กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๘ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนมกราคม ๒๕๖๘

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 30-01-2025, 17:32
พิชวัฒน์'s Avatar
พิชวัฒน์ พิชวัฒน์ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Aug 2014
ข้อความ: 500
ได้ให้อนุโมทนา: 3,308
ได้รับอนุโมทนา 24,997 ครั้ง ใน 988 โพสต์
พิชวัฒน์ is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๓๐ มกราคม ๒๕๖๘

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๓๐ มกราคม ๒๕๖๘


ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 31-01-2025, 01:12
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,283 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๓๐ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ อากาศที่อำเภอทองผาภูมิอยู่ที่ ๑๖ องศาเซลเซียส มีญาติโยมบางท่านถามว่า "ทำไมถึงต้องบอกวันเวลา บอกสภาพอากาศซ้ำ ๆ กันทุกวัน ?" พูดง่าย ๆ ก็คืออยากจะให้เข้าเนื้อหาเรื่องเล่าไปเลย

ขอให้ทุกท่านเข้าใจว่า สิ่งที่กระผม/อาตมภาพทำอยู่นี้ อีกไม่นานก็จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ท้องถิ่น ดังนั้น..ควรที่จะมีรายละเอียดให้อ้างอิงได้ ไม่เช่นนั้นแล้วก็ไม่รู้ว่า วันนั้นเวลานั้นมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง ไม่ใช่เรื่องที่พวกเราทั้งหลายจะมาทำตัวเป็น "วัยรุ่นใจร้อน" จะให้เข้าเนื้อหาที่ต้องการบอกต้องการกล่าวไปเลย ในลักษณะแบบนั้น โบราณท่านใช้คำว่า "หัวมังกุท้ายมังกร" ก็คือขาด ๆ เกิน ๆ หาความพอดีไม่ได้

ระยะนี้ก็มีญาติโยมที่ไปเที่ยวเมืองฮาร์บิน มณฑลเฮยหลงเจียง ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ส่งการเดินทางของท่องเที่ยวของตนเองลงสื่อโซเชียลต่าง ๆ แล้วก็ระบุเอาไว้ว่าอากาศหนาวสุด ๆ โยมท่านหนึ่งไปเจออากาศ -๑๙ องศาเซลเซียส ที่ลานแสดงการแกะสลักน้ำแข็ง บอกว่า "ถอดถุงมือออกมาก็รู้สึกว่ามือหายไปเลย..!"

โยมอีกท่านหนึ่งบอกว่าเจออากาศ -๒๘ องศาเซลเซียส เดินอยู่ข้างนอกไม่ถึง ๓ นาที ต้องวิ่งเข้าไปในร้านกาแฟเพื่อหาที่หลบหนาว แต่ว่าเพื่อนฝูงไข้จับไปเรียบร้อยแล้ว ต้องไปซื้อหายาในประเทศจีน เพื่อมารักษาอาการที่เหมือนกับไข้หวัด ปวดศีรษะ มีน้ำมูกไหลอยู่ตลอดเวลา ดีที่รายนี้สามารถสื่อสารภาษาจีนได้คล่องแคล่ว จึงสามารถที่จะบอกอาการและซื้อหายาที่ตนเองต้องการได้

แต่ว่าตรงจุดนี้ กระผม/อาตมภาพก็ยังสงสัยอยู่ว่า "เขาไปที่เดียวกันกับเราหรือเปล่า ?" เนื่องเพราะว่าอากาศสูงสุดที่กระผม/อาตมภาพเจอมาบนยอดเขาต้าทูติ่งจือ ก็คือ -๓๑ องศาเซลเซียส อากาศส่วนใหญ่
เกือบทุกวันจะอยู่ที่ประมาณ -๒๓ องศาเซลเซียส..!

โดยเฉพาะตอนที่เดินอยู่ในลานนิทรรศการแกะสลักน้ำแข็งนั้น นอกจากจะไม่รู้สึกว่าหนาวแล้ว ยังเดินจนร้อน เหงื่อเปียกหลังไปเลย..! จึงทำให้ตนเองพยายามที่จะดูว่า "เขาไปคนละปีกับเราหรือเปล่า ? ไปคนละสถานที่กับเราหรือเปล่า ?" แต่ก็ปรากฏว่าไปที่เดียวกัน ปีเดียวกัน แล้วสิ่งที่กระผม/อาตมภาพเจอมาคืออะไร ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-01-2025 เมื่อ 02:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 31-01-2025, 01:18
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,283 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อนึกถึงการอนุเคราะห์สงเคราะห์ของ "ต้าเหนียง" และบริวารแล้ว จึงได้ถาม "ต้าเหนียง" ท่านว่า "ถ้าหากว่าบุคคลอื่นเรียกหา "ต้าเหนียง" และบริวารให้ช่วยเหลือ จะต้องช่วยเขาหรือไม่ ?" "ต้าเหนียง" ยิ้มแบบคนแก่ใจดี บอกว่า "ท่านต้องไม่ลืมว่า ใคร ๆ ส่วนใหญ่ก็มี "ต้าเหนียง" กันทั้งนั้น ดังนั้น..การเรียกหาคำนี้ ถ้าหากว่าไม่ใช่ลูกหลาน หรือว่าบุคคลที่มีบุญสัมพันธ์กรรมสัมพันธ์กันมาแล้ว ก็ไม่สามารถที่จะไปยุ่งเกี่ยวช่วยเหลือเขาได้" สรุปว่าคำว่า "ต้าเหนียง" ในที่นี้ไม่ใช่รหัสบอกฝ่าย หากแต่เป็นคำเรียกหาเฉพาะของกระผม/อาตมภาพเท่านั้น คนอื่นเรียกไปก็ไร้ประโยชน์..!

แต่ก็ทำให้กระผม/อาตมภาพใจชื้นขึ้นมาหน่อยหนึ่ง เนื่องเพราะว่าไปที่อื่น ๆ แล้วมาบอกกล่าวว่า เจ้าที่เจ้าทางที่ท่านสงเคราะห์เป็นใคร ? มาจากไหน ? บุคคลซึ่งไปทีหลังพอรู้เข้า ก็ไปเรียกหาท่านกันวุ่นวายไปหมด..! ประมาณว่า
ใช้งานเขาโดยที่ไม่ได้คิดเลยว่าตนเองมีต้นทุนอะไรบ้าง ? จนกระทั่งเจ้าพ่อหลักเมืองสองพี่น้องของประเทศศรีลังกา ท่านต้องบอกอย่างชัดเจนว่า "ห้ามบอกชื่อของกระผมสองพี่น้องกับลูกศิษย์ของท่านเป็นอันขาด เพราะว่าลูกศิษย์ของท่านไปสร้างความวุ่นวายให้กับที่อื่นมามากแล้ว กระผมกับน้องไม่อยากเจอเรื่องแบบนั้น" ในเมื่อเป็นคำขอแบบนั้น ก็จำเป็นที่จะต้องคล้อยตามท่านไป

ในเรื่องของเจ้าที่เจ้าทางนั้น ท่านทั้งหลายไม่จำเป็นที่จะต้องรู้จักชื่อเสียง รู้จักว่าท่านเป็นใคร หากท่านมี "อปจายนมัย - รู้จักอ่อนน้อมถ่อมตนต่อคนอื่น" เสียดายว่าท่านทั้งหลายเกิดไม่ทันยุคสมัยที่กระผม/อาตมภาพยังเด็กอยู่ สมัยนั้นรอบบ้านเป็นป่าใหญ่ไพรกว้าง มีแต่สัตว์เสือต่าง ๆ มากมาย บุคคลจะเข้าป่า ไม่ว่าจะหาของป่า จะล่าสัตว์ หรือว่าไปตัดไม้หาหวายมาก็ตาม ล้วนแล้วแต่ต้องจุดธูปบอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทางทั้งสิ้น

แม้กระทั่งพรานล่าสัตว์ เมื่อตั้งเครื่องสังเวย มีข้าวเล็กน้อย กับข้าวเล็กน้อย และเหล้าสักจอกหนึ่ง ก็ยังบอกกล่าวกับเจ้าที่เจ้าทาง เจ้าป่าเจ้าเขาว่า "ขอสัตว์ที่ชะตาถึงฆาต เพื่อให้ลูกหลานได้เอามาต่อชีวิตของตนสักตัวหนึ่ง ถ้าล่าได้แล้วก็จะกลับออกจากป่า ไม่ไปล้างผลาญชีวิตสัตว์อื่น ๆ อีก" และพรานทั้งหลายเหล่านั้นก็เป็นผู้ที่มีสัจจะ โดยเฉพาะในเรื่องของการทำมาหากิน พูดคำใดก็เป็นคำนั้น เขาทั้งหลายจึงสามารถเข้านอกออกในป่าใหญ่ดงทึบได้โดยไม่มีอันตรายเกิดขึ้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-01-2025 เมื่อ 03:00
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 31-01-2025, 01:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,283 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

บุคคลที่จะเข้าไปหาของป่าก็จุดธูปบอกกล่าวว่า "ตนเองเป็นใคร ? มาจากไหน ? ขออนุญาตเจ้าที่เจ้าทางทั้งหลายเข้าไปหาสิ่งนั้นสิ่งนี้มา เพื่อที่จะอาศัยค้าขายเลี้ยงชีพตนเองและครอบครัว ขอให้เจ้าป่าเจ้าเขาอนุเคราะห์สงเคราะห์ อะไรเกินจากสิ่งที่ตนเองต้องการ จะไม่นำติดตัวออกมาเลย" บุคคลที่มีสัจจะในลักษณะอย่างนี้และรู้จักอ่อนน้อมถ่อมตน บอกกล่าวต่อเจ้าที่เจ้าทางทั้งหลาย ก็มักจะได้รับความสะดวกปลอดภัยทั้งสิ้น

อีกส่วนหนึ่งที่ไปล้มหายตายจากภายในป่าทึบนั้น เมื่อสอบถามบุคคลร่วมเหตุการณ์แล้ว ส่วนใหญ่ก็เป็นประเภทผิดสัจจะ บอกว่าต้องการสัตว์ใหญ่ชนิดนี้ แต่ถึงเวลาเจอสัตว์อื่นก็ไปยิงไปฆ่า หรือว่าต้องการข้าวของชนิดนี้ เพื่อไปจำหน่ายเลี้ยงชีวิตตนเอง แต่บังเอิญไปเจอสิ่งที่มีราคาสูงกว่า ก็ไปเก็บ โดยลืมนึกถึงสัจจะของตนเอง จึงประสบอุบัติเหตุบ้าง โดนงูกัดบ้าง โดนเสือโดนหมีทำร้ายเอา บาดเจ็บสาหัสล้มตายไปบ้าง

เรื่องพวกนี้จึงเป็นเรื่องที่เราท่านทั้งหลายควรที่จะสังวรระวัง ไปไหนก็บอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทางพร้อมกับบริวารทั้งหลาย ไม่รู้จักชื่อก็นึกถึงท่าน เรียกว่า "พ่อปู่ - แม่ย่า" ไปได้เลย เพราะว่าส่วนใหญ่อายุขัยของท่านในภพภูมินั้นเพียงวันเดียว ก็ตก ๕๐ ปีของมนุษย์แล้ว ถ้าท่านอยู่มา ๒ วัน เราเรียก "พ่อปู่ - แม่ย่า" ก็ไม่ได้เกินเลยไป ขอให้ท่านอนุโมทนาส่วนกุศลที่เราได้สร้างมาตั้งแต่ต้นจนบัดนี้ ขอให้เราได้อยู่อาศัยในบริเวณนั้นชั่วครั้งชั่วคราว ขอ "พ่อปู่ - แม่ย่า" และบริวารทั้งหลาย ช่วยปกปักรักษาให้ได้รับความสุขความสะดวกสบายด้วย เหล่านี้เป็นต้น

ถ้าหากว่าเป็นบุคคลที่สร้างบ้านใหม่เรือนใหม่ โบราณเขาให้จัดพานเล็ก ๆ ใส่หมากพลูคำหนึ่ง ใส่เงินบาทหนึ่ง และดอกไม้ธูปเทียนตามแต่จะหาได้ อาศัยมุมหนึ่งของพื้นที่นั้น จุดธูปบอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทางทั้งหลายว่า "ลูกขออาศัยพื้นที่นี้ในการตั้งบ้านสร้างเรือน ขอเชิญให้ท่านช่วยเป็นผู้ปกปักรักษาครอบครัวของลูกด้วย ถ้าหากว่าสิ่งหนึ่งประการใดที่ลูกทำแล้วเป็นบุญเป็นกุศล ก็ขอให้ท่านทั้งหลายเหล่านั้นได้อนุโมทนาโดยไม่ต้องให้เสียเวลาบอกกล่าวกัน"

ส่วนใหญ่คนที่ทำในลักษณะอย่างนี้ก็มักจะที่จะได้รับความสุข ความสะดวกสบาย ไม่ได้ตั้งศาลเจ้าที่เสาเดียวสี่เสาอย่างไรก็อยู่เย็นเป็นสุข ส่วนเงินที่ใส่ไปในพานนั้น ส่วนใหญ่ใส่ลงไป ๑ บาท ก็มักจะนำไปสร้างกองบุญการกุศลให้กับเจ้าที่เจ้าทางทั้งหลายเหล่านั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-01-2025 เมื่อ 03:03
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 31-01-2025, 01:28
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,283 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

สิ่งพวกนี้เท่ากับว่าเราเป็นบุคคลที่ประกอบไปด้วยอปจายนมัย รู้จักอ่อนน้อมถ่อมตนต่อผู้อื่น โดยเฉพาะสิ่งที่เรามองไม่เห็น การเชื่อถือหรือว่าไม่เชื่อถือนั้น ทำให้เรามีแต่กำไรกับเสมอตัวอย่างหนึ่ง กับเสมอตัวและขาดทุนอย่างหนึ่ง ก็คือ ถ้าสิ่งทั้งหลายเหล่านี้มีจริง เราก็กำไร เพราะว่าทำดีพลีถูก แต่ถ้าสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ไม่มี เราก็เสมอตัว ได้เพียงความสบายใจว่าบอกเล่าเก้าสิบกันแล้ว แต่ถ้าหากว่าเราไม่ทำในลักษณะนั้น สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ถ้าไม่มี เราก็แค่เสมอตัว แต่ถ้ามีโอกาสที่พวกเราขาดทุนก็จะสูงมาก..!

ดังนั้นเราจะเห็นว่า..สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ ความจริงเป็นภูมิปัญญาโบราณที่บรรพบุรุษของเราตกผลึกมา แล้วถ่ายทอดต่อ ๆ กันมา เพียงแต่ว่าคนรุ่นใหม่นั้นมักจะขาดความเชื่อถือศรัทธา อะไรก็ต้องการที่จะพิสูจน์ด้วยวิทยาศาสตร์ ซึ่งวิทยาศาสตร์นั้นไม่ใช่คำตอบสำหรับทุกสิ่ง

เนื่องเพราะว่าหลายอย่างนั้นต้องอาศัยใจของเรารับรู้ ถ้าหากว่าขาดศรัทธา กำลังใจไม่เปิด ก็เหมือนกับคนปิดประตูหน้าต่าง ไม่สามารถที่จะรู้เห็นได้ว่าภายนอกมีอะไร ศรัทธาของเรายิ่งมากเท่าไร ก็เท่ากับเราเปิดประตูหน้าต่างกว้างขวางมากเท่านั้น โอกาสที่เราจะได้รู้เห็นสัมผัสสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ ก็มีมากขึ้นไปยิ่ง ๆ ตามลำดับความศรัทธาของเรา

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพฤหัสบดีที่ ๓๐ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-01-2025 เมื่อ 03:05
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 41 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 05:21



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว