กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๘ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนกรกฎาคม ๒๕๖๘

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 03-07-2025, 17:11
พิชวัฒน์'s Avatar
พิชวัฒน์ พิชวัฒน์ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Aug 2014
ข้อความ: 533
ได้ให้อนุโมทนา: 3,308
ได้รับอนุโมทนา 26,187 ครั้ง ใน 1,021 โพสต์
พิชวัฒน์ is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๓ กรกฎาคม ๒๕๖๘

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๓ กรกฎาคม ๒๕๖๘


ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า เมื่อวานนี้, 04:04
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,729
ได้ให้อนุโมทนา: 158,674
ได้รับอนุโมทนา 4,491,616 ครั้ง ใน 36,339 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๓ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ เป็นวันขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๘ วันพระ อีก ๗ วันก็จะเข้าพรรษาแล้ว กระผม/อาตมภาพเดินทางไปถึงพุทธมณฑลประมาณตี ๕ ครึ่งเหมือนเดิม คราวนี้จอดรถอยู่ที่ทางออกข้างเต็นท์ศีล ๕ พูดง่าย ๆ ว่า "เมื่อวานโดนเขาไล่จนฉลาดขึ้นมา" เนื่องเพราะว่าพระเถระก็ดี องคมนตรีก็ตาม ท่านที่เพิ่งมาถึงใหม่ ก็จะเดินไปตรวจเยี่ยมนิทรรศการต่าง ๆ ของทั้ง ๘ ฝ่าย ทางผู้จัดงานจึงไม่อยากให้มีรถเกะกะอยู่แถวบริเวณด้านหน้าเต็นท์นิทรรศการ แล้วเจ้าหน้าที่ก็ไม่มีสถานที่ให้จอดเสียด้วย

เมื่อวานนี้กระผม/อาตมภาพจึงต้องไปจอดต่อท้ายรถตู้ซึ่งเขามีใบอนุญาตให้จอด เป็นอะไรที่ตลกมากตรงที่ว่า ใบอนุญาตให้จอดแห่งที่ ๑ ที่ ๒ ที่ ๓ ที่ ๔ ซึ่งได้แจกจ่ายออกไป แต่คนที่รู้ว่าที่จอดทั้ง ๔ แห่งอยู่ตรงไหนบ้างนั้นมีน้อยมาก ต้องวนกันจนท้อใจไปตาม ๆ กัน เมื่อมาวันนี้ กระผม/อาตมภาพเล็งแล้วว่าด้านทางออกนี้ดีที่สุด เนื่องเพราะว่าแค่ถอยหลังหน่อยเดียวก็หักขวาออกไปได้เลย ต่อให้โดนเขาไล่ ก็ถือโอกาสกลับที่พักเลย หมดเรื่องหมดราวไป..!

เมื่อเดินเข้าไปในเต็นท์นิทรรศการศีล ๕ ก็ไปเจอปูทูลกระหม่อม ซึ่งทางเจ้าของเต็นท์ภาคภูมิใจมาก บอกว่ามีแห่งเดียวในโลก ถึงขนาดปั้นเป็นโมเดลเล็ก ๆ ออกมาจำหน่าย ซึ่งมีทั้งแบบปั้นด้วยขี้เลื่อยและปั้นด้วยดินไทย ท่านทั้งหลายอาจจะไม่รู้จักคำว่า "ดินไทย"

ดินไทยนั้นก็คือดินที่ผ่านการย่ำละเอียดและกรองดีแล้ว หลังจากนั้นก็เอามาผสมกับขี้วัวหรือขี้ควาย เมื่อคนจนเข้ากันดีแล้ว ทำการกรองอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งการทำประณีตขนาดนี้ ส่วนใหญ่ก็จะเอาไว้พอกพิมพ์เพื่อหล่อพระ คาดว่าการที่ทำดินไทยเพื่อปั้นรูปปูนี้คงไม่ละเอียดขนาดนั้น

เจ้าของเต็นท์พูดน้ำไหลไฟดับ โดยที่กระผม/อาตมภาพบอกว่า "ที่วัดมีเยอะแยะไป" อีกฝ่ายตีให้ตายก็ไม่เชื่อ เพราะฝังหัวไปแล้วว่า "มีแห่งเดียวในโลก" กระผม/อาตมภาพก็ต้องปล่อยเขาไปตามทางของเขา เนื่องเพราะว่าที่เกาะพระฤๅษี และรอบบริเวณป่าสงวนเขาพระฤๅษี - เขาบ่อแร่นั้น มีแต่ปูทูลกระหม่อมนี้เต็มไปหมด พูดง่าย ๆ ว่าในบริเวณอำเภอทองผาภูมิ พื้นที่ป่าเขาส่วนใหญ่ก็จะมีปูชนิดนี้ เพียงแต่ว่าถ้าเป็นปูราชินี หรือว่าปู ๕ สีนั้น จะมีเฉพาะที่บริเวณ "พุปูราชินี" ตำบลห้วยเขย่งแห่งเดียวเท่านั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 02:27
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 27 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า เมื่อวานนี้, 04:06
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,729
ได้ให้อนุโมทนา: 158,674
ได้รับอนุโมทนา 4,491,616 ครั้ง ใน 36,339 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ครั้นประมาณ ๖ โมงเช้ากระผม/อาตมภาพก็เดินฝ่าฝนที่พรำไม่เลิกไปฉันภัตตาหารเช้าที่บริเวณอาคารหอฉันใหม่ เสร็จแล้วก็มาประจำที่อยู่ภายในเต็นท์ศีล ๕ จน ๘ โมงเช้า ถึงได้เข้าไปในหอประชุมใหญ่ โดยที่ตั้งใจจะนั่งอยู่แถวหลังสุด

ทางด้านหน้ามีแต่บรรดาครูพระสอนศีลธรรม พระวิปัสสนาจารย์ พระนักเทศน์โครงการทุนเล่าเรียนหลวงนั่งอยู่เต็มไปหมด แต่ท่านเจ้าคุณอาทิตย์ - พระโสภณวชิรวาที , ดร. (อาทิตย์ อตฺถเวที) แม่งานใหญ่เห็นเข้าพอดี พูดออกไมค์ว่า "นิมนต์หลวงพ่อพระครูวิลาศกาญจนธรรม เจ้าภาพใหญ่นั่งทางเก้าอี้พระเถระด้านหน้าเลยครับ หลวงพ่ออยู่ในระดับพ่อของครูพระสอนศีลธรรมแล้ว อย่าไปนั่งหลบอยู่ข้างหลัง ให้มานั่งทางด้านหน้า ให้ท่านที่ยังไม่รู้จักได้ชื่นชมบารมีบ้าง"

เท่านั้นก็เป็นเรื่อง เนื่องเพราะว่าทั้งพระที่เป็น FC วัดท่าขนุนก็ดี บรรดาพระภิกษุสามเณรที่ได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของกระผม/อาตมภาพมาก่อนก็ตาม ขอมาถ่ายรูปเป็นการใหญ่ แม้กระทั่งเจ้าหน้าที่สำนักงานองคมนตรี ก็ยังมาขอคำแนะนำในการปฏิบัติธรรม กระผม/อาตมภาพไม่ชอบอะไรที่วุ่นวายแบบนี้ แต่เมื่อแสงสป็อตไลท์ส่องลงมาแล้วจะทำอย่างไรได้ ก็ต้องปล่อยให้เขาถ่ายรูปไปจนครบ แล้วถึงจะหลบไปนั่งอยู่ทางด้านหลังที่นั่งพระเถระ

เจอท่านเจ้าคุณอาจารย์วัลลภ - พระราชวัชรธรรมวาที, รศ., ดร. (วัลลภ โกวิโล ป.ธ. ๘) ท่านเจ้าคุณอาจารย์ชัยวัฒน์ - พระเทพวชิรวาที (ชัยวัฒน์ ธมฺมวฑฺฒโน) เพิ่งจะคุยกันได้ไม่กี่คำ ท่านเจ้าคุณอาจารย์พระพรหมวัชรธีราจารย์ , ศ., ดร. (สมจินต์ สมฺมาปญฺโญ ป.ธ. ๙) องค์อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยก็มาถึง เมื่อกราบทักทายกันแล้ว ทั้งท่านและอาตมภาพก็ได้ถ่ายรูปร่วมกัน

คุยกันได้ไม่กี่คำ ท่านเจ้าคุณอาจารย์พระพรหมบัณฑิต (ประยูร ธมฺมจิตฺโต ป.ธ.๙) , ศ., ดร. แม่งานใหญ่ครั้งนี้ก็มา บอกว่า "ท่านมาทุกวันเลย ขอบคุณเป็นอย่างยิ่งที่ตั้งใจมาช่วยกัน" ยังไม่ทันคุยอะไรต่อก็มีมือมาจับแขนเขย่า หันไป ปรากฏว่าหลวงพ่อพิมพ์ - พระพรหมเสนาบดี (พิมพ์ ญาณวีโร ป.ธ. ๗) ที่ปรึกษามหาเถรสมาคม โผล่มาข้างหลังตอนไหนไม่รู้ ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 02:29
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 26 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า เมื่อวานนี้, 04:07
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,729
ได้ให้อนุโมทนา: 158,674
ได้รับอนุโมทนา 4,491,616 ครั้ง ใน 36,339 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลังจากที่กราบกรานกันตามธรรมเนียมเสร็จสรรพเรียบร้อย พลอากาศเอกชลิต พุกผาสุข องคมนตรี ประธานในงานวันนี้ก็มาถึง พร้อมทั้งท่านจิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา เจ้าของโครงการสืบสานงานพ่อ ต่อยอดทุนเล่าเรียนหลวงสำหรับพระสงฆ์ไทย

เพียงแต่ว่าวันนี้ "ปู่ชลิต" ของกระผม/อาตมภาพท่านเป็นประธานในงาน จึงได้ขึ้นไปจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย แล้วลงมาประเคนผ้าไตรพระราชทานและพัดรอง ให้กับนักเทศน์ทุนเล่าเรียนหลวง พระธรรมกถิกาจารย์ทุนเล่าเรียนหลวง ซึ่งทั้งสองอย่างก็คือการฝึกนักเทศน์เหมือนกัน แต่ว่าพระธรรมกถิกาจารย์ทุนเล่าเรียนหลวงเป็นของคณะสงฆ์ธรรมยุต และบุคลากรของหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ซึ่งแต่ละฝ่ายได้รับพระราชทานผ้าไตรฝ่ายละ ๕ รูป

หลังจากนั้น พระนักเทศน์ที่ได้รับการคัดตัวมาในวันนี้ของทางภาคกลาง ก็ขึ้นแสดงพระธรรมเทศนาก่อน ปรากฏว่าท่านตั้งใจมากจนเกินไป โดยเฉพาะปิดท้ายด้วยแหล่เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงทำให้มีข้อผิดพลาดเล็ก ๆ น้อย ๆ สำหรับบรรดา "เซียนนักเทศน์" ที่จับผิดได้อย่างแน่นอน

กระผม/อาตมภาพฟังแล้วยังชื่นชมว่าเสียงท่านดีมาก แต่ว่าการแหล่แบบนี้ขอเถอะ..กระผม/อาตมภาพไม่ทำแน่นอน..! ทั้ง ๆ ที่เคยฝึกเคยหัดมา แต่ด้วยความที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า "ห้ามภิกษุขับลำด้วยเสียงอันยาว" พระองค์ท่านบอกว่า "ผู้ขับลำก็หลงเสียงตนเอง ผู้ฟังก็หลงในเสียงนั้น" ซึ่งมีแต่โทษทั้งสิ้น..!

แต่ด้วยความที่ว่าวัฒนธรรมประเพณีของบ้านเรานั้น ในเรื่องของการเทศน์แหล่ โดยเฉพาะเทศน์มหาชาติ เป็นเรื่องที่สืบทอดกันมานับร้อย ๆ ปี พระนักเทศน์เก่ง ๆ บางรูป สามารถใช้เสียงตนเองทำเป็นเครื่องดนตรีได้แทบทุกชนิด ในเวลาที่ดนตรีประโคมเมื่อพระเวสสันดรเสด็จ เหล่านี้เป็นต้น เป็นเรื่องซึ่งควร
ที่จะอนุรักษ์เอาไว้ แต่ว่ากระผม/อาตมภาพไม่มีกำลังใจที่จะไปฝืนคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงได้แต่ปล่อยให้ท่านทั้งหลายที่มีกำลังใจนิยมในเรื่องนี้ ทำการแสดงพระธรรมเทศนาแบบแหล่ของท่านกันต่อไป
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 02:32
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 27 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า เมื่อวานนี้, 04:09
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,729
ได้ให้อนุโมทนา: 158,674
ได้รับอนุโมทนา 4,491,616 ครั้ง ใน 36,339 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อจบการเทศน์ลงแล้ว ท่านองคมนตรีก็ประเคนผ้าไตรไทยธรรม แล้วนักเทศน์ของปักษ์ใต้ก็ขึ้นเทศน์ต่อ เพราะว่าวันนี้มีเทศน์ ๔ ภาค ช่วงเช้าเทศน์เป็นภาษากลางกับภาษาใต้ ช่วงบ่ายเทศน์เป็นภาษาอีสานแล้วปิดท้ายด้วยภาษาเหนือ

ยังไม่ทันไร หลวงพ่อสัมฤทธิ์ (พระครูวิสุทธิ์สิทธิคุณ) เจ้าอาวาสวัดโกรกกราก รองเจ้าคณะจังหวัดสมุทรสาครก็มานั่งอยู่ข้าง ๆ กระซิบบอกว่า "นิมนต์หลวงพ่อเล็กช่วยปลุกเสกหลวงพ่อปู่ให้ในวันขึ้น ๑๐ ค่ำ เดือน ๙ ด้วยนะครับ" กระผม/อาตมภาพบอกว่า "ช่วงนั้นน่าจะเป็นช่วงตรวจงานโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ต้นแบบ อาจจะไม่ว่างก็ได้ครับ"

แต่เป็นเรื่องที่อัศจรรย์มาก เมื่อเปิดดูในโทรศัพท์มือถือแล้ว ปรากฏว่าว่างอยู่แค่วันเดียวเท่านั้น เมื่อชี้ให้ดู หลวงพ่อสัมฤทธิ์ท่านถึงกับพนมมือท่วมหัว บอกว่า "ผมขอไว้กับหลวงพ่อปู่แล้วว่า พระที่ผมต้องการให้มาปลุกเสก ขอให้นิมนต์ได้ทุกรูป" กระผม/อาตมภาพต้องยกมือสาธุตามไปด้วย

หลวงพ่อปู่ วัดโกรกกรากนั้น เป็นพระพุทธรูปองค์เดียวในประเทศไทยที่ใส่แว่นตาดำมาตลอด เนื่องเพราะว่าในสมัยก่อนมีโรคตาแดงระบาด ญาติโยมไปบนขอน้ำมนต์ท่านไปล้างหน้าล้างตา อธิษฐานขอให้หายจากโรค ถ้าหายแล้วจะถวายแว่นตาดำแก่หลวงพ่อปู่ ปรากฏว่าส่วนใหญ่ได้รับน้ำมนต์ไปแล้วก็หายเป็นปกติ ไม่ต้องใส่แว่นตาดำปกปิดดวงตาแดง ๆ แฉะ ๆ ของตนเอง จึงเอาแว่นตาดำไปใส่ถวายให้หลวงพ่อปู่ ซึ่งเป็นพระพุทธรูป

ตั้งแต่นั้นมา หลวงพ่อปู่ก็ใส่แว่นตาดำมาตลอด จนกระทั่งมีบางคนรำคาญว่าพระพุทธรูปอะไรใส่แว่นตาดำ แล้วไปนำออก ปรากฏว่าตนเองป่วยเป็นโรคตาแดงขึ้นมา จึงต้องเอาแว่นตาไปใส่คืนให้หลวงพ่อปู่ แล้วจึงหายจากโรคที่เป็น ต้องบอกว่าเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์มากรูปหนึ่ง

หลวงพ่อสัมฤทธิ์นั้น กระผม/อาตมภาพคุ้นเคยกับท่านมานานมาก แม้กระทั่งงานพระราชทานเพลิงศพของหลวงพ่อพระเทพเมธากร (ณรงค์ ปริสุทโธ ป.ธ. ๔) อดีตเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี งานพระราชทานเพลิงศพของพระมหาสันติ โชติกโร ป.ธ. ๙ อดีตรองเจ้าคณะอำเภอห้วยกระเจา ตลอดจนกระทั่งงานพระราชทานเพลิงศพ หลวงพ่อพระราชรัตนวิมล (พยุง ฐิตสีโล ป.ธ. ๔) อดีตเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรีรูปถัดจากหลวงพ่อณรงค์ ก็ได้รับความเมตตามอบเมรุลอยมาจากทางวัดโกรกกราก โดยที่หลวงพ่อสัมฤทธิ์มากำกับในการตั้งเมรุให้เอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 02:36
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 26 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า เมื่อวานนี้, 04:11
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,729
ได้ให้อนุโมทนา: 158,674
ได้รับอนุโมทนา 4,491,616 ครั้ง ใน 36,339 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

กระผม/อาตมภาพแอบยัดเงินให้บรรดาคนงานต่าง ๆ เป็นรางวัลคนละ ๑,๐๐๐ บาท ปรากฏว่าช่วงดึกเกือบ ๕ ทุ่ม คนงานท่านหนึ่งวิ่งรถเข้ามาในวัดท่ามะขาม เอาเงินกลับมาคืนให้..! บอกว่าพอหลวงพ่อสัมฤทธิ์รู้เข้าก็ไล่ให้เอามาคืนโดยด่วน ท่านสร้างเมรุลอยขึ้นมาเพื่อการสงเคราะห์ ต้องการบุญอย่างเดียว ถ้าหากว่าไปรับเงินมา แล้วบุญของท่านจะไม่บริสุทธิ์..!

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา กระผม/อาตมภาพก็แจ้งให้กับทางคณะสงฆ์จังหวัดกาญจนบุรีว่า "ถ้าขอเมรุลอยจากวัดโกรกกรากได้ ก็อย่าไปให้เงินคนงาน ไม่เช่นนั้นแล้วคนงานจะต้องเดือดร้อนแบบนี้อีก..!" เราจะเห็นว่ากำลังใจของหลวงพ่อสัมฤทธิ์นั้นอยู่กับบุญกับกุศลจริง ๆ กระผม/อาตมภาพถือว่าโชคดีมาก ที่ได้รู้จักกับพระสังฆาธิการซึ่งมีใจเป็นบุญเป็นกุศล มีกำลังใจสละตนเองเพื่อทำงานให้กับทางคณะสงฆ์แบบนี้

หลังจากที่ร่ำลาท่านแล้ว
กระผม/อาตมภาพไม่ได้อยู่ฟังการแหลงใต้ในการเทศน์บนธรรมาสน์ เนื่องเพราะว่าต้องกลับไปให้พรรคพวกเห็นหน้าที่เต็นท์หมู่บ้านรักษาศีล ๕ แล้วก็ไปซื้อเอาปูทูลกระหม่อมมา ๒ ตัว เขาคิดตัวใหญ่ ๘๐๐ บาท ตัวเล็ก ๕๐๐ บาท เนื่องเพราะว่าปั้นจากดินไทย ถ้าหากว่าเป็นขี้เลื่อยจะถูกกว่านี้เป็นครึ่ง ๆ

กระผม/อาตมภาพเองเห็นว่าเขาใส่กระจาดเล็ก ๆ มาด้วย จึงจ่ายเกินราคาไปให้ แล้วก็หอบเอาปูทั้ง ๒ ตัวกลับมา เผื่อว่าทางอำเภอทองผาภูมิจะทำตามบ้าง เนื่องเพราะว่าเขาบอกวิธีไว้โดยละเอียดแบบไม่หวงวิชา หรือว่าจะสั่งซื้อจากเขาในราคาขายส่ง แล้วนำไปขายต่ออย่างไรก็แล้วแต่จะบริหารจัดการกันเอง

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพฤหัสบดีที่ ๓ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 02:38
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 03:40



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว