กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๘ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนมิถุนายน ๒๕๖๘

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 11-06-2025, 17:07
พิชวัฒน์'s Avatar
พิชวัฒน์ พิชวัฒน์ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Aug 2014
ข้อความ: 521
ได้ให้อนุโมทนา: 3,308
ได้รับอนุโมทนา 25,791 ครั้ง ใน 1,009 โพสต์
พิชวัฒน์ is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๑๑ มิถุนายน ๒๕๖๘

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๑๑ มิถุนายน ๒๕๖๘


ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 12-06-2025, 00:41
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,629
ได้ให้อนุโมทนา: 158,513
ได้รับอนุโมทนา 4,488,274 ครั้ง ใน 36,238 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพุธที่ ๑๑ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๘ กระผม/อาตมภาพเดินทางไปยังหอประชุมพระเทพศาสนาภิบาล วัดไร่ขิง (พระอารามหลวง) ตำบลไร่ขิง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐมแต่เช้า เพื่อเข้าร่วมทำวัตรเช้าและเจริญพระกรรมฐาน กับบรรดาผู้เข้าอบรมเจ้าอาวาสใหม่ ในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค ๑๔ รุ่นที่ ๔/๒๕๖๘ โดยมีท่านเจ้าคุณอาจารย์สุวิทย์ - พระศรีวิสุทธิวงศ์, ดร. (สุวิทย์ ปวิชฺชญฺญู ป.ธ. ๙) รองเจ้าคณะจังหวัดนครปฐม เป็นผู้นำในการทำวัตรเช้าและเจริญพระกรรมฐาน

หลังจากนั้นแล้วก็ไปฉันเช้าร่วมกัน โดยที่พระเดชพระคุณพระราชวชิรโมลี (สมชาย พุทฺธญาโณ ป.ธ. ๗) รักษาการเจ้าคณะภาค ๑๔ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตาราม เดินทางมาถึงตอนกำลังจะฉันเช้าพอดี จึงได้กราบเรียนท่านว่า "หลังจากฉันเช้าเสร็จแล้ว จะขออนุญาตนิมนต์หลวงพ่อไปรับปัจจัยสนับสนุนงาน ๑๐๐,๐๐๐ บาท ที่ทางด้านหน้าเวทีด้วยขอรับ" ท่านบอกว่า "ขอบใจมากที่ยังช่วยเหลืองานคณะสงฆ์ตามปกติ" จึงได้กราบเรียนท่านไปฉันเช้าไปว่า "กระผมเป็นคนที่แยกแยะออกครับ ว่าอะไรเป็นเรื่องส่วนบุคคล อะไรเป็นเรื่องของวัด อะไรเป็นเรื่องของคณะสงฆ์"

แต่ว่าพระภิกษุสามเณรและญาติโยมจำนวนหนึ่งแยกแยะไม่ออก ยังมีการสอบถามกระผมว่า "ทางวัดเขามีเรื่องอื้อฉาวขนาดนี้แล้ว หลวงพ่อยังไปทำบุญอยู่ด้วยอีกหรือ ?" ท่านเจ้าคุณรักษาการภาคก็ได้แต่ยิ้ม ๆ อยู่ในลักษณะประมาณว่า "เรื่องแบบนี้พูดยาก" ก็เพราะว่าญาติโยมของเราส่วนใหญ่แม้ว่าจะเป็นพุทธศาสนิกชน แต่ก็ "ตื่นข่าว" เป็นอย่างยิ่ง..!

จนกระทั่งปัจจุบันนี้ บรรดาผู้ที่ทำการจับกุมอดีตท่านเจ้าคุณแย้ม - พระธรรมวชิรานุวัตร, ดร. (แย้ม กิตฺตินฺธโร) ก็ชักจะหาทางลงไม่เจอ เนื่องเพราะว่าตอนแรกตั้งธงไว้เรื่องพัวพันกับเว็บพนันออนไลน์ ถึงขนาดมีเส้นทางการเงิน ๑๐๐ ล้าน ๑,๐๐๐ ล้าน จนมาถึงปัจจุบัน ข่าวคราวก็ไปว่าซุกสมบัติเอาไว้ ๒,๐๐๐ กว่าล้าน แต่ตอนนี้ที่สืบสวนออกมาก็มีเงินที่ออกไปจากทางวัดโดยตรง มีแค่ ๑๔ ล้านเท่านั้น..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-06-2025 เมื่อ 01:22
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 12-06-2025, 00:48
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,629
ได้ให้อนุโมทนา: 158,513
ได้รับอนุโมทนา 4,488,274 ครั้ง ใน 36,238 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

จะว่าไปแล้ว เรื่องพวกนี้ทำให้นึกถึงคำพูดของพลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ อดีตนายกรัฐมนตรีที่ว่า "ก่อนพูดเราเป็นนายของคำพูด เมื่อพูดไปแล้ว คำพูดเป็นนายของเรา" ตั้งธงเอาไว้ใหญ่โตมโหฬาร สืบไปแล้วไม่มีความเชื่อมโยงเลยแม้แต่น้อย แต่ฉายา "แย้มบาคาร่า" หรือ "แย้ม ๘๘๘" ก็โด่งดังไปทั่วประเทศไทยแล้ว และที่แย่ที่สุดก็คือจับท่านสึกไปแล้ว ถ้าหากว่าถึงเวลาไม่สามารถที่จะฟ้องร้องท่านได้ แล้วจะไปคืนสถานภาพให้กับท่านได้อย่างไร ?

ตอนนี้จะว่าไปแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ยังรู้สึกว่า
บ้านเราเมืองเรานั้นมักจะทำอะไรตามกระแสสังคมมากจนเกินไป แล้วกระแสสังคมแต่ละอย่าง ถึงเวลาก็คิดเองเออเอง ไปกันใหญ่โตจนกระทั่งทำให้เกิดความเสียหายกับพระศาสนาอย่างยิ่ง แล้วตอนนี้มีใครที่ออกมาเปิดเผยว่า เงินทองที่อดีตท่านเจ้าคุณแย้มเอาไปจากวัดไร่ขิง (พระอารามหลวง) ก็คือยอด ๑๔ ล้าน ? แล้วบรรดาสมบัติต่าง ๆ ที่บอกว่าซุกอยู่ ก็เป็นสิ่งที่ท่านทำเพื่อประโยชน์คณะสงฆ์ทั้งนั้น แล้วในขณะเดียวกัน ความเชื่อมโยงกับเว็บพนันออนไลน์ก็ไม่มี ตอนที่ลงข่าวเอามัน เพื่อเอายอดวิว ยอดไลค์ ก็ซัดกันกระจาย แต่พอถึงเวลา ไม่มีใครออกมาชี้แจงเลยว่าความจริงตอนนี้เป็นอย่างไร ?!!

เมื่อปรารภกันแล้วก็กลับเข้าไปสู่ห้องประชุม เพื่อทำพิธีปฐมนิเทศบรรดาเจ้าอาวาสใหม่ ซึ่งพระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณรักษาการเจ้าคณะภาคได้ให้โอวาทเป็นเวลา ๑ ชั่วโมง กระผม/อาตมภาพกระซิบบอกท่านเจ้าคุณอาจารย์สุวิทย์ว่า "ผมเองไม่ค่อยพูดอะไรยาว ๆ หรอกครับ ส่วนใหญ่ก็บอกกับพระใหม่ของเราว่า ไม่ว่าคุณจะศึกษาเล่าเรียนมาขนาดไหนก็ตาม ต้องรู้จักละอายชั่ว กลัวบาป รักศีลของตนเอง ถ้ารู้ว่าตนเองไม่สามารถสร้างความเจริญให้กับพระพุทธศาสนาได้ ก็อย่าทำสิ่งที่เป็นการทำให้พระพุทธศาสนาล่มจมลงไปเพราะเรา" ท่านเจ้าคุณอาจารย์สุวิทย์ยกมือสาธุท่วมหัว อยู่ในเชิงรับรองว่า สิ่งที่กระผม/อาตมภาพพูดมานั้นถูกต้องแล้ว

เมื่อท่านรักษาการเจ้าคณะภาคปฐมนิเทศจบก็เป็นพิธีเปิด โดยพระเดชพระคุณพระเทพสาครมุนี (สมบูรณ์ ปญฺญาวุโธ ป.ธ. ๙) ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค ๑๔ ท่านได้ให้โอวาท โดยยกเอาเนื้อหาตำราต่าง ๆ มากล่าวเป็นจำนวนมาก แต่สรุปได้ว่า การเป็นเจ้าอาวาสนั้น จะต้องทำให้วัดมีสระน้ำ มีต้นยอ และมีกอไผ่
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-06-2025 เมื่อ 01:25
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 12-06-2025, 00:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,629
ได้ให้อนุโมทนา: 158,513
ได้รับอนุโมทนา 4,488,274 ครั้ง ใน 36,238 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

คำว่าสระน้ำก็คือต้องทำให้คนอยู่ด้วยรู้สึกเย็นกายเย็นใจ ไม่ว่าจะเป็นพระภิกษุสามเณร หรือว่าญาติโยมก็ตาม

คำว่าต้นยอก็คือ เขาทำความดีก็ชื่นชมให้กำลังใจเขาบ้าง

ส่วนกอไผ่นั้นก็คือ ต้องใช้แขนงไผ่ในการลงโทษตามความหนักเบาของแต่ละท่านที่กระทำ แล้วก็ให้ลงโทษชัดเจน ในลักษณะที่สมกับโทษานุโทษของแต่ละท่าน ไม่ใช่ลำเอียง คนโน้นหนัก คนนี้เบา ใครไม่ใช่พวกเราก็ลงโทษหนัก ใครเป็นพวกเรา ถึงทำผิดมากก็ลงโทษเบา ถ้าเสียความยุติธรรมในลักษณะอย่างนั้น เราเองก็จะเอาพระเณรทั้งหลายไม่อยู่ ถ้าเอาพระเณรซึ่งมีศีลเป็นเครื่องคุ้มไม่อยู่ ก็อย่าหวังเลยว่าจะไปเอาญาติโยมที่ไม่ค่อยจะมีศีลให้อยู่ได้..!


เมื่อถึงเวลา ๑๐ โมง กระผม/อาตมภาพก็กราบลาหลวงพ่อเจ้าคุณแก้ว - พระราชวชิรสุตาภรณ์ (พนม รตนาโภ) เจ้าคณะจังหวัดนครปฐม เพื่อนร่วมรุ่นเรียนของตนเอง หลวงพ่อเจ้าคุณปัญญา - พระเดชพระคุณพระเทพปริยัติโสภณ, ดร. (ปัญญา วิสุทฺธิปญฺโญ ป.ธ. ๙) เจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งนั่งอยู่ติดกัน บอกว่าขออนุญาตไปบรรยายถวายความรู้ แก่ผู้เข้ารับการอบรมเพื่อเพิ่มศักยภาพพระสังฆาธิการ ที่สถาบันพระสังฆาธิการ อำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี แล้วก็ไปกราบลาหลวงพ่อรักษาการเจ้าคณะภาค

เมื่อเดินทางไปจนกระทั่งใกล้ถึงจังหวัดราชบุรี จึงแวะซื้อข้าวกล่องที่ร้านสะดวกซื้อฉัน แล้วเดินทางไปถึงสถาบันพระสังฆาธิการเป็นเวลาเที่ยง เข้าไปจัดการเตรียมการบรรยาย โดยยืมเครื่องโน้ตบุ๊กของทางสถาบัน ตลอดจนกระทั่งติดตั้งระบบต่าง ๆ โดยที่ตนเองพกเอาเครื่องบันทึกข้อมูล คือแฟล็ชไดร์ฟมาตัวเดียวเท่านั้น

หลังจากที่บรรยายไปเกี่ยวกับเรื่องศาสนศึกษา โดยสรุปลงมาว่า ไม่ว่าจะศึกษาสูงขนาดไหนก็ตาม ถ้าปราศจากความละอายชั่วกลัวบาป ไม่รักศีลของตนเอง ก็มีแต่จะเอาความรู้ไปทำชั่วได้เนียนขึ้น..! อยู่ในลักษณะคล้ายกับบรรดาทนายความ ที่ศึกษากฎหมายเพื่อหาช่องว่างรอยโหว่ สร้างประโยชน์ให้แก่ตนเองและลูกความ ลักษณะนั้นทางบาลีเรียกว่า อลคัททูปมปริยัติ คือการเรียนเหมือนกับการจับงูข้างหาง มีแต่จะโดนงูแว้งกลับมากัดบาดเจ็บล้มตายเสียเปล่า ๆ..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-06-2025 เมื่อ 01:28
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 12-06-2025, 01:01
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,629
ได้ให้อนุโมทนา: 158,513
ได้รับอนุโมทนา 4,488,274 ครั้ง ใน 36,238 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

การเรียนแบบเสมอตัวก็คือ การเรียนแบบภัณฑาคาริกปริยัติ คือเรียนเหมือนห้องสมุดเก็บความรู้ พร้อมที่จะนำขึ้นมาประพฤติปฏิบัติเพื่อตนเอง หรือว่าพร้อมที่จะถ่ายทอดให้กับผู้อื่นต่อไป

แต่ถ้าจะเอาให้ก่อประโยชน์แก่ตนจริง ๆ ก็ต้องเรียนแบบนิสสรณัตถปริยัติ คือนำมาประพฤติปฏิบัติจนกระทั่งเกิดผล ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ตนเอง แล้วก็สร้างประโยชน์ให้กับชนหมู่มาก สร้างความสุขให้กับชนหมู่มาก และอนุเคราะห์ให้แก่โลกทั้งหลาย

จึงขอย้ำกับท่านทั้งหลายว่า
สิ่งที่พวกเราเรียนในปัจจุบันนี้เลยหัวไปมาก เลยความต้องการไปมาก แค่ท่านทั้งหลายละอายชั่ว กลัวบาป รักศีลของตนเอง เรื่องวุ่นวายต่าง ๆ ในคณะสงฆ์ของเราก็จะไม่เกิดขึ้น

ดังนั้น..ทำอย่างไรที่ท่านทั้งหลายจะทำตนให้เป็นผู้ที่น่าเชื่อถือ ? ก็ต้องประพฤติวัตรปฏิบัติธรรม อยู่ในลักษณะ "ทำวัตรสวดมนต์ ท่องบ่นภาวนา ศึกษาเล่าเรียน พากเพียรปฏิบัติ" ไม่เช่นนั้นแล้วคนเขาก็จะไม่เลื่อมใส อย่างที่โบราณกล่าวเอาไว้ว่า "มีบาตรไม่โปรด มีโบสถ์ไม่ลง มีอาบัติไม่ปลง แล้วจะเป็นสงฆ์ได้อย่างไร ?"

อย่าเพิ่งรีบร้อนในการสร้างผลงาน อย่าอยากดังเร็ว ค่อย ๆ สร้างสมคุณงามความดีของเราไป พอความดีปรากฏชัดแก่ญาติโยม คราวนี้การสนับสนุนทุกอย่างก็จะมาเอง "สิ่งที่เราพูด ญาติโยมเขาฟัง แต่สิ่งที่เราทำ ญาติโยมเขาถึงจะเชื่อ" ต้องเป็นผู้ไม่มีหน้าไม่มีหลัง อยู่ในลักษณะ ยถาวาที ตถาการี พูดอย่างไรก็ทำอย่างนั้น ยถาการี ตถาวาที ทำอย่างไรก็พูดอย่างนั้น เราจึงจะกลายเป็นที่พึ่ง เป็นผู้นำที่ญาติโยมเขาเชื่อถือ ช่วยกันสร้างความเจริญให้กับพระพุทธศาสนาสืบไป

หลังจากที่เซ็นรับค่าบรรยายแล้ว กระผม/อาตมภาพก็มอบคืนให้กับนายพิบูลย์ สมประสงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดราชบุรี เพื่อใช้ประโยชน์ในการฝึกอบรมต่อไป แล้วก็ขอลาเพื่อเดินทางกลับสู่ที่พัก พรุ่งนี้ก็ต้องเดินทางไปร่วมทำวัตรเช้า และปฏิบัติธรรมกับเจ้าอาวาสใหม่ที่วัดไร่ขิง (พระอารามหลวง) ต่อไป

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพุธที่ ๑๑ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-06-2025 เมื่อ 01:30
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 22:52



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว