กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๘ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนเมษายน ๒๕๖๘

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 12-04-2025, 19:52
พิชวัฒน์'s Avatar
พิชวัฒน์ พิชวัฒน์ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Aug 2014
ข้อความ: 500
ได้ให้อนุโมทนา: 3,308
ได้รับอนุโมทนา 24,997 ครั้ง ใน 988 โพสต์
พิชวัฒน์ is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๑๒ เมษายน ๒๕๖๘

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๑๒ เมษายน ๒๕๖๘


ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 13-04-2025, 00:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,275 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ ๑๒ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๘ เข้าเทศกาลสงกรานต์กันแล้ว ที่พูดมาหมายความว่าจะเริ่มมีคนตายบนท้องถนนกันมากอีกแล้ว..! ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากความคึกคะนองและประมาท โดยเฉพาะพวกเมาแล้วขับ ซึ่งจะว่าไปแล้ว ถ้ามาปฏิบัติธรรมอย่างพวกเรา ปัญหาเหล่านี้ก็จะหมดไป

แต่กำลังใจของคนนั้นไม่เท่ากัน โดยเฉพาะสิ่งที่ภาษาบาลีเรียกว่าวิปลาส ก็คือเห็นผิดไปจากความเป็นจริง อย่างเช่นว่า
เห็นสิ่งที่ไม่สวยไม่งามเป็นสิ่งที่สวยงาม เห็นสิ่งที่ไม่เที่ยงแท้แน่นอนว่าเที่ยงแท้แน่นอน เห็นสิ่งที่ไม่ใช่เราไม่ใช่ของเรา ว่าเป็นเราเป็นของเรา เป็นต้น

คราวนี้การที่จะแก้ไขก็คือเร่งรัดการปฏิบัติใน ศีล สมาธิ ปัญญา ให้เข้มข้นยิ่งขึ้น โดยเฉพาะช่วงนี้ บรรดาภัยธรรมชาติต่าง ๆ จะหนักมาก วันนี้ประเทศจีนมีการแจ้งเตือนชาวบ้านว่า ใครน้ำหนักตัวน้อยกว่า ๕๐ กิโลกรัมไม่ควรออกจากบ้าน เพราะว่ามีพายุพัดแรงมาก น้ำหนักน้อยกว่า ๕๐ กิโลกรัม อาจโดนพายุพัดไปได้..!

เราท่านจะเห็นว่าในเรื่องของพายุก็ดี เรื่องของแผ่นดินไหวก็ตาม ส่วนใหญ่แล้วก็เกิดจากการกระทำของมนุษย์เราเอง อย่างเช่นว่ารบราฆ่าฟัน ทิ้งระเบิดใส่กัน แรงอัดจากระเบิดก็จะไปรวมตัวกัน พอมากเข้า ๆ ก็กลายเป็นพายุ กลับมาทำลายล้างพวกเราอีกรอบหนึ่ง หรือว่าความสั่นสะเทือน เมื่อรวมตัวกันจนเพียงพอ ก็จะไปผลักดันแผ่นเปลือกโลกให้เคลื่อนไหว แล้วก็กลายเป็นธรณีภิบัติภัย ก็คือแผ่นดินไหว กลับมาทำอันตรายพวกเราอีกรอบหนึ่ง..!

วันนี้ทางประเทศพม่าส่งข่าวมาว่าปัญจมหาสถาน คือที่บูชาสำคัญที่สุด ๕ แห่งของพม่า ประกอบไปด้วยพระเจดีย์ ๔ แห่ง พระพุทธรูป ๑ แห่ง ส่วนใหญ่แล้วยังปลอดภัยอยู่

ไล่จากข้างล่างขึ้นข้างบนก็เริ่มจากพระบรมธาตุอินทร์แขวน ซึ่งอยู่ที่เมืองไจ๊โท เขตรัฐมอญ มีแค่อาการสั่นไหวของยอดฉัตรเท่านั้น ทั้ง ๆ ที่วิดีโอที่ส่งมานั้น ภายในศาลาสวดมนต์ แจกันดอกไม้ถึงขนาดเต้นได้เลย..! มีอาจารย์บางท่านที่รู้ทุกเรื่องบอกไว้ว่า ความจริงแล้วก้อนหินนั้นไม่ได้ลอยพ้นพื้น หรือว่าไม่ได้วางอยู่บนพื้น หากแต่ว่าติดกับพื้น แล้วมีรอยแตกโดยรอบ คนก็เลยเข้าใจไปว่าลอยอยู่บนพื้น หรือว่าวางอยู่บนพื้น ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เกิดแผ่นดินไหวก็เลยไม่ตก..!?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-04-2025 เมื่อ 01:45
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 13-04-2025, 00:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,275 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

กระผม/อาตมภาพอยากจะดึงหูอาจารย์ท่านนั้น แล้วพาลองไปโยกดูแบบที่กระผม/อาตมภาพทำมาเอง เนื่องเพราะว่าครั้งแรกที่ไปถึง กระผม/อาตมภาพก็สงสัยว่าทำไมเขาสร้างเจดีย์แบบหยาบ ๆ ทำให้สวยกว่านั้นไม่ได้หรืออย่างไร ? แต่พอลองผลักดู ปรากฏว่าหินโยกตามมือไปเลย จึงมาคิดว่า "ถ้าเป็นเราสร้างก็คงจะสวยน้อยกว่านี้อีก เพราะว่ากูก็กลัวตายเหมือนกัน..!"

แห่งที่ ๒ ก็คือพระมหาธาตุมุเตา ซึ่งก่อนหน้านี้ก็อยู่ในเขตรัฐมอญ แต่ว่าทางประเทศพม่าแบ่งออกมาเป็นมณฑลหงสาวดี ภาษาพม่าเรียกว่าชุยมอดอ เคยโดนแผ่นดินไหวทำลายลงไปเมื่อประมาณ ๓๐๐ ปีก่อนครั้งหนึ่ง ปัจจุบันนี้ส่วนยอดเขายังสร้างเจดีย์เล็กไว้ได้ ๕ องค์ ก็คือส่วนยอดเจดีย์ที่หักตกลงมา ครั้งนี้องค์พระเจดีย์ใหญ่ไม่มีอะไรเสียหาย แต่ว่าเจดีย์รายรอบข้างมีแตกร้าวไปหลายองค์

ถัดไปก็เป็นพระมหาเจดีย์ชเวดากองที่ย่างกุ้ง ซึ่งจะว่าไปแล้วเป็นศูนย์รวมจิตใจที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของชาวพม่า โชคดีตรงที่ว่าเขากำลังติดตั้งนั่งร้าน เพื่อที่จะเปลี่ยนแผ่นทองคำหุ้มองค์พระเจดีย์ใหม่ ซึ่งจะทำกันประมาณ ๓ ปี หรือ ๕ ปีครั้งหนึ่ง จึงทำให้มีนั่งร้านช่วยบังคับองค์เจดีย์เอาไว้ ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายมาก นอกจากสั่นไหวไม่มากนัก

จากนั้นก็ต้องขึ้นไปถึงเมืองพุกาม ซึ่งเป็นอาณาจักรเดิมที่ยิ่งใหญ่มากของพม่า ก็คือพระมหาเจดีย์ชเวซีกองที่พวกเราเรียกกัน แต่พม่าเรียกว่าชุยซีคง แบบเดียวกับพระครูสุตกาญจนวัฒน์, ดร. (ปรีชา จิรนาโค) เจ้าอาวาสวัดวังปะโท่ ไปพม่ากับกระผม/อาตมภาพครั้งแรก โบกแท็กซี่ก็พูดเสียงดังฟังชัดว่า "โก ทู ชเวดากอง" คนพม่าไม่รู้จัก กระผม/อาตมภาพต้องบอกว่า "ชุยดากงพะยา" ก็คือ พระมหาเจดีย์ชเวดากอง เราออกเสียงคนละอย่างกับพม่า เพราะว่าไปออกเสียงตามภาษาอังกฤษ

ภาษาอังกฤษที่เขียนแบบพม่าชวนให้ปวดหัวมาก เพราะว่าส่วนใหญ่แล้วเขียนอย่างหนึ่ง อ่านอย่างหนึ่ง ดังนั้น เราจึงมีเมืองร่างกุ้งมาตั้งแต่สมัยกระผม/อาตมภาพเด็ก ๆ เพราะว่าพม่าออกเสียง R เป็น ย.ยักษ์ เขาเขียนว่า Rangoon แต่คนไทยเห็นเป็น ร.เรือ ก็เลยอ่านว่าร่างกุ้ง มาตอนหลังโดนชาวโลกด่ามาก ๆ เข้าก็เลยเปลี่ยนเป็นตัว Y ถึงกลายเป็น Yangon ในภาษาอังกฤษปัจจุบัน แต่คนไทยไปติดร่างกุ้ง หรือ ย่างกุ้ง ไปเสียแล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-04-2025 เมื่อ 01:49
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 13-04-2025, 00:28
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,275 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระมหาเจดีย์ชเวซีกองนั้น ตัวองค์เจดีย์ไม่มีปัญาหาอะไร เพราะว่ายืนหยัดมา ถ้าตามประวัติของพม่าก็ ๒,๐๐๐ กว่าปีแล้ว ประกอบกับทางพุกามมีแผ่นดินไหวอยู่เนือง ๆ การก่อสร้างก็เลยมีการทำให้แข็งแรงกว่าปกติ มีแต่กำแพงล้อมรอบ พังทลายลงมาบางจุด

จากนั้นก็ต้องขึ้นไปที่มัณฑะเลย์เลย นี่กระผม/อาตมภาพพูดแบบคนเดินทาง ก็คือจากใต้ขึ้นเหนือ ในส่วนที่สำคัญที่สุดของปัญจมหาสถานอีกแห่งหนึ่งก็คือหลวงพ่อมหามัยมุนี หรือออกเสียงตามแบบพม่าว่าหลวงพ่อพระมหาเมี้ยตมุนี เสียหายเกือบทั้งวัด แม้แต่หอพระก็ทรุดลงมา จนกระทั่งพระมหามงกุฎที่หลวงพ่อพระมหาเมี้ยตมุนีใส่อยู่ชำรุดเสียหาย ฐานตั้งองค์พระก็แตกร้าวหลายแห่ง..!

แต่องค์พระไม่ได้เสียหายอะไร เพราะว่ามีทองคำห่อหุ้มเอาไว้หนาเป็นนิ้ว ก็คือเขาปิดทองอยู่ทุกวัน จนกลายเป็นหลวงพ่อเนื้อนิ่ม กระผม/อาตมภาพเคยลองเอานิ้วจิ้มดู กะ ๆ ดูว่าน่าจะหนาเป็นนิ้วฟุตเลย..! ถ้าลอกออกมาก็น่าจะได้ทองคำหลายสิบกิโลกรัม..!

ในส่วนอื่น ๆ ที่เสียหายมากก็คือเมืองเก่าอังวะ ภาษาพม่าเรียกว่าอิงวะ อยู่ติดกับมัณฑะเลย์นั่นเอง ชื่อเดิมที่คนไทยคุ้นเคยก็คือรัตนะบุระอังวะ บรรดาเจดีย์และวัดเก่า ๆ โดยเฉพาะที่สร้างโดยฝีมือเชลยศึกชาวไทย ซึ่งมีศิลปะแบบอยุธยาอยู่เป็นจำนวนมาก พังทลายลงมาเกือบหมด

ศูนย์กลางแผ่นดินไหวอย่างมณฑลสะกาย ซึ่งบนยอดเขาสะกายนั้น มีวัดแม่ชีอยู่เกิน ๓๐ วัด ส่วนใหญ่ก็พังลงมา แล้วพระและแม่ชีก็หนีไม่ทัน เพราะว่าอยู่ในช่วงที่เจริญกรรมฐานบ้าง สวดมนต์ทำวัตรบ้าง โดนตัวอาคารทับตายไปจำนวนหนึ่ง..!

หลวงพ่อโตวัดซุนอู ซึ่งเชื่อกันว่ามีเทวดามาถวายข้าวพระทุกวัน พังลงมาเกินครึ่งองค์ เหลือแต่พระหัตถ์ซ้ายกับตรงช่วงฐานเท่านั้น แล้ววัดนี้ก็มีพระมหาเถระโดนตัวอาคารทับมรณภาพไป
ด้วย ๒ รูป..!

ที่พูดถึงตรงนี้ เพื่อให้พวกเราตระหนักว่า เวลาเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นมา กำลังใจของเราอาศัยได้หรือไม่ ? เนื่องเพราะว่าญาติโยมหลายคนที่อยู่คอนโดมีเนียมสูง ๆ ส่งข่าวมาว่า ถึงเวลาผู้คนวิ่งไม่ออก ตกใจ แข้งขาอ่อน แล้วก็ไปกองขวางทางอยู่ ทำให้คนอื่นไปต่อไม่ได้ ถ้าตัวอาคารพังลงมาก็มีสิทธิ์ตายหมู่ทันที..!

แล้วเราลองคิดว่านี่เป็นภัยธรรมชาติ ถ้าเป็นภัยจากน้ำมือมนุษย์ อย่างแถวฉนวนกาซาของตะวันออกกลาง หรือว่าแถวยูเครน - รัสเซีย ถ้าขีปนาวุธมานี่ไม่ได้มาทีเดียวแน่นอน แล้วท่านทั้งหลายถ้ากำลังใจไม่มั่นคงพอ ขาดสติ ย่อมเอาตัวไม่รอด..!

วิธีที่ดีที่สุดก็คือพยายามสร้างสมาธิให้มั่นคงกว่านี้ ถ้าหากว่าสมาธิของเราทรงตัว ก็จะไม่ตกใจง่าย นอกจากจะช่วยเหลือตนเองได้แล้ว ยังสามารถช่วยคนอื่นได้อีกด้วย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-04-2025 เมื่อ 01:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 13-04-2025, 00:32
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,275 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

กระผม/อาตมภาพกับพรรคพวก ๔ - ๕ คน เคยเดินทางไปเขาค้อ ช่วงขาลงฝนตกหนักมาก แล้วกระผม/อาตมภาพนั่งอยู่ภายในเก๋งของรถกระบะ แต่พรรคพวกอยู่ ๔ คนนั่งอยู่ท้ายกระบะ วิธีที่จะพ้นฝนได้อย่างเดียวก็คือวิ่งให้เร็วเข้าไว้ เพื่อให้ฝนปลิวเลยหัวไป..!

ปรากฏว่าพอเข้าโค้ง รถหมุนติ้วเป็นลูกข่างเลย..! กระผม/อาตมภาพมองตัวเองแล้ว สติดีมาก ไม่ได้ตกใจอะไรเลย นอกจากจะใช้เท้ายันพื้นแล้วยังเอาหัวเข่าค้ำคอนโซลด้านหน้าเอาไว้ พร้อมกับมือยันเอาไว้ด้วย กะว่าถ้าตกลงเหว อย่างน้อยตัวเราก็จะไม่หลุดจากที่นั่ง..!

นั่นคือลักษณะของผู้มีสติ พร้อมที่จะแก้ไขเหตุการณ์จากร้ายให้เป็นดี จากหนักให้เป็นเบา แต่โชคดีที่ว่าพอรถหมุนไปนับรอบไม่ถ้วนแล้ว ยังไม่หลุดขอบถนน ห่างจากขอบถนนประมาณฝ่ามือหนึ่ง..! มองลงไปแล้วก็หวาดเสียวดี แล้วพวกข้างหลังก็คือพรรคพวกที่ปฏิบัติธรรมร่วมกันมาตั้งแต่สมัยฆราวาส มีเสียงตะโกนว่า "เอาอีก..เอาอีก..!" คนขับรถตะโกนบอกว่า "ทำอีกก็ไม่เหมือนเดิมแล้วโว้ย..!" สรุปก็คือทั้งหมดนั่นบ้า..! บุคคลที่สติดีเกินไปในเหตุการณ์แบบนั้น คนมักจะว่าบ้า เพราะว่าการแสดงออกไม่เหมือนบุคคลปกติทั่วไป

จากตัวอย่างที่ยกมา ขอยืนยันว่าตอนนั้นกระผม/อาตมภาพเพิ่งบวชได้ ๔ พรรษากระมัง ? แต่ว่าปฏิบัติธรรมร่วมกับพรรคพวก ๔ - ๕ คนนั้นมาเป็น ๑๐ ปีแล้ว ไปกับคนทั้งหลายเหล่านั้นดีอยู่อย่างหนึ่งว่า อยากจะทำอะไรก็ได้ทำ เพราะว่าไม่มีใครกลัว แต่ไม่ดีตรงที่ว่า
ถ้าสติดีเกินไปมักจะตายเร็ว เพราะว่าไม่ค่อยจะหนีใคร..!

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันเสาร์ที่ ๑๒ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-04-2025 เมื่อ 01:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 04:16



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว