กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๗ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนกันยายน ๒๕๖๗

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 30-09-2024, 19:47
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,936
ได้ให้อนุโมทนา: 225,200
ได้รับอนุโมทนา 800,227 ครั้ง ใน 39,355 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๗

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๗


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 01-10-2024, 00:03
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,256 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ ๓๐ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๗ ระยะนี้งานในส่วนที่เร่งรัดของพวกเราก็คือ ต้องมีการอบรมนักธรรมชั้นตรีก่อนสอบ แล้วก็ต่อด้วยการสอบ ซึ่งโดยปกตินั้นการอบรมจะจัดที่วัดเขื่อนวชิราลงกรณ แล้วการสอบจะจัดที่วัดปรังกาสี แต่ด้วยความที่หลวงพ่อพระครูกาญจนปัญญาวุฒิ รองเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ (๑) เจ้าอาวาสวัดเขื่อนวชิราลงกรณ ท่านยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล จึงทำให้ทั้งงานอบรมและงานสอบ ต้องย้ายไปรวมกันที่วัดปรังกาสีแห่งเดียว

เรื่องพวกนี้โดยปกติแล้วคณะสงฆ์ของเรามีการแบ่งสันปันส่วนกันอยู่ อย่างเช่นว่าถ้าเป็นการประชุมพระสังฆาธิการในเขตปกครองคณะสงฆ์อำเภอทองผาภูมิ (ตามมติมหาเถรสมาคม) ก็จะมาประชุมกันที่วัดท่าขนุน ส่วนงานอื่น ๆ ก็แบ่งกันไปรับผิดชอบ ในระหว่างพระสังฆาธิการระดับเจ้าคณะอำเภอบ้าง รองเจ้าคณะอำเภอบ้าง เจ้าคณะตำบลบ้าง

คราวนี้ในช่วงที่เร่งรัดแบบนี้ บางทีเราท่านทั้งหลายอาจจะรู้สึกเครียด โดยเฉพาะพระใหม่ที่ยังรักษากำลังใจไม่มั่นคง อาจจะสงสัยว่าจะเรียนอะไรกันหนักหนา ? แล้วทำไมถึงต้องมีการอบรมในลักษณะของการทบทวนความรู้ก่อนสอบ แล้วถึงจะสอบ ? ในส่วนนี้นั้นเกิดจากที่บรรดาพระผู้ใหญ่ท่านพิจารณาแล้วว่า การอบรมก่อนสอบนั้นมีแต่ข้อดีอย่างเดียว ก็คือทำให้พวกเราเคยชินกับสนามสอบ เนื่องเพราะว่าในแต่ละวันเมื่อทบทวนความรู้แล้ว ก็จะมีการนำข้อสอบเก่ามาให้พวกเราได้ทดลองทำกัน

แล้วในเรื่องของข้อสอบนั้น ส่วนที่สำคัญต่อพระใหม่ก็มักจะซ้ำ ๆ กัน ดังนั้น..บางปีข้อสอบที่ออก ๑๐ ข้อ ไปตรงกับที่พวกเราทบทวนทำถึง ๗ ข้อ ๘ ข้อก็มี โอกาสที่เราสอบผ่านก็จะสูงมาก และโดยเฉพาะจะต้องสอบครบทั้ง ๔ วิชา ถ้าขาดวิชาใดวิชาหนึ่งไป ต่อให้คะแนนของเราได้ถึง ๒๐๐ คะแนน เขาก็ปรับตก..!

คราวนี้ในส่วนที่เรียนทั้ง ๔ วิชานั้น วิชาแรกก็คือ เรียงความแก้กระทู้ธรรม เป็นการตั้งหัวข้อบาลีขึ้นมาแล้วให้เราอธิบายขยายความ ก็คือการเทศน์บนหน้ากระดาษนั่นเอง ซึ่งจะมีรูปแบบที่แน่นอนอยู่แล้วว่าจะขึ้นต้นอย่างไร ? อธิบายขยายความอย่างไร ? โยงเนื้อหาเข้ากับบาลีที่เราเตรียมไว้อย่างไร ? แล้วอธิบายเนื้อหาทั้ง ๒ ส่วนให้ผสมกลมกลืนกัน จากนั้นค่อยสรุปจบ

แต่คราวนี้พระใหม่ต้องระมัดระวัง เพราะว่าบางท่านศึกษาปฏิบัติธรรมมานานแล้วถึงจะบวช เราต้องระวังว่าอย่าเขียนเกิน ๓ หน้ากระดาษ (เว้นบรรทัด) เนื่องเพราะมีตัวอย่างมาแล้วว่า เป็นพระใหม่แล้วเขียนเรียงความแก้กระทู้ธรรมไป ๗ หน้ากระดาษ โดนปรับตก ข้อหาเกินภูมิรู้ของตนเอง..! พูดง่าย ๆ ว่าเพิ่งจะบวช เขาไม่เชื่อว่าเราจะมีความรู้ในระดับนั้นแล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-10-2024 เมื่อ 02:08
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 01-10-2024, 00:15
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,256 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แบบเดียวกับมีพระภิกษุรูปหนึ่งของทางจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งท่านสอบบาลีแล้วทำถูกชนิดที่คะแนนเต็ม ไม่มีใครเชื่อว่าจะทำได้ แล้วไปปรับท่านตก ทำให้ท่านคิดมาก ตอนหลังก็เลยกลายเป็นโรคจิตเภทไปเลย ถ้ากระผม/อาตมภาพเป็นกรรมการ ก็จะทำแบบที่สอบพระอุปัชฌาย์ ก็คือมีผู้เข้าสอบรูปหนึ่ง ท่านเขียนคำสวดอนุสาวนาไม่ผิดเลย ถูกต้องตามหลักบาลี และเว้นวรรคได้ถูกต้อง จะเว้นยาวเว้นสั้นอย่างไร ท่านใส่เครื่องหมายได้ถูกต้องทั้งหมด

กระผม/อาตมภาพดูตั้งแต่ต้นจนปลายแล้ว ก็ปรึกษาท่านเจ้าคุณพระศรีวิสุทธิวงศ์ (สุวิทย์ ปวิชฺชญฺญู ป.ธ. ๙) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร ซึ่งร่วมเป็นกรรมการตรวจอยู่ด้วยกันว่า ขอให้เขามาเขียนให้ดูใหม่อีกครั้งหนึ่ง แล้วก็เรียกผู้เข้าสอบมาเขียนให้ดูใหม่ เขาเขียนได้ถูกทั้งหมดจริง ๆ เราต้องยอมรับว่าคนเก่งจริงนั้นมีอยู่ แต่คราวนี้ในเมื่อเห็นว่าเขาเก่งจริงแล้วไม่ทดสอบ ก็เลยทำให้เขาเสียโอกาส แล้วท้ายที่สุดก็คิดมากจนเครียด ต้องเข้าโรงพยาบาลไปเลย..!

ต้องบอกว่าความผิดอยู่ที่กรรมการและก็ตัวท่านด้วย เพราะถ้ากระผม/อาตมภาพเองเป็นผู้เข้าสอบ จะบอกให้กรรมการไปหาข้อสอบใหม่มาเลย ผมจะทำให้ดูตรงนี้ แต่ด้วยความที่พระใหม่ท่านไม่มีความกล้าขนาดนั้น ท่านก็เลยไปนั่งคิดนั่งเครียดอยู่คนเดียวว่า "ทำถูกทั้งหมด ไม่โดนเก็บแม้แต่คะแนนเดียวแล้วทำไมถึงสอบตก ?"

วิชาที่สองก็คือ ธรรมวิภาค ความจริงเป็นวิชาที่เป็นประโยชน์ที่สุดสำหรับพวกเราทั้งหมด และถ้าเป็นกระผม/อาตมภาพจะว่าวิชานี้เป็นวิชาที่ยากที่สุด เพราะว่าเป็นการสรุปหลักธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าลงมาเป็นหมวด ๆ ไล่ตั้งแต่ทุกกะ หมวด ๒ ก็คืออย่างหัวข้อธรรมที่มี ๒ ข้อ อย่างเช่นโลกบาลธรรม คือ หิริ (ความละอายแก่ใจไม่กล้าทำชั่ว) โอตตัปปะ (ความเกรงกลัวผลของความชั่วจะส่งผลให้เดือดร้อน)

หรือว่าธรรมที่ทำให้งาม อย่างเช่นว่า ขันติ (ความอดทน) โสรัจจะ (ความสงบเสงี่ยม) ไล่ขึ้นไปจนถึงโสฬสกะ ก็คือหมวดหัวข้อธรรมที่มี ๑๖ ข้อ ก็คือ มละ หรือมลทินทั้ง ๑๖ แต่มาถึงรุ่นของพวกท่านแล้ว เท่าที่สังเกตดูข้อสอบออกไม่เกิดหมวดที่ ๕ เนื่องเพราะกลัวว่าจะจำกันไม่ได้

รุ่นของกระผม/อาตมภาพเขาใช้คำว่า "บังคับให้ท่องแบบ" ก็คือคุณต้องท่องให้ได้ทั้งหมด เท่ากับว่าเขาจะออกหมวดไหน เราก็จะตอบได้ แต่มาถึงรุ่นหลัง ๆ นี่มักจะนิยมในการเก็งข้อสอบ ทำให้ส่วนหนึ่งดูหนังสือไม่ครบ รู้ไม่ครบถ้วน แล้วก็มักจะรู้แค่ส่วนล่าง ๆ เท่านั้น เพราะว่าข้างบนมากขึ้นไปเรื่อย ๆ อย่างเช่นว่าธุดงควัตร ๑๓ ก็อยู่ในเตรสกะ ก็คือหมวดที่ ๑๓ เขากลัวว่าเราจะจำกันได้ไม่หมด ก็เลยไม่นำมาออกสอบ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-10-2024 เมื่อ 02:13
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 01-10-2024, 00:18
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,256 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลักธรรมทั้งหลายเหล่านี้ ส่วนสำคัญที่สุดก็คือ เราต้องทำความเข้าใจและนำไปใช้งานได้จริงด้วย แล้วส่วนหนึ่งที่กระผม/อาตมภาพเคยย้ำกับครูผู้สอนบ่อย ๆ ก็คือ ให้สังเกตว่าธรรมะของพระพุทธเจ้าทุกหมวดไม่มีขัดกันเลย สามารถที่จะเชื่อมโยงเข้าหากันได้ทั้งหมด

อย่างเช่นถ้าหากว่าเป็นโลกบาลธรรมก็คือ หิริ โอตตัปปะ เป็นธรรมที่รักษาโลก แล้วไปเกี่ยวข้องอะไรกับขันติ โสรัจจะ ความอดทนและความเสงี่ยมเจียมตน ? ก็อย่างเช่นว่าใจเราอยากจะทำชั่ว แต่เราพยายามอดทนอดกลั้นเอาไว้ ควบคุมกาย วาจา ใจ ของเราให้สงบระงับ ก็กลายเป็นโสรัจจะ คือความเสงี่ยมเจียมตน

หัวข้อธรรมทุกข้อสามารถที่จะอธิบายเชื่อมโยงเข้าหากันได้ทั้งหมด แต่ว่าอาจารย์รุ่นหลัง ๆ ไม่มีใครสอนแบบนี้ พวกเราก็เลยรู้แค่ที่เรียน แล้วถ้าหากว่าคิดต่อเองไม่เป็นก็จะรู้แค่นั้น

วิชาที่ ๓ ก็คือ พุทธประวัติและศาสนพิธี เขาให้เราศึกษาเพื่อที่จะรู้ว่า ที่มาที่ไปของศาสดาของเรามีความเป็นมาอย่างไร ถ้าเป็นสมัยโบราณก็เรียนตั้งแต่ต้นตระกูลโคตรเหง้าศักราชลงมาเลย..! กี่แสนกี่ล้านชาติเขาไล่ลงมา จนกระทั่งถึงพระเจ้าสีหหนุกับพระนางกัญจนา ก็คือปู่ย่าขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโน่น เขาจะระบุมาชัดเจนว่าระยะเวลาผ่านไปกี่หมื่นกี่แสนปี

ระยะหลังนี่โดนตัดเข้าเนื้อหาเลย ไม่มีอธิบายแม้แต่สภาพภูมิศาสตร์ของชมพูทวีปในยุคนั้นว่า ลักษณะเหมือนดอกบัวตูมที่ทิ่มหัวลงไปในทะเล ก็คือแผ่นดินอินเดีย หรืออนุทวีปอินเดีย แล้วก็มีผีเสื้อ หรือแมลงภู่ แมลงผึ้ง ตัวหนึ่งบินตอมดอกบัวนั้นอยู่ ก็คือเกาะลังกา

ต้องบอกว่ารุ่นของพวกท่านทั้งหลาย โอกาสที่จะเรียนครบถ้วนมีน้อยมาก จึงเป็นอะไรที่น่าเสียดายมาก อย่างรุ่นกระผม/อาตมภาพก็ต้องมานั่งท่องกันว่า มหาชนบท ๑๖ แคว้นประกอบไปด้วยอะไรบ้าง อังคะ มคธะ กาสี โกสละ วัชชี มัลละ ฯลฯ ไล่ไปเรื่อย จนกระทั่งถึงอัสสกะ อวันตี รุ่นของพวกท่านจำหลัก ๆ แค่ว่า มคธ โกศล กาสี วัชชี จึงเป็นเรื่องที่บอกว่ายิ่งเรียนเราก็ยิ่งรู้น้อยลง

แบบเดียวกับการเรียนธรรมศึกษา ก่อนหน้านั้นชั้นตรีก็คือเหมาทั้งหมด ชั้นโทก็เหมาทั้งหมด ชั้นเอกก็เหมาทั้งหมด แต่ปัจจุบันนี้เขาจะมีตรีอุดมศึกษา ตรีมัธยมศึกษา ตรีประถมศึกษา ชั้นโทและชั้นเอกก็แบบเดียวกัน ก็คือแยกออกเป็น ๓ ส่วน ทั้ง ๆ ที่เนื้อหาเท่าเดิม คนที่เรียนรุ่นเก่าจึงมีความรู้มากกว่าพวกเราเยอะ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-10-2024 เมื่อ 02:16
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 01-10-2024, 00:23
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,256 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในส่วนของศาสนพิธีนั้น เรียนเพื่อให้เรารู้ว่าจะต้องทำอะไรให้ถูกต้องไม่ถูกต้องอย่างไร อย่างเช่นว่างานอวมงคล จะไม่มีการตั้งขันน้ำมนต์วงสายสิญจน์ ถามว่างานอวมงคลคืออะไร ? ส่วนใหญ่ก็คืองานที่เกี่ยวข้องกับงานศพ

ไปวิชาสุดท้ายเลยก็คือ พระวินัยบัญญัติ ซึ่งกระผม/อาตมภาพมักจะให้พวกเราเรียนเป็นวิชาแรก เพราะว่าเกี่ยวกับพระวินัยก็คือศีลพระ เราจะได้รู้ว่าต้องระมัดระวังตรงไหนบ้าง จะว่าไปแล้วก็เริ่มต้นว่าอาบัติว่าโดยชื่อมีกี่อย่าง ? อะไรบ้าง ? ไล่ไปเรื่อย ถ้าเป็นรุ่นเก่า ๆ ก็โน่น พระวินัยเปรียบเหมือนอะไร ? มีคุณประโยชน์อย่างไร ? ทำไมเราถึงต้องศึกษา ? ข้อหนึ่งอธิบายไป ๓ หน้ากระดาษก็มี

คราวนี้ทั้ง ๔ วิชาที่ว่านี้ ปัจจุบันนี้จะออกวิชาละ ๑๐ ข้อ ยกเว้นในเรื่องของเรียงความแก้กระทู้ธรรม ซึ่งก็คือออกมาหัวข้อเดียว แต่ว่าเราต้องเตรียมหัวข้อไปรับ ๒ หัวข้อ ก็คือถ้าหากว่าหัวข้อที่เราเตรียมไว้ไปตรงกับกระทู้ตั้ง ๑ หัวข้อ เราจะได้ใช้อีกหัวข้อหนึ่งไปรับได้ มีเคล็ดลับง่าย ๆ ก็คือถ้าหากว่านึกไม่ออกว่าที่มามาจากไหน ให้ลงไปเลยว่าขุททกนิกาย ธรรมบท เนื่องเพราะว่าขุททกนิกายก็คือนิกายที่รวมหลักธรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ เอาไว้มากมายมหาศาล ในเมื่อเป็นเช่นนั้นเราอ้างส่งเดชไป บางทีครูที่ตรวจเขาขี้เกียจตามไปเช็คดู เพราะท่านก็คงจำได้ไม่หมดเหมือนกระผม/อาตมภาพ ท่านก็ปล่อยผ่านไปเลย

ส่วนที่สำคัญก็คือส่งข้อสอบเมื่อไร ต้องตรวจสอบว่าเราส่งครบทุกแผ่น ถ้าหากว่าเย็บเป็นชุดได้ยิ่งดี พร้อมกับเซ็นส่งด้วย การเซ็นส่งก็คือพระอะไร อย่างเช่นว่าพระกฤตณัฐ หรือว่าสามเณรรักเรียน ไม่ใช่พระกิตฺติคุโณ จะโดนบ้องหูร่วงอยู่ตรงนั้น..! พยายามเขียนตัวบรรจงให้อ่านออก อย่าไปเซ็นเป็นลายเซ็น

เรื่องพวกนี้จะทำให้เรามีประสบการณ์ ถึงเวลาไปสอบของจริงก็จะได้ไม่พลาดอีก โดยเฉพาะในส่วนของบาลีง่าย ๆ ขนาดพระเถระก็ตกมาแล้ว อย่างเช่นมีอยู่ครั้งหนึ่งออกว่า "จงเขียนคำ ยถาฯ สัพพีฯ มาให้ดู" ทุกคนท่องได้หมด แต่ตอนเขียนเว้นวรรคไม่ถูก เป็นต้น

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น พวกเราก็ต้องพยายามที่จะดูทุกอย่างให้ครบถ้วน ออกอะไรมาเราจะได้ทำได้ถูกเช่นกัน กระผม/อาตมภาพเอง
ถ้ามีเวลา ก็คงจะต้องตามไปดูพวกเราอยู่ทุกวัน ยกเว้นว่าไปตรงกับงานสำคัญอย่างอื่น ก็อาจจะแวะไปหลังจากที่เสร็จงานแล้ว หรือถ้าไม่ทัน วันนั้นก็คงต้องทิ้งไปเลย

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันจันทร์ที่ ๓๐ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 03-03-2025 เมื่อ 01:01
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 02:00



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว