กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๗ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนธันวาคม ๒๕๖๗

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 07-12-2024, 17:12
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,946
ได้ให้อนุโมทนา: 225,209
ได้รับอนุโมทนา 800,461 ครั้ง ใน 39,365 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๗ ธันวาคม ๒๕๖๗

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๗ ธันวาคม ๒๕๖๗


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 07-12-2024, 22:57
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้เป็นวันเสาร์ที่ ๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ ตั้งแต่เช้ามืดกระผม/อาตมภาพเดินทางไปยังมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ถนนพหลโยธิน หมู่ที่ ๑ ตำบลลำไทร อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยที่เจอรถติดค่อนข้างจะหนักหนาอยู่สักหน่อย เนื่องเพราะว่าเป็นวันประทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาของมหาวิทยาลัย ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายจราจรซึ่งมีกระผม/อาตมภาพเป็นกรรมการอยู่ด้วยนั้น ได้ร่วมกันประเมินว่า จะมีผู้เดินทางมาร่วมงานประมาณ ๓๐,๐๐๐ คน..!

ด้วยความที่มีบัตรวีไอพี จึงสามารถผ่านตลอด เข้าไปจอดที่บริเวณอาคารพระราชรัตนโมลี (นคร เขมปาลี) ของคณะสังคมศาสตร์ ซึ่งกระผม/อาตมภาพเป็นเจ้าภาพสร้างห้องประชุมใหญ่ ๑ ห้องและห้องเอนกประสงค์ ๑ ห้อง ปัจจุบันนี้เป็นสถานที่ซึ่งใช้งานหลากหลายมาก

เมื่อไปถึงก็เดินหาพระนิสิตของทางวิทยาลัยสงฆ์กาญจนบุรีศรีไพบูลย์ ซึ่งมารับปริญญาในรุ่นนี้ประมาณ ๓๐ รูป/คน แต่ตามที่ทางด้านพระครูเชิด (พระครูโสภณกาญจนวัฒน์ - เชิดศักดิ์ สุภาจาโร) นายกองค์กรนิสิตวิทยาลัยสงฆ์กาญจนบุรีศรีไพบูลย์ ท่านแจ้งให้ทราบว่ามาประมาณ ๒๐ รูปเศษเท่านั้น ส่วนที่เหลือแจ้งความประสงค์มาว่าจะขอรับปริญญาบัตรทีหลัง

แต่ทางด้านนายกองค์กรนิสิตท่านทำงานเป็น จึงประสานกับสำนักงานทะเบียนและวัดผล ทำการขอรับปริญญาบัตรแทนไปทั้งหมดแล้ว เมื่อได้ถ่ายรูปร่วมกันและมอบของที่ระลึกให้แก่ผู้จบการศึกษา โดยเฉพาะปลัดตั้ม (พระปลัดอาทิตย์ ชุตินฺธโร) อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดท่าขนุน ปัจจุบันเป็นเจ้าสำนักสงฆ์ห้วยน้ำริน จังหวัดเชียงใหม่

เสร็จแล้วก็ได้เข้าไปทางด้านในหอประชุมใหญ่ มวก. ๔๘ พรรษา เพื่อที่จะถวายมุทิตาสักการะท่านเจ้าคุณอาจารย์ประสาร - พระเทพวัชรสารบัณฑิต, รศ., ดร. (ประสาร จนฺทสาโร) ซึ่งท่านได้รับพระราชเลื่อนสมณศักดิ์จากพระราชวัชรสารบัณฑิต ขึ้นมาเป็นพระเทพวัชรสารบัณฑิต

แต่ว่าท่านเจ้าคุณอาจารย์ประสารไม่ยอมให้กระผม/อาตมภาพมอบของที่ระลึกให้ง่าย ๆ ได้พาไปยังที่นั่งอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย แล้วค่อยกราบขออนุญาตรับของที่ระลึก ซึ่งบุคคลที่เห็นบางท่านที่ยังสงสัยอยู่ว่ากระผม/อาตมภาพเป็นใคร ? ทำไมรองอธิการบดีที่ใคร ๆ เขาเรียกกันว่า "อธิการบดีน้อย" ถึงได้ต้องเคารพนบไหว้กันขนาดนั้น..!?

ต้องบอกว่าความจริงแล้วเป็นคุณงามความดีของท่านเจ้าคุณอาจารย์ประสาร ซึ่งประกอบไปด้วยอปจายนมัย ก็คือ มีความอ่อนน้อมถ่อมตนเป็นปกติ เป็นคุณสมบัติประจำองค์ของท่านอยู่แล้ว จึงเป็นเรื่องของคุณงามความดีและการใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนาในชีวิตอย่างแท้จริง เป็นตัวอย่างแก่ผู้คนได้เป็นอย่างดียิ่ง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-12-2024 เมื่อ 01:39
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 28 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 07-12-2024, 23:03
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อเดินไปให้กำลังใจแก่ฝ่ายจัดการจราจรและโรงทานต่าง ๆ แล้ว กระผม/อาตมภาพก็ขออนุญาตฝ่ารถติดกลับมา เพื่อจะไปเยี่ยมพระวิปัสสนาจารย์ ซึ่งเข้าโครงการพัฒนาศักยภาพพระวิปัสสนาจารย์ ในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค ๑๔ ที่วัดไร่ขิง (พระอารามหลวง)

แต่ปรากฏว่าเส้นทางอยุธยา - บางบัวทองนั้น ขาเข้ารถติดนิ่ง ๆ ไม่กระดิกกระเดี้ย ไม่ขยับเลย กระผม/อาตมภาพจึงลงไปทำหน้าที่จราจร โบกรถให้น้องเล็ก (นางสาวจิราพร ซื่อตรงต่อการ) ขับรถตะแคงข้างลงไปข้างทาง โดยที่ใช้วิธีตะแคงข้างวิ่งไปจนกระทั่งถึงทางแยก แล้วเลี้ยวซ้ายวิ่งมาทางด้านเชียงรากน้อย ปทุมธานี ด้านนี้รถค่อยติดน้อยลง กว่าที่จะฝ่าฟันออก
มาถึงกาญจนาภิเษก และถนนปิ่นเกล้าฯ - พุทธมณฑล ก็แทบจะล้มประดาตาย..!

เมื่อไปถึง ปรากฏว่าพระวิปัสสนาจารย์ ก็คือพระสมุห์ชยุตม์ อธิปญฺโญ, ดร. วัดบางพระ จังหวัดฉะเชิงเทรา กำลังคุมการฝึกภาคปฏิบัติอย่างเข้มข้น เพราะว่าเป็นการเดินจงกรม
แบบสติปัฏฐาน ๖ ระยะ ในระยะที่ ๕ และระยะที่ ๖ กระผม/อาตมภาพก็เข้าไปร่วมเดินจงกรมด้วยเป็นระยะเวลาหนึ่ง แล้วก็ขอตัวออกมา เซ็นสมุดเยี่ยม จากนั้นก็ขอตัวเพื่อเดินทางกลับ โดยมีพี่กวง (พระครูสังฆกิจจารักษ์, ดร.) วัดสิงห์ อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่นเรียนมากับกระผม/อาตมภาพ ตั้งแต่สมัยประกาศนียบัตรบริหารกิจการคณะสงฆ์ ปริญญาตรี ปริญญาโท ครั้นมาถึงปริญญาเอก ท่านบอกว่าไม่มีทุนเรียนต่อ

จึงมีกระผม/อาตมภาพกับเพื่อนฝูงแค่ไม่กี่คน ซึ่งประกอบไปด้วยพระครูไพโรจน์ภัทรคุณ, ดร. วัดสระพัง พระครูสุตกาญจนวัฒน์, ดร. วัดวังปะโท่ และพระครูปลัดไพฑูรย์ เมธิโก, ดร. วัดเทียนดัด ไปเรียนด้วยกันอยู่แค่ ๔ ใน ๔๐ รูปของปริญญาโทรุ่นนั้น ภายหลังพระมหาสมนึก วรธมฺโม, ดร. วัดกระโจมทอง ไปเรียนทีหลัง แต่ว่าเป็นสาขาพระพุทธศาสนา ไม่ใช่สาขาการจัดการเชิงพุทธเหมือนที่พวกกระผม/อาตมภาพเรียน

เมื่อหมดภาระในการเรียนแล้ว กระผม/อาตมภาพก็มาส่งพรรคพวกเพื่อนฝูงอีกหลายรูปเข้าเรียน จนกระทั่งถามถึงความประสงค์ของพี่กวงแล้ว ท่านเองบอกว่า "ถ้าหากว่าหลวงพ่อส่ง ผมก็จะเรียน"

เรื่องนี้ต้องขอบอกว่าพี่กวงนั้น ท่านแม้ว่าจะอายุมากกว่า พรรษามากกว่า แต่ท่านฝากตัวเป็นลูกศิษย์ของกระผม/อาตมภาพไปนานแล้ว ก่อนหน้านี้ท่านเป็นประเภทปะฉะดะ พร้อมชนทุกรูปแบบ..! แต่พอเรียนด้วยกันมาจนถึงปริญญาตรี ท่านก็ค่อย ๆ ปรับตัวมา ท่านบอกว่า "ผมได้พี่เล็กเป็นตัวอย่าง ทำให้เห็นว่าพระเถระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบอย่างแท้จริงนั้นยังมีอยู่ ผมถือว่ายังไม่สายที่จะกลับตัวมาเลียนแบบปฏิปทาตามพี่เล็กบ้าง"

ตั้งแต่นั้นมา ท่านก็ยกให้กระผม/อาตมภาพเป็นครูบาอาจารย์ของท่านรูปหนึ่ง เจอหน้าเมื่อไรก็ขอกราบขอไหว้ในฐานะครูบาอาจารย์ โดยที่ไม่ได้คำนึงเรื่องของอายุกาลพรรษาของท่านที่มีมากกว่า ทำเอาเพื่อนฝูงเก่า ๆ ที่รู้นิสัยหัวร้อน พร้อมชนทุกรูปแบบของท่าน เกิดความทึ่งไปตาม ๆ กัน ว่า "อาจารย์เล็กใช้คาถาบทไหนเป่าหัวให้วะ ? ตากวงถึงได้กลายเป็นอย่างนั้น..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-12-2024 เมื่อ 01:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 27 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 07-12-2024, 23:09
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

กระผม/อาตมภาพก็ได้แต่ยิ้มให้เพื่อนฝูงอย่างเดียว เนื่องเพราะว่าบุคคลที่จะรู้ตัวและแก้ไขปรับปรุงตัวเองได้นั้น ต้องเกิดมีอะไรกระทบใจตนเองอย่างแท้จริง ถ้าหากว่าใช้คำพูดง่าย ๆ แบบชาวบ้านก็คือ "คิดได้" ในเมื่อคิดได้ แล้วยินดีที่จะแก้ไขปรับปรุงตัวเอง ก็ถือว่าเป็นคุณงามความดีเฉพาะตัวของท่านเอง

ตอนนี้ท่านเรียนจบปริญญาเอกแล้ว พรุ่งนี้จะเป็นเวลาที่ท่านไปรับปริญญาบัตร กลายเป็นพระครูสังฆกิจจารักษ์, ดร. อย่างเต็มตัว แต่ว่ายังขาดการดูงานต่างประเทศที่ต้องสรุปส่งครูบาอาจารย์ ซึ่งท่านบอกว่า "ปลายเดือนนี้จะแจ้งให้หลวงพ่อทราบว่า จะไปดูงานที่ประเทศไหน ?" เนื่องเพราะกระผม/อาตมภาพปวารณาไว้ว่า จะจ่ายค่าเดินทางให้กับท่านเอง

เมื่อฝ่าฟันรถติดกลับมาจนถึงที่พักแล้ว ก็มีผู้ชักชวนให้ไปกราบสักการะพระบรมธาตุเขี้ยวแก้ว วัดหลิงกวง ที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง กระผม/อาตมภาพที่ท้อใจรถติด ก็ใช้วิธีน้อมจิตไปกราบแทน พร้อมกับรู้สึกแปลก ๆ คำว่า "รู้สึกแปลก ๆ" ในที่นี้ก็คือ ผู้ที่ไปกราบสักการะพระบรมธาตุเขี้ยวแก้วนั้น ส่วนใหญ่แล้วไปกราบขอพรอย่างโน้นอย่างนี้ กระผม/อาตมภาพก็ได้แต่มองด้วยความรู้สึกว่า "การบูชาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรา คล้ายการบูชาเทพเจ้าของฮินดูเข้าไปทุกทีแล้ว..!"

องค์สมเด็จพระประทีปแก้วบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรานั้น เราควรที่จะบูชาระลึกถึงคุณงามความดีของพระองค์ท่าน ไม่ว่าจะเป็นพระเมตตาคุณ พระปัญญาคุณ และพระบริสุทธิคุณ บูชาในลักษณะที่ว่า พระองค์ท่านเป็นแบบอย่างที่เราควรจะประพฤติปฏิบัติ เพื่อให้เป็นอย่างพระองค์ท่านบ้าง

คำว่า "เป็นอย่างพระองค์ท่าน" ไม่ใช่หมายถึงการเป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หากแต่เป็นการชำระกิเลสให้หมดสิ้นไปจากขันธสันดานเหมือนกับพระองค์ท่าน จึงจะเป็นการบูชาที่ถูกต้อง ดังนั้น..การบูชาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ในปัจจุบันของพุทธศาสนิกชนของเรานั้น กลายเป็นการบูชาในลักษณะบูชาเทพของศาสนาฮินดูไปแล้ว ก็คือเป็นการร้องขอ แทนที่จะระลึกถึงคุณงามความดีอย่างแท้จริง..!


ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ถ้าหากว่าใครได้ฟังเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนในวันนี้ ขอให้รู้ว่า การสักการะพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ก็ดี การถวายสักการะต่อสังเวชนียสถานทั้ง ๔ แห่งก็ดี การถวายสักการะต้นพระศรีมหาโพธิ์ หรือว่าพระบรมสารีริกธาตุเขี้ยวแก้ว ตลอดจนกระทั่งพระบรมสารีริกธาตุส่วนอื่น ๆ ก็ดี ขอให้ทุกท่านสักการะในลักษณะของการระลึกถึงคุณงามความดีที่เป็นนามธรรมอย่างแท้จริง ว่าอะไรทำให้พระองค์ท่านเป็นพระพุทธ ? ว่าอะไรคือพระธรรม ? และอะไรคือคุณงามความดีของพระสงฆ์ ? ไม่ใช่การระลึกถึงในลักษณะของการยึดติดวัตถุ หรือว่าตัวบุคคล

ในขณะเดียวกัน ก็ระลึกถึงอยู่ในลักษณะที่พร้อมจะกระทำตามหลักธรรมทุกอย่าง เพื่อให้ตัวเราเข้าถึงความบริสุทธิ์สิ้นเชิงแบบนั้นบ้าง ไม่ใช่ไปที่ไหนก็ไปกราบอธิษฐานขอโน่นขอนี่ ต้องบอกว่าถ้าอยู่ในลักษณะนั้นแล้ว กลายเป็นว่าเราบูชาผิดไปจากที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าต้องการ..!

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันเสาร์ที่ ๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-12-2024 เมื่อ 01:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 23:04



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว