กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๘ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนมิถุนายน ๒๕๖๘

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 03-06-2025, 17:02
พิชวัฒน์'s Avatar
พิชวัฒน์ พิชวัฒน์ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Aug 2014
ข้อความ: 521
ได้ให้อนุโมทนา: 3,308
ได้รับอนุโมทนา 25,791 ครั้ง ใน 1,009 โพสต์
พิชวัฒน์ is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๓ มิถุนายน ๒๕๖๘

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๓ มิถุนายน ๒๕๖๘


ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 04-06-2025, 00:18
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,629
ได้ให้อนุโมทนา: 158,513
ได้รับอนุโมทนา 4,488,274 ครั้ง ใน 36,238 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันอังคารที่ ๓ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๘ เป็นวันขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๗ วันพระ กระผม/อาตมภาพฝ่าฝนกลับทองผาภูมิตั้งแต่ตี ๒ กว่า เพื่อที่จะไปให้ทันงานพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ซึ่งจัดโดยที่ว่าการอำเภอทองผาภูมิ นำโดยนายชาคริต ตันพิรุฬห์ นายอำเภอทองผาภูมิ

ปรากฏว่าสามารถที่จะไปถึงก่อนเวลาเล็กน้อย และก่อนพระเถระรูปอื่นอีก ๒ - ๓ รูป ในจำนวนพระเถระทรงสมณศักดิ์ ซึ่งทางที่ว่าการอำเภอทองผาภูมิได้นิมนต์เอาไว้จำนวน ๑๐ รูป

ด้วยความที่ทองผาภูมินั้น ถึงเวลาฤดูฝน ฝนฟ้าก็จะตกกระหน่ำแบบไม่ไว้หน้าใคร จึงทำให้พวกเราต้องเจริญพระพุทธมนต์กันท่ามกลางฝนที่ตกกระหน่ำดังสนั่นหวั่นไหว แม้กระทั่งตอนที่ท่านชาคริต ตันพิรุฬห์ นายอำเภอทองผาภูมิ นำหัวหน้าส่วนราชการและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ใส่บาตรเพื่อถวายพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ฝนก็ตกกระหน่ำลงมา จนเต็นท์ที่ตั้งไว้ให้ใส่บาตรนั้น ไม่สามารถที่จะป้องกันได้ โดยเฉพาะในช่วงรอยต่อระหว่างเต็นท์ กระผม/อาตมภาพจึงรับทั้งข้าวสารอาหารแห้ง และรับน้ำฝนไปด้วย เนื่องเพราะว่าเดินผ่านเมื่อไร จะมากจะน้อยฝนก็ต้องตกลงในบาตร..!

หลายท่านก็เป็นกังวลว่ากระผม/อาตมภาพเดินทางดึก ๆ ดื่น ๆ เพื่อที่จะไปให้ทันงาน ท่ามกลางความมืดและฝนที่ตกหนักแบบนี้ จะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย แต่ท่านทั้งหลายต้องเข้าใจว่า กระผม/อาตมภาพนั้นจัดงานคณะสงฆ์เอาไว้เหนือกว่ากิจนิมนต์ทั่วไป แต่ถ้าหากว่ามีงานในรั้วในวัง โดยเฉพาะฎีกาหลวงมาเมื่อไร ต่อให้เป็นงานคณะสงฆ์ กระผม/อาตมภาพก็ต้องวางมือไป เพื่อที่จะไปตามฎีกาหลวงนั้น ๆ

เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ตลอดจนกระทั่งพระบรมวงศานุวงศ์นั้น ได้ทรงอุปถัมภ์พระพุทธศาสนามาตั้งแต่ต้น พูดง่าย ๆ ว่า
"พระพุทธศาสนาของเราจะยืนหยัดมั่นคงได้ ก็ด้วยการอุปถัมภ์ค้ำชูจากสถาบันพระมหากษัตริย์
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-06-2025 เมื่อ 02:09
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 04-06-2025, 00:23
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,629
ได้ให้อนุโมทนา: 158,513
ได้รับอนุโมทนา 4,488,274 ครั้ง ใน 36,238 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เรื่องนี้ขอเท้าความไปถึงเวสารัชชกรณธรรม ซึ่งตรัสโดยองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ว่าสิ่งที่ก่อให้เกิดความกล้าหาญของบุคคลทั่วไปนั้นประกอบด้วย

๑) ศรัทธา คือ ความเชื่อความเลื่อมใสในสิ่งที่ตนเองยึดมั่นไว้ เป็นหลักใจและหลักชัยของแต่ละคน


๒) ศีล คือ การรักษาศีลยิ่งชีวิต จนกระทั่งมั่นใจในคุณงามความดีเฉพาะของตน

๓) พาหุสัจจะ คือ การศึกษามามาก มีความรู้มาก ก็ทำให้เกิดความกล้าหาญขึ้นมาได้

๔) วิริยารัมภะ คือ ความพากเพียรในการศึกษาเรียนรู้และปฏิบัติให้เกิดผลจริง

๕) ปัญญา คือ ความรู้แจ้ง ถ้าหากเราเห็นอย่างชัดเจนว่าสภาพของร่างกายนี้มีความเกิดขึ้นในเบื้องต้น เปลี่ยนแปลงในท่ามกลาง สลายไปในที่สุด ท้ายที่สุด ไม่มีอะไรให้ยึดมั่นถือมั่นได้ ต้องล้มหายตายจากกันไป เราก็จะไม่ยึดมั่นถือมั่นในร่างกายนี้


การที่ไม่ยึดมั่นถือมั่นในร่างกายเพราะเห็นธรรมดาว่า ร่างกายนี้ถึงเวลาต้องตายจากไปแน่นอน
เมื่อไม่กลัวตายก็ไม่กลัวทุกสิ่งทุกอย่าง ดังนั้น..ปัญญาที่รู้แจ้งเห็นจริงจึงเป็นส่วนสำคัญที่สุด ในการก่อให้เกิดความกล้าขึ้นมาในใจของตน โดยเฉพาะในส่วนของบุคคลที่เห็นอย่างชัดเจนว่าร่างกายนี้ไม่ใช่เราไม่ใช่ของเรา

คราวนี้กล่าวย้อนกลับไปถึงข้อที่ ๑ ก็คือ ศรัทธา ความเชื่อนั้น ครูบาอาจารย์ท่านอธิบายไว้ว่า อันดับแรกคือ ความเชื่อมั่นในคุณพระรัตนตรัย ท่านทั้งหลายเหล่านี้เป็นบุคคลที่เชื่อมั่นในสิ่งที่ดีและถูกต้อง ทำให้มีความมั่นคงมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่า เรามีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งที่ระลึก ย่อมสามารถกำจัดทุกข์กำจัดภัยได้จริง โดยเฉพาะภัยในวัฏสงสาร จึงทำให้ท่านทั้งหลายเหล่านี้มีความกล้าหาญเหนือกว่าผู้อื่น

ข้อที่สองคือ เชื่อมั่นในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ คำว่า "สิ่งศักดิ์สิทธิ์" ในที่นี้ก็คือ บรรดาเครื่องรางของขลัง วัตถุมงคลต่าง ๆ ที่เราอาศัยในการคุ้มครองป้องกันตนเองมา โดยเฉพาะถ้ามีประสบการณ์เอง หรือได้ยินประสบการณ์จากผู้อื่น ก็จะทำให้เกิดความเชื่อมั่นแกล้วกล้าขึ้นมาว่า จะอยู่ในสถานการณ์ใดก็ตาม สิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้นย่อมสามารถที่จะคุ้มครองป้องกันเราให้พ้นภัยไปได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-06-2025 เมื่อ 02:14
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 04-06-2025, 00:26
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,629
ได้ให้อนุโมทนา: 158,513
ได้รับอนุโมทนา 4,488,274 ครั้ง ใน 36,238 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ข้อที่สามคือ เชื่อมั่นในผู้นำ ก็คือผู้นำซึ่งมีบารมี มีความสามารถ ทำให้ผู้ตามเกิดความเชื่อถือขนาดมอบกายถวายชีวิตให้ อย่างเช่นที่เราเห็นว่า พระมหากษัตริย์ก็ดี บรรดาขุนทัพนายกองต่าง ๆ ก็ตาม ที่มีความสามารถนำทหารหาญออกศึก ทหารสามารถออกรบแบบมอบกายถวายชีวิตให้ เนื่องเพราะเชื่อมั่นว่าผู้นำของตนนั้น สามารถที่จะนำชัยชนะมาสู่ฝ่ายตนได้ หรือว่าต่อให้ต้องเสียชีวิตลงไป ก็มั่นใจว่าผู้นำจะอนุเคราะห์สงเคราะห์ให้ครอบครัวของตนเองอยู่ดีมีสุข ไม่ต้องยากลำบาก

ข้อสุดท้ายคือ ความเชื่อมั่นในตนเอง เกิดจากการประพฤติวัตรปฏิบัติธรรม โดยเฉพาะการรักษาศีลและเจริญภาวนา ยิ่งเรามีความมั่นคงในศีลเท่าไร ก็ยิ่งเกิดความแกล้วกล้าในสังคมเท่านั้น เพราะมั่นใจว่าเราไม่ต่ำกว่าใคร

คำว่า "ไม่ต่ำกว่าใคร" ในที่นี้ก็คือคุณงามความดีในตัวเอง แล้วถ้ายิ่งสามารถที่จะสร้างสมาธิของตนเองให้เกิดขึ้นได้ สมาธิยิ่งสูงส่งเท่าไร กำลังใจก็เข้มแข็งเข้มข้นมากเท่านั้น ก่อให้เกิดความมั่นใจว่า ความรู้ที่เราศึกษามานี้ สามารถที่จะป้องกันรักษาตนเองได้อย่างแน่นอน

เมื่อบุคคลทั้งหลายมีความเชื่อไปในด้านเดียวกัน เมื่อรวมกลุ่มกันมาก ๆ ขึ้นมา ก็ต้องมีผู้นำเกิดขึ้น ดังนั้น..เราจะเห็นว่า เมื่อพุทธศาสนิกชนทั้งหลายเชื่อถือ และปฏิบัติตามคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อรวมตัวกันมาก ๆ เข้า มีผู้นำออกมาแสดงตนว่าเป็นฝ่ายเดียวกัน โดยการอุปถัมภ์ค้ำชูพระพุทธศาสนา เราท่านทั้งหลายก็จะเคารพยกย่องท่าน เพราะเห็นว่าเป็นพวกเดียวกัน จึงมีการเชื่อถือและปฏิบัติตามสิ่งที่ท่านชี้นำอย่างแน่นแฟ้น ทำให้เกิดความสามัคคีเป็นปึกแผ่นขึ้นมา

เราจึงจะเห็นได้ว่าในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์นั้น ศาสนาซึ่งเป็นข้อกลางนั้นมาก่อน ก็คือความเชื่อถือต่าง ๆ ของพุทธศาสนิกชน เมื่อความเชื่อถือของบุคคลเหมือน ๆ กัน ทำให้เห็นว่าเป็นพวกพ้องเดียวกัน รวมตัวกันขึ้นมา ผู้นำเล็งเห็นด้วยปัญญาว่า ถ้าสนับสนุนความเชื่อของเขา เขาก็จะสนับสนุนตนเองด้วย

ดังนั้น..องค์พระมหากษัตริย์จึงทรงเป็นศาสนูปถัมภก คือผู้อุปถัมภ์ค้ำจุนพระพุทธศาสนา ทำให้ผู้คนเทิดทูนท่านอยู่เหนือเศียรเหนือเกล้า มีความรักใคร่สามัคคีกลมเกลียว เพราะว่ามีหลักยึดเดียวกัน ก็คือศาสนาและพระมหากษัตริย์ จึงเกิดเป็นชาติที่เข้มแข็ง เป็นประเทศที่มั่นคงขึ้นมาได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-06-2025 เมื่อ 02:17
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 04-06-2025, 00:29
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,629
ได้ให้อนุโมทนา: 158,513
ได้รับอนุโมทนา 4,488,274 ครั้ง ใน 36,238 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น สิ่งหนึ่งประการใดที่เกี่ยวข้องด้วยสถาบันพระมหากษัตริย์ บรรดาพระภิกษุสงฆ์สามเณรทั้งหลายจึงยกเอาไว้ว่า เป็นสิ่งสำคัญที่สุด ซึ่งจะต้องปฏิบัติก่อนเรื่องอื่น จึงทำให้กระผม/อาตมภาพที่ได้รับฎีกานิมนต์ ไปเจริญพระพุทธมนต์นวัคคหายุสมธัมม์ ถวายสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาที่พุทธมณฑล

แล้วค่ำมืดเดินทางกลับยาก จึงทำให้ต้องพักอยู่ที่วัดอุทยาน ตำบลบางขุนกอง อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรีก่อน หลังจากนั้น ตี ๒ ครึ่งจึงได้ตื่นขึ้นมาเก็บข้าวของขึ้นรถ วิ่งฝ่าฝนและความมืดกลับสู่อำเภอทองผาภูมิ เพื่อมาให้ทันฎีกานิมนต์ของทางที่ว่าการอำเภอทองผาภูมิด้านนี้

ต้องบอกว่าเป็นสิ่งที่สมควรต้องทำเป็นอย่างยิ่ง เพราะว่าทั้งสองแห่งนั้น ก็คือที่ว่าการอำเภอทองผาภูมิ ได้มีพระราชพิธีบำเพ็ญกุศลเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินีเช่นกัน และบุคคลน้อยนักซึ่งจะได้รับฎีกานิมนต์ทั้งสองแห่ง ในเมื่อเป็นเช่นนั้น คนส่วนน้อยอย่างกระผม/อาตมภาพก็ต้องทนลำบากในการเดินทาง


แต่ว่าเพื่อสถาบันพระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย โดยเฉพาะผู้ที่ได้รับการระบุตัวจากที่ว่าการอำเภอทองผาภูมิ ก็คือพระเถระผู้ได้รับการเคารพนับถือยิ่งในพื้นที่ทั้งนั้น จึงจำเป็นที่จะต้องไปร่วมงานและปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชน เพื่อรวมกำลังใจทุกคนให้เป็นปึกแผ่น แล้วในขณะเดียวกัน ก็ได้ร่วมกันแสดงออกซึ่งความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ด้วย ดังที่ได้อธิบายมาทั้งหมดทั้งสิ้นตั้งแต่ต้นจวบจนบัดนี้

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอังคารที่ ๓ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-06-2025 เมื่อ 02:19
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 22:52



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว