#1
|
||||
|
||||
![]() เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๒ กรกฎาคม ๒๕๖๘
|
สมาชิก 26 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#2
|
||||
|
||||
![]()
วันนี้ตรงกับวันพุธที่ ๒ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ กระผม/อาตมภาพออกจากที่พัก มุ่งไปยังพุทธมณฑลตั้งแต่ตี ๕ เนื่องเพราะว่าเป็นวันแรกในการเปิดโครงการ "สืบสานงานพ่อ ต่อยอดทุนเล่าเรียนหลวงสำหรับพระสงฆ์ไทย" ซึ่งนอกจากจะมีพระมหาเถระระดับสมเด็จพระราชาคณะมาอย่างน้อย ๒ รูปแล้ว ยังมีองคมนตรีมาถึง ๓ ท่านด้วยกัน ถ้าหากว่าไปช้า อาจจะไม่มีที่จอดรถเหลืออยู่เลยก็ได้..!
ครั้นไปถึง หาที่จอดรถได้แล้ว ก็ไปเดินดูการจัดนิทรรศการต่าง ๆ ทั้ง ๘ ฝ่าย ซึ่งกระผม/อาตมภาพรับผิดชอบในส่วนของโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ด้วยหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา (หมู่บ้านรักษาศีล ๕) เมื่อได้อรุณแล้ว ก็ไปฉันเช้าที่ศาลาโรงทานแห่งใหม่ ซึ่งสร้างและมอบให้กับทางสำนักงานพุทธมณฑล โดยพระเดชพระคุณพระพรหมวชิรคุณาธาร (โกศล มหาวีโร) หรือหลวงพ่อเณร วัดศรีสุดาราม วรวิหาร ซึ่งกระผม/อาตมภาพเคยมาฉันภัตตาหารไปแล้วครั้งหนึ่ง ตอนที่เปิดใช้งานครั้งแรกเมื่อสองวันก่อน ก็คืองานพิธีพระราชทานสัญญาบัตร พัดยศ และผ้าไตร แก่พระครูสัญญาบัตรผู้ได้รับพระราชทานตั้ง และพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ ประจำปี ๒๕๖๗ เมื่อฉันเสร็จเรียบร้อยจึงมาทำการลงทะเบียนรับบัตรประจำตัว ซึ่งกระผม/อาตมภาพเองก็ไม่แน่ใจว่าตนเองมีบัตรประจำตัวกี่ใบกันแน่ ? เนื่องเพราะว่าโครงการนี้เป็นทั้งกรรมการหลัก เป็นทั้งอนุกรรมการ และเป็นทั้งฝ่ายปฏิบัติงาน จึงรับเอาเฉพาะบัตรประจำตัวฝ่ายปฏิบัติงาน ของโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ มาเท่านั้น จากนั้นก็เข้าไปในหอประชุมใหญ่ของพุทธมณฑล ซึ่งตอนนี้บรรดาพระสังฆาธิการก็ดี ผู้เข้ารับรางวัลในโครงการ วัด ประชา รัฐ สร้างสุข ด้วยหลัก ๕ ส. ก็ดี ตลอดจนกระทั่งข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ก็ทยอยกันมาแน่นไปหมด โดยมีหลวงพ่อพระครูวรกาญจนโชติ เจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ เข้ามาในฐานะผู้ที่รับรางวัลวัด ประชา รัฐ สร้างสุข ด้วยหลัก ๕ ส. ซึ่งชนะเลิศในระดับภาคของภาค ๑๔ มีพระครูกาญจนปริยัติคุณ วัดราษฎร์ประชุมชนาราม หรือวัดท่ามะขาม มีพระครูวิโรจน์กาญจนเขต, ผศ.ดร. วัดอุทยาน เหล่านี้เป็นต้น
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 01:03 |
สมาชิก 19 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#3
|
||||
|
||||
![]()
บรรดาพระมหาเถระทยอยกันเข้ามาทักทาย หลวงพ่อเจ้าคุณชัยวัฒน์ - พระเดชพระคุณพระเทพวชิรวาที (ชัยวัฒน์ ธมฺมวฑฺฒโน) วัดประยุรวงศาวาส วรวิหาร มาถึงก็พนมมือกราบอย่างงาม บอกว่า "ขอแสดงมุทิตาด้วยครับ" ทำเอาทุกคนหัวเราะ เนื่องเพราะว่าสนิทสนมคุ้นเคยกันมาเกือบ ๓๐ ปีแล้ว ถึงเวลาท่านก็ล้อเล่นเป็นสนุก ทำเอาคนอื่นมองกระผม/อาตมภาพด้วยสายตาแปลก ๆ
หลวงพ่อเจ้าคุณอาจารย์สง่า - พระราชวัชรธรรมภาณี, ดร. (สง่า สุภโร) วัดชลประทานรังสฤษดิ์ ท่านเจ้าคุณอาจารย์เคยสอนเทศน์ให้กระผม/อาตมภาพมาตั้งแต่สมัยท่านยังเป็นพระครูสีลวัฒนาภิรม เจ้าอาวาสวัดปัญญานันทาราม ท่านมาถึง กระผม/อาตมภาพลุกให้นั่ง ท่านบอกว่า "ไม่ต้อง" แล้วท่านก็เดินไปหาที่นั่งของตนเอง สรุปว่าลุกให้พระมหาเถระรูปใดนั่ง ท่านก็ไม่ยอมนั่ง อาจจะเป็นเพราะว่ากระผม/อาตมภาพเลือกที่นั่งแถวสุดท้ายก็ได้ หรือว่าบางท่าน อย่างท่านเจ้าคุณอาจารย์สมคิด (พระธรรมวชิรจินดาภรณ์, รศ.,ดร.) อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย เจ้าคณะภาค ๑ - ๒ - ๓ (ธ) ผู้ช่วยเลขานุการในสมเด็จพระสังฆราช ซึ่งเพิ่งได้รับสถาปนาขึ้นเป็นรองสมเด็จพระราชาคณะที่พระพรหมวชิรเมธาภรณ์ (สมคิด จินฺตามโย) ท่านมาถึงก็นั่งลงคุยด้วย ท่านเจ้าคุณอาจารย์เจอหน้าเมื่อไร ก็ขออนุญาตกราบก่อนทุกครั้งตามพระธรรมวินัย เนื่องเพราะว่าท่านมีอายุกาลพรรษาน้อยกว่า เป็นพระมหาเถระที่น่ารักมาก ๆ จนท้ายที่สุด กระผม/อาตมภาพหนีไปไหนไม่ได้ เพราะบรรดาพระมหาเถระไม่ยอมให้ขยับ จึงนั่งคุยกับหลวงพ่อเจ้าคุณแก้ว - พระราชวชิรสุตาภรณ์ (พนม รตนาโภ) เจ้าคณะจังหวัดนครปฐม เจ้าอาวาสวัดบางช้างเหนือ รักษาการเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง (พระอารามหลวง) ชี้ให้ท่านดูบรรดาพระมหาเถระ ผู้มีศีลาจารวัตรงดงามมาก ๆ พร้อมกับปรารภว่า ในส่วนที่เสียหายมีไม่ถึง ๑ เปอร์เซ็นต์ บุคคลที่ตั้งหน้าตั้งตาทำงานมีมากมายนับไม่ถ้วน แต่นิสัยคนเรา ทำไมกลายเป็นแมลงวันกันหมด ? ก็คือชอบตอมแต่ของที่เน่าเสีย ไม่ยอมเป็นผึ้ง ซึ่งบินไปเก็บเอาน้ำหวานหรือเกสรจากดอกไม้ ที่มีแต่ความหอมหวานและน่ากิน อาจจะเป็นเพราะว่าบุคคลส่วนใหญ่ยังเป็นมิจฉาทิฏฐิ เห็นผิดเป็นชอบอยู่ก็ได้..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 01:06 |
สมาชิก 20 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#4
|
||||
|
||||
![]()
สักครู่หนึ่ง ท่านเจ้าคุณอาจารย์ประยูร - พระพรหมบัณฑิต, ศ., ดร. (ประยูร ธมฺมจิตฺโต ป.ธ. ๙, Ph.D.) กรรมการมหาเถรสมาคม ก็มาถึง กระผม/อาตมภาพลุกขึ้นแสดงความเคารพ ท่านถามว่า "ท่านมาถึงเมื่อไร ?" กราบเรียนท่านว่า "กระผมลงทะเบียนตอน ๗ โมงเช้าครับ" ทำเอาท่านเจ้าคุณอาจารย์ร้อง "โอ้โฮ..ไกลขนาดท่านนี่นะ มาลงทะเบียนตอน ๗ โมงเช้า ออกมาตี ๒ ตี ๓ เลยหรือเปล่า ?" กราบเรียนท่านว่า "เปล่าครับ เพราะว่ามาจากวัดอุทยานตอนตี ๕ นี่เอง" ท่านบอกว่า "อย่างนั้นก็เถอะ..ถือว่ามาเช้ามากแล้ว"
ครั้นได้เวลา พระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (สุชิน อคฺคชิโน) เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช กรรมการมหาเถรสมาคม ก็มาเป็นประธานในงาน โดยมีศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์เกษม วัฒนชัย องคมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ "สืบสานงานพ่อ ต่อยอดทุนเล่าเรียนหลวงสำหรับพระสงฆ์ไทย" ท่านองคมนตรีตั้งข้อสังเกตว่า การที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระปฐมบรมราชโองการ ในวันพระราชพิธีบรมราชาภิเษกว่า "เราจะสืบสาน รักษา และต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป" หมายความว่าพระองค์ท่านจะปฏิบัติตามรอยของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดยเฉพาะการเป็นผู้อุปถัมภกในพระพุทธศาสนา โดยจะสืบสาน ก็คือกระทำต่อไป รักษา ก็คือทำให้มั่นคงยิ่งขึ้น ต่อยอด ก็คือทำให้เจริญงอกงาม ในเมื่อเป็นเช่นนั้น จึงเกิดโครงการสืบสานงานพ่อ ต่อยอดทุนเล่าเรียนหลวงนี้ขึ้นมา โดยที่ท่านทั้งหลายได้ช่วยกันจัดงานออกมาถึง ๘ ฝ่ายด้วยกัน ทำให้เห็นว่าหลักธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรานั้น ไม่ว่าจะสงเคราะห์เข้ากับโครงการใด ก็ล้วนแล้วแต่ได้ทั้งสิ้น โดยเฉพาะของเรามีทั้งโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ด้วยหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา (หมู่บ้านรักษาศีล ๕) โครงการหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบล โครงการ วัด ประชา รัฐ สร้างสุข โครงการพระธรรมจาริกทุนเล่าเรียนหลวง โครงการทุนเล่าเรียนหลวงระดับอุดมศึกษา ทั้งมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย โครงการพระนักเทศน์ทุนเล่าเรียนหลวง โครงการพระธรรมกถิกาจารย์ทุนเล่าเรียนหลวง เหล่านี้เป็นต้น
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 01:09 |
สมาชิก 20 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#5
|
||||
|
||||
![]()
ล้วนแล้วแต่อยู่ในลักษณะของการ สืบสาน ก็คือกระทำให้ต่อเนื่องจากครูบาอาจารย์ตั้งแต่โบราณถึงปัจจุบัน รักษา คือพยายามดูแลเอาไว้ให้ดีให้งามเหมือนเดิม และ ต่อยอด คือทำให้งอกเงยขึ้นมา พวกท่านทั้งหลายจึงเป็นผู้ที่เสียสละและกระทำตาม ทั้งสิ่งที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสอน และทำตามสนองพระบรมราโชวาทในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เมื่อท่านทำพิธีเปิดเสร็จสิ้นแล้วก็เป็นการเจริญพระพุทธมนต์ ถวายผ้าไตรพระราชทานและพัดรองแก่บุคคลฝ่ายต่าง ๆ ซึ่งคัดเอาบุคคลที่มีความรู้ความสามารถโดดเด่นในฝ่ายนั้น ๆ ทั้ง ๘ ฝ่ายขึ้นมารับ แล้วก็ต่อด้วยท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ทำพิธีมอบโล่รางวัล และพัดรางวัลโครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุข ซึ่งมีทั้งต้นแบบระดับหน ๑๘ วัด และต้นแบบระดับจังหวัด ๑๙๙ วัด กระผม/อาตมภาพทนอยู่ถึงตรงนี้ก็ทำท่าจะไม่ไหว เนื่องเพราะว่าพักผ่อนไม่พอ ประกอบกับอากาศในหอประชุมใหญ่พุทธมณฑลนั้น เครื่องปรับอากาศตั้งไว้เย็นมาก ๆ ทำท่าว่ามาลาเรียจะกำเริบแล้ว จึงได้ขอตัวกับพระมหาเถระรอบข้าง เดินออกมาทางด้านนอก หาน้องเล็ก (นางสาวจิราพร ซื่อตรงต่อการ) ที่รอรับคำสั่งอยู่ บอกว่า "นำรถออก..กลับเลย ถ้าขืนช้ามีหวังได้ขายหน้าชาวบ้าน หรือทำให้เขาตกอกตกใจกันแน่..!" เมื่อเดินทางกลับถึงที่พักแล้ว จึงได้ส่งข้อความไปถึงพระครูวิโรจน์กาญจนเขต , ผศ., ดร. เจ้าอาวาสวัดอุทยาน บอกว่ากระผม/อาตมภาพออกมาข้างนอกแล้ว จะฉันเพลที่วัดของท่าน ส่วนท่านถ้าหากว่ายังมีภารกิจก็ทำหน้าที่ของท่านต่อไป เมื่อได้ฉันภัตตารหารเพล และพักผ่อนไปประมาณ ๑ ชั่วโมง อาการทุกอย่างเริ่มเข้าที่เข้าทาง จึงได้ลุกขึ้นมาลงบัญชีต่าง ๆ เนื่องเพราะว่าสิ้นเดือนมาแล้วยังทำไม่สำเร็จ ครั้นได้เวลาจึงมาบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนให้ท่านทั้งหลายได้ฟังอยู่ในขณะนี้ สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้ พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๒ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 01:11 |
สมาชิก 22 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
![]() |
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 2 คน ( เป็นสมาชิก 1 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
ธนทัต |
คำสั่งเพิ่มเติม | |
|
|