กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๘ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนพฤษภาคม ๒๕๖๘

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 31-05-2025, 19:47
พิชวัฒน์'s Avatar
พิชวัฒน์ พิชวัฒน์ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Aug 2014
ข้อความ: 516
ได้ให้อนุโมทนา: 3,308
ได้รับอนุโมทนา 25,599 ครั้ง ใน 1,004 โพสต์
พิชวัฒน์ is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๖๘

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๖๘


ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 31-05-2025, 23:04
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,578
ได้ให้อนุโมทนา: 158,412
ได้รับอนุโมทนา 4,486,327 ครั้ง ใน 36,187 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ ๓๑ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ ตรงกับขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๗ อีก ๑๐ วันจะเป็นวันเกิดของกระผม/อาตมภาพ เพราะว่าเกิดวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๗ ประมาณ ๓ - ๔ ปี จะมีวันเกิดครั้งหนึ่ง เพราะว่า ๓ - ๔ ปี ถึงจะมีวันวิสาขบูชาที่ตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๗

คราวนี้การจัดงานบวงสรวงไหว้ครูและเป่ายันต์เกราะเพชรของเราปีนี้ มาอยู่ในช่วงมรสุมเข้าพอดี ฝนตกต่อเนื่องทั้งวันทั้งคืนมาเป็นอาทิตย์แล้ว กระผม/อาตมภาพจึงต้องขอบารมีพระและเจ้าที่ ช่วยสงเคราะห์
ไม่ให้ฝนตกในช่วงเป่ายันต์เกราะเพชรด้วย ไม่เช่นนั้นถ้าฝนตก ญาติโยมไม่ยอมออกจากศาลา กิจกรรมต่าง ๆ ก็จะไปต่อได้ยาก แล้วก็เป็นไปตามที่ขอ คือฝนไม่ตกในช่วงนั้น

แต่ญาติโยมที่เดินทางกลับ ถ่ายรูป
มาให้ดูและแจ้งว่าทางด่วนพิเศษสาย เอ็ม ๘๑ กลายเป็นทะเล..! ฝนตกหนักจนมองไม่เห็นทาง รถส่วนใหญ่ต้องจอดชิดข้างทาง ไม่สามารถที่จะขับต่อได้ ซึ่งถ้าเป็นคนเก่า ๆ ที่อยู่มานานก็จะรู้ เขามักจะเตือนกันว่า "ถ้างานวัดท่าขนุนตรงกับหน้าฝน หลังงานให้รีบหนีให้เร็วที่สุด ไม่อย่างนั้นเจอฝนแน่นอน..!" ความจริงแล้วการอนุเคราะห์สงเคราะห์ของพระ หรือครูบาอาจารย์ท่านก็ไม่ได้ให้เปล่า ๆ เพราะว่าต้องไปฝืนธรรมชาติ ก็แปลว่าเราน่าจะต้องบิณฑบาตแบบเปียก ๆ กันไปอีกหลายวัน..!

การเป่ายันต์เกราะเพชรครั้งนี้ บุคคลที่โดนไสยศาสตร์มามีน้อย เราจะเห็นว่าบางปีพวกโดนไสยศาสตร์ร้องแข่งกันเหมือนวงดนตรีออเครสตร้า..! แต่งานนี้แทบจะกลายเป็น "โซโล่" แสดงเดี่ยว ก็เพราะว่าส่วนใหญ่ที่คิดว่าตนเองโดนไสยศาสตร์นั้น เกิดจากวัยทอง ฮอร์โมนพร่อง เมื่อเกิดอาการแปลก ๆ กับตนเองแล้วไม่ยอมไปหาหมอ กลับมานั่งคิดเองเออเองว่าโดยคุณไสย แต่พอมาเข้าพิธีก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น..!?

ถ้ายอมไปหาหมอรับฮอร์โมน รับวิตามินมากิน ก็หายดีไปตั้งแต่แรกแล้ว แต่ส่วนใหญ่แล้วมักจะรับความจริงไม่ได้ ไม่ทราบเหมือนกันว่าอยากโดนคุณไสยเพื่อความเท่หรืออย่างไร ? ถึงได้ไม่ยอมไปหาหมอ ไปปักใจว่าตนเองโดนคุณไสย

แบบเดียวกับครอบครัวหนึ่งซึ่งพาลูกสาววัยรุ่นมาหา บอกกับกระผม/อาตมภาพว่าลูกสาวโดนผู้ชายทำคุณไสยจนหนีไปอยู่กับเขา กระผม/อาตมภาพดูแล้วไม่เห็นมีอะไร จึงได้บอกว่า "ไม่ใช่คุณไสย แต่เป็นผีกิเลสชักนำ" แต่พ่อแม่เขาก็ยืนยันว่าให้รดน้ำมนต์ให้ลูกหน่อย กระผม/อาตมภาพจึงบอกกับเด็กไปว่า "ขอโทษด้วยอีหนู ที่ต้องทำให้เปียก แต่พ่อแม่แกไม่เชื่อ คิดว่าแกโดนคุณไสย หลวงพ่อจะรดน้ำมนต์ให้ กลับบ้านแล้วก็หนีไปอยู่กับผู้ชายตามเดิมก็แล้วกัน..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-06-2025 เมื่อ 01:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 31-05-2025, 23:10
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,578
ได้ให้อนุโมทนา: 158,412
ได้รับอนุโมทนา 4,486,327 ครั้ง ใน 36,187 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เนื่องเพราะว่าหลายบ้าน สถานการณ์ในบ้านตัวเองเครียด ผู้ใหญ่มักจะบีบคั้นเด็ก โดยที่ลืมไปว่าตัวเองก็เคยเป็นวัยรุ่นมาก่อน เมื่อเด็กอยู่บ้านแล้วเครียด ไม่สบายใจ มีคนแสดงความเห็นอกเห็นใจก็รู้สึกว่าดีกว่าอยู่บ้าน จึงหนีออกจากบ้านไปอยู่กับเขา พ่อแม่ที่คิดว่าลูกเป็นเด็กดีมาตลอด อยู่ ๆ หนีไปอยู่กับเพศตรงข้าม ก็เหมาเอาไว้ก่อนว่าโดนทำคุณไสย..!

อยากจะบอกว่าคนที่โดนคุณไสยนั้น ถ้าไม่ใช่ซวยจริง ๆ ก็เป็นคนที่โชคดีมาก เนื่องเพราะว่าโอกาสที่จะโดนนั้นยาก คนทำต้องจ้างเขาถึงจะทำให้ โอกาสที่จะโดนแบบลมเพลมพัด ถ้ารู้จักรักษาตัวเองก็โดนได้ยาก แต่ว่าพวกเรามักจะไปคิดว่าโดนง่าย ๆ ก็เลยทำให้บรรดาหมอต่าง ๆ ที่มีอาชีพด้านนี้ ทำมาหากินกันเจริญรุ่งเรือง โดยเฉพาะวิธีแก้ไข มีแต่แพง ๆ ทั้งนั้น จะส่งมาให้กระผม/อาตมภาพรักษาก็ไม่ได้ เพราะว่าถ้าไม่ใช่งานเป่ายันต์เกราะเพชร กระผม/อาตมภาพก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเหมือนกัน ?

อีกเรื่องหนึ่งที่ขอกล่าวถึงก็คือทางวัดสันโป่ง เมดิเตชั่น เซ็นเตอร์ ฮกซุน ประเทศนอร์เวย์ ขออนุญาตให้ญาติโยมรับยันต์เกราะเพชรจากประเทศนอร์เวย์ที่นั่น ซึ่งเวลาต่างจากบ้านเราถึง ๕ ชั่วโมง แล้วญาติโยมก็ยังอุตส่าห์ถ่างตาร่วมงานบวงสรวงไหว้ครู ซึ่งเริ่มตอน ๗ โมงครึ่งเมืองไทย ก็แปลว่าตี ๒ ครึ่งของนอร์เวย์ แล้วอากาศที่นั่นก็ยังหนาวมากอยู่ ด้วย..!

จากนั้นก็ยังร่วมพิธีรับยันต์เกราะเพชรทั้ง ๒ รอบ ด้วยความศรัทธาและเต็มอกเต็มใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะว่าอาการบ่งบอกว่ารับยันต์ได้ตามที่กระผม/อาตมภาพบอกไป
เรื่องนี้เป็นเครื่องยืนยันว่าการรับยันต์เกราะเพชร ไม่ว่าจะอยู่ที่มุมไหนของโลกก็สามารถรับได้ เพราะว่าถึงเวลา บารมีพระที่ท่านสงเคราะห์ลงมา สามารถครอบคลุมได้ทั้งโลกในพริบตาเดียว

เพียงแต่ว่าพระภิกษุของเราต้องเหนื่อยมาก โดยเฉพาะบรรดาผู้รับผิดชอบฝ่ายต่าง ๆ หนักที่สุดก็เรื่องของการจราจร เรื่องความสะอาด และเรื่องห้องน้ำห้องส้วม มีข้อผิดพลาด ข้องขัดหรือไม่คล่องตัวอย่างไร ให้กำหนดจดจำไว้ ถึงเวลาก่อนงานครั้งหน้า เมื่อมีการประชุมแบ่งงานกัน จะได้นำเสนอเพื่อการแก้ไขในที่ประชุม เรื่องพวกนี้จะขึ้นกับประสบการณ์ของเราเอง ยิ่งทำงานมากก็ยิ่งมีความคล่องตัวมาก

อย่างที่กระผม/อาตมภาพแนะนำท่านบิ๊ก (พระศตวรรธน์ กุสโล) ไปว่า ถ้าเป็นโรงทานที่มีผัด มีทอด มีกลิ่นอาหารแรง พยายามให้ไปอยู่ทางหน้าโรงหลอมเทียน หรือว่าทางด้านสะพานข้ามห้วยไปเลย เพื่อที่เราจะได้เปิดหน้าต่างศาลา ๑๐๐ ปีหลวงปู่สาย รับลมด้านนอกได้ ไม่เช่นนั้นถ้าต้องปิดหน้าต่าง การระบายอากาศไม่ดี คนข้างในก็จะร้อน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-06-2025 เมื่อ 01:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 31-05-2025, 23:13
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,578
ได้ให้อนุโมทนา: 158,412
ได้รับอนุโมทนา 4,486,327 ครั้ง ใน 36,187 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

การทำงานแต่ละครั้งอะไรที่ดีให้จดจำไว้ อะไรที่ไม่ดีก็เตรียมแก้ไข โดยเฉพาะอารมณ์ใจของเราเอง เวลาหิว เวลาเหนื่อย เวลาง่วง เราสามารถควบคุมรักษากำลังใจของตนเองได้หรือไม่ บุคคลถ้าหากว่าเจริญกรรมฐานจนกำลังใจเหนือร่างกาย สามารถที่จะสั่งร่างกายให้ทำงานทุกอย่างได้ แม้ว่าร่างกายจะไม่ไหวก็ตาม

ท่านทั้งหลายต้องดูพระอาจารย์มหาเอ (พระมหานันทวัฒน์ เขมธมฺโม ป.ธ. ๖) วัดปากน้ำภาษีเจริญ ถอดน้ำเกลือได้ก็มาร่วมงาน จะเดินเข้ามาช่วยงานแต่ละที แทบจะต้องอุ้มกันเข้ามา นั่นคือลักษณะการใช้กำลังใจควบคุมร่างกาย ซึ่งกระผม/อาตมภาพกับท่านอาจารย์มหาเอถือคติเดียวกัน ก็คือ
"ในเมื่อร่างกายไม่ใช่ของกู กูก็ต้องใช้มึง ไม่ใช่ให้มึงมาบังคับกู" เรื่องพวกนี้ ถ้ากำลังใจยังไม่ถึง อย่าเพิ่งเลียนแบบ เพราะว่าถ้ากำลังใจไม่ถึง เราควบคุมร่างกายไม่ได้

มีญาติโยมบางท่านที่รู้จักกับกระผม/อาตมภาพมาประมาณ ๔๐ ปีแล้ว ด้วยความที่อายุใกล้เคียงกัน กำลังใจในการทำงานคล้ายกัน แต่กำลังสมาธิไม่เท่ากัน เมื่อถึงเวลาเห็นกระผม/อาตมภาพป่วย แล้วลากสังขารไปโน่นไปนี่ทำงานต่าง ๆ ได้เหมือนคนปกติ ก็เลียนแบบและทำตาม

พอตักเตือนไปก็ใช้คำพูดประมาณว่า "หลวงพี่ยังทำได้เลย" แต่ไม่ได้ดูว่ากำลังใจของตัวเองมีแค่ไหน ท้ายสุดก็ไปล้มฟาดพื้นให้เขาหามไปโรงพยาบาลเสียหลายรอบ..! ไม่รู้ว่าเข็ดหรือยัง ? ถ้ายังไม่เข็ด ก็ยังคงจะโดนหามไปอีก แต่ถ้าอยู่ในลักษณะนี้อีก ไม่นานก็จะโดนหามเข้าเมรุแทน..!

รู้ว่าไม่ไหวก็อย่าฝืน แต่ถ้าหากว่าฝืนได้ครั้งหนึ่งก็เท่ากับเรามีความก้าวหน้าขึ้นไปส่วนหนึ่ง คล้าย ๆ กับการขึ้นที่สูง สมมติว่าเราเดินขึ้นบันไดได้ครั้งละ ๑๐๐ ขั้น ถ้าฝืนเดินได้อีก ๓ - ๔ ขั้น ต่อไปกำลังใจก็จะบอกว่าต้องได้เท่านั้น เราก็จะมีพัฒนาการไปเรื่อย ๆ โดยเฉพาะคนที่จะทำประเภทนี้ต้องไม่กลัวตาย ถ้ายังกลัวตายอยู่ไม่สามารถที่จะทำได้ เพราะถ้าไม่ไหวเมื่อไร ร่างกายก็จะตายเอาจริง ๆ..!

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันเสาร์ที่ ๓๑ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-06-2025 เมื่อ 01:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 18:13



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว