กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๘ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนมีนาคม ๒๕๖๘

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 06-03-2025, 17:21
พิชวัฒน์'s Avatar
พิชวัฒน์ พิชวัฒน์ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Aug 2014
ข้อความ: 500
ได้ให้อนุโมทนา: 3,308
ได้รับอนุโมทนา 24,997 ครั้ง ใน 988 โพสต์
พิชวัฒน์ is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๖ มีนาคม ๒๕๖๘

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๖ มีนาคม ๒๕๖๘


ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 06-03-2025, 23:54
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๖ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ กระผม/อาตมภาพไปทำวัตรเช้าร่วมกับผู้เข้าฝึกซ้อมอบรมเพื่อสอบเป็นพระอุปัชฌาย์ประจำปี ๒๕๖๘ ในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค ๑๔ ที่วัดไร่ขิง (พระอารามหลวง) หลังจากทำวัตรเช้าเสร็จแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ได้นำว่าที่พระอุปัชฌาย์ทั้งหลาย ทำสามีจิกรรมต่อพระเดชพระคุณพระธรรมวชิรานุวัตร, ดร. (แย้ม กิตฺตินฺธโร) เจ้าคณะภาค ๑๔ ที่ทุกคนได้มารบกวนทางวัดไร่ขิง (พระอารามหลวง) ไม่ว่าจะเป็นที่อยู่ ที่กิน ห้องน้ำห้องส้วม อาหารและน้ำปานะตลอด ๖ วันที่ผ่านมา

พระเดชพระคุณหลวงพ่อเจ้าคุณแย้มยังปรารภถึงว่าที่พระอุปัชฌาย์บางท่าน ที่ยังไม่คล่องตัวในขั้นตอนพิธีกรรมอุปสมบท และการบอกอนุศาสน์ต่าง ๆ ว่า ให้พยายามเร่งรัดตนเองให้มากที่สุด และอย่าไปทำอะไรในลักษณะโฉ่งฉ่างที่วัดสามพระยา (วรวิหาร) เนื่องเพราะว่าไปถึงที่นั่นแล้ว เราจะต้องสำรวมสมณสารูป ให้ดูน่าเลื่อมใสสมกับที่จะเป็นพ่อคนในทางพระพุทธศาสนา

เมื่อกราบรับโอวาทกันแล้ว พวกเราก็ไปฉันเช้าร่วมกัน จากนั้น กระผม/อาตมภาพก็ไม่ได้อยู่รอพิธีปิด หากแต่ว่าขอตัววิ่งไปยังวัดพระแท่นดงรัง วรวิหาร หมู่ที่ ๑๐ ตำบลพระแท่น อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี เนื่องจากว่าได้รับฎีกาจากพระเดชพระคุณพระราชวิสุทธาภรณ์ (ทองดำ อิฏฺฐาสโภ ป.ธ. ๖) รองเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี เจ้าอาวาสวัดพระแท่นดงรัง วรวิหาร ให้มาร่วมพิธีเปิดงานนมัสการพระแท่นดงรัง ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๘

ครั้นไปถึงก็เจอพรรคพวกเพื่อนฝูง ไม่ว่าจะเป็นเจ้าคณะจังหวัด รองเจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะอำเภอ รองเจ้าคณะอำเภอ ซึ่งทุกท่านก็รุมกันเข้ามาไต่ถามถึงว่าที่พระอุปัชฌาย์ทั้ง ๑๐ รูปของจังหวัดกาญจนบุรี กระผม/อาตมภาพก็แจ้งให้ทราบ ถึงความเป็นห่วงของหลวงพ่อเจ้าคณะภาค ๑๔ บางท่านก็ยังถอนใจว่า "ทำไมไม่เตรียมตัวให้พร้อมกว่านี้ ?"

ครั้นได้เวลาแล้วก็เป็นพิธีเปิดงานนมัสการพระแท่นดงรังประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๘ เสร็จสรรพเรียบร้อยแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ขอตัววิ่งกลับที่พักวัดอุทยาน จังหวัดนนทบุรี โดยแวะฉันภัตตาหารกลางทาง ซึ่งเป็นการแวะแบบไม่หยุดพัก ก็คือเมื่อได้ภัตตาหารมาแล้วก็ฉันบนรถไปเลย..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-03-2025 เมื่อ 03:03
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 06-03-2025, 23:57
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ครั้นถึงที่พักแล้ว มีคำถามมาในกลุ่มไลน์ เรื่องของการที่คณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม ประจำรัฐสภา ได้ทำการเกี่ยวกับที่ดินของวัด สำนักสงฆ์ หรือว่าที่พักสงฆ์ โดยช่วยผลักดันเพื่อให้วัดต่าง ๆ ได้เอกสารสิทธิ์ที่ดินเหล่านี้ออย่างถูกต้อง แล้วทางคณะกรรมาธิการซึ่งต้องติดต่อประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อที่จะได้ประชุมหาข้อตกลงร่วมกันนั้น ทำท่าตกใจมากว่า "ทำไมถึงมีอยู่เป็นหมื่น ๆ วัด ?" ที่ยังไม่มีเอกสารสิทธิ์อันถูกต้อง ทั้งที่ประวัติของบางวัดก็สร้างมาเป็นร้อย ๆ ปีแล้ว..!

กระผม/อาตมภาพเองได้ยินแล้วไม่รู้สึกแปลกใจเลย เอาแค่จังหวัดกาญจนบุรีก็แล้วกัน เหตุที่เรื่องที่ดินวัดคาราคาซังอยู่ ไม่ได้เอกสารสิทธิ์เสียที ก็เพราะว่าอันดับแรก
ไม่มีเจ้าภาพที่ใหญ่พอ ในเมื่อไม่มีเจ้าภาพที่ใหญ่พอ ก็ทำให้บรรดาเจ้าของที่ดินไม่เกรงใจ ไม่ว่าจะขอร้องอย่างไร ก็ไม่สามารถที่จะได้รับเอกสารสิทธิ์ครอบครองในที่ดินนั้น ๆ ได้

ภายในระยะเวลาที่เป็นเจ้าอาวาสมาทั้งหมด ๑๗ ปี กระผม/อาตมภาพเคยเข้าร่วมประชุมกับทางจังหวัดกาญจนบุรี ๓ ครั้ง เกี่ยวกับเรื่องของที่ดินวัด ปรากฏว่ามีเพียงวัดเดียวที่ได้รับอนุมัติให้ใช้ที่ดินได้อย่างถูกต้อง หมายความว่า จำนวนวัดทั้งหมดที่ยื่นเรื่องขอใช้ที่ดินของส่วนราชการเข้าไป ได้รับอนุมัติแค่วัดเดียวเท่านั้น ซึ่งในยุคนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดท่านนั้นมีแนวคิดพิสดาร ท่านบอกว่า "ถ้าหากว่าวัดไหนสร้างอาคาร สร้างโบสถ์เอาไว้บนภูเขา ผมไม่อนุมัติอย่างเด็ดขาด ท่านไปสร้างเอาไว้แบบนั้น ไม่คิดบ้างหรือว่าคนแก่จะขึ้นไปทำบุญอย่างไร ?"

แล้วกระผม/อาตมภาพก็มานึกถึงวัดเขาเม็งอมรเมศร์ จังหวัดกาญจนบุรี หรือเอาอย่างสถานเบาก็ วัดเขาน้อย จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งที่ดินวัดก็คือยอดเขา ถ้าไม่ให้ปลูกสร้างอยู่บนยอดเขา แล้วคุณจะให้เขาเอาสิ่งปลูกสร้างไปไว้ที่ไหน ? แต่ก็ไม่ได้ถกเถียงกับท่าน การที่ท่านมีแนวคิดที่ยึดมั่นในลักษณะอย่างนั้น ทำให้หลายวัดไม่มีโอกาสที่ได้รับเอกสารสิทธิ์อย่างถูกต้อง

สำหรับบุคคลที่จะมาเป็นเจ้าอาวาสต่อไปก็ดี ญาติโยมที่ต้องการความรู้เกี่ยวกับที่ดินวัดก็ตาม กระผม/อาตมภาพมีความรู้เฉพาะในส่วนของจังหวัดกาญจนบุรีเท่านั้น ก็ขอกล่าวถึงในส่วนของจังหวัดกาญจนบุรีแต่พอสังเขป ดังนี้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-03-2025 เมื่อ 03:08
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 07-03-2025, 00:00
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ที่ดินในจังหวัดกาญจนบุรีนั้น อันดับแรกเลย ติดด้วยพระราชกฤษฎีกา ปี ๒๔๘๑ ซึ่งมีการประกาศให้พื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีทั้งจังหวัดเป็นพื้นที่ทหาร เนื่องเพราะว่าในช่วงนั้นมีมอญอยู่ ๒ กลุ่มใหญ่ ได้มาตั้งเมืองอยู่แถวบริเวณที่เรียกว่าทุ่งก้างย่าง ซึ่งเป็นรอยต่อทางด้านปลายของอำเภอไทรโยค เกือบ ๆ จะถึงต้นอำเภอทองผาภูมิในปัจจุบันนี้ แล้วก็มีการจัดวางกำลังพลของตนเอง มีการเก็บภาษีของตนเอง ลักษณะเหมือนกับจะตั้งเป็นบ้านเมืองอย่างถาวร

ทางราชการไทยก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ แต่การที่จะเข้าไปผลักดันกลุ่มบุคคลจำนวนมากที่เรียกกันว่า "มวลชน" นั้นเป็นเรื่องยาก ต้องทำทุกอย่างให้ถูกต้องตามกฎหมายก่อน จึงจะมีข้ออ้างได้ ดังนั้น..จึงมีการประกาศพระราชกฤษฎีกา ปี ๒๔๘๑ ให้พื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีทั้งหมดเป็นพื้นที่ทหาร เพื่อที่ทหารจะได้มีข้ออ้างเข้าไปขับไล่ หลังจากดำเนินการเรื่องนี้เรียบร้อยแล้ว บุคคลที่ไหวตัวทันก็ไปยื่นเรื่องขอใช้พื้นที่กับทางทหาร บุคคลที่นิ่งนอนใจ ปัจจุบันนี้ก็อาจจะไม่ได้รับอนุญาต ทั้ง ๆ ที่อยู่ในพื้นที่มาแล้วหลายชั่วคน..!

ประการต่อไปก็คือเป็นที่ดินราชพัสดุ คำว่าที่ดินราชพัสดุนั้น ถ้าเป็นพระราชบัญญัติที่ดินราชพัสดุ ปี ๒๕๖๒ ซึ่งถือว่าเป็นฉบับล่าสุด ได้ระบุเอาไว้ ๓ ลักษณะก็คือ

๑) อสังหาริมทรัพย์อันเป็นทรัพย์สินของแผ่นดินทุกชนิด อันนี้ไม่ว่าจะเป็นตึกรามบ้านช่องอะไรก็ตาม ถ้าหากว่าเป็นของแผ่นดินก็จัดว่าเป็นที่ราชพัสดุเช่นกัน

๒) ที่ดินซึ่งสงวนหรือหวงห้ามไว้ เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะ เราจะเห็นว่ามีโฉนดบางส่วนที่ยังอยู่ในนามของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเลยก็มี

๓) ที่ดินซึ่งสงวนหรือหวงห้ามไว้ เพื่อประโยชน์ของทางราชการตามกฎหมาย

ถ้าอยู่ใน ๓ ลักษณะนี้เรียกว่าที่ราชพัสดุ บางคนก็เรียกว่าที่ดินราชพัสดุ บางคนเรียกง่าย ๆ ว่าที่กรมธนารักษ์ไปเลย เนื่องเพราะว่ากรมธนารักษ์ กระทรวงการคลังมีหน้าที่ดูแลที่ราชพัสดุนี้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-03-2025 เมื่อ 03:11
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 07-03-2025, 00:11
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลังจากนั้นแล้วก็ยังมีที่ดินป่าสงวน ซึ่งที่ดินป่าสงวนนั้น ส่วนใหญ่ในปัจจุบันก็โดนทำให้เป็นป่าเสื่อมโทรม เพื่อที่จะให้ง่ายต่อการขอใช้พื้นที่ เพราะว่ากฎหมายเกี่ยวกับป่าสงวนนั้นไม่ได้หนักมาก มีข้อบังคับแค่ว่าบุคคลซึ่งใช้พื้นที่ป่าสงวนนั้น ต้องปลูกต้นไม้คืนไป ๒๐ เปอร์เซ็นต์ อย่างเช่นว่าถ้าขอใช้ที่ดิน ๑๐ ไร่ ก็ต้องปลูกป่าไป ๒ ไร่ เป็นต้น

ต่อมาก็คือที่ดินอุทยาน ซึ่งส่วนนี้ยากแล้ว เพราะว่ากฎหมายเกี่ยวกับอุทยานแห่งชาตินั้นลำบากมาก คุณไม่สามารถที่จะขอใช้พื้นที่ใด ๆ ได้เลย ทั้งที่อุทยานของจังหวัดกาญจนบุรีส่วนใหญ่นั้น ประกาศขึ้นหลังจากที่ชาวบ้านไปตั้งที่อยู่อาศัยกันมาก่อน บางแห่งก็หลาย ๑๐ ปี บางแห่งก็เป็น ๑๐๐ ปี

ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดก็คือที่ดินของบ้านกะเหรี่ยงบางกลอย จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งเขาอยู่กันมา ๒๐๐ - ๓๐๐ ปี แต่พอมาประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติหรือว่าเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ก็ไปขับไล่พวกเขาออกมา แล้วในส่วนที่จัดสรรให้นั้น ก็ไม่ได้คำนึงถึงเรื่องว่าจะสามารถทำกินได้จริงหรือเปล่า ?

อย่างเช่นที่ดินของสหกรณ์นิคมทองผาภูมิของเรา ซึ่งจัดสรรให้โดยที่คนจัดสรรนั้นเป็นคนกรุงเทพฯ มีรสนิยมสูง เห็นว่าที่ดินภูเขาสูง ๆ ต่ำ ๆ นั้น
ทิวทัศน์สวยมาก ถ้าหากว่าสร้างบ้านแล้วจะดูงดงาม แต่ไม่ได้คำนึงว่าเขาจะหาที่ราบสำหรับเพาะปลูกอย่างไร ชาวบ้านก็ต้องปรับตัว แทนที่จะเพาะปลูกพืชผลอะไรที่ง่าย ๆ ก็ต้องไปปลูกไม้ยืนต้น แล้วผลไม้ยืนต้นกว่าที่จะออกดอกออกผลให้ได้จำหน่ายก็ไม่ต่ำกว่า ๓ ปี ๕ ปี

ในระหว่างที่ทำกินอยู่ พอถึงเวลาปลดหม้อข้าว ขวดน้ำลงเพื่อที่จะทำไร่ ปรากฏว่าหม้อข้าวกลิ้งไปอยู่ตีนเขาโน่น..! เป็นการจัดสรรที่ดินให้โดยที่ไม่ได้ใช้สายตาของบุคคลที่จะทำกิน หากแต่ว่าใช้สายตาของคนกรุงเทพฯ ที่เห็นว่าทิวทัศน์แบบนี้สวยมาก ทำเอาบรรดาผู้ที่ได้รับจัดสรรที่ดินอยากจะร้องไห้ไปตาม ๆ กัน..!

ในระยะแรกไปอาศัยอยู่ที่สำนักสงฆ์เกาะพระฤๅษี กระผม/อาตมภาพเข้าไปช่วยเหลือเรื่องการทำกินของพวกเขาอยู่ ๙ ปี จึงซาบซึ้งปัญหานี้ดีที่สุด เพราะว่าต้องควักกระเป๋าซื้อพันธุ์ไม้ผลดี ๆ ให้เขาไปปลูก หมดเงินไปจนนับไม่ถ้วน..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-03-2025 เมื่อ 03:14
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า 07-03-2025, 00:18
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ที่ดินต่อไปหนักกว่านั้นอีก ก็คือที่ดินเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า โดยเฉพาะเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรตะวันตก ซึ่งเป็นมรดกโลก ไม่สามารถที่จะแตะต้องอะไรได้เลยแม้แต่น้อย

ดังนั้น..บรรดากะเหรี่ยงต่าง ๆ ที่อยู่ในทุ่งใหญ่ฯ มาก่อน จึงลำบากมาก บรรดาท่านที่เคยอยู่แถวทุ่งพระฤๅษีก็ดี ห้วยซ่งไท้ก็ดี ห้วยทิคองก็ดี ตลอดจนกระทั่งบ้านทินวย ถ้าลึกเข้าไปทางด้านในก็เป็นห้วยเซซาโหว่ บ้านจะแก บ้านแม่กะสะ บ้านไล่โว่ เหล่านี้เป็นต้น ก็ล้วนแล้วแต่โดนกดดัน บีบคั้น ไม่สามารถที่จะทำกินอะไรได้ จนกระทั่งต้องพยายามปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน

ที่ดินต่อไปที่จะกล่าวถึง ซึ่งไม่ควรที่จะต้องมายุ่งด้วยเลยก็คือที่ดินสหกรณ์นิคมทองผาภูมิ กระผม/อาตมภาพก็ไม่ทราบว่าเขาหลับหูหลับตาประกาศที่ดินไปได้อย่างไร กว้างไกลขนาดนั้น ? ปากทางเข้าสหกรณ์นิคมทองผาภูมินั้น ห่างจากสามแยกทองผาภูมิประมาณ ๑๘ กิโลเมตร แต่ว่าที่ดินหลังวัดท่าขนุน ซึ่งติดแม่น้ำแควน้อย อยู่ภายใต้การครอบครองของสหกรณ์นิคมทองผาภูมิ..! กระผม/อาตมภาพจะขออนุญาตใช้พื้นที่ ต้องวิ่งไปถึงสหกรณ์นิคมทองผาภูมิเพื่อทำเรื่องขอใช้ ทั้ง ๆ ที่อยู่ห่างไกลกันขนาดนั้น แต่ว่ากลับมีสิทธิ์ครอบครอง

ที่ดินต่อไปก็คือที่ดินในสังกัดของกรมเจ้าท่า โดยเฉพาะในบริเวณหน้าเมืองกาญจนบุรี ซึ่งก่อนหน้านี้ ท่านทั้งหลายจะเห็นว่า มีบรรดาแพอาหาร แพเทคต่าง ๆ มากมายมหาศาล ปัจจุบันนี้โดนกวาดออกไปอยู่ในจุดที่สมควรกันหมดแล้ว เนื่องเพราะว่าส่วนหนึ่งเป็นที่ดินราชพัสดุ อีกส่วนหนึ่งเป็นที่ดินในเขตดูแลของกรมเจ้าท่า

หลังจากนั้นก็มีที่ดินของกรมทางหลวง ตัดถนนมาให้ยังไม่พอ ยังมีข้อบังคับอีกว่า จากกึ่งกลางทางหลวงออกไปด้านละ ๑๓ เมตร ก็คือเขตทางหลวง ซึ่งสมัยก่อนจะมีหลักปูนปักเอาไว้ มีคำว่า ขทล. ก็คือเขตทางหลวงนั่นเอง

กระผม/อาตมภาพเองสร้างอาคารใต้ฐานสมเด็จองค์ปฐม ๒๑ ศอกหน้าวัด โดยที่ฐานบันไดนั้นแปะอยู่ตรงจุด ๑๓ เมตรพอดิบพอดี..! ไม่เช่นนั้นแล้วถ้าหากว่ามีการขยายถนน คุณก็จะโดนทุบแน่นอน แต่กระผม/อาตมภาพได้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ไปแล้วว่า ถ้าหากว่ามีอะไรที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้าง ทำให้เกิดความยากลำบาก หรือว่าความยุ่งยากในการสัญจร ก็อนุญาตให้ทุบได้ แต่ว่าช่วยทำในส่วนที่เหลืออยู่ให้สวยงาม และสามารถขึ้นไปสักการะสมเด็จองค์ปฐมได้ด้วย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-03-2025 เมื่อ 03:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #7  
เก่า 07-03-2025, 00:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ที่ดินในส่วนต่อไปก็คือที่ สปก. (สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม) ซึ่งในส่วนนี้นั้น มีกฎหมายระบุเอาไว้ชัดเจน แต่ว่าก็มีคนตะแบงข้างไปอยู่เสมอ แทนที่จะโอนให้กับญาติพี่น้องของตนเองตามกฎหมาย ก็เอาไปจำนองจำนำกันให้ยุ่งไปหมด ส่วนหนึ่งก็เกิดศรัทธาขึ้นมา ยกให้กลายเป็นที่ดินสำหรับตั้งวัด สำหรับตั้งสำนักสงฆ์ แต่คราวนี้เมื่อเกี่ยวข้องด้วยกฎหมาย สปก. จึงทำให้จัดการยากสุด ๆ

ท่านทั้งหลายจะเห็นว่าแค่จังหวัดกาญจนบุรีจังหวัดเดียว ในเรื่องของการครอบครองที่ดินของทางคณะสงฆ์ ก็ยุ่งยากมากความขนาดนี้แล้ว และโดยเฉพาะไม่มีใครออกมาเป็นเจ้าภาพใหญ่ ในเมื่อไม่มีบุคคลเป็นเจ้าภาพใหญ่ให้เกรงใจพอ บรรดาวัดวาอารามต่าง ๆ ที่อยู่กันมาเนิ่นนาน บางทีก็หลายชั่วคน หลายวัดจึงไม่มีสิทธิครอบครองในที่ดินอย่างถูกต้อง บางวัดมีที่ธรณีสงฆ์หลายผืน แต่ว่าที่ตั้งวัดกลับไม่สามารถที่จะมีชื่อเป็นของวัดอย่างถูกต้องได้ เหล่านี้เป็นต้น

จึงได้แต่ฝากทางคณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร ขอเจริญพรขอบคุณทุกท่านที่ออกมาเป็นเจ้าภาพใหญ่ในครั้งนี้ ได้แต่หวังว่าสิ่งที่ท่านทั้งหลายพยายามดิ้นรนนั้น จะสามารถอำนวยความสะดวกให้กับทางคณะสงฆ์และพระพุทธศาสนาของเรา

ขอให้อานุภาพแห่งบุญกุศลที่ท่านทั้งหลายได้คิดดี พูดดี ทำดี เพื่อพระพุทธศาสนา จงส่งเสริมให้ทุกท่านมีความเจริญทั้งทางโลกและทางธรรม ไม่ว่าประสงค์จำนงหมายสิ่งหนึ่งประการใดที่เป็นไปโดยชอบ ประกอบด้วยธรรมแล้วไซร้ ขอให้ความปรารถนาของท่านทั้งหลายจงสำเร็จสัมฤทธิ์ผลดังมโนรถทุกประการด้วยเทอญ

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพฤหัสบดีที่ ๖ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-03-2025 เมื่อ 03:20
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 23:10



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว