กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๘ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนมกราคม ๒๕๖๘

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 09-01-2025, 07:43
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,946
ได้ให้อนุโมทนา: 225,209
ได้รับอนุโมทนา 800,461 ครั้ง ใน 39,365 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๙ มกราคม ๒๕๖๘

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๙ มกราคม ๒๕๖๘


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 10-01-2025, 00:00
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๙ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ เมื่อวานนี้พวกเราซึ่งพักอยู่ที่โรงแรมโมเดิร์นโฮเต็ลนั้น เพิ่งจะมารู้ว่าเป็นโรงแรมที่เปิดมาตั้งแต่ปีคริสต์ศักราช ๑๙๐๖ ก็คือประมาณ ๑๑๙ ปีมาแล้ว..! โดยนายโจเซฟ อเล็กซานเดอร์ แกสป์ ซึ่งเป็นชาวรัสเซีย ครั้งแรกที่มาก็เปิดร้านซ่อมนาฬิกา เมื่อเก็บเงินเก็บทองได้จึงได้สร้างโรงแรมนี้ขึ้นมา ภายในโรงแรมนั้นมีการตกแต่งแบบยุโรป คลาสสิคมาก ก็คือมีทั้งงานศิลปะและรูปวาดสวย ๆ โดยฝีมือจิตรกรทั้งทางยุโรปและของรัสเซียเอง พูดง่าย ๆ ว่าของประดับโรงแรมอย่างเดียวก็ดูไม่รู้เบื่อแล้ว

ห้องอาหารของโรงแรมเปิดให้พวกเรา ๗ โมงตรงเวลา ข้าวปลาอาหารมีอุดมสมบูรณ์มาก แต่กระผม/อาตมภาพแทบจะเลือกฉันมังสวิรัติ เนื่องเพราะว่าทางด้านเฮยหลงเจียงนี้ เป็นพื้นที่ปลูกพืชผักได้น้อยมาก ๆ เพราะว่าเป็นทุ่งน้ำแข็งไปหมด ผักหญ้าต่าง ๆ ล้วนแล้วแต่สั่งมาจากที่อื่น จึงเป็นของดีและของแพงไปหมด..!

หลังจากที่อิ่มหนำสำราญแล้ว พวกเราก็ทำการคืนห้องและเตรียมกระเป๋า จน ๘ โมงตรงพลขับของเราก็นำรถมารับตรงเวลา พวกเราขนข้าวของขึ้นรถแล้วก็มุ่งตรงไปยังลานสกีเมืองยาปู้ลี่ ซึ่งเป็นสถานที่จัด Asian Winter Games ๒๐๒๕ ที่จีนรับเป็นเจ้าภาพ และทำให้โรงแรมเดิมซึ่งเราจองเอาไว้ โดนรัฐบาลจีนยึดไปเป็นที่พักนักกีฬาจนหมด..!

แต่ว่าลูกกิฟท์ (นางสาวอันตรา ลักษณะ) วิ่งเต้นจนกระทั่งได้โรงแรมโมเดิร์นโฮเต็ลหลังนี้มา ซึ่งถือว่าเป็นโรงแรมที่ดีเลิศประเสริฐศรีเป็นอย่างยิ่ง ก็คือนอกจากทุกอย่างจะสะดวกสบายแล้ว ยังอยู่ติดกับถนนจงยาง ซึ่งเป็นถนนสายช็อปปิ้ง และแหล่งเที่ยวต่าง ๆ ที่สำคัญก็อยู่ใกล้เคียงกันหมด พูดง่าย ๆ ว่าถ้าไม่ใช่สร้างมาก่อน ไม่มีทางเลยที่ใครจะใช้เส้นสายเพื่อมาสร้างโรงแรมที่พักในเขตนี้ได้ เนื่องเพราะว่าเป็นเขตเศรษฐกิจสำคัญของเขาไปแล้ว

พวกเราเดินทางขึ้นทางด่วนซึ่งมีแต่หิมะไปตลอดทาง รถยนต์ทุกคันที่วิ่งผ่านไปจึงมีควันโขมงเหมือนกับไฟไหม้รถไปเสียทั้งสิ้น จนกระทั่งผ่านไปเกือบชั่วโมงครึ่งจึงมาจอดเข้าห้องน้ำสาธารณะ ไม่ทราบเหมือนกันว่าเป็นเพราะเรามาแต่เช้าหรือเปล่า ? เพราะว่าเป็นห้องน้ำที่ค่อนข้างจะสะอาดทีเดียว แถมบริเวณหน้าห้องน้ำนั้น ยังมีผู้คนนำทั้งผลไม้สด ผลไม้แห้ง ตลอดจนกระทั่ง "ถังหูลู่" เอามาวางขายกันอยู่มากมาย

"ถังหูลู่" นั้นก็คือผลไม้ชุบน้ำตาล ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเสียบไม้ขาย คำว่า "หูลู่" นั้นแปลว่า
"น้ำเต้า" เราจะเห็นว่าน้ำเต้าจีนนั้นมีส่วนบนเล็กส่วนล่างใหญ่ เมื่อเอาผลไม้ใบเล็กเสียบไว้ด้านบน โดยมีผลไม้ใบใหญ่อยู่ด้านล่าง ก็เหมือนอย่างกับน้ำเต้า คำว่า "ถัง" ก็คือ "น้ำตาล" นั่นเอง บางคนก็เรียกง่าย ๆ ว่า "น้ำเต้าน้ำตาล" แต่ความจริงก็คือผลไม้เคลือบน้ำตาลนั่นเอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-01-2025 เมื่อ 05:28
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 10-01-2025, 00:04
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อพวกเราฝ่าความหนาวกลับมาบนรถแล้ว ก็แบ่งปันสิ่งที่ซื้อหามาให้ชิมกันคนละเล็กคนละน้อย แต่ว่าต้องระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง เนื่องเพราะว่าอากาศบริเวณนั้น -๒๓ องศาเซลเซียส ข้าวของหลายอย่างแข็งกว่าหินเสียอีก ถ้าอยากจะกินก็ต้องอมเอาไว้จนกว่าจะละลายถึงจะเคี้ยวได้ แม้กระทั่งถังหูลู่นั้นก็กัดเข้ายากมาก เนื่องเพราะว่าเย็นจนแข็งไปหมด..!

กระผม/อาตมภาพต้องเอาแว่นดำมาใส่เพื่อป้องกันแสงสะท้อนจากหิมะ ซึ่งสาดเข้ามาทุกทิศทุกทาง เพราะมีประสบการณ์จากการไปเสฉวนตะวันตกมาแล้วว่า ถ้าเราไม่ใส่แว่นกันแดดในช่วงผ่านทุ่งหิมะ แค่วันเดียวก็จะทนไม่ได้แล้ว มักจะเจ็บตาจนน้ำตาไหล และกว่าที่จะหายก็เป็นเวลาหลายวัน

เราเดินทางมาถึงเมืองยาปู้ลี่ ต้องบอกว่าเป็นสถานที่และโอกาสที่เหมาะสมที่สุด เขาจะจัด Asian Winter Games ๒๐๒๕ กัน จึงมีการตกแต่งบ้านเมืองสวยงาม เหมือนกับตั้งใจที่จะต้อนรับพวกเราก็ไม่ปาน..! โดยเฉพาะเมื่อแวะเข้าไปเติมน้ำมัน ในปั๊มก็ยังมีพร็อพ Asian Winter Games ๒๐๒๕ ซึ่งมีมาสค็อตหรือว่าสัตว์นำโชคอยู่ ๒ ตัว ก็คือเสือโคร่งไซบีเรีย ตัวผู้ชื่อว่า "ปินปิน" ตัวเมียชื่อว่า "นีนี่" ซึ่งตอนแรกกระผม/อาตมภาพได้ยินว่า "ลี่ลี่" ไปเสียด้วยซ้ำไป กระผม/อาตมภาพที่ค่อนข้างจะไม่กลัวหนาว จึงลงไปถ่ายรูปกับพร็อพมาอวดญาติโยมกันได้ แต่บุคคลที่กลัวหนาวก็ต้องทนอยู่กันบนรถกันต่อไป

ออกจากปั๊มน้ำมันได้ไม่ไกลก็เข้าสู่ตัวเมืองยาปู้ลี่ พวกเราตรงไปที่ภัตตาคารเสียก่อน ต้องขึ้นไปยังชั้นบน ซึ่งทางเติมเต็มทราเวลได้จองโต๊ะเอาไว้แล้ว และโดยเฉพาะกระผม/อาตมภาพเคยบอกแล้วว่า ถึงเป็นพระก็สามารถฉันร่วมกับญาติโยมได้ โดยที่เมื่อเขาประเคนอาหารมา พระเราก็ตักก่อน โดยที่ให้มีผู้ชายนั่งคั่นซ้ายขวาเอาไว้ก็พอ แต่ว่าทางเติมเต็มทราเวลกล้าทุ่มทุนสร้าง ก็คือสั่งโต๊ะถวายพระไปต่างหากเลย..!

เมื่อกระผม/อาตมภาพนั่งลงก็ต้องสะดุ้ง เพราะว่าเห็นเกี๊ยวผักจานมหึมา แทบจะเรียกว่าถาดก็ได้ ให้มาคนละถาด กระผม/อาตมภาพฉันไปได้แค่ ๔ - ๕ ตัวก็ต้องยอมแพ้ ส่งให้น้องปูเป้บอกว่าเอาไปกินกันต่อ แล้วสิ่งที่ตามมาอีกก็คือข้าวสวย ผัดผัก ผัดมันฝรั่งซึ่งซอยเป็นเส้น ๆ ตลอดจนกระทั่งน้ำแกงที่ประกอบไปด้วยมะเขือเทศและไข่ ซึ่งพวกเราแม้ว่าจะอร่อยแค่ไหนก็ตาม ก็ฉันได้ไม่มาก จนกระทั่งทางเจ้าของร้านหน้าเสีย ถามว่า "อาหารไม่อร่อยหรือ ?" เมื่อบอกว่าอร่อย แต่ว่าเคยชินกับการกินน้อยแต่เพียงแค่นี้ เขาถึงได้รู้สึกดีขึ้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-01-2025 เมื่อ 05:33
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 10-01-2025, 00:08
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ครั้นออกจากร้านอาหารมาแล้ว พวกเราก็ตรงเข้าไปลานสกียาปู้ลี่ ซึ่งจะเป็นสถานที่แข่งขัน มีพร็อพ Asian Winter Games ๒๐๒๕ เต็มไปหมด เมื่อพวกเราลงรถที่หน้าศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ก้าวเข้าไปภายในเท่านั้น ก็เห็นผู้คนแออัดยัดเยียดจนแทบจะหาทางไปไม่เจอ..!

น้องปูเป้พาพวกเราซอกแซกจนกระทั่งหลุดไปยังลานสกีด้านหลัง ซึ่งมีบรรดานักท่องเที่ยวมาแต่งชุด เช่าชุด ตลอดจนกระทั่งเช่าสกี เพื่อที่จะหัดเล่นบ้าง เฉพาะถ่ายรูปอย่างเดียวบ้าง ซึ่งแยกแยะได้ง่ายที่สุดก็คือ ใครที่จะหัดเล่นก็จะมีเบาะรองหลัง เบาะรองอก เบาะรองหัวเข่า ป้องกันการล้มลุกคลุกคลาน พวกเบาะเหล่านั้นก็ทำเป็นรูปเต่าบ้าง รูปหมีบ้าง แล้วแต่ความน่ารักของแต่ละคน ซึ่งความจริงก็คือเป็นการขายเครื่องไม้เครื่องมือประกอบการเล่นสกีอย่างหนึ่งนั่นเอง..!

เมื่อมาเจอลมแรงบนลานสกี กระผม/อาตมภาพก็ออกอาการไม่ไหว ขอให้ญาติโยมถ่ายรูปแค่ไม่กี่รูป ก็ต้องบ๊ายบายบอกลา รีบเผ่นกลับเข้าไปในศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอย่างเร่งด่วน เพราะรู้สึกว่ามือไม้ชาไปหมด เหมือนอย่างกับมีเข็มแทงอยู่ด้านใน แต่รอแล้วรอเล่า บรรดาบุคคลที่ทำท่ากลัวหนาวกลับไม่มาเสียที มาทราบทีหลังว่าหนีเข้ามาอยู่ภายในศูนย์บริการเหมือนกัน แต่ไม่ได้เดินออกมาด้านหน้าเหมือนกับกระผม/อาตมภาพเท่านั้น

กระผม/อาตมภาพจึงชวนน้องเล็ก (นางสาวจิราพร ซื่อตรงต่อการ) ที่เดินตามมาด้วย เข้าไปดูร้านขายของที่ระลึกอีกร้านหนึ่ง ซึ่งข้างในส่วนใหญ่ประกอบไปด้วยของกิน ประเภทช็อกโกแลตและนม ตลอดจนกระทั่งผลไม้แห้ง เดินจนทั่วแล้วก็ไม่รู้ว่าจะซื้ออะไรดี ?!

กระผม/อาตมภาพเองถอดถุงมือเพื่อที่จะจับโทรศัพท์มือถือให้ถนัด ทางเจ้าของร้านยังถามว่า "แต่งตัวแค่นี้ไม่หนาวหรือ ?" แต่กระผม/อาตมภาพฟังภาษาจีนประโยคยาว ๆ ไม่เข้าใจ จนลูกกิฟท์ (นางสาวอันตรา ลักษณะ) เจ้าของเติมเต็มทราเวลที่เดินเข้ามาแปลให้ฟัง แล้วก็บอกว่าพระส่วนใหญ่ก็แต่งตัวกันเพียงแค่นี้..! อีกฝ่ายหนึ่งยังทำท่าทึ่งมากว่า อากาศแบบนี้ยังสามารถที่จะแต่งตัวแค่นี้แล้วอยู่ได้ คงเห็นกระผม/อาตมภาพประมาณว่าเป็นจอมยุทธจากวัดเส้าหลินหรือไรก็ไม่ทราบ ?!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-01-2025 เมื่อ 05:35
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 10-01-2025, 00:16
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อพวกเราออกมากันแล้ว ก็เดินตรงไปยังลานจอดรถซึ่งพาพวกเราออกไปนิดเดียว เพื่อที่จะไปนั่งม้าลากเลื่อน โดยที่ได้รับคำเตือนว่าให้แต่งตัวแบบจัดเต็มได้แล้ว พร้อมกับที่ลูกกิฟท์เอาแผ่นร้อนรองเท้ามาให้ ๒ แผ่น ซึ่งเป็นผงเคมีร้อนให้สอดไว้ในรองเท้า จึงต้องถอดรองเท้า แล้วก็ขยับขยายใส่กันใหม่ จากนั้นก็แปะตามตัวอีก ๔ แผ่น ๕ แผ่น เพื่อเพิ่มความอบอุ่น..!

กระผม/อาตมภาพเห็นว่าน่าจะฉุกเฉินแล้ว จึงได้นำเสื้อโค้ตที่ "หม่าม้า" (นางสาวไพรินทร์ สุวิชชาญพันธุ์) ซื้อถวายมาใส่ด้วย แต่เมื่อใส่เข้าไปแล้วมองเห็นแค่สบงเท่านั้น จีวรอังสะอะไรไม่เห็นแม้แต่น้อย แต่รู้สึกดีใจมากเมื่อไปนั่งอยู่บนเลื่อน เนื่องเพราะว่าพอเลื่อนวิ่ง ปะทะกับลมเข้า อากาศ -๒๓ องศาเซลเซียสแล้ววิ่งอยู่กลางสายลม รสชาติของชีวิตก็เป็นที่ประจักษ์..!

กระผม/อาตมภาพเตือนพระครูวิโรจน์กาญจนเขต, ผศ.,ดร. เจ้าอาวาสวัดอุทยาน ที่นั่งอยู่ด้วยกันว่าอย่าเกร็งตัว เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าอากาศหนาวแบบนี้ ถ้าเกร็งมาก ๆ เดี๋ยวตะคริวกินเอา..! ให้นั่งผ่อนตัวตามสบายเหมือนอย่างกับนั่งรถมอเตอร์ไซด์ โค้งไปทางไหนเราก็เอนตามไปแล้วจะไม่มีปัญหา แต่พระครูวิโรจน์กาญจนเขต, ผศ.,ดร. น่าจะกลัวตกมากกว่า ขากลับจึงได้เปลี่ยนไปนั่งอีกคันหนึ่งแทน..!

พวกเราไปแวะกลางทางซึ่งเป็นลานวัฒนธรรมของชาวบ้านแถวนี้ มีการไปเต้นรำแก้หนาวและถ่ายรูปกัน พร้อมกับเข้าไปดูว่าชาวบ้านเขาอยู่กันได้อย่างไรท่ามกลางอากาศหนาวเหน็บเจ็บผิว ปรากฏว่าเจ้าของบ้านเปิดให้เข้าไปดูแล้ว แถมยังขายของที่ตนเองทำอยู่ มีพวกแผ่นแป้งทอดและข้าวโพดต้ม โดยที่นั่งอยู่บน "คั่ง" คือเตียงอุ่นที่มีไฟจุดอยู่ข้างใน ถึงได้ว่าไม่ค่อยรู้สึกรู้สาอะไร

เมื่อออกมาแล้ว เลื่อนก็ได้ลากพวกเราต่อไปยังค่ายโจรแห่งหนึ่ง ซึ่งสมัยก่อนปิดทางเดินภูเขาบริเวณนี้แล้วปล้นชาวบ้าน โดยที่มีอุโมงค์ยาว ๆ เอาไว้สำหรับยิงต่อสู้กับเจ้าทรัพย์ หรือว่าตำรวจทหารที่มาปราบ พวกเราต้องเดินด้วยความระมัดระวัง เพราะว่าถ้าพลาดเมื่อไรก็มีสิทธิ์ที่จะลื่นก้นกระแทกพื้นได้..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-01-2025 เมื่อ 05:37
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 28 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า 10-01-2025, 00:18
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

จนกระทั่งโผล่ออกมาอีกด้านหนึ่ง และรถลากเลื่อนของคันอื่นไปกันเกือบหมดแล้ว แต่ว่าผู้ที่นั่งรถคันเดียวกับกระผม/อาตมภาพ ไม่ว่าจะเป็นป้ามอย (นางสาวมณีวรรณ สัมฤทธิ์) ลูกน้ำ (ผศ.ดร.สพญ.ชลาลัย เรืองหิรัญ) เหล่านั้นไม่ได้เดินลงอุโมงค์ ยังไปอยู่ที่ต้นทางจนต้องตะโกนเรียกกัน พวกเรานั่งเลื่อนกลับมายังรถ แต่ปรากฏว่าเขาส่งไม่ถึงลานจอดรถ ให้พวกเราเดินฝ่าลมหนาวกันไปเอง กว่าจะถึงรถก็หนาวจนมือไม้ชาแข็งไปหมด..!

ครั้นออกเดินทางมาแล้ว ถึงได้รู้ว่าที่หมายของเราวันนี้ก็คือสโนว์ทาวน์ ซึ่งก็คือหมู่บ้านการ์ตูนที่พวกเราเห็นว่า มีหิมะเกาะเต็มหลังคาเหมือนดอกเห็ด ความจริงสถานที่นี้มีมาเนิ่นนานแล้ว พอดีมีนักท่องเที่ยวถ่ายรูปแล้วไปโพสต์ลงโซเชียล ทำให้คนเห็นแล้วอยากมา จึงกลายเป็นสถานที่เที่ยวแห่งใหม่ ที่ต้องต้อนรับนักท่องเที่ยวกันแบบ "หัวไม่วางหางไม่เว้น"

ทั้ง ๆ ที่เป็นเวลาบ่าย ๓ โมงกว่า แต่ว่าตะวันเริ่มลับฟ้าแล้ว และเป็นการลับฟ้าที่รวดเร็วมาก เหมือนกับจมวูบลงหลังเขาหายไปเลย ซึ่งตรงกับภาษาจีนที่ว่า "ตะวันลับเหลี่ยมเขา" หรือว่า "ตะวันตกเขา" แต่บ้านเราเรียกว่า "ตะวันตกดิน"

ครั้นมาถึงสโนว์ทาวน์แล้วก็สวยงามสมดังราคา เพียงแต่ว่าพวกเราทนหนาวไม่ค่อยได้ ก็เลยวิ่งเข้าไปอยู่ภายในล็อบบี้กันหมด จนกระทั่งทางโรงแรมได้ทำการแจกจ่ายกุญแจให้แล้ว พวกเราก็เข้าสู่ห้องพัก ทุกอย่างดีเลิศประเสริฐศรีไปหมด ยกเว้นอยู่อย่างเดียวก็คือ น้ำดื่มที่นี่ต้องหาซื้อมาต้มกันเอง..!

สำหรับพรุ่งนี้พวกเรายังต้องไปนั่งสโนว์โมบิลและขึ้นเขา ซึ่งอากาศน่าจะดุเดือดกว่าวันนี้มาก ดังนั้น..กระผม/อาตมภาพจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนเอาไว้ก่อนเช่นเคย

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพฤหัสบดีที่ ๙ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-01-2025 เมื่อ 05:38
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 22:47



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว