท้ายเท่านั้น ลงไปก็เป็นอันว่าจบ ทำหนังสือนำก็ส่งผู้บังคับบัญชาได้เลย ถ้าท่านทำลักษณะนี้ก็ค่อนข้างจะสบาย ไม่ต้องเครียด ยกเว้นว่าปล่อยให้เป็นดินพอกหางหมู ปีหนึ่งค่อยมาหาตัวเลขกันทีหนึ่ง ก็ต้องมา "นั่งเทียน" "ยกเมฆ" กันอุตลุด
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-09-2025 เมื่อ 01:17
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 20-09-2025, 01:11
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,187
ได้ให้อนุโมทนา: 160,366
ได้รับอนุโมทนา 4,509,142 ครั้ง ใน 36,800 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แล้วที่สาหัสก็คือ ปีงบประมาณของทางราชการนั้นจะคร่อมปีเก่าด้วย อย่างเช่นว่าปีงบประมาณ ๒๕๖๘ ก็คือ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๗ ถึงวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๘ แต่ว่าท่านได้ "นั่งเทียน" "ยกเมฆ" ในการส่งบัญชีตามปีของคณะสงฆ์ ซึ่งนับวันที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๗ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๗ ไปแล้ว

เมื่อถึงเวลาต้องมาส่งตามปีงบประมาณ แล้วเกิดไป
"นั่งเทียน" "ยกเมฆ" ใหม่ แล้วเดือนตุลาคม พฤศจิกายน และธันวาคม ๒๕๖๗ ของท่าน ที่ได้ "นั่งเทียน" "ยกเมฆ" ตัวเลขไปแล้ว พอมาทำตามปีงบประมาณดันจำไม่ได้..! เอกสารต้นฉบับก็ไม่ได้เก็บไว้ เพราะว่าพาซื่อส่งไปตามลำดับชั้นเสียแล้ว สำเนาอะไรก็ไม่ได้ถ่ายเอาไว้ เกิดท่าน "นั่งเทียน" "ยกเมฆ" ตัวเลขใหม่แล้วไม่ตรงกับที่ผ่านมา โอกาสที่ท่านเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบจะมีสูงมาก..!

ในเรื่องนี้พระเดชพระคุณพระครูวรกาญจนโชติ เจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ ได้กำชับกองงานเลขานุการคณะสงฆ์อำเภอทองผาภูมิว่า ให้เก็บเอกสารรายงานของเจ้าอาวาส และเจ้าสำนักสงฆ์ทุกรูปเอาไว้ ไม่ว่าจะเก็บในลักษณะของแผ่นกระดาษ หรือว่าเก็บในลักษณะสแกนเป็นไฟล์ก็ตาม

ถ้าหากว่าเจ้าอาวาสหรือเจ้าสำนักสงฆ์มาขอดูข้อมูลเก่าเพื่อให้ตัวเลขตรงกัน เราต้องมีให้เขาดูทันที ตรงนี้ต้องบอกว่าเป็นวิสัยทัศน์ของหลวงพ่อเจ้าคณะอำเภอ ที่ไม่อยากให้พระลูกวัดลูกคณะของตนเองต้องเดือดร้อน ไหน ๆ กองงานเลขานุการก็เหนื่อยแล้ว ขอให้เหนื่อยทีเดียวได้ประโยชน์ทั้ง ๒ ฝ่าย ก็คือทั้งประโยชน์ของกองงานเลขานุการ และประโยชน์ของทางด้านเจ้าอาวาสด้วย..!

ดังนั้น..ในเรื่องของบัญชีต่าง ๆ ถ้าท่านทั้งหลายทำตามที่กระผม/อาตมภาพทำก็จะไม่เครียด และไม่หนักหนาสาหัส แต่ถ้าท่านทั้งหลายรอจนครบปี แล้วค่อยมา
"นั่งเทียน" "ยกเมฆ" กัน ท่านอาจจะกลายเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ มีสิทธิ์ที่จะโดนจับสึกหาลาเพศ ติดคุกติดตารางไปเลยก็ได้

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันศุกร์ที่ ๑๙ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-09-2025 เมื่อ 01:20
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 11:49



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว