กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๗ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๗

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 04-11-2024, 18:39
พิชวัฒน์'s Avatar
พิชวัฒน์ พิชวัฒน์ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Aug 2014
ข้อความ: 500
ได้ให้อนุโมทนา: 3,308
ได้รับอนุโมทนา 24,997 ครั้ง ใน 988 โพสต์
พิชวัฒน์ is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๗

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๗


ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 05-11-2024, 01:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,271 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงวันจันทร์ที่ ๔ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๗ เมื่อวานนี้ประมาณ ๔ โมงครึ่ง เราวิ่งมาถึงเมืองอนุราธปุระ แล้วก็ตรงเข้าไปยังวัดพระศรีมหาโพธิ์ ซึ่งเป็นวัดที่ปลูกต้นพระศรีมหาโพธิ์ ที่พระนางสังฆมิตตาเถรี พระราชธิดาของพระเจ้าอโศกมหาราช นำจากประเทศอินเดียมาปลูกไว้ที่นี่ เป็นเวลา ๒,๐๐๐ กว่าปีมาแล้ว ถือเป็นสถานที่สำคัญมาก ๆ อีกสถานที่หนึ่งของชาวศรีลังกา คล้ายคลึงกับพระบรมธาตุเขี้ยวแก้วเช่นกัน

พวกเราได้รับการต้อนรับที่ใหญ่โตมาก ทางด้านพระมหานายกะ เจ้าอาวาสวัดพระศรีมหาโพธิ์ท่านไม่ว่าง มอบหมายให้เลขานุการทำการต้อนรับพวกเรา สำหรับพระภิกษุก็มีการถวายน้ำชา และน้ำตาลก้อน ส่วนทางด้านฆราวาสนั้น มีอาหารว่างซึ่งเน้นกล้วยด้วย หลังจากนั้นก็มีการแจกใบพระศรีมหาโพธิ์ให้กับทุกท่านคนละ ๑ ใบ

ท่านอาจารย์พระมหาสมคิด อตฺถสิทฺโธ ป.ธ. ๗ เจ้าอาวาสวัดหนองโพ รองเจ้าคณะอำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี หัวหน้าคณะในครั้งนี้ ได้ขอให้พวกเราร่วมบริจาคทำบุญกับสถานที่แห่งนี้ กระผม/อาตมภาพควักเงินที่เหลือหมดทั้งตัวแล้วได้ ๑,๒๐๐ บาท จึงมอบให้กับท่านไปเลย

หลังจากที่กรวดน้ำรับพรแล้ว พวกเราก็ได้รับอนุญาตให้เข้าไปสักการะต้นพระศรีมหาโพธิ์ ซึ่งเป็นเวลาประมาณเกือบ ๖ โมงครึ่งของศรีลังกา ก็ราว ๆ ๒ ทุ่มของบ้านเราแล้ว ปรากฏว่าอุบาสกอุบาสิกาชาวศรีลังกายังคงไหลมาเทมา ไม่ว่าจะมาถวายสักการะด้วยดอกไม้ ธูปเทียน ของหอมก็ดี หรือว่ามาสวดมนต์ถวายเป็นพุทธบูชาก็ตาม คณะของเราได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี ถวายถาดใส่ดอกไม้มา ซึ่งกระผม/อาตมภาพฉวยโอกาสนำมาสักการะต้นพระศรีมหาโพธิ์เสียเลย

พวกเราเข้าไปสวดมนต์ถวายต้นพระศรีมหาโพธิ์เป็นพุทธบูชาแล้ว เขาอนุญาตให้เฉพาะพระเท่านั้นขึ้นไปกราบสักการะถึงด้านในได้ หลังจากพวกเราลงมาก็ขอให้ทุกคนอนุโมทนาแบ่งบุญร่วมกัน แล้ว ทั้งคณะก็ไปกราบสักการะทางด้านที่เขามีต้นเสาเคลือบทองค้ำกิ่งพระศรีมหาโพธิ์เอาไว้ ต่างคนต่างถ่ายรูปกันที่นั่น จนกระทั่งเสร็จเรียบร้อยแล้วก็จากลากันมาแบบอาลัยอาวรณ์
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-11-2024 เมื่อ 03:51
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 05-11-2024, 01:28
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,271 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ช่วงที่เดินมาขึ้นรถผ่านต้นไม้ต้นหนึ่ง มีรุกขเทวดาโผล่หน้าออกมาว่า "ช่วยถ่ายรูปผมเอาไว้ด้วยครับ" ก็เลยจัดการถ่ายรูปไป ปรากฏว่ามีรัศมีมาทั้ง ๓ ด้าน อยู่ในลักษณะล้อมต้นไม้เอาไว้ด้วย ถือว่าพ่อเจ้าประคุณไม่เสียทีที่อยู่วัดพระศรีมหาโพธิ์แห่งนี้ จึงได้มีบารมีขนาดที่สามารถแสดงรัศมีกายให้เห็นสว่างไสวจนปานนั้น..!

พวกเราขึ้นรถแล้วก็วิ่งตรงไปยังเมืองสีคีริยา ซึ่งครั้งก่อนหน้านี้ กระผม/อาตมภาพและคณะได้พักอยู่ที่อนุราธปุระ แล้วรุ่งขึ้นจึงวิ่งไปชมพระราชวังลอยฟ้าเมืองสีคีริยา แต่หลายคนบอกว่าประดักประเดิดมาก เนื่องเพราะว่ามาใกล้เวลา ถ้าจะฉันเพลก็เร็วเกินไป แต่ถ้าขึ้นไปชมพระราชวังลอยฟ้าเสียก่อนแล้วค่อยลงมาก็จะช้าเกินไป ซึ่งครั้งนั้นพวกเราตัดสินใจไปชมพระราชวังลอยฟ้าเสียก่อน มาครั้งนี้ท่านอาจารย์พระมหาสมคิดจึงได้จัดให้พักที่โรงแรม Fresco Water Villa ซึ่งเป็นโรงแรมอยู่ห่างจากพระราชวังลอยฟ้าแค่ประมาณรถวิ่ง ๕ นาทีเท่านั้น

พวกเรามาถึงโรงแรมก็เป็นเวลาประมาณทุ่มครึ่งของศรีลังกา ก็คือ ๓ ทุ่มเมืองไทยแล้ว ปรากฏว่าการแจกจ่ายห้องนั้นเป็นไปด้วยความเรียบร้อย แต่การหาห้องนั้นยากเป็นอย่างยิ่ง เนื่องเพราะว่าเจ้าหน้าที่ทุกคนเขาอยู่ที่นี่ เขารู้ว่าแต่ละห้องนั้นอยู่ที่ไหน เมื่อพวกเราถามเขาก็ชี้มือไปว่าด้านโน้น ด้านนี้ ด้านนั้น ซึ่งมีอาคารจำนวนมากด้วยกัน แล้วเราก็จะเห็นแค่ตัวเลขห้องของชั้น ๑ เท่านั้น ชั้น ๒ และชั้น ๓ พวกเราไม่เห็น

กระผม/อาตมภาพต้องเดินสุ่มไปถึง ๔ หลัง ถึงจะได้เจอห้องของตนเอง ที่เขาลงเอาไว้ชัดเจนว่าเป็นห้องวีไอพี แต่เข้าไปแล้วไม่มีอะไรแปลกกว่าห้องอื่นเลย แม้กระทั่งที่หลับที่นอนอะไรทุกอย่างก็คล้ายคลึงกับโรงแรมระดับ ๓ ดาวของบ้านเราเท่านั้น แต่ด้วยความที่เหนื่อยมาตลอด จึงไม่ได้ใส่ใจอะไรมากมายนัก ส่งกำลังใจแผ่เมตตาบอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทางทั้งหลายแล้ว ก็หลับไปในเวลาอันรวดเร็ว

ตื่นขึ้นมาอีกทีเป็นเวลาเกือบตี ๒ ของประเทศศรีลังกา จึงได้มาส่งงานต่าง ๆ และเดินถ่ายรูปมุมต่าง ๆ เพื่อส่งไปให้ญาติโยมได้ดู คราวนี้ปรากฏว่า WIFI ของทางโรงแรม Fresco Water Villa นี้ เป็น WIFI ที่แรงใช้ได้ กระผม/อาตมภาพไม่ต้องไปพึ่ง WIFI ของไอ้ตัวเล็ก จึงได้ให้อภัยในความไม่สะดวกในเรื่องการหาห้องพักของเขา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-11-2024 เมื่อ 03:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 05-11-2024, 01:32
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,271 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ครั้นได้เวลาประมาณตี ๕ ครึ่งของทางศรีลังกา พวกเราส่วนหนึ่งก็ออกมายังบริเวณล็อบบี้ แล้วกระผม/อาตมภาพก็ต้องนั่งรับศรัทธาญาติโยมที่เข้ามาทำบุญตามเคย ครั้น ๖ โมงครึ่ง เขาเปิดห้องอาหารแล้ว พวกเราก็ทยอยกันเข้าไปรับประทานอาหาร หลังจากนั้น กระผม/อาตมภาพยังสามารถกลับห้องไปล้างหน้า แปรงฟัน ทำโน่นทำนี่เสียหลายอย่าง กว่าที่พวกเราจะพร้อมกันออกจากโรงแรมเพื่อเดินทางไปยังพระราชวังลอยฟ้าได้ ก็เลยเวลาที่กำหนดคือ ๘ โมงครึ่งไปประมาณ ๗ - ๘ นาที ยังดีที่ว่ารถวิ่งไม่กี่นาทีก็มาถึงลานจอดรถแล้ว

เนื่องจากคณะของเราเป็นทัวร์กรุ๊ปใหญ่ ได้ติดต่อล่วงหน้ามา เจ้าหน้าที่จึงได้ซื้อบัตรรออยู่ พวกเราแค่เดินผ่านเครื่องตรวจนับ ให้เขานับจำนวนคนให้ถูกต้องเท่านั้น กระผม/อาตมภาพเมื่อเข้าไปถึง ก็เดินอ้อมไปทางด้านขวามือก่อน โดยมีน้องเล็ก (นางสาวจิราพร ซื่อตรงต่อการ) และ "ลูกอ้วน" (นางสาวภัทรวรรณ จะหวะ) ตามมาถ่ายรูปในมุมที่มองเห็นสีหคีรีได้ชัดเจนที่สุด หลังจากนั้นพวกเราก็เดินแซงท่านทั้งหลายที่ล่วงหน้าเข้าไปก่อน

หลายคนเมื่อเจอบันไดชั้นแล้วชั้นเล่าก็เริ่มถอดใจ ปล่อยให้กระผม/อาตมภาพนำหน้าลิ่วไป จนกระทั่งถึงบริเวณที่ถ้าเลี้ยวขวาก็จะออกไปทางกำแพงกระจกซึ่งมีรูปนางอัปสรเป็นภาพเขียนสีฝาผนังอยู่ ใครที่ไม่อยากเดินต่อก็สามารถที่จะเลี้ยวไปชมภาพทางด้านนี้แล้วกลับออกไปได้เลย

ส่วนกระผม/อาตมภาพนั้นขึ้นไปจนถึงบริเวณหน้าเท้าสิงห์แล้ว ก็เจอคณะของเรามาถึงแค่ ๑๐ กว่าคนเท่านั้น ได้ถ่ายรูปหมู่กันตรงนี้ แล้วบอกความจริงให้ทุกคนทราบว่า บันไดที่เห็นอยู่นั้น ไม่ได้หมดแค่สายตาเราเห็น แต่ว่าขึ้นไปสูงกว่านั้นอีก แล้วก็ไม่มีที่ให้พักด้วย ดังนั้น..ถ้าใครคิดว่าไม่ไหวก็ให้รออยู่ข้างล่าง

แล้วคนแก่อย่างกระผม/อาตมภาพก็เดินนำขึ้นไป ซึ่งใช้เวลาขึ้นไปถึงข้างบนแค่ ๑๒ นาทีเท่านั้น ทำเอาญาติโยมหลายท่าน ตลอดจนกระทั่งท่านพันแสน อคฺคธมฺโม เจ้าอาวาสวัดศิลาวาส (ปิงโค้ง) จังหวัดเชียงใหม่ ทำท่าจะขาดใจตายไปตาม ๆ กัน แต่เมื่อขึ้นไปถึงข้างบนแล้วก็คุ้มค่ากับความเหนื่อยยาก ครั้นได้ถ่ายรูปข้างบนกันเรียบร้อยแล้ว กระผม/อาตมภาพก็นำคณะกลับย้อนลงมาทางเก่า ญาติโยมท่านอื่น ๆ ที่ตามมาทีหลัง มาเจอกันกลางทาง ก็ทักทายกันเป็นระยะไป
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-11-2024 เมื่อ 03:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 05-11-2024, 01:37
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,271 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ครั้นลงมาถึงหน้าเท้าสิงห์แล้ว ถึงได้รู้ว่าน้องเล็กลงไปอีกทางหนึ่ง กระผม/อาตมภาพจึงพา "ลูกอ้วน" และคณะเดินเลาะกำแพงกระจกไป ขึ้นบันไดเวียนไปชมภาพนางฟ้าผู้ยากจน เพราะว่าไม่ได้ใส่เสื้อสักรูปเดียว..! แล้วก็เดินเลาะออกมาทางออกด้านนอก เจอพวกเราคณะใหญ่ที่ไม่ได้ขึ้นด้านบน ออกมาอยู่ทางด้านนี้ โดนเราแซงออกมาข้างนอกแบบ "ชิล ๆ" ทางออกนี้รู้สึกว่าจะไกลกว่าทางเข้าเสียอีก..!

เมื่อลงมาตรงบริเวณร้านขายน้ำ กระผม/อาตมภาพควักเงินรูปีศรีลังกาจำนวน ๓,๐๐๐ รูปีมอบให้กับ "เผือกน้อย" (นายเฉลิมเดช รุจิราวรรณ) บอกว่าไปแสดงฝีมือซื้อน้ำอัดลมสีดำยี่ห้อดังมาแจกพวกเรากันหน่อย ปรากฏว่าเขาขายขวดละ ๓๐๐ รูปี แถมยังบอกเป็นภาษาจีนว่า "ซันไป่" อาจจะเห็นเพราะว่า "เผือกน้อย" ของเราหน้าตาลูกเจ๊กชัด ๆ พวกเราได้รับมาในราคาขวดละ ๒๕๐ รูปี จากฝีมือต่อราคา ดังนั้น..จำนวน ๓,๐๐๐ รูปีจึงได้มา ๑๒ ขวด แบ่งปันกันดื่มแบบชื่นใจมาก

นั่งฉันนั่งรอถ่ายรูปกันอยู่ตรงนั้น จนส่วนหนึ่งมาถึง พวกเราก็เดินไปที่ลานจอดรถ ขึ้นรถไปรอได้พักหนึ่ง ฝนฟ้าก็กระหน่ำลงมา แต่ว่าพวกเราต้องรอแล้วรอเล่า เฝ้าแต่รอ ผ่านไปครึ่งค่อนชั่วโมงกว่าที่ทุกคนจะมารวมกันครบ วิ่งกลับไปถึงโรงแรม Fresco Water Villa ปรากฏว่า ๑๑ โมงตรงของศรีลังกาพอดี ห้องอาหารเปิดให้เข้าไปฉันเพลได้ กระผม/อาตมภาพวันนี้ถือมังสวิรัติ โกยเอาพวกบรรดาผักสลัดต่าง ๆ มาจานโต พร้อมกับกล้วย ๒ ผล ฉันเสร็จแล้วก็ไปสรงน้ำร้อน เปลี่ยนเสื้อผ้าที่หมกมา ๓ วันแล้ว จากนั้นก็ลงมารอพวกเรา คืนกุญแจกับรีเซฟชั่น และแนะนำท่านอื่น ๆ ว่าให้คืนกุญแจด้วย

ครั้นถึงเวลา ฝนฟ้าก็เปิดให้พวกเราเดินทางต่อ กระผม/อาตมภาพวันนี้รับงานนอกเอาไว้ จึงต้องอธิษฐานจิตขอบารมีพระ ช่วยในการปลุกเสกเหรียญ ๑๐๐ ปี หลวงพ่อวัดไร่ขิง ผ่านอากาศไปให้ด้วย ความจริงเมื่อวานตอนเช้าก็ทำการปลุกไปให้ครั้งหนึ่งแล้ว แต่ว่าวันนี้ขอทำเต็มพิธีหน่อย..!

เมื่อลืมตาขึ้นมา ปรากฏว่าเขามาจอดที่สวนสมุนไพร Ranweli เจ้าเก่า เพื่อให้พวกเราเข้าห้องน้ำ แต่พวกเราส่วนใหญ่กลับวิ่งไปละลายทรัพย์เสียนี่..! ทางด้านเจ้าของร้านเห็นพวกเรามากันคณะใหญ่มาก จึงทำการเลี้ยงน้ำชาสมุนไพรด้วย เมื่อละลายทรัพย์กันจนเป็นที่พอใจแล้ว ประมาณเวลา ๑๔.๔๕ น. ของศรีลังกา พวกเราก็วิ่งต่อไป เพื่อตรงไปสักการะพระบรมธาตุเขี้ยวแก้วที่เมืองแคนดี้ กระผม/อาตมภาพฉวยโอกาสนี้บันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนเอาไว้ก่อน ถ้ามีเสียงรบกวนจากภายนอกมาก ก็ต้องขออภัยกับทุกท่านด้วย

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันจันทร์ที่ ๔ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-11-2024 เมื่อ 04:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 02:18



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว