กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๘ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนมิถุนายน ๒๕๖๘

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 08-06-2025, 18:05
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,959
ได้ให้อนุโมทนา: 225,550
ได้รับอนุโมทนา 804,482 ครั้ง ใน 39,576 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๘ มิถุนายน ๒๕๖๘

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๘ มิถุนายน ๒๕๖๘


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 41 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 08-06-2025, 23:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,633
ได้ให้อนุโมทนา: 158,514
ได้รับอนุโมทนา 4,488,308 ครั้ง ใน 36,242 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ ๘ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๘ กระผม/อาตมภาพเดินทางกลับถึงวัดท่าขนุน ก็ออกบิณฑบาตไม่ทันเสียแล้ว เนื่องเพราะว่าเมื่อวานนี้ พลขับต้องขับรถต่อเนื่องทั้งไปและกลับประมาณ ๘ ชั่วโมง จึงเกิดอาการสลบไสลไม่ได้สติ..! ไม่สามารถที่จะตื่นตี ๓ ได้ตามที่นัดกันเอาไว้ จึงต้องปล่อยให้นอนเลยตามเลย ตื่นแล้วค่อยเดินทางกลับวัดท่าขนุน แต่น่าเสียดายว่าไปไม่ทันบิณฑบาตเช้า

เมื่อไปถึง เก็บข้าวของเรียบร้อยแล้ว ถึงมีเวลามาดูแลจัดการเงินต่าง ๆ ที่รับมาในช่วงงานเป่ายันต์เกราะเพชร ไม่ว่าจะเป็นเงินสังฆทาน หรือว่าเงินจากการจำหน่ายวัตถุมงคล ส่วนที่น่าคิดมากที่สุดก็คืองานนี้ธนบัตรใบละ ๑๐๐ บาท ใบละ ๕๐ บาท และใบละ ๒๐ บาทมีมากเป็นพิเศษ เป็นเครื่องที่วัดได้อย่างชัดเจนว่า
การทำบุญของญาติโยมนั้นลดน้อยถอยลง เนื่องเพราะว่าสภาพเศรษฐกิจต่าง ๆ ไม่อำนวย จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องระมัดระวังค่าใช้จ่ายไว้ก่อน

ยกเว้นคณะของคุณทิปะกร ไซยะวงศ์แสง จากประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ที่ถวายเงินทำบุญทุกอย่างมา ๑ ล้านบาท และถวายเงินส่วนตัวมา ๑ แสนบาท

สรุปว่าญาติโยมที่มารับยันต์เกราะเพชร ๔ - ๕ พันคน ทำบุญแล้วยังรวมเกือบจะไม่ได้เท่ากับคนทำบุญคนเดียว..! ต้องบอกว่า
บุคคลที่มีความคล่องตัวทางเศรษฐกิจ ก็ยังคงสามารถที่จะทำบุญได้เหมือนเดิม แต่บุคคลที่ไม่มีความคล่องตัวระดับนั้น อย่างไรก็ต้องระมัดระวังค่าใช้จ่ายเอาไว้ก่อนโดยไม่ประมาท เมื่อหักค่าใช้จ่ายแล้ว ก็เหลือรายรับอยู่ที่ประมาณ ๒ ล้านเศษ ๆ เท่านั้น

เรื่องพวกนี้ ญาติโยมที่กำลังมองวัดมองพระสงฆ์ในแง่ร้าย ไม่เคยคิดมาถึงตรงนี้ว่า แต่ละวัด แต่ละแห่งนั้น มีรายจ่ายต่าง ๆ อยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าใช้จ่ายในการดูแลวัด ค่าใช้จ่ายในการบูรณะของเก่า เสริมสร้างของใหม่

ตลอดจนกระทั่งค่าใช้จ่ายของบุคลากรต่าง ๆ ที่อยู่ภายในวัด ซึ่งโดยนิสัยของกระผม/อาตมภาพแล้วก็ไม่ชอบใช้ใครฟรี ในเมื่อเป็นเช่นนั้น จึงมีรายจ่ายในแต่ละเดือนเป็นจำนวนมาก ยังดีที่ว่ากระผม/อาตมภาพสามารถจัดการเรื่องเงินทองได้อย่างเด็ดขาด เมื่อมาเป็นเจ้าอาวาสก็ไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับเงินเก่า ๆ เลยแม้แต่บาทเดียว พูดง่าย ๆ ว่าหาเงินใช้เอง..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-06-2025 เมื่อ 01:34
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 08-06-2025, 23:42
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,633
ได้ให้อนุโมทนา: 158,514
ได้รับอนุโมทนา 4,488,308 ครั้ง ใน 36,242 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เนื่องเพราะว่าเงินวัดส่วนใหญ่นั้น จะไปตกอยู่ในมือของผู้มีอิทธิพลท้องถิ่น ซึ่งยัดเยียดตัวเองเข้ามาเป็นไวยาวัจกรบ้าง เป็นกรรมการวัดบ้าง เมื่อถึงเวลาวัดมีงาน ไม่ว่าจะเป็นกฐิน ผ้าป่า หรือว่างานเทศกาลใด ๆ ก็ตาม รายจ่ายก็ไม่ได้สนใจจะช่วยวัดจ่าย แต่รายรับเข้ามาเมื่อไรก็เก็บกวาดเอาไว้จนหมดเกลี้ยง โดยอ้างว่านำไปเก็บรักษาไว้บ้าง นำไปเข้าบัญชีให้กับวัดบ้าง แล้วก็ไม่เคยที่จะได้คืนอีกเลย ส่วนใหญ่ก็จะนำไปใช้จ่ายเองบ้าง นำไปปล่อยกู้ออกดอกบ้าง..!

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ถ้าเจ้าอาวาสไม่มีความสามารถเฉพาะตัว ก็ย่อมไม่สามารถที่จะทำอะไรได้เลย พูดง่าย ๆ ว่ากลายเป็นทาสหาเงินให้ "ขาใหญ่" ทั้งหลายเหล่านี้ไปใช้จ่ายกัน แบบชนิดที่ฟุ่มเฟือยร่ำรวยไปตาม ๆ กัน..!

เมื่อกระผม/อาตมภาพมาเป็นรองเจ้าอาวาส ก็เห็นอยู่ในลักษณะแบบนี้ จึงได้บอกกับท่านอาจารย์สมพงษ์ (พระสมุห์สมพงษ์ เขมจิตฺโต) เจ้าอาวาสในยุคนั้น แต่ว่าท่านอาจารย์สมพงษ์เป็นเด็กของอำเภอทองผาภูมิ บรรดาขาใหญ่ทั้งหลายส่วนใหญ่ก็เป็นผู้อาวุโสระดับปู่ ระดับพ่อทั้งนั้น จึงไม่สามารถที่จะจัดการอะไรได้ จนกระทั่งท่านต้องสึกหาลาเพศไป ทิ้งเงินวัดเอาไว้แปดแสนกว่าบาท..!

กระผม/อาตมภาพก็ไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวอะไรกับเงินวัดส่วนนั้นเลย ยกเว้นเงินทุนการศึกษา ที่ท่านอาจารย์สมพงษ์ได้ตั้งเอาไว้ตามหน้าที่ เป็นเงินจำนวน ๖๐,๐๐๐ กว่าบาท กระผม/อาตมภาพไปขอเปลี่ยนชื่อบัญชีเป็นชื่อของตนเอง ปรากฏว่าทางธนาคารแห่งนั้นไม่ยอมเปลี่ยนให้ โดยที่บอกว่า "ต้องเอาลายเซ็นของเจ้าของบัญชีเดิมมาก่อน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-06-2025 เมื่อ 01:36
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 08-06-2025, 23:44
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,633
ได้ให้อนุโมทนา: 158,514
ได้รับอนุโมทนา 4,488,308 ครั้ง ใน 36,242 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ท่านอาจารย์สมพงษ์นั้น เมื่อสึกหาลาเพศแล้วก็หายไปจากยุทธจักรไปนาน กว่าจะมาปรากฏตัวอีกทีก็เกือบจะ ๘ เดือนให้หลัง เมื่อกระผม/อาตมภาพได้ลายเซ็นไปแล้ว ทางด้านธนาคารบอกว่า "ไม่เหมือน" ไม่ยอมทำเอกสารให้..!

กระผม/อาตมภาพก็เลยโวยขึ้นมากลางธนาคารว่า "ถ้าไม่ทำให้ อาตมาก็จะทิ้งบัญชีนี้ไปเลย..!" ทำเอาสมุห์บัญชีธนาคารต้องปรากฏตัวออกมา บอกว่า "ท่านจะทิ้งบัญชีนี้ได้อย่างไร ?" กระผม/อาตมภาพบอกว่า "อย่างเก่งก็ฉีกโยนลงถังขยะ เงินแค่ ๖๐,๐๐๐ กว่าบาท หลังตู้เย็นของอาตมามีมากกว่านั้นอีก..!" อีกฝ่ายหนึ่งได้ฟังก็เลยต้องยอมทำเอกสารให้

แต่กระผม/อาตมภาพไม่ขอฝากกับธนาคารแบบนี้
อีกแล้ว จึงเบิกออกมาจนหมด แล้วไปเปิดบัญชีใหม่กับธนาคารอีกแห่งหนึ่งแทน และคิดอยู่ในใจว่า "ถ้าคุณทำงานแบบนี้ ไปไม่รอดแน่นอน..!" ท้ายสุดปรากฏว่าไม่รอดจริง ๆ โดนควบรวมกิจการกับธนาคารอีกแห่งหนึ่ง แต่น่าจะดำเนินการเหมือนเก่าก็เลยไปไม่รอดอีก ก็เลยต้องไปควบรวมกับอีกธนาคารเป็นแห่งที่ ๓..!

แต่ว่าปัจจุบันนี้ สาขาทองผาภูมิก็ไปไม่รอด ต้องปิดทิ้งไปเลย..! ใครที่ต้องการทำธุรกรรม ต้องวิ่งเป็นระยะทาง ๑๔๐ กิโลเมตร ลงไปยังกาญจนบุรีเพื่อทำธุรกรรมการเงิน ไปกลับรวม ๒๘๐ กิโลเมตร ก็แล้วแต่เวรแต่กรรมของท่านเหล่านั้นที่รักมั่นไปก็แล้วกัน..!

เมื่อกระผม/อาตมภาพได้รับตราตั้งเจ้าอาวาสเต็มตัวแล้ว ก็ได้ทำการประชุมคณะกรรมการวัด ซึ่งท่านอาจารย์พระสมุห์สมพงษ์ได้ตั้งเอาไว้ ๗๒ คน ปรากฏว่ามีมาประมาณ ๓๐ คนเท่านั้น..!

กระผม/อาตมภาพกางระเบียบ ตลอดจนกระทั่งข้อกฎหมายให้ดูว่า
ไวยาวัจกรและกรรมการวัดนั้น ทุกคนจะต้องพ้นตำแหน่งตามเจ้าอาวาสไปโดยกฎหมาย แต่เนื่องจากว่าทุกคนได้ช่วยเหลือทางวัดท่าขนุนมาโดยตลอด กระผม/อาตมภาพก็จะแต่งตั้งใหม่ กลับคืนไปในตำแหน่งเดิมทุกคน และขอทำการประชุมกรรมการวัด เพื่อที่จะชี้แจงและพิจารณาการทำกิจการต่าง ๆ ทุกเดือน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-06-2025 เมื่อ 16:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 08-06-2025, 23:45
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,633
ได้ให้อนุโมทนา: 158,514
ได้รับอนุโมทนา 4,488,308 ครั้ง ใน 36,242 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อแจ้งไปแล้วกระผม/อาตมภาพก็ได้ทำการตามนั้น แต่ปรากฏว่ากรรมการวัดทั้ง ๗๒ คนนั้น มีมาประมาณ ๓๐ คนบ้าง ไม่ถึง ๓๐ คนบ้าง กระผม/อาตมภาพก็แจ้งให้ทราบทุกครั้งที่ประชุมว่า "ใครมีใจให้กับทางวัด อาตมภาพก็ยินดีที่จะรับให้เป็นกรรมการวัดต่อไป แต่ถ้าใครไม่มีใจให้กับทางวัด ถึงเวลาอาตมภาพก็จะตัดหางทิ้งไปเลยเหมือนกัน..!"

ครั้นครบ ๓ ปีแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ได้ออกคำสั่งเจ้าอาวาส ยกเลิกการแต่งตั้งไวยาวัจกร ตลอดจนกระทั่งคณะกรรมการวัดทั้ง ๗๒ คน แล้วแต่งตั้งใหม่เฉพาะผู้ที่มาประชุมทุกครั้งเท่านั้น ซึ่งเหลืออยู่ไม่ถึง ๓๐ คนดี..! ปรากฏว่ากลายเป็น "ผึ้งแตกรัง" เพราะว่าส่วนใหญ่เป็นนักการเมืองท้องถิ่น ถ้าหากว่าไม่ได้เป็นกรรมการวัดใหญ่แบบวัดท่าขนุน ซึ่งเป็นวัดหลักของทางอำเภอแล้ว เท่ากับว่าเขาสูญเสียฐานเสียงไปส่วนหนึ่ง แต่ละคนจึงวิ่งมาวัดเพื่อขอร้องให้กระผม/อาตมภาพแต่งตั้งใหม่..+

แต่กระผม/อาตมภาพนั้นบอกว่า "ให้โอกาสพวกคุณมา ๓ ปีแล้ว ในเมื่อคุณไม่มีเวลาให้กับทางวัด ก็จะไม่แต่งตั้งใหม่ ปล่อยให้คุณไปทำงานของคุณให้เต็มที่ ขอบใจที่ยังมีใจให้กับทางวัด แต่ไม่อยากทำให้คุณต้องลำบากใจ ในการที่ทำงานตัวเองด้วย แล้วต้องมาเหนื่อยยากกับงานวัดด้วย ขอให้คุณทำงานส่วนตัวของคุณให้ดีก็แล้วกัน"

หลังจากนั้นกระผม/อาตมภาพก็
ออกระเบียบวัด "ห้ามบอกบุญ ห้ามเรี่ยไร" ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ทุกคนตอนแรกก็ยังมีการ "ลองของ" ก็คือถึงเวลาก็นำเอาผ้าป่ามาวัด กระผม/อาตมภาพบอกว่า "ไม่ได้สั่งให้ไปหา เพราะฉะนั้น..เอากลับไปทอดที่วัดไหนก็ได้ ทางวัดท่าขนุนไม่รับ..!" เจอเข้าไป ๒ - ๓ ราย ท้ายสุดเรื่องการเรี่ยไรไม่เป็นที่ไม่เป็นทาง ไม่เป็นเวล่ำเวลา ก็หมดไป การออกซองฎีกาเพื่อเรี่ยไรก็ไม่มี เนื่องเพราะว่าเจ้าอาวาสวัดท่าขนุนออกเป็นระเบียบวัดไปแล้วว่า "ห้ามบอกบุญ ห้ามเรี่ยไร"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-06-2025 เมื่อ 01:45
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า 08-06-2025, 23:48
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,633
ได้ให้อนุโมทนา: 158,514
ได้รับอนุโมทนา 4,488,308 ครั้ง ใน 36,242 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

กระผม/อาตมภาพก็อาศัยการรับสังฆทาน ไม่ว่าจะเป็นที่บ้านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ แล้วมาที่บ้านวิริยบารมี ตลอดจนกระทั่งบ้านเติมบุญ นำเอาปัจจัยที่ได้รับจากญาติโยม มาทำการบูรณปฏิสังขรณ์วัด ส่งเสียให้พระภิกษุสามเณรได้รับการศึกษา และมอบทุนการศึกษาให้กับโรงเรียนต่าง ๆ ในอำเภอทองผาภูมิ

ปัจจุบันนี้ พระภิกษุสามเณรทั้งอำเภอ ถ้าหากว่าใครต้องการที่จะเรียนที่วิทยาลัยสงฆ์กาญจนบุรีศรีไพบูลย์ กระผม/อาตมภาพจะถวายค่ารถให้รูปละ ๓,๐๐๐ บาทต่อเดือน แล้วมาภายหลังได้มีการตั้งห้องเรียนวัดปรังกาสีขึ้นมา เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเดินทางไกล กระผม/อาตมภาพก็เหมาจ่ายค่าเทอม ในระดับประกาศนียบัตรบริหารกิจการคณะสงฆ์ เทอมละ ๕ แสนกว่าบาทให้ไปจนกระทั่งเรียนจบ..!

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เขาไม่มีส่วนในการยุ่งเกี่ยวกับเงินวัด และเงินเก่า ๆ กระผม/อาตมภาพก็ไม่ไปทวงถามแม้แต่บาทเดียว ให้แต่ละคน "ทำตาใส" ไม่รู้ไม่ชี้ "ในเมื่อเอ็งไม่รู้ได้ ข้าก็ไม่รู้ด้วย" ข้าก็ไม่ได้คิดที่จะง้อ..! ถึงเวลาเมื่อปิดบ้านเติมบุญแล้ว ญาติโยมทั้งหลายก็ยังคงทำบุญเข้ามา อยู่ในลักษณะของบัญชีบริจาคออนไลน์ ซึ่งผูกอยู่กับทางกรมสรรพากร ทำให้ทางวัดพอที่จะมีค่าน้ำค่าไฟบ้าง

ในส่วนอื่น ๆ ที่ใช้จ่ายอยู่ กระผม/อาตมภาพเมื่อออกกิจนิมนต์ได้มา ก็นำมาใช้จ่ายในส่วนนั้น ตลอดจนกระทั่งมีการสร้างวัตถุมงคลตามวาระ ญาติโยมทั้งหลายก็พร้อมใจกันทำบุญมา จึงทำให้วัดท่าขนุนสามารถที่จะฝ่าฟันอุปสรรคต่าง ๆ มาจนถึงปัจจุบันนี้ได้

แต่เมื่อมาเห็นการทำบุญในงานเป่ายันต์เกราะเพชรแล้วก็สะท้อนใจ แม้ว่าอาตมภาพพยายามที่จะแบ่งเบาภาระญาติโยมต่าง ๆ ไม่ว่าการทำมาหากินของผู้ใหญ่ ทุนการศึกษาของเด็ก ๆ ก็ตาม แต่เมื่อเห็นธนบัตรใบละ ๒๐ บาท ใบละ ๕๐ บาท ใบละ ๑๐๐ บาท มีจำนวนมากมาย แต่ว่าใบใหญ่กว่านั้นแทบจะไม่ได้มองเห็นเลย ก็ทำให้เข้าใจถึงความลำบากของทุกคนเป็นอย่างดี

ก็ได้แต่
ขอให้ทุกท่านตั้งอกตั้งใจภาวนาพระคาถาเงินล้าน ให้ได้วันละ ๑๐๘ จบ ภาวนาเป็นพระกรรมฐานส่วนตัวไปเลย ไม่ต้องไปเร่งรัด แต่ทำให้มีคุณภาพเข้าไว้ เพื่อที่เราจะได้ผ่านวาระอันยากลำบากใน ๕ ปีนี้ ตามที่ครูบาอาจารย์ท่านได้บอกเอาไว้ โดยที่ไม่ต้องลำบากมากเหมือนกับคนอื่นเขา

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอาทิตย์ที่ ๘ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)

__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-06-2025 เมื่อ 01:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 03:39



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว