กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๘ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนกรกฎาคม ๒๕๖๘

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 23-07-2025, 18:02
พิชวัฒน์'s Avatar
พิชวัฒน์ พิชวัฒน์ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Aug 2014
ข้อความ: 550
ได้ให้อนุโมทนา: 3,308
ได้รับอนุโมทนา 26,799 ครั้ง ใน 1,038 โพสต์
พิชวัฒน์ is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๒๓ กรกฎาคม ๒๕๖๘

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๒๓ กรกฎาคม ๒๕๖๘


ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 23-07-2025, 22:13
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,884
ได้ให้อนุโมทนา: 159,087
ได้รับอนุโมทนา 4,497,209 ครั้ง ใน 36,495 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพุธที่ ๒๓ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ กระผม/อาตมภาพต้องเดินทางไปยังวัดสุราษฎร์รังสรรค์ หรือที่ชื่อชาวบ้านทั่วไปเรียกว่า "วัดทุ่งมะกรูด" อยู่ที่ตำบลคลองควาย อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี ริมแม่น้ำเจ้าพระยา

ปรากฏว่าไปถึง พระปลัดจักรกฤษณ์ สุทฺธิมโน เจ้าอาวาสที่มาต้อนรับนั้นหน้าตาเหมือนกับสามเณร..! สอบถามแล้วได้ความว่าเพิ่งจะอายุ ๓๒ ปี ก็แปลว่าต่อให้อายุครบแล้วบวชเลยก็น่าจะอยู่ที่ไม่เกิน ๑๒ พรรษา แต่ว่าท่านสามารถบริหารจัดการวัดได้ดูสะอาดเรียบร้อยมาก เนื่องเพราะว่าหลวงพ่อลมูล (พระครูปทุมธีรคุณ) เจ้าอาวาสเก่านั้น ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์มีชื่อเสียงมาก

วัดสุราษฎร์รังสรรค์หรือว่าวัดทุ่งมะกรูดนี้ มีรั้วติดกันกับวัดสามัคคิยาราม ซึ่งเป็นวัดธรรมยุต แต่ก็เป็นวัดที่พี่น้องชาวมอญสนับสนุนให้สร้างขึ้นทั้งสองวัด พูดง่าย ๆ ว่ามีพระเถระที่ตนเองเคารพนับถือและชอบใจ ก็นิมนต์มาอยู่วัดที่บ้านของตนเอง เมื่อสร้างวัดขึ้นมาแล้ว เพิ่งจะรู้ว่าทั้งสองวัดนั้นถือคนละนิกายกัน..! แต่ก็สมัครสมานสามัคคีกันดี เพราะว่าอยู่ในชุมชนเดียวกัน

วันนี้พวกกระผม/อาตมภาพต้องมาตรวจยกชุมชนบ้านโพธิ์ ตำบลคลองควายแห่งนี้ ขึ้นเป็นหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ต้นแบบ ปรากฏว่าเมื่อมาถึง หลวงพ่อเจ้าคุณโม่ง - พระราชวชิรมงคลวิสิฐ (อาทิตย์ สิริวฑฺฒโน) เจ้าคณะจังหวัดสระบุรี หลวงพ่อเจ้าคุณทินน์ - พระโสภณพัฒนคุณ (ทินน์ สุทินฺโน) ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค ๓ วัดพุน้อย (เศรษฐีเรือทอง) จังหวัดลพบุรี ท่านได้มาถึงก่อนแล้ว

อีกสักครู่หนึ่ง หลวงพ่อเจ้าคุณประเทือง - พระเดชพระคุณพระธรรมวชิรสุนทร (ประเทือง อาภาธโร ป.ธ. ๔) รักษาการประธานกรรมการบริหารกลาง โครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ เจ้าคณะจังหวัดลพบุรี และหลวงพ่อโพไซดอน - พระเทพสมุทรวัชราจารย์ (จรัล สิริธมฺโม) รักษาการประธานขับเคลื่อนโครงการหมู่บ้านศีล ๕ หนกลาง เจ้าคณะจังหวัดสมุทรปราการก็มาถึง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-07-2025 เมื่อ 00:17
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 23-07-2025, 22:15
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,884
ได้ให้อนุโมทนา: 159,087
ได้รับอนุโมทนา 4,497,209 ครั้ง ใน 36,495 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พวกเราเดินชมนิทรรศการต่าง ๆ ซึ่งได้จัดขึ้นอย่างเป็นหลักเป็นฐาน เป็นงานเป็นการทีเดียว โดยมีการสาธิตทอผ้าปักผ้าต่าง ๆ ให้ดูด้วย เรื่องพวกนี้ต้องบอกว่าเป็น "เสน่ห์ชุมชน" อย่างหนึ่ง โดยเฉพาะในตอนฉันภัตตาหารเพลนั้น ข้าวปลาอาหารที่มา เราไม่สามารถที่จะหวังได้ว่ามีอะไรบ้าง เนื่องเพราะว่าชาวบ้านช่วยกันนำมาคนละถ้วย คนละปิ่นโต เมื่อเอามาแจกจ่ายให้กับพระเถระทั้งหลายแล้ว ก็ขึ้นอยู่กับดวงว่าอะไรจะมาลงที่ตรงหน้าตนเอง..!

กระผม/อาตมภาพเห็นอาหารถ้วยหนึ่ง หน้าตาเหมือนซุปหน่อไม้ ไม่มีใครตัก ก็เลยลองตักมาชิมดูตามประสาคนไม่กลัวอาหารแปลก ๆ ผลปรากฏว่าเป็นไก่เส้น ลักษณะปิ้งแล้วฉีกเป็นเส้นเล็ก ๆ ยำมาอย่างดี ต้องบอกว่าอร่อยจนลืมโลกไปเลย..! เรื่องพวกนี้ถ้าเราไม่ลองก็คงไม่รู้ แต่ด้วยความที่กระผม/อาตมภาพไม่เคยรังเกียจอาหารอะไรเลย พูดง่าย ๆ ว่าถ้ามนุษย์กลืนลงไปได้ก็ส่งมาเถอะ..! ยกเว้นอาหารต้องห้ามตามพระวินัยแล้ว ที่เหลือกระผม/อาตมภาพฉันทั้งนั้น ฉันเพื่อให้มีประสบการณ์ว่า "อาหารชนิดนี้กูก็กินมาแล้ว..!"

หลังจากที่ทางเจ้าภาพถวายภัตตาหารกันเรียบร้อยแล้ว พวกเราก็เข้าโบสถ์เพื่อเจริญพระพุทธมนต์ อยู่ในลักษณะว่าไปถึงถิ่นไหนก็ต้องเข้ากราบผู้ใหญ่ก่อน ในเมื่อเข้าวัดก็ต้องกราบพระประธานกันก่อน เจริญพระพุทธมนต์และถ่ายรูปหมู่กันแล้ว ถึงได้ขึ้นสู่ศาลาในการตรวจยกชุมชนบ้านโพธิ์เป็นหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ต้นแบบ

พิธีกรรมในวันนี้ก็เป็นไปคล้ายคลึงกับที่อื่น แต่ส่วนที่ไม่ค่อยคล้ายคลึงก็คือ ตัวนายกองค์การบริหารส่วนตำบลคลองควายก็ดี กำนันตำบลคลองควายก็ดี เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนตำบลคลองควายก็ดี เป็นพ่อลูกกัน..! ต้องบอกว่าชุมชนนี้อย่างไรก็ต้องรักใคร่สามัคคีกันมาก เนื่องเพราะว่าฝ่ายปกครองท้องถิ่นนั้นเป็นครอบครัวเดียวกัน ไม่รักสามัคคีกันย่อมเป็นไปไม่ได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-07-2025 เมื่อ 00:20
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 23-07-2025, 22:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,884
ได้ให้อนุโมทนา: 159,087
ได้รับอนุโมทนา 4,497,209 ครั้ง ใน 36,495 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อท่านผู้ว่าฯ นำปฏิญาณตนว่า จะนำหลักธรรมในพระพุทธศาสนาและศีล ๕ ไปเป็นเครื่องดำเนินชีวิตแล้ว พวกเราก็เริ่มทำการตรวจประเมินตามขั้นตอนต่าง ๆ ซึ่งแม้ว่าครั้งนี้ กระผม/อาตมภาพจะเลื่อนมาตรวจประเมินในหมวดที่ ๔ ก็คืองานนิทรรศการ เพื่อที่จะดูว่านิทรรศการที่จัดนั้น เกี่ยวข้องกับการรักษาศีล ๕ อย่างไรบ้าง ?

ครั้นเมื่อได้รับการวิพากษ์วิจารณ์กันเรียบร้อยแล้ว ก็ให้คำแนะนำต่าง ๆ แก่บุคคลที่ร่วมงาน โดยเฉพาะส่วนราชการต่าง ๆ ซึ่งชุมชนบ้านโพธิ์ วัดสุราษฎร์รังสรรค์แห่งนี้นั้น จะว่าไปแล้วเป็นชุมชนที่มีความเข้มแข็งทางวัฒนธรรมสูงมาก กระผม/อาตมภาพจึงแนะนำทางวัฒนธรรมจังหวัดให้ทำเรื่องยกขึ้นเป็นชุมชนคุณธรรม คาดว่าคงจะข้ามในระดับส่งเสริมพัฒนาคุณธรรมไปเป็นชุมชนคุณธรรมต้นแบบ หรืออาจจะเป็นชุมชนคุณธรรมต้นแบบโดดเด่นไปเลยก็ได้

และให้คำแนะนำทางสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดปทุมธานี ให้สนับสนุนงบประมาณในด้านการจัดปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ ไม่ว่าจะเป็นการบวชเนกขัมมะปฏิบัติธรรมก็ดี หรือว่าโครงการครอบครัวอบอุ่นด้วยพระธรรมก็ตาม เพราะว่าเขาทำกันเป็นปกติแล้ว เราแค่สนับสนุนงบประมาณเข้ามา งานทั้งหมดก็เป็นของเราไปด้วย

และโดยเฉพาะให้ อบต.ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาแนะนำพระปลัดจักรกฤษณ์ เจ้าอาวาส ว่าควรที่จะเขียนโครงการเพื่อของบประมาณสนับสนุนจากองค์การบริหารส่วนตำบลอย่างไร เนื่องเพราะว่าถ้าเราเขียนโครงการแล้วไม่สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ในการพัฒนาของทางองค์การบริหารส่วน หรือว่าไม่เข้ากับแผนนั้นแผนนี้ของเขา เขาก็ไม่สามารถที่จะอนุมัติงบประมาณให้ได้

พูดง่าย ๆ ว่าในเมื่อวัดเป็นของชุมชน แล้วองค์การบริหารส่วนตำบลก็ดูแลชุมชนอยู่ ก็ขอให้เจียดงบประมาณมาสนับสนุนวัด ที่จะช่วยกันพัฒนาชุมชน สร้างความปรองดองสมานฉันท์และสมัครสมานสามัคคีในหมู่ชาวบ้านต่อไป
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-07-2025 เมื่อ 00:28
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 23-07-2025, 22:18
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,884
ได้ให้อนุโมทนา: 159,087
ได้รับอนุโมทนา 4,497,209 ครั้ง ใน 36,495 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

บรรดาข้าราชการต่าง ๆ ก็กล่าวคำขอบคุณที่ทางคณะกรรมการฯ มาให้กำลังใจและให้คำแนะนำ จะได้ปฏิบัติไปในแนวทางเดียวกัน กระผม/อาตมภาพได้ยินแล้วก็ยังชื่นใจ เนื่องเพราะว่ามีบุคคลบางพวกวิพากษ์วิจารณ์ว่า โครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ด้วยหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา (หมู่บ้านรักษาศีล ๕) นั้น เป็น "ปาหี่คุณธรรมระดับชาติ" สิ้นเปลืองงบประมาณเปล่า ๆ ควรที่จะเอาเงินไปสนับสนุนการศึกษาของพระภิกษุสามเณร หรือว่าเด็ก ๆ จะดีกว่า..!

กระผม/อาตมภาพอยากจะให้ท่านทั้งหลายมาเห็นภาพนี้ ที่ทางวัด บ้าน โรงเรียน และส่วนราชการ ร่วมมือร่วมใจกันจัดงานนี้ขึ้นมา อวดให้คนอื่นเขารู้ว่าในท้องถิ่นของเรามีอะไรบ้าง ? โดยเฉพาะความรักใคร่สามัคคีและปรองดองสมานฉันท์ตามโครงการ ท่านจะเห็นว่ามีโครงการใดบ้างที่สามารถรวบรวม วัด บ้าน โรงเรียน และส่วนราชการเข้ามาได้ทั้งหมด นอกจากโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ นี้

ดังนั้น..ในเมื่อไม่สามารถที่จะตีความคำว่า "ปรองดองสมานฉันท์โดยหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา" ได้ถูกต้อง ต่อให้ท่านทั้งหลายทุ่มเทงบประมาณไปช่วยเหลือในด้านอื่นมากเท่าไรก็ตาม ก็เป็นการ "ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ" เสียเปล่า ๆ..!

อย่างเช่นว่ามีการทุ่มงบประมาณลงไปในเรื่องของ Soft Power ถึง ๕,๐๐๐ ล้านบาท ขณะที่โครงการของเรานั้น เป็นการไปขุดเอา Soft Power ของทุกหมู่บ้าน ทุกตำบลออกมา เพื่อที่จะแปรเป็นมูลค่า สนับสนุนให้เกิดการพัฒนาหมู่บ้าน หรือว่าชุมชนนั้น ๆ สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ ถ้าหากว่าคิดกันอย่างไม่ลำเอียงแล้วจะเห็นว่า โครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ นั้น เป็นโครงการที่ใช้งบประมาณน้อยมาก แต่ว่าได้ผลมากมายมหาศาล โดยเฉพาะคณะกรรมการทั้งหมด ต้องเสียสละเดินทางมา และเดินทางกลับ โดยไม่มีงบประมาณสนับสนุนอื่นใด
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-07-2025 เมื่อ 00:30
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า 23-07-2025, 22:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,884
ได้ให้อนุโมทนา: 159,087
ได้รับอนุโมทนา 4,497,209 ครั้ง ใน 36,495 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

กระผม/อาตมภาพเองนั้น ก่อนหน้าใช้รถยนต์ติดแก๊สอยู่ เดินทางไปกลับ งบประมาณครั้งละ ๑,๐๐๐ บาทก็ยังพอเหลือบ้าง แต่ว่าในปัจจุบันนี้ รถยนต์ไปเข้าอู่ซ่อม ยืมรถคนอื่นเขาใช้ เติมน้ำมันทีหนึ่งก็ ๒,๐๐๐ กว่า ๓,๐๐๐ บาท วิ่งไปก็ใจหายไป เพราะว่างบประมาณจากที่ไปกลับอยู่ในวงเงินประมาณ ๑,๐๐๐ บาท หรือ ๑,๐๐๐ บาทนิด ๆ ตอนนี้กลายเป็น ๒,๐๐๐ ถึง ๒,๐๐๐ กว่าบาทไปแล้ว กว่าที่รถยนต์จะเสร็จ โครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ งวดนี้ รายจ่ายของกระผม/อาตมภาพน่าจะมากกว่าปีก่อนหลายเท่า..!

ในขณะเดียวกัน รถยนต์ที่ซ่อมอยู่ ช่างก็ประมาณงบออกมาแล้วว่าอยู่ที่ ๖๐,๐๐๐ บาท ปรากฏว่าท่านสมหมาย สุภาษิต รองผู้อำนวยการส่วนเผยแผ่ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ซึ่งครั้งก่อน กระผม/อาตมภาพพูดผิดไปเป็นท่านสมหมาย ภาษี ต้องขออนุญาตขออภัยต่อท่านสมหมาย ภาษีมา ณ ทีนี้ด้วย ท่านสมหมาย สุภาษิตใช้รถยนต์รุ่นเดียวกัน พังลักษณะเดียวกัน บอกมาว่าค่าซ่อม ๖๐,๐๐๐ บาทเหมือนกัน..! ก็ได้แต่ยิ้มแหย ๆ ให้กัน ประมาณว่าต่างคนต่างหาค่าซ่อมกันเอาเองตามอัธยาศัย..!

เมื่อถึงเวลาถ่ายรูปหมู่เป็นที่ระลึกแล้ว กระผม/อาตมภาพก็เดินทางฝ่าฝนพรำกลับเข้าสู่ที่พัก พรุ่งนี้ต้องไปตรวจยกชุมชนรักษาศีล ๕ ของจังหวัดสมุทรปราการต่อ วันนี้เมื่อถึงที่พักแล้ว ก็รีบบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนเอาไว้ก่อน

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพุธที่ ๒๓ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-07-2025 เมื่อ 00:32
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 07:56



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว