กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๘ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนมีนาคม ๒๕๖๘

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 07-03-2025, 17:35
พิชวัฒน์'s Avatar
พิชวัฒน์ พิชวัฒน์ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Aug 2014
ข้อความ: 500
ได้ให้อนุโมทนา: 3,308
ได้รับอนุโมทนา 24,997 ครั้ง ใน 988 โพสต์
พิชวัฒน์ is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๗ มีนาคม ๒๕๖๘

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๗ มีนาคม ๒๕๖๘


ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 08-03-2025, 00:13
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ ๗ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ กระผม/อาตมภาพเดินทางไปถึงวัดสามพระยา วรวิหาร ตั้งแต่ยังไม่ทันจะ ๖ โมงเช้า เพื่อเข้าร่วมทำวัตรกับบรรดาว่าที่พระอุปัชฌาย์ ในเขตปกครองคณะสงฆ์หนกลางทั้ง ๒๓ จังหวัด ซึ่งในแต่ละภาคก็ส่งมารวมกันเพื่ออบรมในระดับประเทศที่นี่

ครั้นไปถึงก็ได้เดินทักทายให้กำลังใจบรรดาว่าที่พระอุปัชฌาย์ของคณะสงฆ์ภาค ๑๔ ซึ่งแต่ละท่านก็ล้วนแล้วแต่ทำท่าดีอกดีใจ ยิ่งหลวงพ่อแป๊ะ (พระครูยติธรรมานุยุต) เจ้าคณะตำบลบางกระเบา เจ้าอาวาสวัดแคแถว (วัดสว่างอารมณ์) ถึงกับตกใจว่า "หลวงพ่อเล็กมาได้อย่างไร เช้าขนาดนี้ ?!" จึงได้บอกว่า "ถ้ามาสายแล้วรถติดครับ" ทุกคนก็เข้าใจเป็นอันดี

เมื่อได้ทำวัตรเช้าร่วมกันแล้ว กระผม/อาตมภาพก็เข้าไปกราบพระเถระที่อยู่ภายในหอฉัน ซึ่งประกอบไปด้วย พระเดชพระคุณพระพรหมเสนาบดี (พิมพ์ ญาณวีโร ป.ธ. ๗) ที่ปรึกษามหาเถรสมาคม เจ้าคณะภาค ๗ เจ้าอาวาสวัดปทุมคงคา ราชวรวิหาร พระเดชพระคุณพระพรหมโมลี (สุชาติ ธมฺมรตโน ป.ธ. ๙) กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะภาค ๕ เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ ประธานคณะกรรมการฝึกซ้อมอบรมพระอุปัชฌาย์ของทุกปี

ท่านเจ้าคุณอาจารย์พระพรหมโมลียังชื่นชมว่า "พระอุปัชฌาย์รุ่นที่ ๕๑ นี้เหนียวแน่นจริง" ก็คือนอกจากสามารถจัดตั้งเป็นองค์กรแล้ว ยังมีการทำงานที่ต่อเนื่องไม่ขาดสายอีกด้วย

แล้วกระผม/อาตมภาพก็นั่งลงในวงฉันร่วมกับพระเดชพระคุณพระธรรมวชิโรดม, รศ.ดร. (พล อาภากโร ป.ธ. ๙) หรือท่านเจ้าคุณอาจารย์พล ซึ่งท่านเป็นรองศาสตราจารย์ด็อกเตอร์ รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนิสิต มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และเป็นเจ้าคณะภาค ๖ พระเดชพระคุณพระเทพวชิรธีราภรณ์ (ประดิษฐ์ ฐิตเมโธ ป.ธ. ๙) หรือหลวงพ่อเจ้าคุณประดิษฐ์ เจ้าอาวาสวัดพระพุทธฉาย รองเจ้าคณะภาค ๒
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-03-2025 เมื่อ 01:25
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 08-03-2025, 00:18
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ระหว่างฉันก็คุยกันไปตามเรื่อง ซึ่งท่านเจ้าคุณอาจารย์พลกล่าวว่า "ทำอย่างไรที่เราจะเปลี่ยนเป้าหมาย จากการที่เอาเด็ก ๆ มาบวชสามเณร ซึ่งเป็นไปได้ยากแล้ว บรรดาเด็กเมื่อถึงเวลาโตเป็นหนุ่ม ก็เริ่มอยู่ในวัยแตกเปลี่ยว ส่วนใหญ่อาจจะพาให้เกิดความเสียหายกับคณะสงฆ์เสียด้วยซ้ำไป แต่ว่าทางมหาเถรสมาคมของเราก็มีมติไม่ให้บวชบุคคลที่อายุเกิน ๖๐ ปีไปแล้ว เนื่องเพราะเกรงว่าจะเป็นการมาอาศัยวัดกิน"

กระผม/อาตมภาพจึงได้กราบเรียนไปว่า "ทางวัดท่าขนุนไม่ใส่ใจตรงนี้ครับ ขอให้มาบวชเท่านั้นเอง ส่วนที่เหลือพระอุปัชฌาย์พิจารณาอบรมของเรา ซึ่งมั่นใจว่าถ้าหากว่าบุคคลที่มาบวชแล้วตั้งใจที่จะเอาดี บุคคลที่อายุมาก มีประสบการณ์ทางโลกมามาก ถ้าบวชแล้วก็ย่อมเกิดความเบื่อหน่ายต่อชีวิตทางโลกถึงได้มาบวช"

ท่านบอกว่า "เรื่องนี้ผมเห็นด้วย ท่านพูดออกยูทูบบ่อย ๆ ให้พูดเรื่องนี้บ้างว่า การบวชในยามแก่นั้นไม่ใช่เรื่องน่าอาย" หลวงพ่อเจ้าคุณประดิษฐ์บอกว่า "ถ้าอย่างนั้นเราก็ทำในลักษณะที่ว่า บวชบุคคลผู้เกษียณอายุเพื่อเฉลิมพระเกียรติโครงการใดโครงการหนึ่ง ส่วนคนเขาจะอยู่ต่อหรือไม่อยู่ต่อ ก็แล้วแต่แต่ละคนตัดสินใจกันเอาเอง"

คุยกันมาถึงตรงนี้ ท่านเจ้าคุณอาจารย์พลก็กล่าวไปถึงในส่วนของอินเดียว่า "นักบวชอินเดียที่มีหลักปฏิบัติแบบอาศรม ๔ ประการ ซึ่งผมจำไม่ค่อยได้ว่ามีอะไรบ้าง ?" กระผม/อาตมภาพจึงกล่าวว่า "มีพรหมจารีย์ คฤหัสถ์ วานปรัสถ์ และ สันยาสี ครับ" ท่านบอกว่า "นั่นแหละ..นั่นแหละ..อย่าลืมว่าแต่ละช่วงวัยของเขานั้นถึง ๒๕ ปีทีเดียว"

วัยพรหมจารีย์ ส่วนใหญ่เป็นวัยเพื่อการศึกษาหาความรู้ พูดง่าย ๆ ก็คือร่ำเรียนเพื่อที่จะทำมาหากิน แล้วหลังจากนั้นก็เป็นวัยคฤหัสถ์ ก็คือบุคคลผู้ครองเรือน ซึ่งถ้าหากว่าวัยพรหมจารีย์ ๒๕ ปี วัยคฤหัสถ์ ๒๕ ปี ก็แปลว่ามีครอบครัว มีภรรยา มีบุตร มีธิดา เลี้ยงดูบุตรธิดาจนเติบโตแล้วก็เข้าสู่วัยวานปรัสถ์ ก็คือวัยออกป่า หรือพูดง่าย ๆ ว่าวัยออกจาริก เพื่อที่จะท่องโลกหาความจริงของชีวิต ซึ่งก็แปลว่าต้องอายุ ๕๐ ปีไปแล้ว ส่วนใหญ่ก็จะหลีกหนีไปอยู่ตามป่าบ้าง อยู่ในที่เงียบสงัดบ้าง ปฏิบัติธรรมไปเรื่อย ๆ หรือว่าเดินทางแสวงหาประสบการณ์ไปเรื่อย ๆ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-03-2025 เมื่อ 01:30
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 08-03-2025, 00:23
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

จนถึงวัยสุดท้าย ก็คืออายุย่าง ๗๕ ปี หรือว่าอาจจะก่อนหลังตามแต่ความเข้าใจโลกที่ได้มาในช่วงวานปรัสถ์ ก็จะเป็นนักบวช ก็คือเริ่มมีอาศรม เริ่มมีที่อยู่ เริ่มยึดการบวชในลักษณะบำเพ็ญสมาธิภาวนา แสวงหาโมกขธรรม พยายามหาความจริงให้ได้ว่า "โลกนี้มีสาระอะไรบ้าง ? ตนเองเป็นใคร ? พระพรหมเป็นใคร ?" จนท้ายที่สุด เมื่อเข้าถึงปรมาตมันแล้วก็นำไปสั่งสอนคนอื่นต่อ

ท่านเจ้าคุณอาจารย์พลย้ำว่า "เราจะเห็นได้ว่าวัยบวชของเขาก็คือคนแก่ ๗๐ กว่าปีทีเดียว ซึ่งเป็นวัยที่ถ้าตั้งใจบวชก็แปลว่ามั่นคงแล้ว เพียงแต่ว่าบ้านเราไม่ได้มีหลักการดำเนินชีวิตแบบนี้ ท่านลองไปเผยแพร่ดู เผื่อมีคนสนใจ เราจะได้เพิ่มจำนวนของพระภิกษุเข้ามา ต่อให้ไม่ค่อยมีเรี่ยวแรงทำอะไร อย่างน้อย ๆ ก็ช่วยอยู่วัด ทำความสะอาดวัด เป็นกำลังใจให้กับลูกกับหลานที่มาทำบุญก็ยังดี

หรือถ้าหากว่าท่านใดเอาจริงเอาจังในการปฏิบัติ ด้วยความที่ผ่านโลกมามาก รัก โลภ โกรธ หลง เหลือน้อยแล้ว ก็สามารถที่จะเข้าถึงธรรมได้ง่ายกว่าเสียด้วยซ้ำไป"
แล้วพวกเราก็นั่งหัวเราะกันว่า "พูดไปครั้งนี้ วัดท่าขนุนจะโดนอะไรบ้างนี่ ?" กระผม/อาตมภาพกล่าวว่า "ถ้าหากทำให้พระพุทธศาสนาของเราดีขึ้น ต่อให้ต้องปรับใช้หลักการของศาสนาใดก็คงไม่เป็นไรหรอกครับ"

เมื่อพวกเราได้ฉันกันเสร็จเรียบร้อย ให้พรแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ไปหาพรรคพวกที่มาด้วยกัน ก็คือ ผศ., ดร.เจ้าคุณกล้า - พระวชิรวาที, ผศ., ดร. (กล้า วีรรตโน) เจ้าอาวาสวัดมหาธาตุ วรวิหาร รองเจ้าคณะอำเภอเมืองเพชรบุรี ท่านพระครูโสภณปัญญาวรวัฒน์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอเมืองราชบุรี เจ้าอาวาสวัดท้ายเมือง ซึ่งนัดแนะกันเอาไว้ว่า พวกเราจะเป็นตัวแทนของเพื่อนฝูงมาร่วมให้การสนับสนุนรุ่นน้อง ซึ่งได้รับความชื่นชมจากท่านเจ้าคุณอาจารย์พระพรหมโมลีอยู่เสมอว่า เป็นพระอุปัชฌาย์รุ่นที่เหนียวแน่นมาก นอกจากจัดตั้งองค์กรทำคุณประโยชน์ให้กับสาธารณะและพรรคพวกเพื่อนฝูงแล้ว ยังไม่ลืมที่จะมาสนับสนุนรุ่นน้องอีกด้วย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-03-2025 เมื่อ 01:33
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 08-03-2025, 00:29
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อได้ทำการสนับสนุน ทั้งปัจจัยในส่วนขององค์กรพระอุปัชฌาย์และส่วนตัวแล้ว กระผม/อาตมภาพก็เข้าไปให้กำลังใจบรรดาพรรคพวกเพื่อนฝูงจากเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค ๑๔ อีกรอบหนึ่ง ปรากฏว่าไปเจอบรรดาท่านที่รู้จักจากภาคอื่น ๆ มาด้วย ก็เลยทำให้กลายเป็นจุดสนใจตรงที่ว่าคนโน้นก็ทัก คนนี้ก็ถาม โดยเฉพาะบรรดารองเจ้าคณะภาคต่าง ๆ ซึ่งรู้จักมักคุ้นกัน เมื่อไต่ถามกันไป ไต่ถามกันมา บางท่านที่ไม่คุ้นเคยก็พาลหลงว่า กระผม/อาตมภาพน่าจะเป็นระดับเจ้าคณะภาคเหมือนกันกระมัง ?!

หลังจากที่พระเดชพระคุณพระพรหมโมลีนำบูชาพระรัตนตรัย และเป็นประธานในการกล่าวเปิดการอบรมว่าที่พระอุปัชฌาย์รุ่นที่ ๕๘ เนื่องเพราะว่าหยุดไปสองปีในช่วงที่เชื้อไวรัสโควิด ๑๙ ระบาด ไม่เช่นนั้นรุ่นนี้ก็ต้องเป็นรุ่นที่ ๖๐ แล้ว หลังจากที่ท่านเริ่มให้โอวาท กระผม/อาตมภาพก็บอกลาทุกคน ว่าถ้าหากว่ามีโอกาสก็จะมาร่วมทำวัตรเช้า และฉันเช้าด้วยให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ขอให้ทุกคนพยายามสู้ไปให้เต็มที่ อย่าได้ท้อถอย ถือหลักโบราณที่ว่า "เราก็ชายหมายมาดว่าชาติเชื้อ ถึงปะเสือก็จะสู้ดูสักหน" บางท่านก็บอกว่า "ตอนแรกผมก็ใจเต้นไม่เป็นจังหวะเลย แต่พอเห็นหลวงพ่อเล็กมา ใจค่อยนิ่งลงหน่อย"

ตรงจุดนี้จะว่าไปแล้ว ท่านที่ไม่เคยไปอยู่ในสถานที่ซึ่งแปลกที่ แปลกถิ่น แปลกหน้า หาคนรู้จักแทบจะไม่ได้ เมื่อถึงเวลามีพระเถระที่ตนเองคุ้นเคยมาทักมาทาย มาให้กำลังใจ ท่านทั้งหลายเหล่านี้ก็จะรู้สึกใจฟู มีกำลังใจขึ้นมา สิ่งหนึ่งประการใดที่คิดไม่ออก ทำไม่ได้ ก็กลายเป็นคิดออกทำได้ สมองแล่นขึ้นมาทันที กระผม/อาตมภาพเองอยากจะบอกว่า ท่านทั้งหลายเองทำสมาธิภาวนาน้อยไปหน่อย แต่ก็ไม่กล้าที่จะว่าตรง ๆ จึงได้แต่บอกว่า "แล้วจะมาเป็นกำลังใจให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้"

หลังจากนั้นก็ได้ร่ำลาบรรดาพระเถระที่รู้จักมาตามรายทาง จนกระทั่งออกเดินทางจากวัดสามพระยา วรวิหาร ซึ่งตอนนั้นถนนหนทาง ตลอดจนรถราก็แน่นไปหมดแล้ว โดยที่เห็นแวบ ๆ ว่าพระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (ธงชัย ธมฺมธโช ป.ธ. ๖) กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนกลาง วิ่งสวนเข้าไป แต่ต้องขออภัย เพราะว่าได้แต่ยกมือไหว้อยู่บนรถ เนื่องจากว่าออกมาแล้ว ได้แต่ตั้งใจว่าถ้าหากพรุ่งนี้มีเวลาก็จะอยู่จนกว่าเจ้านายจะมาถึง แต่ถ้าหากว่าเวลาไม่เพียงพอ ก็คงร่วมทำวัตร ร่วมฉันเช้า ให้กำลังใจทุกคน แล้วก็คงต้องเดินทางกลับเหมือนเดิม

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันศุกร์ที่ ๗ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-03-2025 เมื่อ 01:36
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 23:04



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว