กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๗ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนตุลาคม ๒๕๖๗

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 08-10-2024, 19:53
พิชวัฒน์'s Avatar
พิชวัฒน์ พิชวัฒน์ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Aug 2014
ข้อความ: 500
ได้ให้อนุโมทนา: 3,308
ได้รับอนุโมทนา 24,997 ครั้ง ใน 988 โพสต์
พิชวัฒน์ is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๘ ตุลาคม ๒๕๖๗

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๘ ตุลาคม ๒๕๖๗


ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 43 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 09-10-2024, 00:41
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันอังคารที่ ๘ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ ก่อนอื่นก็ต้องขอแสดงความยินดีกับ ดร.ซ้วง (ดร.พระศิระ จิตฺตสุโภ) ที่จบปริญญาเอกแล้ว แต่ว่ากระผม/อาตมภาพดูวิทยานิพนธ์คร่าว ๆ มีหลายจุดที่จะต้องแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้อง เนื่องเพราะว่าบุคคลที่จบปริญญาเอก จะเป็นผู้เชี่ยวชาญ ชำนาญในหัวข้อนั้นหรือว่าในสาขาวิชานั้น เพราะฉะนั้น..ถ้าหากว่าใครสนใจในเนื้อหาตามหัวข้อหรือสาขาวิชานั้น เขาก็จะมาศึกษา แล้วถ้าหนักกว่านั้นก็คือเอาไปอ้างอิง

อย่างเช่นหน้า ๑๔๖ ที่แยกประเภทโอปปาติกะ ออกเป็น ๒ ประเภท ก็คือ สุคติภูมิ กับ ทุคติภูมิ แต่ว่าเอามารไปไว้ในทุคติภูมิไม่ได้ เพราะอย่าลืมว่ามารเป็นเทวดาประเภทหนึ่ง อยู่สวรรค์ชั้นที่ ๖ ต้องอยู่ในส่วนของสุคติภูมิ ถ้าหากว่าทำลักษณะอย่างนี้ เดี๋ยวคนเอาไปอ้างตาม แล้วจะซวยไม่รู้เรื่อง..!

แล้วมาหน้า ๑๔๘ ผู้ที่ปฏิบัติชั้นจตุตถฌานได้จะบังเกิดเป็นโอปปาติกะในพรหมโลก ๗ ชั้น ได้แก่ ๑) เวหัปผลาพรหม ๒) อสัญญีสัตตาพรหม ๓) อวิหาสุทธาวาสพรหม ๔) อตัปปาสุทธาวาสพรหม ๕) สุทัสสาสุทธาวาสพรหม ๖) สุทัสสีสุทธาวาสพรหม และ ๗ อกนิฏฐสุทธาวาสพรหม

ตรงนี้ต้องอธิบายเพิ่ม เพราะว่าสุทธาวาสพรหมตั้งแต่ อวิหา อตัปปา สุทัสสา สุทัสสี อกนิฏฐา นั้น ท่านจะมีมรรคผลทั้งส่วนของอนาคามิผลและอรหัตมรรคอยู่ด้วย ถ้าไปบอกว่าจบแค่จตุตถฌานแล้วได้สุทธาวาสพรหม ๕ ชั้นนี่เจ๊งเลย..! เพราะว่าฌาน ๔ หรือสมาบัติ ๘ จริง ๆ ถ้าเป็นโลกียะนี่ไปไม่รอดสักราย กระทั่งโสดาบันยังเป็นไม่ได้เลย ต้องมีปัญญาเข้าไปช่วยอีกมาก

แล้วก็มาตรงที่ว่า "อปริยาปันนภูมิ หรือ โลกุตรภูมิ คือ พระนิพพาน ผู้จักบังเกิดในชั้นนี้จะต้องละสังโยชน์ ๑๐ ประการ เป็นพระอริยบุคคลหรือพระอรหันต์" ตรงนี้อย่าใช้คำว่า "หรือ" เพราะว่าพระอริยบุคคลคือตั้งแต่โสดาปฏิมรรคขึ้นไป ถ้าหากว่าคุณใช้คำว่า โลกุตรภูมิคือพระนิพพาน ก็ต้องเป็น "พระอริยบุคคลระดับพระอรหันต์" ไม่ใช่ "พระอริยบุคคลหรือพระอรหันต์"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-10-2024 เมื่อ 03:05
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 09-10-2024, 00:47
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ข้อมูลพวกนี้เราต้องแก้ แล้วค่อยส่งเนื้อหาวิทยานิพนธ์ที่เป็น PDF ไฟล์ไปให้ทางมหาวิทยาลัย จึงต้องเอาให้ดีเลย เพราะฉะนั้น..คุณจะเห็นว่าผมเองแก้ให้ตั้งแต่บรรณานุกรมที่อ้างอิง หน้า ๑๖๐ ของคุณอ้างอิงเป็น เบญจวรรณ ชยางกูร วารสารพุทธมัคค์ และหน้าเดียวกันก็เป็น เบญจวรรณ ชยางกูร วารสารพุทธมัคค์ พอไปหน้า ๑๖๑ ก็เป็น เบญจวรรณ ชยางกูร วารสารพุทธมัคค์ หน้าเดียวกัน หัวข้อเดียวกัน เล่มเดียวกัน ปีเดียวกัน ไม่มีอะไรต่างกันเลย..!

นี่คือลักษณะของการที่เราก็อปปี้แล้ววาง เมื่อวางเสร็จก็ลืมลบของเก่า ก็คือถึงเวลาแล้วเรามาจัดเรียงบรรณานุกรมตามตัวอักษร แต่ของเก่าเราไม่ได้ลบทิ้ง ก็เลยกลายเป็นซ้ำ ๓ แห่ง ๔ แห่งอย่างที่เห็น ต้องระมัดระวังให้ดี เดี๋ยวต้องมีเวลาให้ผมอ่านละเอียดมากกว่านี้ก่อน

สมัยก่อนกระผม/อาตมภาพบอกกับบรรดาลูกศิษย์ว่า "วิทยานิพนธ์ของคุณ ผมอ่านทุกตัวอักษร" ไม่มีใครเชื่อ จนกระทั่งแก้ให้แดงไปทั้งเล่ม เขาถึงรู้ว่าหลวงพ่ออ่านทุกตัวอักษรจริง ๆ..! เพราะว่าวิทยานิพนธ์จะต้องเป็นข้อมูลทางวิชาการที่ถูกต้องที่สุด ที่เขาจะเอาไปอ้างอิงต่อได้

แม้กระทั่งตัวหนังสืออักขระอะไรก็ตามที่ผิดไวยากรณ์ก็ต้องแก้ หลายต่อหลายจุด อย่างเช่นว่าเวหัปผลาภูมิ "เวหัป" อยู่บรรทัดบน แล้ว "ผลาภูมิ" ไปอยู่บรรทัดล่าง แบบนี้ใช้ไม่ได้ เพราะว่าเป็นศัพท์คำเดียวกัน พวกคุณโชคดีที่ผมไม่ได้รับตรวจวิทยานิพนธ์อีกแล้ว ไม่อย่างนั้นได้นั่งร้องไห้กันหมด..!

เรื่องพวกนี้เราเองไม่ชำนาญ โอกาสที่จะผิดต้องมี แต่ถ้าครูบาอาจารย์ไม่ชำนาญด้วยนี่พังเลย..! ไม่อย่างนั้นแล้วในเรื่องของการไปยืนยันภพภูมิว่าส่วนของมารเป็นทุคติภูมิ เท่ากับเราไปค้านพระพุทธเจ้านะ เดี๋ยวก็จะ "ตื่นธรรม" ไม่ทัน..!

ในเรื่องปัจจุบันนี้เกี่ยวกับ "หมอดู" และ "คนตื่นธรรม" จะว่าไปแล้วเป็นเรื่องของการเอากิเลสไปชนกัน..! ในส่วนของหมอดู กระผม/อาตมภาพตำหนิเขาน้อย ตำหนิเขาน้อยตรงที่ว่าเขาแค่ปากไว แล้วก็ไปพูดกระทบกระเทือนในลักษณะปรามาสพระพุทธเจ้าว่า พระพุทธเจ้าก็ไม่แน่ว่าจะรู้จริงทั้งหมด ซึ่งตรงนี้ไปสวนกับความเชื่อของพุทธศาสนิกชนส่วนใหญ่ เลยเจอ "ทัวร์ลง" เยอะหน่อย..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-10-2024 เมื่อ 03:11
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 09-10-2024, 00:53
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเรื่องของหมอดูนั้น ถ้าหากว่ามีจรรยาบรรณและมีความคล่องตัวจริง ๆ สามารถอาศัยได้ในระดับหนึ่ง ที่กระผม/อาตมภาพบอกไปวันก่อนก็คือได้ ๖๐ เปอร์เซ็นต์ แต่ไม่ใช่ไปฝากชีวิตไว้กับหมอดู อย่าลืมว่า ๔๐ เปอร์เซ็นต์ที่นอกเหตุเหนือผล นั่นก็คือคนที่ไม่ยอมจำนนต่อชะตากรรม ดิ้นรนฝ่าฟันจนกระทั่งผ่านพ้นไปได้

นั่นคือสิ่งที่พระพุทธเจ้าเชื่อว่าพวกเรามีศักยภาพเพียงพอ พระองค์ท่านถึงได้เสียเวลามาสอนพวกเราอยู่ถึง ๔๕ ปี ไม่อย่างนั้นถ้าหากว่าเชื่อหมอดูอย่างเดียว ก็ไม่ต้องทำมาหากินอะไรแล้ว เขาบอกว่าไม่ดีก็ไม่ดีไปตลอดชีวิต เขาบอกว่าดีแล้วจะดีไปตลอดชีวิตได้อย่างไร ? เพราะว่าเราเองก็ทำดีไม่ทั่ว ทำชั่วไม่หมด ก็ต้องมีขึ้น ๆ ลง ๆ ดีบ้าง ชั่วบ้าง

แต่ว่าในส่วนของบุคคลที่อ้างว่าเป็นผู้ตื่นธรรมหรือผู้รู้ธรรมนั้น การสอนธรรมของท่านปราศจากสาราณียธรรม ตรงนี้อันตราย ท่านที่เรียนนักธรรมชั้นตรีมาก็รู้อยู่แล้ว สาราณียธรรม ธรรมอันเป็นเครื่องยังให้ทุกคนระลึกถึงกัน เมื่อจะคิดก็คิดถึงผู้อื่นด้วยเมตตา เมื่อจะพูดก็พูดถึงผู้อื่นด้วยเมตตา เมื่อจะกระทำก็กระทำต่อผู้อื่นด้วยเมตตา ไม่ใช่อยู่ในลักษณะของด่าสาดเสียเทเสีย ไป "บูลลี่" หรือว่า "ด้อยค่า" ความรู้ของคนอื่น

ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายไปนึกถึงปิรามิดพระพุทธศาสนาที่กระผม/อาตมภาพเคยเปรียบเทียบไปแล้ว ส่วนของพิธีกรรมพิธีการก็คือฐานใหญ่ที่สุด นี่คือพุทธศาสนิกชน ๘๐ - ๙๐ เปอร์เซ็นต์เลยนะ..! ขึ้นมาถึงระดับกลาง ก็คือ ศีล สมาธิเบื้องต้น พวกที่จะใช้ปัญญาได้จริง ๆ ก็คือ ศีล สมาธิ ปัญญาครบถ้วน ไปอยู่ที่ยอดปิรามิดนิดเดียว

ถ้าหากว่าเราไป "ด้อยค่า" คนอื่น หรือไป "บูลลี่" คนอื่น ถือว่าคนอื่นตื่นไม่เท่ากูก็แปลว่าชั่วหมด..! อย่างนั้นใช้ไม่ได้ เราจะไปอ้างว่าเรื่องของธรรมะไม่ต้องเอาใจใคร..ก็ถูก
แต่ลักษณะของการสอนธรรม เราสอนด้วยกิเลส หรือว่าเราสอนเพราะเจตนาให้ผู้อื่นรู้ตาม ?ถ้าท่านทั้งหลายลองไปฟังดูแล้วก็จะรู้

ถ้าหากว่าท่านตั้งใจสอนให้ผู้อื่นรู้ตาม ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องหาคอนเท็นต์หรือว่าแนวทางที่โลดโผน เพื่อที่จะเป็นติ๊กต็อกเกอร์ หรือเป็นยูทูบเบอร์ เพราะลักษณะอย่างนั้นก็คือการดึงคนเข้ามา ดึงคนเข้ามาเพื่ออะไร ? ก็ต้องหวังยอดวิว หวังยอดไลค์..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-10-2024 เมื่อ 03:15
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 09-10-2024, 00:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ดังนั้น..เรื่องพวกนี้เราอย่าไปกล่าววาจาอันเป็นเหตุให้เถียงกัน พระพุทธเจ้าตรัสไว้ชัดแล้วว่า วาจาอันเป็นเหตุให้เถียงกันทำให้ต้องพูดมาก บุคคลที่พูดมาก จิตใจย่อมฟุ้งซ่าน บุคคลที่ฟุ้งซ่านย่อมห่างจากสมาธิ..!

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ท่านทั้งหลายก็ต้องเข้าใจว่าคนเราสร้างบุญสร้างกรรมมาไม่เท่ากัน เหมือนอย่างกับวิทยานิพนธ์วิเคราะห์ภพภูมิที่ ดร.ซ้วงท่านทำมา ในเมื่อสร้างบุญสร้างกรรมมาไม่เท่ากัน บุคคลที่สร้างบุญมาดีก็ได้ครูบาอาจารย์ดี สิ่งใดผิดพลาดก็แก้ไขให้ บอกกล่าวแต่ในสิ่งที่ถูกต้อง แต่ถ้าหากว่าเราสร้างบุญสร้างกรรมมาไม่เท่ากัน แล้วเราดันไปสร้างด้านที่ไม่ดี ถ้าไม่โดนพวกบรรดา "คอลเซ็นเตอร์" หลอกจนหมดเนื้อหมดตัว ก็โดนหมอดูหลอกให้ไปสะเดาะเคราะห์บ้าง ไปเปลี่ยนชื่อบ้าง สารพัด แล้วแต่ละวิธีก็ล้วนแล้วแต่เสียเงินทั้งนั้น..!

ทั้ง ๆ ที่ถ้าเราตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติใน ศีล สมาธิ ปัญญา โดยไม่ต้องเสียสตางค์ และเป็นการแก้ดวงที่ดีที่สุด แต่พวกเรากลับขี้เกียจ มักง่าย อะไรยากไม่ทำ สิ่งไม่ดีเกิดขึ้นแทนที่จะรีบแก้ไขด้วยการพัฒนา กาย วาจา ใจ ของตนเองให้ดีขึ้น เรากลับไปเปลี่ยนชื่อ ฟังดูแล้วว่ามันใช่หรือไม่ ? เปลี่ยนชื่อให้ตาย ถ้าความประพฤติไม่เปลี่ยน แล้วสิ่งดี ๆ จะเข้ามาได้อย่างไร ?

จึงเป็นเรื่องพวกเราทั้งหลาย โดยเฉพาะพระภิกษุสามเณรต้องตระหนักให้มากไว้ว่า เรื่องของพระพุทธศาสนา ต่อให้ปฏิบัติไปไม่ถึงพระอริยเจ้า ก็ต้องรักษาพระไตรปิฎกเอาไว้ พูดง่าย ๆ ก็คืออย่านอกคอก เพราะว่าถ้าความนอกคอกของเรา แล้วมีคนเดินตาม..พังแน่ ๆ..! คือถ้านอกคอกเมื่อไร โอกาสที่จะไปได้ดีนั้นก็ยากแล้ว เพราะว่าไม่ว่าโลกไหน ๆ ก็ไม่มีใครที่จะมีความสามารถเสมอกับพระพุทธเจ้า พระองค์ท่านวางแนวทางเอาไว้แล้ว ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ สรุปลงมาเหลือหนทาง ๘ ประการ ย่อลงมาก็คือแนวปฏิบัติ ๓ อย่าง คือ ศีล สมาธิ ปัญญา

ดังนั้น..ถ้าหากว่าใครคิดว่าจะหาทางใหม่ที่จะเก่งกว่าพระพุทธเจ้าได้ เราก็ปล่อยท่านไปเถอะ เอาที่ท่านสบายใจก็แล้วกัน เดี๋ยวตอนตายก็รู้เองว่าจะไปพบกันข้างบนหรือข้างล่าง..!

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอังคารที่ ๘ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-10-2024 เมื่อ 03:19
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 46 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 22:49



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว