กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เทศน์ในวาระสำคัญต่าง ๆ

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 01-08-2025, 22:06
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,905
ได้ให้อนุโมทนา: 159,162
ได้รับอนุโมทนา 4,498,210 ครั้ง ใน 36,516 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default ปกิณกธรรมช่วงบวชเนกขัมมะ เฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว วันที่ ๒๖ - ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๘

ก่อนปฏิบัติธรรมช่วงเช้า วันเสาร์ที่ ๒๖ กรกฏาคม ๒๕๖๘

เป็นอย่างไรว่าที่สามเณร ? ไม่ทันจะบวชเลย เกือบสิ้นชีวิตแล้วใช่ไหม ? คราวนี้ถ้าได้ยินใครพูดว่า "บวชแล้วสบาย" บอกให้เขาไปบวชเลย บอกไปนะว่า "กูยังไม่ทันจะบวชเลย กูก็จะตายแล้ว !"

เดี๋ยวพวกเราหลังจากที่บวชเนกขัมมะแล้ว ให้ปฏิบัติธรรมตามปกติ ส่วนช่วงประมาณเที่ยงครึ่ง เราจะบวชสามเณรเฉลิมพระเกียรติถวายกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในหลวงเจริญพระชนมายุ ๗๓ พรรษาเต็ม บรรพชาหมู่ ๗๔ รูป ซึ่งเป็นโอกาสอันดี ที่ครั้งหนึ่งในชีวิต พวกเราได้แสดงความจงรักภักดีโดยการบรรพชาถวายกุศล

ไปนึกถึงหลวงพ่อสมคิด (พระครูบวรกาญจนธรรม) วัดตะเคียนงาม ท่านเองนอกจากพ่อแม่จะแจ้งเกิดช้าแล้ว ใบเกิดยังหายอีก ที่ชาวบ้านเรียกใบเกิดก็คือสูติบัตร ที่บ้านอาตมาก็แบบนั้น ได้อะไรมาแม่ก็เหน็บหลังคาเอาไว้ หนูแทะบ้าง โดนน้ำบ้าง บางทีรื้อหลังคาก็ทิ้งไปทั้งหมดนั่นเลย..!

หลวงพ่อสมคิดจึงบวชไม่ได้ เพราะว่าไม่มีใบเกิด ไม่มีบัตรประชาชน พอดีเขาต้องการพระบวชเฉลิมพระเกียรติถวายในหลวงรัชกาลที่ ๙ ท่านไปถามเขาว่า "ไม่มีบัตรประชาชน ไม่มีใบเกิด บวชได้ไหม ?" เขาบอกว่า "ได้" ท่านก็เลยตัดสินใจบวช แล้วก็ไม่สึก อยู่ยาวมาเลย หมดเรื่องหมดราวไป

ตอนหลังก็ทำหนังสือสุทธิพระ แล้วก็เอาหนังสือสุทธิพระไปขอทำบัตรประชาชน จึงหมดปัญหาไป แต่ว่าด้วยความที่แจ้งเกิดช้า เกิดแล้วตั้ง ๔ - ๕ ปี พ่อถึงจะไปแจ้งเกิดให้ เพราะฉะนั้น..ตอนนี้อายุจริงของท่านคือ ๘๐ ปี แต่อายุบัตรประชาชนคือ ๗๕ ปี ของพระเขาให้เกษียณที่อายุ ๘๐ ปี แต่หลวงพ่อสมคิดจะไปเกษียณที่อายุ ๘๕ ปี..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-08-2025 เมื่อ 01:16
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 24 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 01-08-2025, 22:09
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,905
ได้ให้อนุโมทนา: 159,162
ได้รับอนุโมทนา 4,498,210 ครั้ง ใน 36,516 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ส่วนว่าที่สามเณรของเรา ระยะเวลาแค่ประมาณสามวันเท่านั้น ลองกันดู สมัยก่อนลูกผู้ชายถ้าไม่บวชพระก็ต้องเป็นทหาร บวชพระก็ต้องบวช ๑ พรรษา ก็คือต่ำสุด ๓ เดือน แล้วเราบวชเณร ๓ วันจะรอดไหม ?

อะไรที่เคยทำได้ตอนเป็นฆราวาส พอเป็นพระเป็นเณรแล้วทำไม่ได้ ที่เขาบอกว่า "สึกก็อยากจะสวด บวชก็อยากจะร้อง" สึกแล้วดันขยันสวดมนต์ ตอนบวชพระไม่ทำ..! แต่พอบวชก็อยากจะร้องเพลง พระห้ามร้องเพลงก็อยากจะร้องทั้งวัน..!

คราวนี้อย่าลืมว่าเราทุกท่านบวชถวายในหลวง แม้กระทั่งการบวชเนกขัมมะปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติก็ถวายในหลวง ปกติแล้วจะถวายอะไรในหลวงก็ต้องเป็นของที่ดีที่สุด คราวนี้เราเป็นเณร เป็นอุบาสก อุบาสิกา ก็จะมีศีล ๑๐ ศีล ๘ เป็นคุณสมบัติ ก็ต้องรักษาให้ดีที่สุด ไม่ให้ขาดตกบกพร่อง จะได้ถวายของดีที่สุดกับในหลวง ก็คือการที่ควบคุม กาย วาจา ใจ ของตนให้อยู่ในศีล

ตอนนี้เราอาจจะไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร โตขึ้นกว่านี้หน่อยก็จะรู้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-08-2025 เมื่อ 01:17
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 26 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 01-08-2025, 22:13
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,905
ได้ให้อนุโมทนา: 159,162
ได้รับอนุโมทนา 4,498,210 ครั้ง ใน 36,516 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในหลวงพระราชินีไม่ได้อยู่ในวังเลยนะ ท่านไปอยู่แนวหน้าตั้งแต่แรก ๆ แล้ว ไปกินไปนอนอยู่กับทหาร สาเหตุของการที่ทหารยืนยันไม่ให้อีกฝ่ายล่วงล้ำอธิปไตย ก็เพราะว่าในหลวงอยู่ด้วย พวกเราจะไปคิดว่าท่านเองอยู่สบายในกรุงเทพฯ..เปล่า ท่านไปนอนคลุกดินคลุกทรายอยู่กับทหารตั้งแต่แรกแล้ว

คราวนี้ในสิ่งที่พระองค์ท่านทำ ในหลวงของเราท่านความจริงพูดเก่งนะ แต่ท่านไม่ค่อยพูด ทำอย่างเดียว ท่านทำแบบ "ปิดทองหลังพระ" ตามนโยบายของผู้เป็นทูนกระหม่อมพ่อ เพราะว่าทูนกระหม่อมพ่อเขียนเรื่อง "นายอินทร์ผู้ปิดทองหลังพระ" แล้วยังมีปฐมบรมราชโองการว่า "เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม"

ในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ พระองค์ท่านทำพิธีปฐมบรมราชาภิเษก ก็คือขึ้นเป็นพระเจ้าแผ่นดินอย่างเป็นทางการ เมื่อขึ้นเป็นพระเจ้าแผ่นดินแล้วพูดอะไรประโยคแรก เขาเรียกว่า "ปฐมบรมราชโองการ" พระองค์ท่านตรัสว่า "เราจะสืบสาน รักษา และต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขของประชาราษฎรสืบไป" พูดง่าย ๆ ก็คือ "อะไรที่พ่อทำไว้ พระองค์ท่านจะทำต่อไป"

ไม่ค่อยเหมือนรัฐบาลของเรา รัฐบาลนี้พอของใหม่มานี่ ของเก่าทำอะไรไว้ดีแค่ไหนกูก็ไม่เอา ตั้งโครงการใหม่ ไม่อย่างนั้นเดี๋ยว "กิน" ยาก ทำโครงการใหม่ ตั้งงบประมาณใหม่ เพื่อที่จะได้ "กิน" กันให้ถนัด นี่อาตมามองโลกในแง่ร้ายไปไหม ?!

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น พวกเราที่ตั้งใจบวชเฉลิมพระเกียรติ ก็ต้องสำรวม กาย วาจา ใจ ให้ดี สามวันไม่ตายหรอก แค่ใกล้ ๆ ตายเท่านั้น..เชื่อเถอะ..! ไม่เคยได้ยินใช่ไหมที่เขาบอกว่า "บวชแล้วสบาย" คนไหนพูดนี่ลากคอมาบวชที่วัดท่าขนุนเลย ดูว่าจะสบายไหม ?

ตีสามครึ่งต้องตื่นแล้ว แล้วท่านเจ้าอาวาสไม่รอด้วย นั่งลงได้ก็นำกรรมฐานเลย ใครมาไม่ทันช่างหัวมัน เสียประโยชน์เอง แต่ว่าระยะนี้เสียงไม่มี ยิ่งพูดเสียงเบายิ่งไม่ได้เลย นำกรรมฐานเมื่อเช้ามืดนี้พยายามเต็มที่แล้ว แทบจะขาดใจตาย..! ก็ทำหน้าที่ไป ตายเมื่อไรก็จบกัน เพราะว่า "ทำให้ดู อยู่ให้เห็น ตายให้เป็น เย็นให้ได้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-08-2025 เมื่อ 01:22
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 27 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 03-08-2025, 01:14
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,905
ได้ให้อนุโมทนา: 159,162
ได้รับอนุโมทนา 4,498,210 ครั้ง ใน 36,516 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลังจากกินอาหารกลางวันแล้ว พวกเราก็ต้องไปแห่รอบโบสถ์ แล้วเข้ามาบวชเณรกันในศาลานี้ ให้พี่เลี้ยงเขียนชื่อ นามสกุล ชั้นเรียน ของสามเณรให้ชัดเจน ถ้าอยู่ชั้นเดียวกันก็ไล่ชื่อตามอายุจากน้อยไปหามาก

รุ่นนี้คงไม่มีแล้วหรอกกระมัง ? รุ่นหลวงพ่อเรียนชั้น ป. ๑ ตัวเองอายุ ๗ ขวบ แต่เพื่อนร่วมชั้น ป. ๑ อายุ ๑๗ - ๑๘ ปีไปเสียครึ่งห้อง..! สมัยก่อนใครสอบได้ไม่ถึง ๕๐ % เขาปรับตกให้เรียนซ้ำชั้น แล้วก็ตกได้ตกดี ตกกันจนโตเป็นหนุ่มเป็นสาวกันหมดแล้ว หลวงพ่อเพิ่งจะเป็นเด็ก ๗ ขวบ ตัวกะเปี๊ยกเดียว เข้าไปเจอเพื่อนอายุ ๑๗ - ๑๘ เต็มห้องเลย ต้องแหงนหน้าคุย เพื่อนผู้หญิงบางคนแหงนแล้วยังไม่เห็นหน้าเลย เห็นแต่นม ตัวเราเล็กไปหน่อย..!

มีเพื่อนอยู่คนหนึ่ง ไม่นึกว่าเขาจะได้ดีในชีวิต ชื่อจริงอย่าไปรู้เลย เรียกกันว่า "ไอ้ร้อง" ร้องไห้ได้ทั้งวัน..! หลวงพ่ออยู่ ป. ๑ ไอ้ร้องก็เข้าเรียนชั้น ป. ๑ หลวงพ่ออยู่ ป. ๒ ไอ้ร้องก็อยู่ ป. ๑ หลวงพ่ออยู่ ป. ๓ ไอ้ร้องก็อยู่ ป. ๑ หลวงพ่ออยู่ ป. ๔ ไอ้ร้องก็อยู่ ป. ๑ หลวงพ่ออยู่ ป. ๕ ไอ้ร้องลาออก..!

อย่านึกว่าไม่มีนะ ทองผาภูมิยังมีอยู่เลย เรียน ๑๒ ปีอยู่ชั้น ป. ๒ ไม่ใช่อายุ ๑๒ นะ เรียนมา ๑๒ ปีอยู่แค่ชั้น ป. ๒ มาบวชพระวัดท่าขนุนด้วย ช่วยสอนกันไปหนึ่งพรรษา บอกพระท่านว่า "ทันเตะเป็นเตะ ทันเขกเป็นเขก เอาให้หนัก" คนนี้เป็นเด็กสมาธิสั้น จะทำเฉพาะเรื่องที่ตัวเองชอบ ถ้าเป็นเรื่องอื่นไม่สนใจ เลยต้องบังคับเรียน ครูไม่กล้าตีแต่พระไม่กลัว บอกไว้แล้วว่าถ้าเขกกบาลทันให้เขก ทันเตะก็เตะ..!

คนเรากลัวเจ็บ เขากลัวเจ็บก็ตั้งใจเรียน บวชอยู่ ๓ เดือนสอบนักธรรมชั้นตรีได้ แม่เกือบจะปิดตลาดเลี้ยง..! ลูกเรียนโรงเรียน ๑๒ ปีอยู่แค่ชั้น ป. ๒ แต่อยู่วัดท่าขนุน ๓ เดือนได้นักธรรมตรี ได้ประกาศนียบัตรไปติดข้างฝาโก้ ๆ แล้ว..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-08-2025 เมื่อ 01:42
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 20 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 03-08-2025, 01:16
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,905
ได้ให้อนุโมทนา: 159,162
ได้รับอนุโมทนา 4,498,210 ครั้ง ใน 36,516 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ปรากฏว่าเรียนอยู่ ๕ ปี ไอ้ร้องสอบไม่ได้สักครั้ง ลาออก หลวงพ่ออยู่ชั้น ม.ศ. ๑ กลับไปเยี่ยม ไอ้ร้องอาย..ไม่ยอมโผล่หน้ามาเจอ หลังจากนั้นหลวงพ่อก็เข้ากรุงเทพฯ ไปทำงาน ไปเรียนทหาร จบทหารออกมา ไอ้ร้องเป็นผู้ใหญ่บ้าน..! เป็นไปได้อย่างไรวะ ?! แล้วตอนหลังขึ้นเป็นกำนันอีกด้วย..!

คนเรานี่เก่งกันคนละอย่าง ไอ้ร้องเรียนหนังสือไม่เก่ง แต่มนุษยสัมพันธ์ดี จริงใจกับคนอื่น ไม่รู้ว่าคนอื่นเห็นว่าไอ้ร้องโง่หรือเปล่า ? ไอ้ร้องก็เลยกลายเป็นผู้ใหญ่บ้าน แล้วกลายเป็นกำนัน คราวนี้ก็กล้าพูด กล้าสู้หน้าคน ไม่อย่างนั้นเวลาเพื่อนไปเยี่ยม เขาจะหนีไม่ยอมให้เจอ..!

เพราะฉะนั้น..บางคนเรียนไม่เก่ง ไม่ได้แปลว่าเขาจะไม่ประสบความสำเร็จในชีวิต เพียงแต่ว่าสตีฟ จ๊อบ และมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก มีแค่อย่างละคนเดียว อย่าไปอ้างว่าสองคนนั้นเรียนไม่จบไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย รวยเป็นหมื่น ๆ ล้าน โลกนี้มี ๕,๐๐๐ - ๖,๐๐๐ กว่าล้านคน มี สตีฟ จ๊อบ และ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก แค่อย่างละคนเท่านั้น เราอย่าไปหวังว่าจะรวยได้แบบนั้น

เดี๋ยวพวกเราสมาทานศีล สมาทานพระกรรมฐาน แล้วปฏิบัติธรรมกันต่อไป
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-08-2025 เมื่อ 01:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 20 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า เมื่อวานนี้, 01:39
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,905
ได้ให้อนุโมทนา: 159,162
ได้รับอนุโมทนา 4,498,210 ครั้ง ใน 36,516 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ก่อนปฏิบัติธรรมช่วงเช้า วันอาทิตย์ที่ ๒๗ กรกฏาคม ๒๕๖๘

อะไรที่ทำไปนาน ๆ ทำจนเคยชิน จะเรียกว่าฤทธิ์ก็ได้ คือเป็นฤทธิ์โดยกรรมวิบาก ภาษาบาลีว่ากัมมวิปากชาฤทธิ์ ฤทธิ์ที่เกิดโดยวิบากกรรม อย่างเช่นว่านกบินได้ ปลาอยู่ในน้ำได้ ไส้เดือนมุดดินได้ ไม่เห็นสัตว์เหล่านั้นต้องไปฝึกกสิณเลย คราวนี้ในสิ่งที่เราทำจนชินอย่างเช่นการบิณฑบาต ฝนตกแดดออกก็ไป เมื่อไปจนชิน จึงกลายเป็นฤทธิ์อย่างหนึ่ง ก็คือมีฤทธิ์สามารถฝ่าฝนบิณฑบาตได้ ขณะที่วัดอื่นไม่เอาด้วย..!

ในเมื่อวิบากหรือวิปาก (วิ-ปา-กะ) เป็นการส่งผลจากอดีต ส่วนใหญ่เป็นอดีตชาติ..ใช่ไหม ? แต่ความจริงสิ่งที่เราทำวินาทีนี้พอวินาทีถัดไปก็เป็นอดีตแล้ว ดังนั้น..ถ้าหากว่าเราทำเป็นปกติต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ อดีตทั้ง ๆ ที่เราทำในชาตินี้ ก็สามารถส่งผลให้ในชาติปัจจุบันนี้ได้

บางคนเขาว่า "ถ้าหากว่าทำบุญก็จะได้ชาติหน้า ทำหน้าจะได้ชาตินี้" เพียงแต่ระวังให้หาหมอฝีมือดี ๆ หน่อย ไม่อย่างนั้นที่ทำออกมาแต่ละคนดูไม่ได้เลย หลอนไปหมด..! ด้วยความที่อาตมภาพเป็นคนดู "โหงวเฮ้ง" เป็น พอเห็นแล้วก็รู้เลยว่ารายนี้ทำอะไรมาบ้าง เพราะว่าผิดเพี้ยนหมด แล้วการเพี้ยนบางอย่างก็ทำให้เกิดเสียผลกับเจ้าของอย่างมาก..!

อย่างเช่นว่าเขานิยมการตัดปีกจมูกออกให้เหลือเล็ก ๆ หารู้ไม่ว่าจมูกใหญ่ ๆ ที่บางคนเขาเรียกว่าจมูกสิงโตหรือจมูกชมพู่ เป็นจมูกของคนที่สามารถควบคุมลูกน้องได้ มีบริวารกี่ร้อย กี่พัน กี่หมื่น จะควบคุมได้หมด พอไปทำจมูกมา โหงวเฮ้งเปลี่ยน ฐานอำนาจหมด คราวนี้ลูกน้องแค่ ๓ คน ๕ คนก็คุมไม่ได้แล้ว เพราะฉะนั้น..ถ้าใครมีปัญหาตรงนี้ โปรดทราบว่าผลร้ายเกิดจากการที่ท่านไปพึ่งมีดหมอเอง..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : เมื่อวานนี้ เมื่อ 03:01
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 18 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #7  
เก่า เมื่อวานนี้, 01:41
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,905
ได้ให้อนุโมทนา: 159,162
ได้รับอนุโมทนา 4,498,210 ครั้ง ใน 36,516 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ช่วงนี้เป็นช่วงที่เขมรรบไทย แต่ไทยไม่ได้อยากรบเขมร เขมรแหย่มาก ๆ เข้า เขมรก็เลยได้รับการจารึกในประวัติศาสตร์ว่า "เป็นชาติแรกที่ทดสอบเครื่องบินรบกริพเพนของสวีเดน" เพราะว่าประเทศอื่น ๆ เขาใช้กริพเพนในการลาดตระเวนหาข่าว ประเทศไทยใช้ในการรบ เขมรเลยได้รับการจารึกเป็นประวัติศาสตร์ว่าเป็นประเทศแรกที่โดนเครื่องบินกริพเพนถล่มเอา..!

เราจะเห็นว่าในสมัยนี้แม้ว่าสงครามการข่าวจะสำคัญมาก แต่ด้วยความที่มีตาวิเศษอยู่เต็มท้องฟ้าไปหมด ไม่ว่าจะคิด จะพูด จะทำอะไร ดาวเทียมบันทึกไว้หมด ดังนั้น..สิ่งที่เขมรถล่มเรา แล้วกล่าวหาว่าไทยลงมือก่อน ก็เลยไม่มีประโยชน์อะไร เพราะคนสมัยนี้ไม่โง่ เขาเปิดดาวเทียมดูได้

แล้วที่หนักกว่านั้นก็คือ เขมรกล่าวหาว่าไทยขยายแนวรบออกไปนอกพื้นที่ขัดแย้ง แต่เขมรเองกลับบุกจังหวัดตราด ที่อยู่นอกพื้นที่ขัดแย้งห่างกันหลายร้อยกิโลเมตร ขนาดเขมรตั้งใจยิงปืนใหญ่ใส่ประเทศลาว แล้วอ้างว่าเป็นกระสุนจากประเทศไทย ลาวก็ฉลาด..เปิดดาวเทียมดู เห็นชัดว่ากระสุนไม่ได้มาจากฝั่งไทย

น่าเสียดายว่าไทยเราก็ไม่กล้าเปิดเผยตัวเลขที่แท้จริงว่าทหารเขมรตายไปเท่าไร ? เพราะว่าจะทำให้ประเทศไทยดูเหมือนอย่างกับโหดร้าย ส่วนเขมรก็ไม่กล้าเปิดเผย กลัวว่าคนของเขารู้แล้วจะหมดกำลังใจ เอาแค่ที่ภูมะเขือ ภูผี ถ้าหากใช้ภาษาทหารก็คือว่า "ละลาย" ทั้งกองพัน คำว่าละลายก็คือเสียหายจนไม่สามารถที่จะทำหน้าที่ของตนต่อไปได้ สมมุติระดับกองพันอาจจะเหลือไม่ถึงหมู่..! อะไรแบบนั้น พวกที่ไม่ได้สร้างเวรสร้างกรรมร่วมกันมา รอดไปได้อย่างไรก็ไม่รู้ ?

ภาษาจิ๊กโก๋เขาว่าเขมรอยู่ในสภาพ "ร่างกายต้องการการปะทะ" ซึ่งความจริงไทยเราทำไม่รู้ไม่ชี้ก็ได้ ตีบุกยึดไปเรื่อย ๆ ได้หมดทั้งประเทศก่อนแล้วค่อยตั้งโต๊ะเจรจา เชื่อว่าคนไทยทั้งประเทศก็เห็นด้วย แต่ว่าปฏิบัติการทุกอย่างมีผลกระทบในระดับนานาชาติ ไม่ใช่คิดแล้วทำได้เลย ต้องดูข้อดีข้อเสียว่ามีอะไร ได้ผลดีอะไร มีผลเสียอย่างไร

เรื่องพวกนี้เราต้องรับรู้ไว้อย่างเดียวแต่อย่ารับทราบ ก็คือรับรู้ไว้ในลักษณะของข่าวสารบ้านเมือง แต่อย่าไปมีอารมณ์ร่วมด้วย มีอารมณ์ร่วมด้วยเมื่อไร ก็กลายเป็น รัก โลภ โกรธ หลง เมื่อนั้น..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : เมื่อวานนี้ เมื่อ 03:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 19 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #8  
เก่า เมื่อวานนี้, 23:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,905
ได้ให้อนุโมทนา: 159,162
ได้รับอนุโมทนา 4,498,210 ครั้ง ใน 36,516 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เณรหมายเลขสองแถวแรกนั่นใคร ? ไม่เคยมาก่อนใครเลย..! เมื่อคืนก็มาเป็นคนสุดท้ายตอนที่เสร็จกรรมฐานแล้ว เป็นเณรที่วัดเรา ? แล้วหายหัวไปไหน ? แทนที่จะเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับน้องใหม่ ดันกลายเป็นตัวอย่างที่เลว..! เดี๋ยวน่าจะต้องมีการแจกรางวัลให้ วัดท่าขนุนรวย แจกรางวัลพระเณรเป็นประจำ ถึงเวลาก็เอาไปคนละ ๓ ที ๕ ที ถ้าหลวงพ่อตีเองก็สาหัสหน่อย ถ้าคนอื่นตีก็เบาหน่อย..!

ตอนสมัยเรียนทหารอยู่ เขาแบ่งคนเป็นสี่จำพวก ไม่ใช่บัว ๔ เหล่านะ มีพวกฉลาดแล้วขยัน..เขาบอกว่าให้ไปอยู่แนวหน้า ส่วนพวกฉลาดแล้วขี้เกียจ..ให้วางแผนอยู่แนวหลัง พวกโง่แล้วขี้เกียจ..ให้ส่งไปอยู่กับพวกฉลาดแล้วขยัน จะลากถูลู่ถูกังกันไปได้ ส่วนพวกโง่แล้วขยัน..เขาบอกว่า..ยิงทิ้งให้หมด..! มีแต่สร้างความเสียหายให้กับหน่วยงาน

บางอย่างเราก็ไม่คิดว่าคนจะโง่ได้ขนาดนั้น รุ่นของอาตมภาพทั้ง ๆ ที่เรียนนักเรียนนายสิบ เขาถือว่าแต่ละคนมีการศึกษามาพอตัว เพราะอย่างน้อยต่ำสุดก็ต้องจบชั้น ม. ๓ ขึ้นไปเขาถึงจะรับ ตอนนั้นเป็นวิชาสงครามทุ่นระเบิด ด้วยความที่ฝึกกันในป่าก็มีของสูญหายบ้าง ก็ "โดนซ่อม..!"

คำว่า "ซ่อม" ก็คือ "ทำให้ดีขึ้น" แต่จริง ๆ ก็คือโดนลงโทษ อย่างเช่นว่า "นั่งกระโดด" บางคนใช้คำว่า "ลุกนั่ง" โดนไป ๑๕๐ ยก..! อื้อหือ..แค่ลุก ๆ นั่ง ๆ ร้อยครั้งก็แย่แล้ว..ใช่ไหม ? แต่นี่หนึ่งยกคือ ๔ ครั้ง ๑-๒-๓-หนึ่ง, ๑-๒-๓-สอง, ไล่ไป ๑๕๐ ยกก็ ๖๐๐ ครั้ง..! ส่วนใหญ่ทำครบแล้วก็กองกับพื้นหมด ถ้าเป็นสมัยนี้เขาบอกว่ากล้ามเนื้อสลายตัว..ใช่ไหม ? มีสิทธิ์ไตวายได้..! แสดงว่าทหารรุ่นอาตมภาพนี่อึดกว่าควายอีก ไม่เห็นเป็นอะไรสักคน ๑ - ๒ วันก็หายดีแล้ว..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 01:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 18 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #9  
เก่า วันนี้, 00:00
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,905
ได้ให้อนุโมทนา: 159,162
ได้รับอนุโมทนา 4,498,210 ครั้ง ใน 36,516 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ปรากฏว่าวันนั้นฝึกวิชาขว้างระเบิด ทหารขว้างระเบิดนี่เขาไม่ใช่เงื้อมือแล้วขว้างนะ เขาให้ทอยขึ้น ก็คือแกว่งแขนจากข้างล่างขึ้นบน ถามว่าทำไมต้องทำอย่างนั้น ? เพราะว่าถ้าเงื้อมือแล้วขว้างพลาด ระเบิดจะตกอยู่ใกล้ ๆ แต่ถ้าทอยขึ้น อย่างไรก็ไปได้ไกล คนแรงดี ๆ บางทีไปได้ถึง ๓๐ - ๔๐ เมตร..!

วันนั้นครูฝึกชักสลักปุ๊บ ยัดใส่มือเพื่อน อย่ารู้เลยว่าชื่ออะไร ครูฝึกบอกว่า "ขว้างให้สุดแรงเลยนะมึง..!" เพื่อนก็ "ครับ" หันขวับมาขว้างตูมใส่กลางกลุ่มของอาตมา..! ไอ้พวกเราร้อง "เฮ้ยยย..!" ต่างคนต่างพุ่งหลาวไปคนละทิศละทาง..!

อาตมภาพกับเพื่อนคนที่ปัจจุบันนี้ ซึ่งเป็นน้องเขยหลวงพ่อเจ้าคุณปัญญา (พระเทพปริยัติโสภณ, ดร.) เจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี พันเอกประสิทธิ์ พุฒตาล พุ่งหมวกเหล็กชนกันเสียงดัง "ป๊งงง..!" ดาวขึ้นว่อนทั้งคู่ ต่างคนต่างพุ่งออก เขาพุ่งมาทางนี้ เราพุ่งไปทางนั้น..! ขวิดกันพอดีเลย เฮ้อ..ลุกขึ้นได้ก็กระชากคอเสื้อเพื่อนที่ขว้างระเบิด ตอนนั้นอาตมาแรงดี มือเดียวยกคนได้ทั้งคน ถามว่า "มึงทำเหี้..อะไรแบบนี้วะ ? จะตายห่ากันหมดทั้งกองร้อย !"

เพื่อนบอกว่า "กูกลัวว่าถ้าขว้างเข้าป่าแล้วจะหาย เดี๋ยวพวกมึงจะโดนซ่อมอีก" ได้ยินแล้ว "น้ำตาจิไหล" "มึงห่วงพวกกูมากเลยว่าจะโดนซ่อม แต่มึงไม่ห่วงเลยว่าพวกกูจะตายห่..!"

รู้หรือยังว่าพวกประเภทโง่แล้วขยันมีจริง ? เพราะฉะนั้น..ไม่ต้องแปลกใจหรอกว่า เพื่อนคนนี้ปัจจุบันเกษียณแล้วเป็นแค่จ่าแก่ ๆ ในขณะที่คนอื่น ๆ เป็นผู้กองผู้การกันหมดทั้งรุ่น..! ไม่ได้ซ้ำเติมหรอกนะ ชอบใจความซื่อของเขา แต่ตอนนั้นบอกตรง ๆ ว่าถ้าเหตุผลไม่พอนี่อาตมาต่อยคว่ำตรงนั้นเลยนะ..! เขากลัวลูกระเบิดหายก็เลยโยนเข้าไปในกลุ่มเพื่อน อย่างไรก็ต้องมีเพื่อนสักคนเห็น..! อะไรประมาณนั้น ???

โชคดีที่ว่าเมื่อสลักระเบิดดีดขึ้น จะมีเวลา ๔ วินาที เวลาคนหนีตาย ๔ วินาทีนี่ไปได้ไกลมาก ก็คือถ้าออกพ้นระยะ ๑๐ เมตร แล้วหมอบลง มักจะไม่เป็นอะไร เนื่องเพราะว่าระเบิดจะระเบิดขึ้นในลักษณะเป็นกรวยบานขึ้นข้างบน จะมีช่องว่างอยู่ประมาณ ๓๐ - ๓๕ องศาจากพื้น ที่จะไม่มีสะเก็ตระเบิดมาโดน ดังนั้น..ถ้าหากว่าพ้นระยะ ๑๐ เมตรแล้วหมอบลงทัน จะไม่เป็นไร ยกเว้นระเบิดรุ่นใหม่ที่คิดออกมา ที่เขาเรียกว่า "ระเบิดขนาน" ระเบิดแล้วออกข้างเลียดพื้นไป คนเราที่คิดในเรื่องฆ่ากันนี่คิดได้ชั่วมากเลยนะ..! ตรงไหนมีจุดอ่อนก็แก้ไขไป
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 14:30
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 18 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #10  
เก่า วันนี้, 00:01
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,905
ได้ให้อนุโมทนา: 159,162
ได้รับอนุโมทนา 4,498,210 ครั้ง ใน 36,516 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ปัจจุบันนี้ที่เขาห้ามพกโน่นพกนี่ขึ้นไปบนเครื่องบินก็เพราะอย่างนี้ เอาแค่ว่าด่างทับทิมธรรมดา ๆ กับกลีเซอรีนที่พวกเราก็เห็นว่าเป็นน้ำยาหล่อลื่นบ้าง เป็นโลชั่นทาผิวบ้าง สองอย่างนี้ผสมกันเมื่อไรระเบิดเมื่อนั้น ต่อให้ไม่ระเบิดก็ลุกเป็นไฟ นั่นเป็นของพื้น ๆ เลย และถ้าหากว่าใส่น้ำตาลทรายเพิ่มเข้าไป หรือถ้าหากว่ามีปุ๋ยยูเรียใส่เพิ่มเข้าไป โอ้โห..คราวนี้บรรลัย ตึกทั้งหลังก็ไม่เหลือ..! เขาถึงได้ป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องพวกนี้ ด้วยการไม่ให้เอาของเหลวเกิน ๑๐๐ มิลลิลิตรขึ้นเครื่องบิน

ระเบิดรุ่นหลัง ๆ ตั้งแต่ตอนที่อาตมภาพเป็นทหารคือซีโฟร์ (C4) เป็นแท่งระเบิดลักษณะเหมือนอย่างกับแป้งอัดเป็นก้อน ขว้างกบาลกันเล่นก็ได้ไม่เป็นไร..ไม่ระเบิดหรอก..! แต่ถ้าหากว่ามีเชื้อปะทุที่เป็นตัวจุดระเบิดยัดเข้าไป แล้วก็กดปุ่ม รับประกัน..ตึกทั้งหลังก็ไม่เหลือ..! แต่แรงอัดต้องได้ระดับถึงจะระเบิด

อาตมาเคยทดลองครั้งแรกใช้ครึ่งปอนด์ เป็นแท่งสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาวประมาณเกือบหนึ่งคืบ พร้อมกับเชื้อปะทุหนึ่งดอก ยัดเข้าไปเสร็จ ก็เอาไปซุกโคนต้นไม้โตเป็นโอบเลย หลังจากนั้นก็ลากสายออกมา ๒๐ เมตร แล้วก็จุดชนวน ต่างคนต่างหลบกันเอง ทหารเขาจะมีรหัสตะโกนบอกเพื่อน "จุดระเบิด..เข้าที่กำบัง" พอบึ้มขึ้นมา..ต้นไม้ทั้งต้นกลายเป็นเสา..กิ่งก้านไม่มีเหลือเลย โดนระเบิดขาดหมด ใบทั้งต้นกลายเป็นผงสีเขียว ๆ เท่านั้น..! ไม่ได้เป็นใบนะ..เป็นผงเลย..! นั่นแค่ระเบิดครึ่งปอนด์ แล้วลองคิดดูว่าถ้ายัดไป ๒ - ๓ ปอนด์แล้วจะเกิดอะไรขึ้น..!?

ระยะหลังเขาสามารถที่จะผลิตให้อยู่ในลักษณะเหมือนกับดินน้ำมัน ปั้นเป็นรูปอะไรก็ได้ ปั้นเป็นเส้นแล้วเอาไปล้อมต้นเสาไว้ พอเชื้อปะทุบึ้ม เสาก็ขาดไปทั้งต้น..! สมัยนี้แม้กระทั่งหมากฝรั่งก็ไม่ให้เอาขึ้นเครื่องบิน เพราะว่าคล้ายกับดินระเบิดรุ่นใหม่ ๆ จริง ๆ..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 01:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 19 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 23:19



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว