กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๘ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนพฤษภาคม ๒๕๖๘

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 04-05-2025, 20:43
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,983
ได้ให้อนุโมทนา: 225,263
ได้รับอนุโมทนา 801,700 ครั้ง ใน 39,412 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๔ พฤษภาคม ๒๕๖๘

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๔ พฤษภาคม ๒๕๖๘


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 05-05-2025, 01:05
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,438
ได้ให้อนุโมทนา: 158,059
ได้รับอนุโมทนา 4,481,225 ครั้ง ใน 36,047 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ ๔ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ เป็นวันพระขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๖ อมฤตโชค อากาศช่วงเช้าที่โรงแรม The Zion เมืองศิมลา อยู่ที่ ๑๒ องศาเซลเซียส แต่ด้วยความที่เหนื่อยมาจากการเดินทางถึง ๑๒ ชั่วโมงครึ่ง ทำให้กระผม/อาตมภาพรีบเข้านอนก่อน

ครั้นตื่นขึ้นมาแล้ว ตั้งใจจะถ่ายรูปเมืองศิมลาในยามค่ำคืน ซึ่งคุณนวลจันทร์ เพียรธรรม ประธานคณะกรรมการบริษัทเอ็นซีทัวร์ชอบใจเป็นนักหนา บอกว่าสว่างพร่างพราวไปหมด จนไม่รู้ว่าเป็นดาวบนท้องฟ้า หรือว่าแสงไฟบนพื้นดิน แต่เมื่อเปิดหน้าต่างออกไปก็ออกอาการ "แห้ว" เนื่องเพราะว่าตอนหัวค่ำนั้น เป็นช่วงจังหวะที่เขาเปิดไฟกันอย่างเต็มที่ แต่ตอนตี ๓ กว่าของประเทศอินเดีย ไฟส่วนใหญ่ดับหมดแล้ว ก็เลยได้แต่ถ่ายรูปแบบเซ็ง ๆ

แต่พอจะเดินไปห้องน้ำ กระผม/อาตมภาพก็งงมาก เนื่องเพราะว่าตัวล็อกประตูกันคนบุกรุก โดนผลักล็อกเอาไว้ ทั้งที่กระผม/อาตมภาพไม่มีนิสัยที่จะทำอย่างนั้น เนื่องเพราะไม่มั่นใจว่าสภาพสังขารของตนเองจะอยู่ดีมีสุขได้สักเท่าไร ถ้าหากว่าเป็นอะไรไป คนไม่สามารถที่จะเข้ามาในห้องได้ อาจจะถึงขนาดตายอืดอยู่ในห้องไปเลยก็เป็นได้..! แต่ว่าตอนนี้ ตัวล็อกโดนผลักล็อกเอาไว้ กระผม/อาตมภาพมั่นใจว่าตนเองไม่ได้ทำแน่ ๆ

แต่เมื่อถึงเวลาเข้าห้องน้ำเรียบร้อยแล้ว ออกมานั่งที่เก้าอี้ยาว ปรากฏว่าเห็น "ท่านพี่มเหสักขา" หรือว่าองค์พระกฤษณะนั่นเอง นั่งอยู่บนเตียงที่กระผม/อาตมภาพไม่ได้ใช้งาน เพราะว่าอาศัยนอนที่เก้าอี้ยาว ซึ่งพอเหมาะกับตัวพอดี ท่านพี่ยิ้มให้อย่างเมตตา ชี้มือไปที่ประตูเป็นทำนองว่า "พี่เป็นคนกดล็อกให้เอง"

กระผม/อาตมภาพจึงต้องน้อมจิตน้อมใจกราบขอบพระคุณ ที่ทุกท่านช่วยเหลือกันอย่างเต็มที่ ไม่เช่นนั้นด้วยสังขารโทรม ๆ แบบนี้ นั่งรถเขย่ามาถึง ๑๒ ชั่วโมงครึ่ง กว่าที่จะมาถึงเมืองศิมลา ถ้าหากว่าเป็นบ้านเราก็ดึกดื่นไปแล้ว น่าจะมีอาการมาลาเรียกกำเริบ แต่ก็ไม่มี..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-05-2025 เมื่อ 11:46
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 05-05-2025, 01:07
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,438
ได้ให้อนุโมทนา: 158,059
ได้รับอนุโมทนา 4,481,225 ครั้ง ใน 36,047 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ส่วนเช้านี้ ทางด้านคุณเอ (นายฉัตตริน เพียรธรรม) กรรมการผู้จัดการบริษัทเอ็นซีทัวร์ นัดพวกเราพร้อมกันตอน ๗ โมงครึ่งที่ห้องอาหาร แต่ด้วยความที่กระผม/อาตมภาพเป็นคนที่ทำอะไรไว แค่ประมาณ ๖ โมงเช้าของอินเดีย ก็ลงไปหามุมถ่ายรูปทั่วไปหมดแล้ว

ที่อัศจรรย์ยิ่งไปกว่านั้นก็คืออากาศ ๑๒ องศาเซลเซียสนั้น ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ใส่กันหนาวอะไรเลย กลับรู้สึกว่าเย็นสดชื่นสบายมาก ก็ได้แต่น้อมจิตน้อมใจกราบขอบพระคุณท่านทั้งหลาย ที่ตั้งใจอนุเคราะห์สงเคราะห์ด้วยดี
โดยตลอดมา

เมื่อเข้าไปในห้องอาหาร ก็เจอน้องการ์ตูน (นางสาวศรันย์พร บุรินทรโกษฐ์) กำลังเตรียมอาหารเช้าอยู่ตามเคย พวกเราไม่ได้รออาหารของเขาที่จะเปิดให้รับประทานตามเวลา คือ ๗ โมงครึ่ง เนื่องเพราะรู้ดีว่าในเรื่องของคนอินเดียนั้น คุณอย่าไปตั้งความหวังอะไรกับเขามาก เพราะว่าทุกอย่างของเขาเหมือนกับเชื่องช้ากว่าเราหลายระดับ..!

เมื่อเห็นว่ามีอาหารที่พอจะฉันได้มาถึง กระผม/อาตมภาพก็จัดแจงตักมาฉันจนเสร็จเรียบร้อย แล้วก็ไปเดินหามุมถ่ายรูป และรับการทำบุญจากคณะญาติโยมตามเคย

ครั้นทุกคนพร้อมแล้ว ทางด้านน้องการ์ตูนได้ติดต่อให้รถตู้สองคัน มารับพวกเราในช่วงที่วิ่งเที่ยวอยู่ในเมืองศิมลานี้ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องขึ้นรถบัสไปติดอีรุงตุงนัง แต่ปรากฏว่าออกมาได้ไม่ไกลก็ติดชนิดไม่กระดิกเลย..! กระผม/อาตมภาพยังคิดว่าตกลงวันนี้จะไปได้กี่ที่แน่ หลังจากที่ขยับกันทีละเล็กทีละน้อย เป็นเวลาเกือบครึ่งชั่วโมง ก็ไปเจอตัวต้นเหตุ คือรถเกิดอุบัติเหตุชนกันขวางทางอยู่..!

เมื่อพวกเราแซงไปได้ ทุกอย่างก็ลื่นไหลตามปกติ มาจอดรถลงที่บริเวณหนึ่ง ซึ่งพวกเราเดินลงไปแล้ว นายวิกรมพาเลี้ยวซ้ายเข้าไปตามทางเดินที่ทำเอาไว้เป็นอย่างดี ปรากฏว่ามาถึงลิฟท์ขนาดใหญ่ ซึ่งบรรจุคณะของพวกเราทั้งหมด ๒๓ คนได้โดยไม่ได้อึดอัดอะไรมากนัก

เมื่อขึ้นไป ๑ ชั้น ซึ่งมีระยะทางสูงมาก ถ้าเป็นบ้านเราก็น่าจะถึง ๓ ชั้นทีเดียว..! เมื่อออกจากตรงนั้นมาแล้ว ก็เดินต่อไปขึ้นลิฟท์อีกตัวหนึ่ง ถึงจะขึ้นไปจนถึงจุดข้างบน ก็คือถนนสมัยที่อังกฤษครองเมืองอยู่ จัดว่าเป็นถนนสายสำคัญ ที่ให้เฉพาะพวกผู้ดีมีเงินเท่านั้นมาเดินช็อปปิ้งกัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-05-2025 เมื่อ 11:49
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 05-05-2025, 01:11
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,438
ได้ให้อนุโมทนา: 158,059
ได้รับอนุโมทนา 4,481,225 ครั้ง ใน 36,047 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แต่พวกเราเดินออกมาแล้วผิดหวังมาก เนื่องเพราะว่าไม่ได้มีร้านค้าเปิดให้พวกเราเลยแม้แต่ร้านเดียว ทั้ง ๆ ที่เป็นเวลา ๙ โมงเศษแล้ว พวกเราจึงเดินไปจนกระทั่งเกือบจะสุดทาง มาถึงตรงบริเวณนี้ กระผม/อาตมภาพก็เจอเพื่อนเก่าที่เป็นหมาจรอยู่บริเวณนี้ ชวนคุยแล้วแกก็ทำท่าน้อยใจ ประมาณว่า "ท่านไปเกิดเป็นคนจนบวชเป็นพระ ผมก็ยังเป็นหมาอยู่เลย..!"

บริเวณนี้นั้นแต่เดิมสมัยอังกฤษครองเมือง เป็นที่ทำการเมืองเทศบาลเมืองศิมลา แต่ปัจจุบันนี้เขาปรับมาเป็นร้านกาแฟ พวกเราหามุมถ่ายรูปกันแล้วอ้อมไปข้างหลัง ชมวิวซึ่งคุณนวลจันทร์ติดใจเป็นนักหนา เนื่องเพราะว่าเป็นบ้านเมืองสลับซับซ้อน แต่พวกเราในคณะบอกว่า "สลัมชัด ๆ..!"

เมื่อหามุมสวย ๆ ถ่ายรูปกันแล้ว จึงเดินไปยังจตุรัสเมืองศิมลา ซึ่งเป็นลานกว้างใหญ่ไพศาล มีทั้งอนุสาวรีย์มหาตมะ คานธี อนุสาวรีย์นางอินทิรา คานธี มีโบสถ์คริสต์ ซึ่งสร้างมาตั้งแต่ตอนสร้างเมืองศิมลาแห่งนี้

พวกเราหามุมถ่ายรูปหมู่รูปเดี่ยวกันตามอัธยาศัย แล้วก็แยกออกเป็นสองสาย สายช็อปปิ้งเดินย้อนกลับไปเพื่อรอให้ร้านค้าเปิดตอน ๑๐ โมงเช้า ส่วนสายท่องเที่ยวผจญภัยอย่างกระผม/อาตมภาพนั้น พากันซื้อตั๋วแล้วก็เดินไปขึ้นรถกระเช้าที่เขาพาขึ้นไปบนยอดเขาสูงสุด แต่เจ้าประคุณเถอะ..รถกระเช้าเขามีแค่ ๔ คัน ถ้าหากว่าขึ้นไป ๒ คัน ก็จะมีลงมา ๒ คัน แต่ละคันเขาให้นั่งถึง ๘ คน แต่พวกเรายัดเข้าไปแค่ ๖ คนเท่านั้น

เมื่อขึ้นไปถึงด้านบน ยังต้องระมัดระวังตัวเป็นอย่างมาก เนื่องเพราะว่าบนยอดเขานี้มีเทวาลัยเทพหนุมาน ก็เลยทำให้บรรดาสาวกของหนุมานมีมากมายยั้วเยี้ยไปหมด ต้องคอยระวังว่ามีข้าวของอะไรที่พวกเราจะโดนลิงฉกชิงได้บ้าง..!

เมื่อได้ทำการถ่ายรูปเทพหนุมานเรียบร้อยแล้ว ค่อยมาต่อราคาสินค้าที่ระลึก ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นอาวุธของเทพหนุมานนั่นเอง แต่ต่อเท่าไรก็ต่อไม่ลง เพราะว่าอีกฝ่ายจะเอาชิ้นละ ๔๐ รูปี พวกเราให้แค่ ๒๐ รูปี เดินต่อจนหมดทุกร้านแล้ว ไม่ทราบเหมือนกันว่าใครที่สามารถต่อราคาจนได้สินค้าไปบ้าง ?

จากนั้นพวกเราก็เดินย้อนกลับมานั่งรถกระเช้าลง บริเวณที่ผ่านซึ่งทางด้านขาขึ้นเป็นขวามือ ขาลงเป็นซ้ายมือนั้น มีหมู่อาคารเก่าใหญ่โตมโหฬาร ลักษณะดูดีมาก แต่ปัจจุบันนี้ผุพังหมดสภาพแล้ว น่าจะไม่มีใครมาช่วยอนุรักษ์ หรือว่าขนข้าวของเครื่องใช้วัสดุอุปกรณ์ขึ้นมายาก ก็เลยปล่อยทิ้งเอาไว้เช่นนั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-05-2025 เมื่อ 11:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 05-05-2025, 01:13
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,438
ได้ให้อนุโมทนา: 158,059
ได้รับอนุโมทนา 4,481,225 ครั้ง ใน 36,047 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อพวกเราไปถึงข้างล่าง ก็เดินไปร้านอาหาร PYRAMID ซึ่งได้นัดแนะกันเอาไว้ว่าทุกคนให้มาพบกันที่นี่ พวกเราไปถึงตอน ๑๐.๔๐ น. ของประเทศอินเดีย เจอน้องการ์ตูนมาสั่งอาหารอยู่แล้ว แต่เจ้าประคุณรุนช่องเถอะ รอจน ๑๑.๕๕ น. ยังมีแต่ "อาหารว่าง" อยู่บนโต๊ะ ไม่ได้มีอะไรให้เลย จนพวกเราตบะแตกขึ้นมา ก็เลยบุกเข้าไปก้นครัว มีอะไรที่พอกินได้ก็ตักออกมาถวายพระก่อน หลังจากนั้นตัวเองก็ลุยตาม..!

จนกระทั่งอิ่มแล้ว เวลาประมาณ ๑ ชั่วโมงผ่านไป ก็มีหมี่ผัดที่น้องการ์ตูนสั่งมาถึง พวกเราจึงแบ่งกันชิมแล้วก็รออีกพักใหญ่ ๆ กว่าที่จะมีเห็ดอยู่ในลักษณะคล้ายผัดเปรี้ยวหวานออกมา น่าจะเป็นเพราะว่าเขามัวแต่ไปเพาะเห็ด หรือเดินป่าเก็บเห็ดอยู่กระมัง ? ถึงได้ออกมาช้าจนขนาดนี้..! น้องการ์ตูนยังบอกว่าสั่งให้กับทุกโต๊ะ แต่นอกจากโต๊ะพระได้แล้ว ที่เหลือก็หายเงียบไปตามเคย จนกระทั่งพวกเราไม่รอแล้ว ชำระบัญชีได้ก็เดินออกมา ลงลิฟท์กลับออกมาทางด้านนอกตามเดิม

เมื่อขึ้นรถตู้ได้ คุณเอก็พาพวกเราวิ่งไปยังวังของอุปราชของประเทศอินเดีย ก็คือเป็นอุปราชที่ทางประเทศอังกฤษตั้งให้มาครองเมืองอินเดีย ได้แก่ ท่านลอร์ดดัฟเฟอริน เพื่อที่จะไปชมวังที่ประทับของท่าน เมื่อพวกเราวิ่งไปถึง ปรากฏว่าก่อนหน้านี้จะต้องจอดรถด้านนอก แล้วเดินเข้าไปข้างในไกลเกือบกิโลเมตร แต่ตอนนี้เขาเก็บเงินแล้วปล่อยให้พวกเราวิ่งรถเข้าไปด้านในเลย เสียเวลาไปซื้อตั๋วเพื่อที่จะเข้าชมวังอยู่นาน ฝนก็เริ่มตกเปาะแปะ ฟ้ามืดไปหมด กระผม/อาตมภาพมองหน้า "เจ้าแม่นภิสราเทวี" แล้วก็หนักใจแทนคุณเธอ แต่เมื่อเห็นว่ายังยิ้มได้ ก็แปลว่ายังพอสู้ไหว..!

เมื่อพวกเราได้ตั๋วมาแล้วก็ตรงเข้าไปทางด้านใน ถ่ายรูปหมู่รูปเดี่ยวกันตามอัธยาศัย แต่ว่ามุมที่สวยที่สุดซึ่งเป็นลานหญ้านั้น มีเจ้าหน้าที่คอยห้ามไม่ให้ลงไป ใครเหยียบลงไปแม้แต่เท้าเดียว ก็จะเป่านกหวีดสนั่นหวั่นไหวไล่ให้ขึ้นมา กลายเป็นว่ามุมที่ถ่ายรูปได้สวยที่สุด เขาห้ามลงไป พวกเราก็เลยแก้ปัญหาด้วยการให้คนถ่ายรูปอยู่ฝั่งนี้ ส่วนตัวพวกเราไปตั้งแถวกันที่ฝั่งหน้าประตูวัง เมื่อแก้ปัญหาได้รูปถ่ายมาแล้ว ก็เดินหามุมถ่ายรูปกันตามอัธยาศัย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-05-2025 เมื่อ 11:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า 05-05-2025, 01:23
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,438
ได้ให้อนุโมทนา: 158,059
ได้รับอนุโมทนา 4,481,225 ครั้ง ใน 36,047 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

จนกระทั่งเป็นที่พอใจแล้ว พวกเราก็เดินออกมา ให้คุณเอเรียกรถมารับ พอขึ้นรถมาเท่านั้นเอง ฝนก็เริ่มเปาะแปะลงมา แล้วก็กระหน่ำลงมาอย่างหนัก จนกระทั่งพวกเรามาขึ้นรถบัส ต้องวิ่งฝ่าฝนเปียกกันไปตาม ๆ กัน เมื่อขึ้นรถบัสเรียบร้อย พวกเราก็มุ่งตรงไปยังเมืองจันทิครห์ หรือออกเสียงตามภาษาอินเดียว่าเมืองจันตริก้าร์

เมื่ออยู่บนรถ พวกเราคำนวณว่าระยะทาง ๑๑๕ กิโลเมตรนั้น น่าจะใช้เวลาจากบ่าย ๒ โมงครึ่งจนถึง ๑ ทุ่มตรงเป็นอย่างน้อย หรือว่าอาจจะถึงทุ่มครึ่งด้วย แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะว่าสนามบินเปิดให้เช็คอินกันตอน ๒ ทุ่ม แล้วก็นั่งทำใจดูฝนตกกระหน่ำไปตลอดทาง ไม่ว่าจะไปถึงที่ไหน ฝนก็ไล่ตามไปที่นั่น แม้กระทั่งตอนพักเพื่อเข้าห้องน้ำห้องท่า พอเริ่มลงจากรถ ฝนก็เริ่มตก เหมือนกับตามหลังมาติด ๆ ก็ไม่ปาน..!

จนกระทั่งพวกเรามาถึงเมืองจันทิครห์ ทั้ง ๆ ที่ฝนตกรถติดสาหัสสากรรจ์ ไม่ทราบเหมือนกันว่าเทวดาฟ้าดิน หรือว่า "เจ้าแม่นภิสราเทวี" ท่านสงเคราะห์แบบไหน จึงทำให้พวกเรามาถึงแค่ ๕ โมงกว่าเท่านั้น นายวิกรมก็เลยต้องพาพวกเรามาเดินห้างเพื่อรอเวลา ไม่เช่นนั้นแล้วต่อให้ไปสนามบินก็ไร้ประโยชน์ ไม่สามารถที่จะเช็คอินได้

พวกเราก็เลยเดินเข้าห้างสรรพสินค้า กระผม/อาตมภาพเดินหาห้องน้ำก่อน โดยมีทิดดอย (นายภาณุพงศ์ วังประภา) วิ่งส่งภาษากับคนข้างในนี้ ถามว่าห้องน้ำอยู่ด้านไหน ? เจ้าแม่นภิสราเทวีน่าจะรำคาญก็เลยชี้ว่า "ด้านโน้นเจ้าค่ะ" กระผม/อาตมภาพถามทิดดอยว่า "ใช่หรือไม่ ?" อีกฝ่ายวิ่งเข้าไปจนสุดแล้ว ถึงได้หันมาตะโกนว่า "ใช่ครับ"

เมื่อเดินเข้าไปถึงได้รู้ว่าทำไมถึงคิดว่าไม่ใช่ เพราะว่าต้องเลี้ยวถึง ๒ เลี้ยว ๓ เลี้ยว กว่าที่จะถึงห้องน้ำของเขา ต่อให้ยืนอยู่ใกล้ ๆ บริเวณนั้นยังไม่แน่ใจเลยว่า จะรู้หรือเปล่าว่ามีห้องน้ำอยู่ตรงนั้น ? เมื่อเข้าห้องน้ำเรียบร้อยแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ออกมาบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุน สำหรับท่านทั้งหลายจะได้ฟังกันโดยไม่ขาดตอน

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอาทิตย์ที่ ๔ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-05-2025 เมื่อ 11:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 03:57



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว