#1
|
||||
|
||||
![]() เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘
|
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#2
|
||||
|
||||
![]()
วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๖ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช กระผม/อาตมภาพต้องนำคณะไปยังพิพิธภัณฑ์ศิลป์แผ่นดิน ตำบลเกาะเกิด อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อดูงานตามโครงการพัฒนาศักยภาพบุคลากรของสภาวัฒนธรรมอำเภอทองผาภูมิ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๘
เมื่อไปถึงประมาณ ๙ โมงเช้าเศษ ๆ ปรากฎว่าทางด้านพิพิธภัณฑ์แจ้งว่ายังไม่เปิดทำงาน เนื่องเพราะว่าระบบทุกอย่างจะเปิดทำงานตอน ๐๙.๔๕ น. โดยให้กระผม/อาตมภาพไปพักที่ร้านกาแฟและจำหน่ายสินค้าของทางด้านพิพิธภัณฑ์ก่อน พอดีว่าทางคณะใหญ่ ซึ่งเดินทางมาจากวัดท่าขนุนมาถึงในเวลาไล่เลี่ยกัน เมื่อคนจำนวน ๕๐ คน แห่กันลงมาเต็มไปหมด เจ้าหน้าที่จึงต้องตัดสินใจเปิดส่วนหน้าในการจำหน่ายตั๋วให้กับพวกเราก่อน เนื่องเพราะกระผม/อาตมภาพขอว่า ให้จัดการเรื่องตั๋วเข้าชมให้เสร็จเรียบร้อยก่อน ค่าเข้าชมนั้น ถ้าผู้ที่อายุเกิน ๖๐ ปีไปแล้ว อยู่ที่คนละ ๗๕ บาท ถ้าผู้ที่อายุยังไม่ถึง ๖๐ ปี อยู่ที่คนละ ๑๕๐ บาท ส่วนพระภิกษุสงฆ์ไปลงชื่อแล้วเข้าฟรี เมื่อเจ้าหน้าที่เห็นว่าถ้าทำดังนี้แล้วงานจะสะดวกขึ้น สามารถเข้าชมได้ตามเวลา ประกอบกับมีบรรดาชาวต่างชาติอีกกลุ่มใหญ่ ๑๐ กว่าคนเข้ามาถึง จึงได้เปิดจำหน่ายตั๋วให้กับคณะของพวกเราก่อน เมื่อทำการแจกจ่ายตั๋วและเข้าห้องน้ำ ตลอดจนกระทั่งฝากข้าวของเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่ก็ได้บรรยายให้พวกเราฟังถึงที่มาของพิพิธภัณฑ์ศิลป์แผ่นดิน ซึ่งสืบทอดงานมาจากงานศูนย์ศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ซึ่งเก็บเอางานชิ้นสุดยอดฝีมือเชิงช่างไทย จากทุกสถานที่ซึ่งมีศูนย์ศิลปาชีพตั้งอยู่ เอาไว้ให้ลูกหลานของเราได้ชื่นชมกันที่นี่ เป็นที่น่าเสียดายว่าสามารถตาดูหูฟังได้เท่านั้น เนื่องเพราะว่าห้ามนำโทรศัพท์หรือว่ากล้องถ่ายรูปติดตัวไปด้วย กระผม/อาตมภาพเมื่อฟังบรรยายเบื้องต้นเสร็จแล้ว ก็ได้มอบของที่ระลึก ก็คือปากกาจักสานของเด็กนักเรียนโรงเรียนบ้านจันเดย์จำนวน ๔ ด้าม ให้กับทางเจ้าหน้าที่เป็นของที่ระลึก แล้วก็ขออนุญาตเข้าไปดูว่ามีสินค้าอะไรจำหน่ายเพิ่มเติมบ้าง เมื่อเดินวนจนรอบ ได้กระเป๋าใส่เงินใบเล็ก ๆ มาใบเดียว
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-02-2025 เมื่อ 01:53 |
สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#3
|
||||
|
||||
![]()
ส่วนคณะก็เข้าไปชมดูศิลปกรรมชั้นสุดยอดของบรรพบุรุษไทย ให้เป็นที่ชื่นตาชื่นใจ เนื่องเพราะว่ากระผม/อาตมภาพบอกแล้วว่า แค่ชิ้นเดียวที่บริเวณหน้าแท่นขายตั๋วก็คุ้มราคาค่าตั๋ว ๑๕๐ บาทแล้ว ซึ่งปีนี้เปลี่ยนเป็นบุษบกจตุรมุข ๕ ยอด ฝีมือสุดยอดในระดับที่ถอดประกอบได้ทุกชิ้น บรรดาฝรั่งต่างชาติมองกันด้วยความทึ่งอย่างชนิดปากอ้าตาค้าง ประมาณว่าใช้ AI ก็คือสมองกลผลิต ก็คงไม่ได้ชิ้นงานแบบนี้
แล้วกระผม/อาตมภาพก็ขอตัวเดินทาง ปล่อยให้คณะใหญ่เข้าชมกันเอง โดยที่มอบค่าอาหารกลางวันให้กับเลขาฯ พัฒน์ (พระมหาพัฒน์ ฐิตาจาโร ป.ธ. ๓) รับผิดชอบในการเลี้ยงทั้งคณะ เดินทางต่อไปยังตลาดโก้งโค้ง บ้านแสงโสม ตำบลขนอนหลวง ซึ่งอยู่ห่างกันแค่ประมาณ ๑๘ กิโลเมตรเท่านั้น ไม่ทราบเหมือนกันว่าด้วยความที่เป็นพระหรือเปล่า ? แม้ว่าจะเดินลงไปโดดเดี่ยวเดียวดาย ทางตลาดก็ไม่ยอมให้โดดเดี่ยว มีการนำคณะกลองยาวมาแห่รับด้วย เข้าไปดูสินค้าต่าง ๆ ของเขาแล้วก็ยังทึ่ง ก็คือนอกจากสินค้าพื้นเมือง อุปโภค บริโภคทุกอย่าง ตลอดจนกระทั่งร้านอาหารและส่วนแสดงวัฒนธรรมแล้ว สถานที่ยังกว้างขวางมาก สามารถจุคนได้เป็นพันเลยทีเดียว..! ซื้อเอาข้าวของที่พอจะฉันเพลได้หลายอย่าง ก็ขอกลับขึ้นรถ เดินทางไปฉันภัตตาหารบนรถไป จนกระทั่งมาถึงวัดประยุรวงศาวาส วรวิหาร เวลาเที่ยงครึ่ง เพื่อประชุมคณะอนุกรรมการโครงการ "สืบสานงานพ่อ ต่อยอดทุนเล่าเรียนหลวงสำหรับพระสงฆ์ไทย" ซึ่งกระผม/อาตมภาพก็ติดเป็นคณะกรรมการอีกคณะหนึ่งแล้ว
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-02-2025 เมื่อ 01:54 |
สมาชิก 27 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#4
|
||||
|
||||
![]()
วันนี้มีพระเดชพระคุณพระพรหมเสนาบดี (พิมพ์ ญาณวีโร ป.ธ. ๗) ที่ปรึกษามหาเถรสมาคม เจ้าคณะภาค ๗ เจ้าอาวาสวัดปทุมคงคา ราชวรวิหาร เป็นประธาน แต่ว่าบรรดาพระเถระส่วนหนึ่งก็ติดพิธีเปิดโครงการนักเรียนทุนเล่าเรียนหลวง ที่หอประชุมใหญ่พุทธมณฑล อีกส่วนหนึ่งก็ติดภารกิจต่าง ๆ จึงเข้าประชุมทางระบบ Zoom Meeting Online เป็นจำนวน ๒๐ กว่ารูป/คน
เนื้อหาในวันนี้ก็คือกำหนดกิจกรรมต่าง ๆ ที่จะจัดเพื่อเฉลิมพระเกียรติโดยบรรดาผู้ที่รับทุนเล่าเรียนหลวงไป ซึ่งมีมหาวิทยาลัยสงฆ์ ทั้งมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย โครงการฝึกอบรมนักเทศน์ทุนเล่าเรียนหลวง โครงการฝึกอบรมพระวิปัสสนาจารย์ทุนเล่าเรียนหลวง ซึ่งในส่วนภาคปฏิบัตินั้นได้ไปเดินธุดงค์กันที่ทองผาภูมิ โดยที่กระผม/อาตมภาพพร้อมกับคณะสงฆ์อำเภอทองผาภูมิได้รับเป็นเจ้าภาพให้ โครงการฝึกอบรมพระธรรมจาริกทุนเล่าเรียนหลวง โครงการฝึกอบรมพระธรรมกถิกาจารย์ทุนเล่าเรียนหลวง ซึ่งก็คือนักเทศน์นั่นเอง แต่ว่าเป็นของคณะสงฆ์ธรรมยุต โครงการฝึกอบรมคณาจารย์ด้านกรรมฐานทุนเล่าเรียนหลวง ซึ่งความจริงก็คือโครงการเดียวกับการฝึกอบรมพระวิปัสสนาจารย์ แต่ว่าเป็นของคณะสงฆ์ธรรมยุตเช่นกัน โครงการที่เพิ่มเติมขึ้นมาคือโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ โครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุข และโครงการหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบล เมื่อตกลงกันแล้วก็ได้รับการสรุปโดยท่านเจ้าคุณอาจารย์ประสิทธิ์ - พระเดชพระคุณพระเทพปวรเมธี, รศ.ดร. (ประสิทธิ์ พฺรหฺมรํสี ป.ธ. ๙) แบ่งออกเป็น ๕ กลุ่มหลัก ๓ กลุ่มรอง รวมแล้ว ๘ กลุ่ม เพื่อที่จะให้เข้ากับมรรคมีองค์ ๘ ก็คือ ๑) กลุ่มนักเทศน์ ๒) กลุ่มพระวิปัสสนาจารย์ ๓) กลุ่มพระธรรมจาริก ๔) กลุ่มนักเรียนบาลีทุนเล่าเรียนหลวง ๕) กลุ่มมหาวิทยาลัยสงฆ์ ก็คือ มจร. - มมร. และส่วนควบ ๓ กลุ่มก็คือหมู่บ้านรักษาศีล ๕ โครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุข และโครงการหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบล
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-02-2025 เมื่อ 01:58 |
สมาชิก 27 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#5
|
||||
|
||||
![]()
โดยที่กำหนดให้แต่ละกลุ่มมีคณะทำงานก็คือ ประธาน กรรมการ และเลขานุการ ให้พยายามหาให้ได้ว่า เมื่อคุณรับทุนเล่าเรียนหลวงไปแล้ว ทำอย่างไรจนประสบความสำเร็จ และสามารถนำไปต่อยอดเพื่อสังคมอย่างไรบ้าง ?
ปรากฏว่าทางด้านกลุ่มพระธรรมจาริกทุนเล่าเรียนหลวงนั้น แสดงออกซึ่งศักยภาพอย่างชัดเจน ฟันธงเลยว่าจะนำเสนอผลงานในด้านการปฏิญาณตนเป็นพุทธมามกะ ในการสวดมนต์เป็นภาษาชนเผ่า ตลอดจนกระทั่งการจำหน่ายสินค้าชนเผ่าของตน รองลงไปก็เป็นส่วนควบ คือ หมู่บ้านรักษาศีล ๕ โครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุข และโครงการหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบล ซึ่งระบุงานชัดเจนว่าจะมีพิธีมอบโล่รางวัลแก่ผู้ชนะเลิศเป็นต้นแบบของแต่ละภาค และจะจัดนิทรรศการ ๑๘ ภาค ซึ่งหมายถึงว่าจะมีสินค้าหรือกิจกรรมเด่น ๆ ของแต่ละภาคนั้นมารวมแล้ว ๑๘ แห่งด้วยกัน ในส่วนของวิทยาลัยสงฆ์ทั้ง ๒ แห่งนั้น จะเสนอผลงานทางวิชาการ แสดงนิทรรศการและมีการสานเสวนา เพื่อที่จะได้เก็บเป็นข้อมูลให้ผู้ที่สนใจสามารถค้นคว้าได้ทีหลัง ซึ่งความชัดเจนเหล่านี้ ทำให้การจัดงานนั้นง่ายขึ้น แล้วก็กำหนดตัวบุคคลเพื่อรับผิดชอบในแต่ละส่วน จนกระทั่งปิดการประชุมลง โดยการประชุมครั้งต่อไป จะต้องระบุให้ชัดว่าแต่ละฝ่ายนั้นจะจัดงานอะไรบ้าง ฝ่ายสถานที่อย่างพุทธมณฑล ซึ่งจะมีท่านธานี พิกุลทอง ผู้อำนวยการฝ่ายสถานที่พุทธมณฑล จะได้จัดสถานที่รองรับให้ได้อย่างที่พวกเราต้องการ โดยมีพระเดชพระคุณพระธรรมวชิรคุณาธาร (โกศล มหาวีโร) เจ้าอาวาสวัดศรีสุดาราม รับเหมาเป็นเจ้าภาพเต็นท์ ๓๐ หลัง กระผม/อาตมภาพได้ยินแล้วยังรู้สึกทึ่ง เนื่องเพราะว่าเต็นท์ใหญ่ติดเครื่องปรับอากาศเท่าที่ได้ยินมานั้น หลังละ ๒๕,๐๐๐ บาทต่อวัน..! ก็แปลว่าเต็นท์แต่ละหลังนั้น งาน ๓ วันต้องจ่าย ๗๕,๐๐๐ บาทต่อหลัง เต็นท์ ๓๐ หลังนี่จะเป็นตัวเลขที่อัศจรรย์มาก..! แต่ว่าท่านเองถือว่านอกจากจะเป็นพระวิชาการ ยังเป็นพระเกจิอาจารย์มีชื่อเสียงอีกด้วย เอ่ยถึงหลวงพ่อเณร วัดศรีสุดาราม ส่วนใหญ่ก็จะรู้จักกัน หลวงพ่อท่านใจกว้างเหมือนแม่น้ำ งานสงฆ์ที่ไหนถ้าเข้าไปมีส่วนร่วมก็มักจะอาสารับภาระในส่วนที่ต้องจ่ายหนัก ๆ อยู่เสมอ น่าอนุโมทนาเป็นอย่างยิ่ง กว่าที่กระผม/อาตมภาพจะกราบลาพระเถระที่เข้าประชุมยังวัดประยุรวงศาวาส วรวิหาร แล้วเดินทางฝ่ารถติดกลับสู่ที่พัก ก็เล่นเอา "เหงือกแห้ง" ไปทีเดียว คาดว่าหลังจากที่ได้บันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนแล้ว ก็ต้องรีบสรงน้ำ เปลี่ยนผ้า ฉันยาน็อคตัวเองเสียก่อน ไม่เช่นนั้นแล้วพรุ่งนี้ตี ๕ ครึ่งไม่สามารถที่จะออกงานต่อไปได้แน่ สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้ พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๖ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๘ (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-02-2025 เมื่อ 02:00 |
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
![]() |
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
คำสั่งเพิ่มเติม | |
|
|