กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๗ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๗

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 03-11-2024, 18:19
พิชวัฒน์'s Avatar
พิชวัฒน์ พิชวัฒน์ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Aug 2014
ข้อความ: 500
ได้ให้อนุโมทนา: 3,308
ได้รับอนุโมทนา 24,997 ครั้ง ใน 988 โพสต์
พิชวัฒน์ is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๗

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๗


ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 42 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 04-11-2024, 00:42
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,271 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงวันอาทิตย์ที่ ๓ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๗ เมื่อวานนี้ทั้งที่เครื่องบินล่าช้าไป ๕๐ นาที แต่ด้วยการสงเคราะห์ของท่านเจ้าพ่อหลักเมืองศรีลังกา พวกเราก็มาถึงสนามบินนานาชาติบันดารานายะเก กรุงโคลัมโบ ประเทศศรีลังกา ก่อนเวลาถึง ๓๐ นาที

การผ่านกองตรวจคนเข้าเมืองศรีลังกาก็สะดวกมาก โดยเฉพาะพระภิกษุสงฆ์ไปใช้ช่องทางพิเศษของลูกเรือ ทำให้สามารถผ่านไปได้อย่างรวดเร็ว แต่มาช้ามากตรงการรอรับกระเป๋า เนื่องเพราะว่าทั้งคณะมีถึง ๑๒๓ รูป/คน จึงทำให้เวลาที่ได้รับกำไรมา ๓๐ นาทีนั้นกลายเป็นขาดทุนไป ๒ ชั่วโมง ก็คือกว่าที่จะรวมตัวกันแล้วสามารถออกมาขึ้นรถบัสที่จอดรออยู่ได้ ก็ใช้เวลาไปทั้งสิ้น ๒ ชั่วโมง ๓๐ นาที..!

โดยเฉพาะมีญาติโยมท่านหนึ่ง ซึ่งมาเมื่อไรก็จะติด ตม.ศรีลังกาเมื่อนั้น เพราะว่าท่านไม่มีวันเกิด มีแต่เดือนเกิดและปีเกิดเท่านั้น ทำให้ พระดร.ท่านอารีรัตนะ ซึ่งเป็นผู้ประสานงาน ต้องเสียเวลาไปอธิบายและรับรองให้ทุกครั้ง

พวกเราฝ่าฝนมาขึ้นรถบัสที่จอดรออยู่ทั้ง ๓ คัน กระผม/อาตมภาพได้รถหมายเลข ๑ มุ่งตรงไปยังวัดเกลานิยะ หรือที่คนไทยเรียกว่าวัดกัลยาณี โดยที่มีฝนพรำไปตลอดทาง ไปถึงก็เป็นเวลาค่ำมืดแล้ว ถ้าตรงกับเมืองไทยก็น่าจะประมาณทุ่มครึ่ง เป็นเวลาที่อุบาสกอุบาสิกา พุทธศาสนิกชนชาวศรีลังกา ไปสวดมนต์ไหว้พระกันเป็นจำนวนมาก

ที่น่าชื่นใจที่สุดก็คือทุกคนแต่งชุดขาวไปวัดกัน แม้ว่าฝนจะตกอยู่ตลอดเวลาก็ทำลายศรัทธาไม่ได้ นั่งสวดมนต์กันอยู่ตามชายคาบ้าง ตามใต้ต้นไม้บ้าง ส่วนภายในมหาวิหารวัดเกลานิยะนั้นก็เต็มแน่นไปหมด พวกเราจึงต้องเดินเข้าไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ โดยเฉพาะต้นพระศรีมหาโพธิ์แบบเกรงใจเจ้าภาพสุด ๆ

เมื่อเสร็จจากพิธีกราบไหว้บูชาและถ่ายรูปหมู่กันแล้ว พวกเราก็ย้อนกลับมา แต่หารถไม่เจอ เนื่องเพราะว่าตอนแรกรถบัสเข้ามาส่งพวกเราจนถึงประตูด้านใน เดินไปไม่กี่ก้าวก็เป็นต้นพระศรีมหาโพธิ์แล้ว แต่ขากลับ รถบัสของเราไปจอดแอบอยู่ด้านนอกประตูข้างกำแพง แล้วก็ไม่มีใครมายืนรอบอก อาจจะเป็นเพราะฝนกำลังตกอยู่ จึงทำให้กระผม/อาตมภาพต้องเสียเวลาเดินวนไปทางด้านที่จอดรถใหญ่ เพื่อดูว่ารถของเราไปอยู่ที่นั่นหรือไม่ ?

เมื่อกลับขึ้นมา ด้วยความที่เปียกฝน จึงต้องรีบฉันยาป้องกันไข้เอาไว้ก่อน ครั้นเมื่อขึ้นรถมากันครบถ้วนแล้ว ก็ขออภัยต่อญาติโยมทั้งหลายที่ต้องตัดโปรแกรมวัดคงคารามออกไป เพราะว่าไปถึงตอนนี้ วัดของเขาก็คงจะปิดแล้ว คณะใหญ่ถ้าหากว่าช้ากันคนละเล็กคนละน้อย ก็จะทำให้เสียเวลามากแบบนี้ทั้งสิ้น..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-11-2024 เมื่อ 03:12
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 04-11-2024, 00:47
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,271 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พวกเราเดินทางไปถึงที่พัก ก็คือโรงแรม Cinnamon Lakeside Colombo ซึ่งเป็นโรงแรมประมาณ ๔ ดาว เข้าไปถึงก็ต้องรีบจัดห้องว่าใครจะพักอยู่กับใคร กระผม/อาตมภาพจะได้รับให้พักห้องเดี่ยวเสมอ เข้าไปถึงห้องปรากฏว่าอากาศเย็นมาก เนื่องเพราะว่าทางโรงแรมตั้งเครื่องปรับอากาศเอาไว้ที่ ๒๑ องศาเซลเซียส

กระผม/อาตมภาพนั้น ถ้าหากว่าอยู่ห้องปรับอากาศ ไม่ตั้งไว้ที่ ๒๗ ก็ ๒๘ องศาเซลเซียส แต่ว่าไม่สามารถจะหาที่ลดหรือเพิ่มอุณหภูมิได้ จึงต้องไปหยิบเอาชุดนอนของโรงแรม ซึ่งค่อนข้างหนา มาใส่ทับชุดของตนเอง แล้วก็มุดเข้าใต้ผ้าห่มนอนไปเลย โดยไม่ได้สรงน้ำ..!

ครั้นตื่นขึ้นมาเป็นเวลาตี ๓ ของประเทศศรีลังกา จะมาส่งงานต่าง ๆ แต่ปรากฏว่าโรมมิ่งที่เปิดเอาไว้นั้นอาการค่อนข้างจะหนัก ส่งรูปแค่รูปเดียวใช้เวลาประมาณ ๔ นาที..! ดังนั้น..ถ้าหากว่าจะส่งงานทั้งหมด อาจจะต้องใช้เวลาเป็นชั่วโมง ๆ เมื่อลองใช้ WIFI ของทางโรงแรมดู อาการก็ใกล้เคียงกัน แถมยังหลุดแล้วหลุดอีก จึงต้องไปรบกวนไอ้ตัวเล็ก ด้วยการขอยืมใช้ WIFI ที่ไม่ทราบเหมือนกันว่าอีกฝ่ายได้มาเป็นความเร็วเท่าไร สามารถที่จะส่งได้ง่ายและสะดวกกว่ามาก

ครั้นส่งงานเรียบร้อยแล้วก็กลับมาสรงน้ำ แต่งตัว เมื่อรอเวลาจนตี ๕ ครึ่งก็ลงไปรอที่ห้องอาหารด้านล่าง แต่เนื่องจากว่าห้องอาหารเปิดตอน ๖ โมงเช้า จึงเดินลงไปทางทะเลสาบ ซึ่งมีนกน้ำต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก ที่เห็นอยู่ก็มีนกกระยางกรอก นกกระสา และที่นึกไม่ถึงก็คือมีนกกระทุงตัวใหญ่มากอยู่ ๒ ตัวอีกด้วย

ครั้นถ่ายรูปมุมต่าง ๆ แล้ว เห็นรูปหอโทรคมนาคม ซึ่งถ้าถ่ายผ่านทะเลสาบช่วงตะวันกำลังขึ้น จะเป็นที่ดูแล้วค่อนข้างจะคลาสสิกมาก จึงคิดในใจว่า "ถ้ามีเรือพายประกอบฉากสักลำหนึ่งก็วิเศษเลย" ปรากฏว่าเสียงท่านเจ้าพ่อหลักเมืองถามว่า "จะเอาจริงหรือเปล่าครับ ?" เมื่อบอกว่า "ถ้าได้ก็จะดีมากเลย" ท่านจึงส่งเรือจากที่ไหนก็ไม่ทราบ พายดุ่ย ๆ มาเข้าร่วมเฟรมด้วย กระผม/อาตมภาพก็จึงได้ถ่ายภาพจากความเมตตาของท่านเจ้าพ่อหลักเมืองศรีลังกาเอาไว้เป็นหลักฐานว่า ถ้าเป็นเรื่องของผี เรื่องของเทวดา เขาจะสงเคราะห์แล้ว อย่างไรเสียเขาก็ทำได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-11-2024 เมื่อ 03:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 04-11-2024, 00:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,271 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อกลับขึ้นมาก็ได้เวลาห้องอาหารเปิดพอดี จึงเข้าไปตักอาหาร ซึ่งส่วนใหญ่แล้วออกไปทางมังสวิรัติมานั่งฉัน จวนจะอิ่มแล้ว พระครูวิโรจน์กาญจนเขต, ผศ.ดร. เจ้าอาวาสวัดอุทยาน และหลวงพ่อนิล (พระครูวินัยธรธวัชชัย ชาครธมฺโม) ประธานที่พักสงฆ์อาศรมศรีชัยรัตนโคตร จังหวัดสกลนคร จึงมานั่งร่วมโต๊ะด้วย

กระผม/อาตมภาพฉันอิ่มแล้ว จึงเดินไปหาที่นั่งด้านนอก เพื่อรอรับศรัทธาญาติโยมที่คอยมาทำบุญทุกเช้า ตั้งใจว่าจะให้นับเงินเอาไว้เพื่อทำบุญกฐินของวัดศักติสัทธรรมในวันนี้ แต่ปรากฏว่าผู้นับเงินก็คือน้องเล็ก (นางสาวจิราพร ซื่อตรงต่อการ) มัวแต่ปฏิสันถารกับพรรคพวกเพื่อนฝูงอยู่ ครั้นจะไปขัดคอ เดี๋ยวก็จะกลายเป็นว่าไม่รู้กาลเทศะ จึงได้แต่เก็บเงินเอาไว้ก่อน

เห็นว่าใกล้เวลาเดินทางแล้ว แต่ว่ารถบัสยังไม่มา กระผม/อาตมภาพจึงเดินออกไปหาทางด้านนอก แล้วก็เจอว่านัดเดินทาง ๘ โมงเช้า แต่ว่า ๗ โมง ๕๐ นาทีแล้ว รถบัสยังจอดอยู่ที่ลานจอดรถด้านนอก จึงให้ตำรวจที่มาคอยนำทางลงไปเรียก รถบัสถึงได้ขึ้นมา ทำให้การเดินทางนั้นช้าไปประมาณ ๗ นาที..!

พวกเรามุ่งตรงไปยังเมือง ซึ่งบางคนเรียกว่าเมืองกุรุแนแกละ ซึ่งบางคนเรียกว่ากุรุเนกะละ ซึ่งก็คือเมืองเดียวกัน เพื่อที่จะไปยังวัดศักติสัทธรรมที่นั่น มีการจอดแวะกลางทางเพื่อให้เข้าห้องน้ำด้วย แต่ว่าร้านอาหารทั้งร้านมีห้องน้ำผู้หญิงอยู่ ๒ ห้อง ห้องน้ำผู้ชายอยู่ ๒ ห้อง ต้องมารองรับคนจำนวน ๑๒๓ คน ทำให้เสียเวลาไปค่อนข้างจะมาก..!

ครั้นเดินทางไปก่อนที่จะถึงวัดศักติสัทธรรมประมาณ ๑ กิโลเมตร ทางเจ้าภาพก็ส่งคณะมารอรับที่นั่น เด็ก ๆ เอาพวงมาลัยมาคล้องให้แขกบ้านแขกเมือง ส่วนบรรดาอุบาสกก็ถือร่ม หรือว่ากลดสีเหลืองมารับพระ โดยมีนาฏยกรซึ่งเป็นคณะการแสดงถวายให้กับพระบรมธาตุเขี้ยวแก้วเมืองแคนดี้ มาทำการแสดงเพื่อนำพวกเราเข้าไปยังวัดด้วย

ครั้นไปถึงวัดก็ได้เวลาเพลพอดี กระผม/อาตมภาพหลังจากถวายสักการะพระประธานในวิหารแล้ว ก็นำญาติโยมทั้งหลายไหว้พระ แล้วไปนั่งรอฉันเพล แต่ว่าทางด้านเจ้าภาพอาจจะนัดเวลากันผิดพลาด จึงทำให้อาหารมาช้า กระผม/อาตมภาพต้องไปแสดงตัวให้กับทั้งพระและญาติโยมทางด้านนี้ ได้รู้จักว่าเป็นใคร ? มาจากไหน ? ถึงได้บังอาจเป็นเจ้าภาพมานำกฐินทอดให้ที่นี่..! แล้วค่อยลงไปฉันเพล ซึ่งเป็นอาหารที่พวกเราขนมาเองกันเป็นส่วนใหญ่ โดยที่กระผม/อาตมภาพเองนั้นไม่ค่อยที่จะสนใจอาหารไทย เนื่องเพราะว่าไปที่ไหนก็ฉันอาหารของทางเจ้าภาพเขาทั้งสิ้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-11-2024 เมื่อ 03:22
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 04-11-2024, 00:57
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,271 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ครั้นฉันเพลเรียบร้อยแล้วกระผม/อาตมภาพก็รีบเข้าไปในวิหาร เพิ่งจะนั่งลง ฝนก็กระหน่ำลงมาอย่างหนัก..! ทำให้รอดตัวไป กว่าคนอื่นจะขึ้นมาได้ก็เปียกกันม่อลอกม่อแลก ญาติโยมรีบนับเงินเสร็จเรียบร้อยแล้ว ได้ยอดเงินที่กระผม/อาตมภาพรับมาทั้งสองวัน เป็นจำนวน ๑๒๓,๒๐๐ บาท กระผม/อาตมภาพจึงได้ดึงออกมา ๒๐๐ บาท เพื่อให้ลงตัว ๑๒๓,๐๐๐ บาท แทนจำนวนผู้คนที่มา ๑๒๓ คนเช่นกัน จากนั้นก็รวบรวมเงินจากคณะต่าง ๆ รวมแล้วได้มาทั้งสิ้น ๔๓๔,๑๒๐ บาท กับอีก ๑๖๐ ดอลลาร์

แล้วท่านอานันทะ เจ้าคณะจังหวัดฝ่ายมัลวัตตะของเมืองกุรุแนแกละก็ได้ประกาศต่อสงฆ์และญาติโยมทั้งหลายว่า ให้ท่านสุเมธะ รักษาการเจ้าอาวาสวัดศักติสัทธรรม ได้เป็นผู้ครองกฐินในปีนี้ ครั้นทำพิธีถวายแล้ว ก็มีการกรานกฐินและครองผ้ากฐินตรงนั้นเลย เมื่อถึงเวลาญาติโยมกรวดน้ำรับพรแล้ว ทางเจ้าภาพก็ได้ถวายของที่ระลึกมาให้ ซึ่งไม่ทราบเหมือนกันว่าหมดไปเท่าไร เนื่องเพราะว่าพระพุทธรูปอย่างเดียวก็ให้มาคนละ ๑ องค์..!

ครั้นได้รับของที่ระลึกแล้ว กระผม/อาตมภาพก็เดินออกมา เพื่อที่จะกลับไปขึ้นรถ แต่ปรากฏว่าทางรถบัสไม่ทราบว่าไปจอดอยู่ที่ไหน เดินไปประมาณ ๒ กิโลเมตรแล้วยังไม่เจอ ครั้นโทรกลับมาถาม เขาบอกว่าจอดอยู่อีกด้านหนึ่งของวัด ก็ยังสงสัยว่าตอนเดินออกมาก็เห็นอยู่ว่าไม่มีรถ แล้วไปจอดอยู่ได้อย่างไร ?

ครั้นเดินกลับมาแล้วถึงได้เข้าใจ เพราะว่ารถไปจอดเลยวัดไปมาก และเป็นทางโค้งมองอะไรไม่เห็นเลย แถมยังไม่ส่งใครมายืนบอกตรงหน้าประตูด้วย จึงทำให้รวมแล้ว กระผม/อาตมภาพได้กำไรระยะทางมากกว่าคนอื่น อยู่ที่ ๔ กิโลเมตร..! พวกเราออกเดินทางไปยังเมืองอนุราธปุระ ในเวลาประมาณบ่าย ๒ โมงกว่า เกือบจะบ่าย ๓ โมง ในระหว่างทาง กระผม/อาตมภาพทำการส่งงานต่าง ๆ ด้วย WIFI ของไอ้ตัวเล็กแล้ว ก็ได้ทำการบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนเอาไว้ก่อน ไม่เช่นนั้นอาจจะไม่มีเวลาบันทึกเลยก็เป็นได้

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอาทิตย์ที่ ๓ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-11-2024 เมื่อ 03:29
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 41 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 02:22



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว