กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๘ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนพฤษภาคม ๒๕๖๘

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 30-05-2025, 19:47
พิชวัฒน์'s Avatar
พิชวัฒน์ พิชวัฒน์ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Aug 2014
ข้อความ: 516
ได้ให้อนุโมทนา: 3,308
ได้รับอนุโมทนา 25,596 ครั้ง ใน 1,004 โพสต์
พิชวัฒน์ is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๖๘

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๖๘


ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 41 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 30-05-2025, 22:18
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,578
ได้ให้อนุโมทนา: 158,412
ได้รับอนุโมทนา 4,486,307 ครั้ง ใน 36,187 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ ๓๐ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ พรุ่งนี้จะเป็นวันสำคัญวันหนึ่งของชาววัดท่าขนุน ก็คือเป็นวันไหว้ครูประจำปี และเป่ายันต์เกราะเพชร

การไหว้ครูนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง ในชีวิตของทุกคน กว่าจะรอดมาเป็นตัวเป็นตนได้ ล้วนแล้วแต่ต้องมีครูสอนทั้งสิ้น โดยเฉพาะในสมัยก่อน พ่อแม่เป็นผู้ให้ชีวิต แต่ว่าครูบาอาจารย์สอนศิลปะวิทยาการต่าง ๆ เพื่อให้เราใช้เลี้ยงชีวิต เลี้ยงครอบครัว ยกเว้นว่าพ่อแม่จะเป็นครูเจ้าของวิชาความรู้นั้นเสียเอง

ถ้าถามว่าครูมีความสำคัญขนาดไหน ? ก็สำคัญเท่ากับชีวิต เนื่องเพราะว่าถ้าไม่มีครู เราไม่สามารถที่จะเรียนวิชาความรู้อะไรได้ ย่อมไม่สามารถที่จะหาเลี้ยงตนเองหรือว่าหาเลี้ยงครอบครัวได้ สมัยก่อนจึงมีการยกย่องคุณครูเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะจะมีการไหว้ครูกันเป็นประจำทุกปี ถ้าหากว่าเป็นครอบครัวเล็ก เป็นสายวิชาการเล็ก ๆ ก็ไหว้ครูเป็นการส่วนตัว ถ้าเป็นครอบครัวใหญ่ สายวิชาการที่มีลูกศิษย์มาก ก็ไหว้ครูเป็นการส่วนรวม

การไหว้ครูสมัยก่อนจะเลือกเอาวันพฤหัสบดีข้างขึ้น โดยเฉพาะข้างขึ้นมากเท่าไรก็ดีเท่านั้น แต่ว่าครูบาอาจารย์ตามสายวิชาที่สืบต่อกันมาของหลวงปู่ปาน วัดบางนมโคก็ดี หลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุงก็ตาม ท่านให้ไหว้ครูในวันเสาร์ขึ้น ๕ ค่ำ เดือนไหนก็ได้ เรียกว่าวันเสาร์ ๕ ไม่จำเป็นต้องตรงกับเดือน ๕ หรือว่าปีที่ ๕ เนื่องเพราะว่าวันเสาร์ขึ้นหรือว่าแรม ๕ ค่ำ เป็นฤกษ์อมฤตโชค

ตามสายวิชาโดยเฉพาะในเรื่องของตำราพระร่วง ท่านให้ไหว้ครูในวันเสาร์ขึ้น ๕ ค่ำ ถ้าปีนั้นไม่มีวันเสาร์ขึ้น ๕ ค่ำ หรือว่ามีแต่ติดภารกิจสำคัญ ไม่สามารถจะจัดงานได้ ท่านให้ไปไหว้ครูในวันวิสาขบูชา ถ้าวันเสาร์ ๕ และวันวิสาขบูชาติดภารกิจ จัดงานไหว้ครูไม่ได้ ท่านให้ไปไหว้ครูในวันมาฆบูชา ก็แปลว่าถ้าสืบสายวิชาการตามตำราพระร่วง หรือว่าสืบสายวิชามาจากหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค หรือว่าหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง เราจะไหว้ครูภายใน ๓ วันนี้ วันใดวันหนึ่งเท่านั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-05-2025 เมื่อ 02:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 30-05-2025, 22:21
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,578
ได้ให้อนุโมทนา: 158,412
ได้รับอนุโมทนา 4,486,307 ครั้ง ใน 36,187 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

การไหว้ครูนอกจากเป็นการแสดงออกซึ่งความยอมรับนับถือ และความกตัญญูกตเวทิตาแล้ว แต่ละสายวิชาการนั้นไม่ได้มีครูบาอาจารย์แค่รูปเดียว ท่านเดียว เนื่องเพราะว่าบางวิชาสืบสายกันมาหลายร้อยปี อาจจะถึงพันปี ครูบาอาจารย์ที่มรณภาพหรือเสียชีวิตไปแล้วย่อมมีมาก

หลายท่านที่ทรงคุณงามความดีมาก ก็อาจจะหลุดพ้นจากกองทุกข์เข้าสู่พระนิพพานไปเลย หลายท่านก็อาจจะเป็นพรหม เป็นเทวดา เป็นนางฟ้าอยู่ข้างบน การที่เราแสดงออกซึ่งการยอมรับนับถือ แสดงความกตัญญูกตเวทิตาต่อครูบาอาจารย์ ท่านทั้งหลายเหล่านั้นเห็นก็เกิดความเมตตา ถ้ามีอะไรไม่เกินวิสัย ไม่เกิดกฎของกรรม ท่านสามารถสงเคราะห์ให้ได้ก็จะช่วยสงเคราะห์ให้ ก็แปลว่างานไหว้ครูนั้นมีสิ่งสำคัญมากกว่าที่เรารู้เห็นทั่ว ๆ ไปแฝงอยู่ด้วย


คราวนี้ท่านทั้งหลายที่มารวมกันเป็นจำนวนมากที่วัดท่าขนุนตั้งแต่วันนี้ นอกจากมาร่วมงานไหว้ครูแล้ว ความตั้งใจก็คือมารับยันต์เกราะเพชรบ้าง มาหาวัตถุมงคลไปบูชาติดตัวบ้าง ต้องบอกว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านี้เกิดจากความกลัวตายของท่านทั้งหลายนั่นเอง..! มนุษย์และสัตว์ทุกรูปทุกนามนั้นมีธรรมชาติอยู่ ๔ อย่างก็คือ การกิน การนอน การเสพกาม การหลบภัย เรื่องพวกนี้จะฝังอยู่ใต้จิตสำนึกเลย

เราท่านทั้งหลายมาแสวงหาของดีไว้ป้องกันตัว ก็คือป้องกันตาย ก็เพราะว่าเรายังกลัวตายอยู่ คราวนี้สิ่งทั้งหลายที่ท่านแสวงหา แม้ว่าจะเป็นวิชาการที่เกิดจากบารมีพระพุทธเจ้า อย่างยันต์เกราะเพชรก็ดี วัตถุมงคลที่อธิษฐานปลุกเสกโดยอาศัยบารมีพระพุทธเจ้าก็ตาม สิ่งทั้งหลายเหล่านี้จะบรรเทาเคราะห์กรรมใหญ่ให้เป็นเบา ช่วยปัดเป่ากรรมเบาให้มลายหายไป แต่ช่วยเราได้แค่ชาตินี้เท่านั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-05-2025 เมื่อ 02:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 30-05-2025, 22:25
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,578
ได้ให้อนุโมทนา: 158,412
ได้รับอนุโมทนา 4,486,307 ครั้ง ใน 36,187 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ดังนั้น..ท่านทั้งหลาย ถ้าหากว่ายังหวาดเกรงภัยในวัฏสงสาร ก็ต้องเร่งหาทางไปให้พ้น วิธีไปให้พ้นที่ดีที่สุดก็คือเดินตามมรรค ๘ ที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสสอนเอาไว้ ซึ่งย่อลงมาแล้วเหลือปัญญา ศีล และสมาธิ ก็คือ

สัมมาทิฏฐิ ความเห็นที่ถูกต้อง
สัมมาสังกัปปะ ความคิดที่ถูกต้อง นั่นเป็นปัญญา

สัมมาวาจา คำพูดที่ถูกต้อง
สัมมากัมมันตะ การกระทำที่ถูกต้อง
สัมมาอาชีวะ การหาเลี้ยงชีพที่ถูกต้อง นั่นเป็นศีล

สัมมาวายามะ ความเพียรที่ถูกต้อง
สัมมาสติ
การตั้งสติไว้ถูกต้อง
และสัมมาสมาธิ การทรงสมาธิที่ถูกต้อง นั่นเป็นส่วนของสมาธิ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-05-2025 เมื่อ 02:27
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 30-05-2025, 22:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,578
ได้ให้อนุโมทนา: 158,412
ได้รับอนุโมทนา 4,486,307 ครั้ง ใน 36,187 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ดังนั้น..ท่านทั้งหลายต้องมีศีลเป็นเครื่องป้องกันไม่ให้ตนเองตกสู่อบายภูมิ ความที่ท่านทั้งหลายตั้งหน้าตั้งตารักษาศีล สติที่คอยระมัดระวังไม่ให้ศีลขาด จะสร้างสมาธิให้เกิดกับท่านเอง

หรือถ้าต้องการความมั่นคงมากกว่านั้น ก็ซักซ้อมภาวนาจับลมหายใจเข้าออกให้เป็นปกติ กำลังสมาธิจะไปกด รัก โลภ โกรธ หลง ให้ดับลงชั่วคราว ความผ่องใสในใจของเราจะเกิดขึ้น เมื่อความผ่องใสเกิดขึ้น เราก็จะมีปัญญา มองเห็นว่าสิ่งใดควรละ สิ่งใดควรยึด แล้วท้ายที่สุดก็มองเห็นชัดเจน ไปถึงความไม่มีแก่นสารของสิ่งทั้งปวง ทุกอย่างเกิดขึ้นในเบื้องต้น เปลี่ยนแปลงในท่ามกลาง สลายไปในที่สุด ไม่มีอะไรให้ยึดถือมั่นหมายได้


ถ้าหมั่นพิจารณาแบบนี้บ่อย ๆ แล้วกำลังสมาธิท่านเพียงพอ ก็สามารถค่อย ๆ ถอนตนเองออกจากห้วงวัฏสงสารนี้ ท้ายที่สุด ถ้าถอนออกมาได้ทั้งหมด ก็หลุดพ้นจากกองทุกข์เข้าสู่พระนิพพาน เป็นการพ้นจากภัยทั้งปวงอย่างสิ้นเชิง เป็นการพ้นอย่างมั่นคงถาวร ไม่ต้องเสียเวลามาแสวงหาเครื่องป้องกันอีก

จึงเป็นเรื่องที่ท่านทั้งหลายต้องสังวรและเร่งปฏิบัติให้มาก ไม่ว่าจะเป็นศีล เป็นสมาธิ เป็นปัญญา ทำน้อยก็ได้ประโยชน์ ทำมากก็ยิ่งได้ประโยชน์ ท้ายที่สุด สิ่งที่ท่านทั้งหลายทำก็จะเป็นสำเภาทอง พาเราล่องพ้นจากห้วงวัฏสงสารไปในที่สุด

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันศุกร์ที่ ๓๐ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-05-2025 เมื่อ 02:28
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 16:36



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว