กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๘ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนกรกฎาคม ๒๕๖๘

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 25-07-2025, 16:29
พิชวัฒน์'s Avatar
พิชวัฒน์ พิชวัฒน์ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Aug 2014
ข้อความ: 550
ได้ให้อนุโมทนา: 3,308
ได้รับอนุโมทนา 26,804 ครั้ง ใน 1,038 โพสต์
พิชวัฒน์ is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๖๘

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๖๘


ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 26-07-2025, 00:25
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,885
ได้ให้อนุโมทนา: 159,118
ได้รับอนุโมทนา 4,497,447 ครั้ง ใน 36,495 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ ๒๕ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ หลังจากฉันเช้าแล้ว กระผม/อาตมภาพยังต้องหอบผ้าไปเข้าร้านซักอัตโนมัติ กว่าจะเสร็จสรรพเรียบร้อยก็ตก ๙ โมงกว่า แล้วจึงได้เดินทางกลับกาญจนบุรี

ความจริงวันนี้เส้นทางพิเศษสาย M ๘๑ เปิดให้วิ่งได้ แต่ว่าเปิดตอนบ่าย ๓ โมง จึงไม่สามารถที่จะย่นระยะทางได้ นอกจากไปตามเส้นทางปกติ จนกระทั่งไปอู่โอชิเซอร์วิส จ่ายค่าซ่อมรถไปเป็นเงิน ๕๓,๐๐๐ บาท ซึ่งส่วนนี้ทางเพจพระกริ่งจินดามณีมนต์พระกาฬรับเป็นเจ้าภาพจ่ายให้ ก็ต้องเจริญพรขอบคุณทุกท่านเป็นอย่างสูง ที่ให้การอนุเคราะห์สงเคราะห์ในครั้งนี้

เมื่อรับรถมาแล้ว ก็ต้องจัดการย้ายบ้าน ก็คือข้าวของต่าง ๆ จากรถอีซูซุมิวเซเว่นของทิดเดช (นายณภพ รัคสิกรณ์) ที่ให้ยืมใช้มาหลายวัน เติมน้ำมันทีก็สะดุ้งที เมื่อฝากกุญแจรถคืนทิดเดชไว้ที่วัดราษฎร์ประชุมชนาราม (วัดท่ามะขาม) แล้ว ก็ได้เข้าปั๊มแอลพีจีเติมแก๊สให้เต็มถัง จากที่เติมรถของทิดเดชทีหนึ่ง ๒,๕๐๐ - ๒,๖๐๐ มาเจอเติมแก๊ส ๓๒๐ บาท ทำเอางง ๆ ไปเหมือนกัน !?

จากนั้นก็เดินทางกลับวัดท่าขนุน เมื่อมาถึง ขนข้าวของลงกองกลาง เพราะว่าหอบมาจากงานตรวจหมู่บ้านรักษาศีล ๕ หลายแห่ง ทุกแห่งก็จะมอบข้าวของที่เป็นของดีประจำบ้านของตนมาให้ เมื่อวานนี้ที่บ้านวัดจากแดง ก็มีการถวายผ้าห่มทำจากขวดน้ำพลาสติกมาผืนใหญ่ กระผม/อาตมภาพรับข้าวของเหล่านี้มาแล้ว ก็ส่งเข้ากองกลางเป็นสังฆทาน พระภิกษุสามเณรท่านใดถ้าต้องการก็ไปขอเบิกเอา หรือว่าถ้าเป็นของใช้ส่วนตัว ทางวัดท่าขนุนก็จะมีการจัดออกมาให้พระภิกษุสามเณรให้เลือกได้ใช้เดือนละ ๒ ครั้ง ซึ่งพูดกันติดตลกว่า "ออกร้านเซเว่น" เมื่อเหลือจากพระภิกษุสามเณรแล้ว แม่ชี และฆราวาสในวัดก็จะได้นำไปใช้ต่อ เพราะว่าเป็นของเหลือจากพระเณรแล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-07-2025 เมื่อ 01:15
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 26 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 26-07-2025, 00:30
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,885
ได้ให้อนุโมทนา: 159,118
ได้รับอนุโมทนา 4,497,447 ครั้ง ใน 36,495 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

กระผม/อาตมภาพมาติดตามข่าวสารบ้านเมืองแล้ว ก็เกิดภาพที่น่าสลดใจขึ้นมา ก็คือการที่ประเทศของเราโดนยุแหย่ ขออภัย...ต้องใช้คำว่า โดนก่อกวนจากประเทศเขมรเป็นเวลานาน ทำให้ญาติโยมจำนวนมากรู้สึกเดือดดาลโกรธแค้น ที่รัฐบาลและทหารไม่ทำอะไร ยิ่งเมื่อทหารไทยไปเหยียบกับระเบิดขาขาด ความโกรธแค้นก็พุ่งถึงที่สุด..!

เพียงแต่ว่าในเมื่อทางด้านเขมรพยายามยั่วยุ พยายามก่อกวนทุกวิถีทาง แล้วทหารไทยไม่ลงมือเสียที เพราะรู้ว่าเขาทำเพื่ออะไร ทหารเขมรก็เลยเปิดฉากยิงก่อน ทำให้ทหารไทยต้องตอบโต้ตลอดแนว ซึ่งเรื่องทั้งหลายเหล่านี้นั้น จะว่าไปแล้ว ก็เป็นเรื่องของบุคคลที่ไม่รู้จักกันทั้งสองฝ่าย แต่ต้องมาฆ่าแกงกันเพราะผู้นำที่รู้จักกัน แต่ดันคุยกันไม่รู้เรื่อง..!

สิ่งที่กระผม/อาตมภาพบอกว่ารู้สึกสลดใจก็คือว่า ญาติโยมจำนวนมากเปิดภาพของการที่เครื่องบินเอฟ ๑๖ ของไทยถล่มฐานทัพเขมรซ้ำแล้วซ้ำเล่า เป็นร้อย ๆ รอบ หรือว่าเปิดภาพโดรนพิฆาตของไทยถล่มคลังอาวุธของเขมรซ้ำแล้วซ้ำเล่าแบบสะใจมาก ท่านทั้งหลายทราบหรือไม่ว่า ลักษณะแบบนั้นเป็นการที่ท่านกำลังยินดีในกรรมของผู้อื่น ก็แปลว่าเราจะมีส่วนในกรรมนั้นไปด้วย..!

เจ้าหน้าที่ทหาร หรือว่าตำรวจที่ทำหน้าที่ของตน ถ้าเกิดว่าได้รับโทษก็เป็นส่วนน้อย เนื่องเพราะว่าไม่มีความโกรธแค้นกันเป็นการส่วนตัว หากแต่ว่าทำหน้าที่ตามคำสั่งที่ได้รับมา แต่ท่านทั้งหลายที่ไม่ได้มีส่วนในคำสั่งเหล่านั้น กลับไปแสดงความยินดีอย่างออกนอกหน้าในการฆ่าฟันกันของคนอื่น ก็แปลว่าจิตใจของท่านนั้นประกอบไปด้วยโทสะและโมหะอย่างแรงกล้า..!

ถ้าตายลงไปตอนนั้น ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าท่านทั้งหลายจะลงตรงเลยหรือเปล่า ? ใครที่สร้างคุณงามความดีเอาไว้มาก อาจจะมีโอกาสพักช่วงที่ตำหนักพระยายม ถ้าท่านได้รับการสอบสวนตรงนั้น โอกาสรอดยังมีอยู่ แต่ท่านที่สร้างคุณงามความดีเอาไว้น้อย สภาพจิตไปยินดีในบาปกรรมของคนอื่น อาจจะพุ่งตรงลงขุมไปเลยก็ได้..!


จึงเป็นเรื่องที่กระผม/อาตมภาพทั้งสลดใจและห่วงใยเป็นอย่างยิ่ง หวังว่าพระภิกษุสามเณรวัดท่าขนุน และญาติโยมที่เป็น FC วัดท่าขนุน ถ้าวางกำลังใจผิด ก็จงวางกำลังใจเสียใหม่ ให้วางกำลังใจในลักษณะของภรรยาพรานกุกกุฏมิตร ที่ถึงเวลาสามีจะออกล่าสัตว์ บอกว่า "แม่อีหนูส่งหอกมา" "แม่อีหนูส่งบ่วงเชือกมา" ก็ส่งให้ ท่านถือว่าท่านทำหน้าที่ของภรรยา สามีสั่งให้ทำอะไรก็ทำ แต่ไม่ได้ยินดีในกรรมที่สามีจะไปล่าสัตว์ด้วย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-07-2025 เมื่อ 01:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 26 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 26-07-2025, 00:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,885
ได้ให้อนุโมทนา: 159,118
ได้รับอนุโมทนา 4,497,447 ครั้ง ใน 36,495 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถ้าเราท่านทั้งหลายไม่สามารถทำใจให้เป็นกลางในลักษณะนี้ ไปยินดียินร้ายกับกรรมของคนอื่น ซึ่งกระผม/อาตมภาพกล่าวแล้วว่า เห็นคนเขาด่ากัน เราก็ลงไปด่าด้วย กลายเป็นว่าเรากระโดดลงนรกตามคนอื่นเขา..! โดยเฉพาะท่านทั้งหลายซึ่งเป็นนักปฏิบัติธรรม สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือต้องรักษากำลังใจของตนให้ผ่องใสเอาไว้ พยายามที่จะขัดเกลาสิ่งที่ไม่ผ่องใสต่าง ๆ ออกไปให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้

สิ่งที่น่าเสียดายที่สุดก็คือ เราใช้เวลาในการขัดเกลานานมาก กว่าที่สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ ซึ่งถมทับอยู่ในจิตใจของเราจะเบาจะบางลง แต่พอเหตุการณ์เกิดขึ้น เรากลับไปกอบโกยเอาสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ กลับมาถมทับจิตใจของเรามากยิ่งขึ้น กลายเป็นว่าความดีทั้งหลายที่ปฏิบัติมานาน ยังไม่เพียงพอกับการที่เราทำในสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ในระยะแค่วันสองวันเท่านั้น..!

ท่านทั้งหลายถ้าห่วงใยทหารหาญในแนวหน้า ก็ไปช่วยกันบริจาคโลหิต บริจาคข้าวของเงินทอง ช่วยเหลือท่านทั้งหลายเหล่านั้น ตลอดจนกระทั่งสวดมนต์ไหว้พระ ขอบารมีพระคุ้มครองให้เขาเหล่านั้นปลอดภัยในการทำหน้าที่ของตน แต่อย่าไปเผลอยินดียินร้ายกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะว่าถ้าวางใจเป็นกลางจริง ๆ แล้ว ไม่ว่าจะคนไทย หรือว่าคนเขมร ก็ล้วนแล้วแต่เป็นเพื่อนร่วมทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งสิ้น เราไม่ต้องไปโกรธไปเกลียดเขา เขาก็ทุกข์อยู่แล้ว แล้วเราเองไปโกรธไปเกลียดเขา ก็สร้างทุกข์ให้เกิดขึ้นในจิตใจของเรามากขึ้น..!

เรื่องพวกนี้กลายเป็นว่าเราซ้ำเติมตนเอง ตลอดจนกระทั่งผู้อื่น ไม่สมกับเป็นนักปฏิบัติธรรมที่ดี สิ่งที่เราต้องทำให้ได้ก็คือการวางกำลังใจให้เป็นกลาง แล้วก็พยายามที่จะแผ่เมตตา ถ้าท่านใดที่ได้อภิญญาสมาบัติ ก็พยายามที่จะรักษากำลังใจของตน อำนวยชัยให้พรแก่บรรดาผู้ที่อยู่ในแนวหน้า ไม่ว่าจะเป็นทหาร ตำรวจ หรือญาติโยมต่าง ๆ ที่ทำหน้าที่ของตน ขอให้ทุกคนอยู่รอดปลอดภัยจากกรรมทั้งหลายที่จะพึงมีพึงเกิดขึ้น ไม่เช่นนั้นแล้วเราเองก็กำลังใจเสีย พลอยไปยินดียินร้ายกับกรรมของคนอื่น แล้วกลายเป็นพลอยมีส่วนในกรรมนั้นไปด้วย..!

ในขณะที่โลกร้อน เราต้องเย็น ในขณะที่โลกเย็น เราจะต้องปล่อยวาง เมื่อทำจิตใจในลักษณะนี้ได้ เกิดความมั่นคงไม่หวั่นไหว ท่านทั้งหลายก็ไม่ยินดียินร้ายในความดีความชั่วทั้งปวง ทำความดีเพราะว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านั้นดี เราถึงทำ ละความชั่ว เพราะว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านั้นชั่ว เราถึงละ แต่ว่าสภาพจิตไม่เกาะทั้งดีทั้งชั่ว ท่านทั้งหลายถึงจะสามารถผ่ากลาง หลุดออกจากวัฏสงสารนี้ไปได้..!

กระผม/อาตมภาพยังมีการเรียนพระไตรปิฎกศึกษาออนไลน์ จึงต้องบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนไว้แต่เนิ่น ๆ หลังจากนั้นแล้วก็จะได้เข้าสู่ "โหมด" การเรียนของตนเองต่อไป

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันศุกร์ที่ ๒๕ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-07-2025 เมื่อ 01:20
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 01:02



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว