กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๗ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนธันวาคม ๒๕๖๗

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 06-12-2024, 17:26
พิชวัฒน์'s Avatar
พิชวัฒน์ พิชวัฒน์ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Aug 2014
ข้อความ: 500
ได้ให้อนุโมทนา: 3,308
ได้รับอนุโมทนา 24,997 ครั้ง ใน 988 โพสต์
พิชวัฒน์ is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๖ ธันวาคม ๒๕๖๗

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๖ ธันวาคม ๒๕๖๗


ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 07-12-2024, 00:48
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ ๖ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ กระผม/อาตมภาพเดินทางไปถึงอาคารราชวิริยาลังการ วัดไร่ขิง (พระอารามหลวง) ตั้งแต่ ๖ โมงเช้า เพื่อเยี่ยมพระวิปัสสนาจารย์ซึ่งเข้าอบรมตามโครงการพัฒนาศักยภาพของพระวิปัสสนาจารย์ ในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค ๑๔

ไปถึงก็เจอท่านเจ้าคุณอาจารย์สุวิทย์ - พระศรีวิสุทธิวงศ์, ดร. (สุวิทย์ ปวิชฺชญฺญู ป.ธ. ๙) รองเจ้าคณะจังหวัดนครปฐม หัวหน้าพระวิปัสสนาจารย์ในโครงการนี้ กำลังนำพระวิปัสสนาจารย์เดินจงกรมรอบบริเวณนั้นอยู่ เมื่อครบตามเวลาแล้ว ท่านก็ได้นำพระวิปัสสนาจารย์ทั้งหมดกลับเข้ามายังสถานที่ปฏิบัติธรรม พวกเราพบใครที่คุ้นหน้าก็ได้แต่พนมมือไหว้ ยิ้มทักทายกันเท่านั้น ไม่ได้พูดจาอะไร เพราะว่าเหล่าพระวิปัสสนาจารย์ต่างก็ต้องรักษาอารมณ์ปฏิบัติของตนเอง

เมื่อเซ็นชื่อเยี่ยมเสร็จเรียบร้อยแล้ว กระผม/อาตมภาพออกมาทางด้านนอกอาคาร ก็พบกับพระเดชพระคุณพระธรรมวชิรานุวัตร, ดร. (แย้ม กิตฺตินฺธโร) เจ้าคณะภาค ๑๔ ท่านเจอหน้าก็ทักทายว่า "เป็นอย่างไร ? คิดว่าแกจะไปออกรายการโหนกระแสเสียอีก"

จึงได้กราบเรียนไปว่า "กระผมไม่ได้เห็นประโยชน์อะไรเลยครับ เพราะว่ามีแต่จะสร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้นกับพระพุทธศาสนา เนื่องเพราะว่าต่างฝ่ายต่างก็มีกองเชียร์ถือหางกันมาก ในเมื่อเราไปออกรายการ ต่อให้เหตุผลดีแค่ไหนก็ตาม กองเชียร์ของอีกฝ่ายก็จะไม่ฟัง เพราะไปปักใจเสียแล้วว่า
อาจารย์ของเขาพูดถูกแล้ว สิ่งที่เราพูดนั้นเป็นการแก้ตัวเท่านั้น ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ก็อย่าไปให้เสียเวลาทำงานของเราดีกว่าครับ"

หลวงพ่อเจ้าคณะภาคท่านก็บอกว่า "แกทำถูกแล้ว หลวงพ่อสมเด็จฯ หนกลางท่านก็บอกว่า เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นให้นิ่งไว้ก่อน อย่าไปพูดอย่าไปตอบโต้ใคร ข้าก็ไม่คิดว่าอยู่ ๆ แกก็จะดังขึ้นมาแบบนี้ สอบถามคนรอบข้างและท่านเจ้าคุณอ๋อ (พระวชิรปัญญาภรณ์, ดร.) เลขานุการเจ้าคณะภาค ๑๔ แล้ว ทุกคนก็ยืนยันว่าหลวงพ่อเล็กไม่ได้พูดอะไรขึ้นมาอีกเลย แต่ว่าอีกฝ่ายเอาเรื่องไปจับแพะชนแกะ เพื่อที่จะหาเรตติ้งให้กับรายการเท่านั้น"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-12-2024 เมื่อ 02:33
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 07-12-2024, 00:55
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พูดกันมาถึงแค่นี้ ท่านก็ชวนว่า "ข้ามไปฝั่งโน้นกันดีว่า" คำว่าฝั่งโน้นก็คือ ต้องข้ามแม่น้ำท่าจีนกลับเข้าไปยังเขตวัดไร่ขิงเก่า เนื่องเพราะว่าวันนี้มีการตรวจข้อสอบธรรมศึกษาสนามหลวงชั้นตรี ซึ่งกระผม/อาตมภาพเป็นคณะกรรมการกองตรวจพิเศษอยู่ด้วย จึงได้กราบเรียนหลวงพ่อเจ้าคณะภาคว่า "กระผมอยู่แค่พิธีเปิดนะครับ ไม่ได้ร่วมการตรวจด้วย เพราะว่าต้องไปร่วมพิธีบำเพ็ญกุศล ฉลองการจบปริญญาของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย"

หลวงพ่อเจ้าคณะภาคท่านก็บอกว่า "ถ้ามีงานก็ไปเถอะ เพราะว่ากองตรวจพิเศษนั้น แล้วแต่น้ำใจว่าใครจะอยู่หรือว่าจะไป บรรดากองตรวจหลักตั้งแต่กองตรวจที่ ๑ ไปนั่นต่างหาก ที่ต้องรับผิดงานนี้ชอบเต็ม ๆ"

กระผม/อาตมภาพฉันเช้าร่วมกับพรรคพวกเพื่อนฝูงแล้ว ก็เข้าไปรอพิธีอยู่ทางด้านใน แต่ละท่านแต่ละรูปที่มาถึงก็ถามว่า "เป็นอย่างไร ทำไมไม่ไปสู้กับเขา ?" กระผม/อาตมภาพก็ได้แต่ส่ายหน้าบ้าง หัวเราะบ้าง เนื่องเพราะว่านอกจากไม่ก่อให้เกิดประโยชน์แล้ว ยังจะสร้างความแตกแยกเสียเปล่า ๆ

ประเทศชาติของเราแตกแยกเป็นฝักเป็นฝ่าย เป็นหลายสีมานานแล้ว กว่าที่จะประสานกันเข้ามาได้ก็แทบล้มประดาตาย ตอนนี้ทำท่าจะแตกกันไปอีกแล้ว เราซึ่งเป็นสถาบันหลักสถาบันหนึ่งในพระพุทธศาสนา อย่าได้ไปซ้ำเติมสถานการณ์ของประเทศชาติเลยจะดีกว่า

ครั้นเมื่อพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระธรรมวชิรานุวัตร, ดร. เจ้าคณะภาค ๑๔ ท่านทำพิธีเปิดแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ไม่ได้รอฟังโอวาท หากแต่ว่าเร่งเดินทางไปยังมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ถนนพหลโยธิน หมู่ที่ ๑ ตำบลลำไทร อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เนื่องเพราะว่าในฎีกานิมนต์เอาไว้นั้นก็คือ เวลา ๐๙.๓๐ น. ปรากฏว่าน้องเล็ก (นางสาวจิราพร ซื่อตรงต่อการ) พลขับ สามารถที่จะนำพากระผม/อาตมภาพบินไปถึงได้ภายในเวลา ๐๙.๐๘ นาที ก็คือไปถึงก่อนงานนั่นเอง..!

เพิ่งจะลงจากรถ บรรดาโฆษกก็ประกาศแล้วว่า "พระเดชพระคุณท่านพระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. หรือว่าหลวงพ่อเล็ก เจ้าของห้องพระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. อาคารพระราชรัตนโมลี (นคร เขมปาลี) ได้เดินทางมาถึงแล้ว"

กระผม/อาตมภาพเองแทบจะไม่ต้องจับไม่ต้องหยิบอะไรเลย เนื่องเพราะว่าคนโน้นก็ช่วยถือหนังสือ คนนี้ก็ช่วยถือถุงใส่ของที่ระลึก เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า วันนี้บรรดาพระสังฆาธิการทั้งระดับผู้บังคับบัญชาและระดับเพื่อนฝูงด้วยกัน จบปริญญาเอกกันหลายคน จึงต้องหอบของที่ระลึกมามุทิตาด้วย บรรดาครูบาอาจารย์ทั้งฝ่ายพระและฝ่ายฆราวาส ต่างก็รุมล้อมเข้ามาทักทายด้วยความดีอกดีใจ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-12-2024 เมื่อ 02:36
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 07-12-2024, 01:01
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระครูวิโรจน์กาญจนเขต, ผศ.,ดร. เจ้าอาวาสวัดอุทยาน ยังเคยปรารภว่า "บรรดาผู้อำนวยการวิทยาลัยสงฆ์ หรือว่ารองอธิการบดีวิทยาเขตดัง ๆ มาถึง ก็คงจะป๊อปปูล่าร์ได้ระดับนี้เท่านั้น" กระผม/อาตมภาพก็ได้แต่ถอนใจ เพราะว่าถ้าหากว่าเราไปที่ไหนก็ตาม เป็นผู้มีแต่ให้ คนก็ย่อมรักใคร่เมตตาเป็นปกติ ดังพุทธภาษิตที่ว่า "ททมาโน ปิโย โหติ ผู้ให้ย่อมเป็นที่รักนั่นเอง"

เมื่อเข้าไปถึง ได้กราบทักทายพรรคพวกเพื่อนฝูงและครูบาอาจารย์แล้วก็นั่งประจำที่ จนกระทั่งพระเดชพระคุณพระพรหมวัชรธีราจารย์, ศ., ดร. (สมจินต์ สมฺมาปญฺโญ, ป.ธ. ๙) องค์อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยมาถึง แต่ว่าวันนี้ท่านเจ้าคุณอาจารย์อธิการบดีต้องนั่งเก้าอี้ซึ่งจัดไว้ต่างหากด้านข้าง

เนื่องเพราะว่าองค์ประธานที่แท้จริงก็คือ ท่านเจ้าคุณอาจารย์พระพรหมบัณฑิต, ศ., ดร. (ประยูร ธมฺมจิตฺโต ป.ธ.๙, Ph.D.) ราชบัณฑิต องค์อุปนายกสภามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยนั่นเอง เมื่อท่านเดินทางมาถึงก็ได้แค่พยักหน้าให้เท่านั้น เพราะว่าได้เวลาที่พิธีกรเขานิมนต์ให้จุดธูปเทียนและนำไหว้พระ เข้าสู่พิธีการทำบุญฉลองปริญญาบัตรประจำปี ๒๕๖๗

ท่านเจ้าคุณอาจารย์ได้ให้โอวาทเอาไว้ว่า "ในเรื่องของการศึกษานั้น ท่านทั้งหลายต้องใช้ความเพียรพยายามเป็นอย่างสูง เพื่อที่จะได้ประสบความสำเร็จ ถือว่าท่านได้ทำคุณประโยชน์ให้กับทั้งตนเองและสถาบันที่เรียนอยู่ ครูบาอาจารย์ก็พลอยปลื้มใจที่ลูกศิษย์ทั้งหลายร่ำเรียนจนสำเร็จระดับสูงสุดของประเทศ ซึ่งสมัยของตัวผู้พูดเองนั้น ต้องเดินทางไปเรียนถึงประเทศอินเดีย แต่บัดนี้เรามีหลักสูตรต่าง ๆ ที่แม้แต่ต่างประเทศก็มาร่วมเรียนด้วยเป็นจำนวนมาก ตั้งแต่เปิดหลักสูตรมาเมื่อปี ๒๕๕๔ จนบัดนี้ มหาวิทยาลัยของเรามีผู้จบปริญญาเอกไปแล้ว ๗๗๑ รูป/คน

บรรดาท่านทั้งหลายเหล่านี้ หลายท่านจะว่าไปแล้วก็เป็นพระ "บ้านนอกคอกนา" เหมือนกับตัวผู้พูดนี่เอง แต่ว่าสามารถประกอบความสำเร็จขึ้นมาได้ เพราะว่ามีความเพียร เหมือนอย่างกับในพุทธภาษิตที่ว่า
"สทฺธา พีชํ ตโป วุฏฺฐิ ปญฺญา เม ยุคนงฺคลํ หิริ อีสา มโน โยตฺตํ สติ เม ผาลปาจนํ" ซึ่งแปลความว่า "มีศรัทธาเป็นเมล็ดพันธุ์ มีความเพียรเหมือนกับสายฝน ใช้ปัญญาเป็นแอกและไถ มีความละอายชั่วเปรียบดังงอนไถที่บังคับตัวไถ มีใจเหมือนอย่างกับเชือกโยงบังคับเส้นทาง มีสติเปรียบเหมือนผานไถและปฏัก ควบคุมการกระทำกสิกรรม" ดังนี้..เราจึงสามารถประสบความสำเร็จในชีวิตขึ้นมาได้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-12-2024 เมื่อ 02:41
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 07-12-2024, 01:05
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ท่านทั้งหลายเมื่อประสบความสำเร็จโตแล้ว ขอให้ดูตัวอย่างพืชชนิดหนึ่งของประเทศจีน ซึ่งตัวผู้พูดเองเพิ่งจะไปอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุเขี้ยวแก้วกลับมาเมืองไทย พืชชนิดนี้ฝรั่งเรียกว่า "โมซุง" แต่กระผม/อาตมภาพเข้าใจเลยว่าเจ้าต้นนี้ก็คือ "เหมาซุ่น" ซึ่งเป็นไม้ไผ่ชนิดหนึ่ง

ท่านเจ้าคุณอาจารย์กล่าวว่า "พืชชนิดนี้คนแก่ไม่นิยมปลูก แต่คนหนุ่มสาวนิยมปลูกกันมาก เพราะว่า ๕ ปีแรกนั้นแทบจะไม่มีมรรคมีผลอะไรเลย ต้นแค่ไหนก็ต้นแค่นั้น ไม่มีการเติบโต แต่พอเข้าปีที่ ๖ เจ้าต้นนี้จะโตพรวด ๆ วันละ ๒ ฟุตครึ่ง..! รวมแล้วจะโตไปจนกระทั่งประมาณ ๗๕ ฟุต แล้วค่อย ๆ ขยายด้านข้างออก จนกลายเป็นไม้ไผ่ลำมหึมา" กระผม/อาตมภาพเองที่อยู่ทองผาภูมิ รู้จักไผ่ชนิดนี้ดี บ้านเราเรียกว่า "ไผ่หก" หรือว่า "ไผ่ล้อเกวียน" แต่ละปล้องบรรจุน้ำได้เป็นถังเลย..!

ท่านเจ้าคุณอาจารย์กล่าวว่า "การที่เราใช้ความเพียรพยายามในการศึกษา ก็เหมือนกับเจ้าไผ่โมซุงนี่เอง เนื่องเพราะว่าในระยะแรกของเราตลอดหลักสูตร เราก็ไม่เกิดมรรคเกิดผลอะไรให้คนอื่นเห็น บางคนถึงขนาด "น้ำตาตกใน" เพราะความยากลำบากในการศึกษาด้วย แต่ตอนนี้ท่านทั้งหลายผ่านพ้นหลักสูตรครบ ๕ ปีเบื้องต้นเช่นเดียวกับไผ่โมซุงนี้ ถึงเวลาแล้วที่ท่านทั้งหลายจะเจริญเติบโตต่อไปในทางชีวิตเบื้องหน้า ด้วยวุฒิการศึกษาที่ท่านทั้งหลายได้ร่ำเรียนมาดีแล้ว เมื่อประสบความสำเร็จทางการศึกษาแล้ว ก็ต้องค่อย ๆ ขยายตนเองให้เติบโตและสูงใหญ่ เพื่อเป็นประโยชน์แก่มนุษยชาติสืบไป"

ตอนท้ายท่านเจ้าคุณอาจารย์ได้อวยชัยให้พรกับทุก ๆ ท่าน รับพรแล้ว กระผม/อาตมภาพเป็นผู้ที่ได้รับเชิญจากพิธีกร ให้เข้าไปถวายไทยธรรมต่อท่านเจ้าคุณอาจารย์เอง ได้ถามเพียงสั้น ๆ ว่า "ประเทศจีนหนาวมากไหมครับ ?" ท่านบอกว่า "ใส่เสื้อ ๒ ชั้นแล้วยังไม่หายหนาวเลย" แสดงว่าค่อนข้างที่จะหนาวมากทีเดียว..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 22-02-2025 เมื่อ 20:46
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า 07-12-2024, 01:08
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

กระผม/อาตมภาพกำลังที่จะเดินทางไปยังเมืองฮาร์บิน เพื่อทดสอบดูว่าการตายแล้วไม่เน่าเป็นอย่างไร วันนี้ได้ยินว่าที่เมืองฮาร์บินนั้น อากาศ -๑๔ องศาเซลเซียสแล้ว กว่าจะถึงช่วงระยะที่ตนเองกำหนดเดินทางไป ได้ยินว่าช่วงนั้นมักจะเฉลี่ยอยู่ที่ -๓๐ องศาเซลเซียส..!

กระผม/อาตมภาพได้บอกกล่าวกับทุกคนที่ร่วมทีมไปแล้วว่า
"ถ้าไปด้วยกันก็แปลว่าตัวใครตัวมัน..!" เนื่องเพราะว่าประการแรก กระผม/อาตมภาพตั้งใจไปหาที่ตาย..! ประการที่สอง ไม่เคยไปยังสถานที่นั้นมาก่อนเลย ไม่รู้จัก "ใคร" เลยสักคน ไม่รู้ว่าจะต้องไปขอความช่วยเหลือจาก "ใคร" พูดง่าย ๆ ว่าใครมีความสามารถในการเอาตัวรอดจากการหนาวตายได้ ก็พยายามทำเองให้สุดชีวิตก็แล้วกัน..!

เมื่อเสร็จพิธีแล้ว กระผม/อาตมภาพจึงขอตัวออกมาด้านนอก บรรดาพระและฆราวาสที่เห็นว่ากระผม/อาตมภาพจะกลับ ต่างก็ฉวยเอาภัตตาหารใส่ถุงใส่ถ้วยมาถวายเป็นจำนวนมาก จนกระทั่งได้แต่นั่งกระพริบตาปริบ ๆ ว่า กระผม/อาตมภาพคนหนึ่งกับคนขับรถคนหนึ่ง แต่ท่านทั้งหลายถวายอาหารมาพอที่จะเลี้ยงได้ทั้งกองทัพแบบนี้ ยังไม่ทราบเหมือนกันว่าจะต้องฉันไปกี่วัน ว่าแล้วก็ "ฉันไปบ่นไป" คล้าย ๆ อดีตนักการเมืองผู้หนึ่ง ซึ่ง "ตกกระป๋อง" ก็เพราะรายการแบบนี้ของตนเอง..!

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันศุกร์ที่ ๖ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-12-2024 เมื่อ 02:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 22:58



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว