กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๗ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนกันยายน ๒๕๖๗

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 28-09-2024, 17:00
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,937
ได้ให้อนุโมทนา: 225,208
ได้รับอนุโมทนา 800,376 ครั้ง ใน 39,356 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๒๘ กันยายน ๒๕๖๗

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๒๘ กันยายน ๒๕๖๗


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 29-09-2024, 00:39
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,488 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ ๒๘ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๗ ช่วงเช้ากระผม/อาตมภาพทำบวงสรวง เพื่อขออนุญาตจัดงานภาวนาพระคาถาเงินล้าน ๑๐๘ จบ และปลุกเสกวัตถุมงคลให้กับทางวัดอุทยาน ถนนเลียบคลองบางกอกน้อย หมู่ที่ ๕ ตำบลบางขุนกอง อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี

การภาวนาพระคาถาเงินล้าน ๑๐๘ จบในครั้งนี้นั้น ผศ.,ดร. สุวัฒสัน รักขันโท ประธานหลักสูตรประกาศนียบัตร ศาสตร์และศิลปะแห่งชีวิตตามแนวพุทธจิตวิทยา จาก
ภาควิชาจิตวิทยา คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ได้ทำหนังสือขออนุญาตให้นิสิตเข้ามาร่วมงานในครั้งนี้ด้วย ซึ่งความจริงทางเราก็ไม่ได้มีการหวงห้ามที่ใครจะไปจะมา แต่ว่าการจัดกิจกรรมในลักษณะแบบนี้ เมื่อถึงเวลามีการตรวจสอบคุณภาพการศึกษา ก็จะต้องมีร่องรอยของการจัดกิจกรรมเอาไว้ ให้เขาได้รู้เห็นว่าทำงานกันจริง ๆ จึงต้องมีหนังสือขอความร่วมมือในการนำนิสิตมาร่วมงานด้วย

เสร็จจากการภาวนาพระคาถาเงินล้าน ๑๐๘ จบแล้ว ญาติโยมได้ร่วมกันทำบุญกับกระผม/อาตมภาพมา ๗๐,๐๐๐ กว่าบาท ก็ได้ถวายให้กับพระครูวิโรจน์กาญจนเขต, ผศ., ดร. เอาไว้ในการบูรณปฏิสังขรณ์วัดอุทยาน ซึ่งท่านแจ้งว่าจะนำไปทาสีอาคารศาลาการเปรียญเสียใหม่ ต้องขออนุโมทนาและเจริญพรอนุโมทนากับญาติโยมทุกท่านที่ได้ร่วมบุญกันในครั้งนี้ด้วย

เมื่อฉันเพลแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ได้วิ่งไปยังวัดหนองโพ ถนนเพชรเกษม หมู่ที่ ๙ ตำบลหนองโพ อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี ตามที่พระมหาสมคิด อตฺถสิทฺโธ ป.ธ. ๗ เจ้าอาวาสวัดหนองโพ รองเจ้าคณะอำเภอโพธาราม เพื่อนร่วมรุ่นพระอุปัชฌาย์ ซึ่งท่านได้นิมนต์มาปลุกเสกเดี่ยววัตถุมงคล เพื่อที่จะเอาไว้หาทุนในการสร้างศาลาเอนกประสงค์หลังใหม่ ซึ่งตรงนี้กระผม/อาตมภาพเคยบอกกล่าวไป เกี่ยวกับบุคคลบางประเภทที่กล่าวว่า "ทำไมถึงจะต้องสร้างวัตถุมงคลหาเงินด้วย ? เนื่องเพราะว่าพระพุทธเจ้าให้พวกเราอยู่ป่า..!"

ตรงจุดนี้บางทีคนเราเมื่อถึงเวลาก็ "เถรตรง" บ้าง ปัญญาไม่ถึงบ้าง จึงทำให้เขาทั้งหลายเหล่านั้น มีแนวคิดที่ค่อนข้างจะผิดเพี้ยนไปจากความเป็นจริง พูดง่าย ๆ ว่าสมัยนี้วัยรุ่นเขาบอกว่า "อยู่ในทุ่งลาเวนเดอร์" ก็คือไม่ได้อยู่ในโลกของความเป็นจริง หากแต่ว่าอยู่ในโลกของความเพ้อฝัน


จึงทำให้พระพุทธศาสนาในปัจจุบันนี้ค่อนข้างที่จะสับสนวุ่นวาย เพราะว่าผู้ที่แสดงตนว่าเป็นผู้รู้นั้น ออกมาแสดงความคิดเห็นผ่านสื่อต่าง ๆ มากต่อมากด้วยกัน แล้วก็มีจำนวนมากที่แสดงความคิดเห็นผิด ๆ อย่างเช่นว่า "การุณยฆาตถือว่าไม่ผิดศีล..!" ซึ่งกระผม/อาตมภาพได้ยินแล้วก็ใจหายวาบ..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-09-2024 เมื่อ 02:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 28 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 29-09-2024, 00:43
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,488 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เนื่องเพราะว่าการุณยฆาตหรือว่า Mercy Killing ตามแบบของฝรั่งนั้น ไม่ใช่เรื่องที่ชาวพุทธของเราควรจะไปยุ่งเกี่ยวด้วย คนหรือสัตว์จะตายเร็วตายช้า ขึ้นอยู่กับกรรมที่เขาได้กระทำเอาไว้ เราเองจะไปตัดสินใจให้เขาจบชีวิตลง ด้วยเห็นว่าเป็นความเมตตากรุณานั้นไม่ได้

โดยเฉพาะถ้าพระภิกษุสงฆ์ของเราไปแนะนำ แล้วญาติโยมทำตาม ถ้าอย่างนั้นท่านเองอาจจะต้องอาบัติปาราชิกในฐานะฆ่าคนโดยสาณัตติกะ ก็คือสั่งให้เขาทำ เป็นเรื่องที่อันตรายสุด ๆ ส่วนญาติโยมนั้นถ้าหากว่าท่านไปทำลักษณะนี้กับผู้ที่เป็นบิดามารดา ก็ยิ่งเป็นเรื่องที่น่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง เพราะว่าอาจจะต้องอนันตริยกรรมในการฆ่าพ่อฆ่าแม่ของตน

ดังนั้น..ในเรื่องของการุณยฆาตนั้นไม่ได้มีในสังคมไทยของเรา แต่ว่าไปเอามาจากสังคมต่างประเทศ บริบทของต่างประเทศกับบ้านเราเมืองเรานั้นเป็นคนละอย่างกัน คนละแบบกัน โดยเฉพาะพวกเราถือศีล และปฏิบัติธรรมตามหลักพระพุทธศาสนา เราต้องเชื่อในเรื่องของกรรม ถ้าหากว่าคนเราหมดอายุขัย ๑ หมดอาหาร ๑ หมดบุญ ๑ หมดกรรม ๑ เขาทั้งหลายเหล่านั้นก็ย่อมหมดชีวิตลงเองโดยอัตโนมัติ

เพียงแต่ว่าเราไม่สามารถที่จะเข้าไปแทรกแซงตรงนั้นได้ เพราะว่าถ้าแทรกแซงเมื่อไร เราก็มีสิทธิ์ที่จะฆ่าสัตว์ตัดชีวิต เนื่องเพราะว่าองค์ประกอบในการที่จะละเมิดศีลข้อแรกก็คือปาณาติบาตนั้น บาลีกล่าวไว้ว่า

๑) ปาโณ สัตว์นั้นมีชีวิตอยู่

๒) ปาณะสัญญิตา เรารู้ว่าสัตว์นั้นมีชีวิตอยู่

๓) วะธะกะจิตตัง เรามีจิตคิดจะฆ่า

๔) ปะโยโค ลงมือในการฆ่า

๕) เตนะ มรณัง สัตว์นั้นตายด้วยความพยายามของเรา

ท่านทั้งหลายจะเห็นว่าถ้าองค์ประกอบครบ ๕ ส่วนนี้ก็คือผิด ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์เต็ม ในเรื่องของการุณยฆาตขาดแค่องค์ประกอบข้อที่ตั้งใจจะฆ่าแค่นั้น ก็แปลว่าท่านยังผิดอยู่ถึง ๘๐ เปอร์เซ็นต์เป็นอย่างน้อย ก็แปลว่าถ้าใครเชื่อพระอาจารย์ท่านนั้นแล้วทำลงไป ถ้าหากว่าแนะนำให้ญาติโยมทำ ผู้ที่เป็นพระภิกษุสงฆ์มีสิทธิ์ต้องอาบัติปาราชิก เพราะว่าทำให้ผู้อื่นตาย ในขณะเดียวกันถ้าหากว่าเป็นลูก ทำแบบนั้นกับพ่อแม่ของตน ก็มีสิทธิ์ต้องอนันตริยกรรมอีกด้วย..!

เรื่องพวกนี้บุคคลที่ใช้อัตโนมติ โดยที่ไม่ได้สนใจว่าเรื่องของพระธรรมวินัยเป็นอย่างไรนั้น ทำให้สังคมบ้านเราวิปริตผิดเพี้ยนไปมาก ทั้ง ๆ ที่
บ้านเราทุกวันนี้ก็ยุ่งเหยิงวุ่นวายมากอยู่แล้ว เพราะว่ามีผู้ชักใยอยู่เบื้องหลัง ในการที่จะทำบ้านเราเมืองเราให้อ่อนแอมากที่สุดเท่าที่จะมากได้ แล้วก็จะครอบงำหรือว่ายึดครองไปเลย จึงทำให้เราท่านทั้งหลายอาจจะต้องตั้งสติให้มากเข้าไว้ ทำอย่างไรที่เราจะไม่ทะเลาะกันเอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-09-2024 เมื่อ 03:01
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 29-09-2024, 00:49
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,488 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

กระผม/อาตมภาพนั้นก็สงสารประเทศชาติของเราในปัจจุบันนี้ เนื่องเพราะว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งควรที่จะมีความรู้รอบรู้จริงในเรื่องต่าง ๆ แต่ปรากฏว่าแต่ละท่านแสดงความเห็นออกมาแล้ว โดน "ทัวร์ลง" กระหน่ำอย่างชนิดที่เรียกว่าไม่เป็นผู้เป็นคน แต่ก็ไม่เห็นเขาเหล่านั้นจะเข็ดจะกลัว ถ้าไม่ใช่เพราะรับงานมา ก็อาจจะปัญญาน้อย จนไม่เห็นว่าสิ่งที่ตัวเองพูดหรือทำนั้น เป็นทุกข์เป็นโทษแก่ผู้อื่น และทำให้ประเทศชาติของเราเสียหายอย่างไร

จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่า ต่อให้ท่านทั้งหลายย้ายพรรค เปลี่ยนพรรค เปลี่ยนชื่อไปสักเท่าไรก็ตาม ถ้าไม่เปลี่ยนแปลงแนวคิดและพฤติกรรมที่เป็นอันตรายต่อประเทศชาติอย่างนี้อีก คาดว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าท่านอาจจะถึงกับสูญพันธ์ุก็เป็นไปได้..!

เราท่านทั้งหลายถ้าหากตั้งใจจะช่วยเหลือประเทศชาติของเรา อันดับแรกเลย ให้ปฏิบัติตนอยู่ในศีลในธรรมและกฎหมายบ้านเมืองก็เพียงพอแล้ว ถ้าหากว่าทุกคนอยู่ในศีลในธรรม ไม่ละเมิดในสิทธิของผู้อื่น รักษากฎหมายบ้านเมือง ไม่ล่วงละเมิดกฎหมายแล้ว ประเทศชาติของเราก็จะสงบสุขโดยอัตโนมัติ

องค์ในหลวงก็ไม่ต้องเหนื่อยยากในการที่จะมาประสานสามัคคีให้พวกเรารักกัน เพราะว่าทุกคนรู้สิทธิและหน้าที่ของตน และปฏิบัติตามได้อย่างแท้จริง ไม่ใช่เห็นว่าเป็นสิทธิของตน แต่จะไปละเมิดสิทธิของผู้อื่นเท่าไรเราไม่สนใจ ถ้าอย่างนั้นก็แปลว่าท่านทั้งหลายขาดทั้งธรรม ทั้งวินัย และละเมิดกฎหมายบ้านเมือง พูดง่าย ๆ ว่าเป็นบุคคลที่ไม่รู้กาลเทศะ

จะทำสิ่งหนึ่งประการใดในสมัยนี้ สื่อโซเชียลสามารถที่จะส่งเรื่องออกไปทั่วโลกได้เร็วมาก สิ่งที่ท่านทำก็จะโดนตราเอาไว้เป็นประวัติของตนเอง แต่ว่าถ้าหากว่าเราไม่หน้าด้านใจดำ ก็เป็นนักการเมืองที่ดีไม่ได้ ฟังแล้วกระผม/อาตมภาพเองก็ออกอาการ "น้ำตาจิไหล" ว่า นักการเมืองในบ้านเราเมืองเราจะหาดีไม่ได้อย่างที่เขาว่าจริง ๆ หรือ ?

ถ้าอย่างนั้นบุคคลที่น่าสงสารที่สุดก็จะกลายเป็นองค์ในหลวง ที่แบ่งสรรพระราชอำนาจออกไปแล้ว ผู้อื่นนำไปใช้โดยที่ขาดความระมัดระวัง ขาดความยำเกรงในพระราชอำนาจ ทำให้ประเทศชาติสับสนวุ่นวาย แล้วในขณะเดียวกัน พระองค์ท่านก็ยังต้องเสียเวลาลงมาแก้ไข ในเรื่องที่คนอื่นเขาทำเละเทะเอาไว้อีกต่างหาก พูดง่าย ๆ แบบหยาบ ๆ ก็คืออนุญาตให้คนอื่นขี้ แล้วพระองค์ท่านก็ต้องไปตามเช็ดตามล้าง กลายเป็นภาระหนักสำหรับผู้ที่ต้องรับผิดชอบประเทศชาติทั้งประเทศ

แม้ว่าแบ่งสันปันส่วนพระราชอำนาจออกไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นรัฐสภาก็ดี วุฒิสภาก็ดี ทางด้านศาลตุลาการก็ตาม
แต่ว่าการใช้อำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหาร และอำนาจตุลาการนั้น ในปัจจุบันนี้เขาไม่ค่อยจะรักษาชื่อเสียงวงศ์ตระกูล พูดง่าย ๆ ว่าไม่รักวงศ์ตระกูลยังไม่พอ ยังไม่รักหน้าตัวเองอีกต่างหาก สิ่งต่าง ๆ ที่ทำจึงมีแต่จะสร้างความเสียหายให้กับตนเองและครอบครัว ตลอดจนกระทั่งท้ายที่สุด ที่เสียหายหนักที่สุดก็คือประเทศชาติของเรา

ก็ได้แต่เอาใจช่วยว่าขอให้ทุกคน มีสติจากบุญเก่าที่หนุนเสริมเข้ามาได้ทันเวลา แล้วช่วยกันประคับประคองรักษาประเทศชาติบ้านเมืองของเรา ให้มั่นคงถาวรสืบไป เพื่อที่พระพุทธศาสนาจะได้มีที่ประดิษฐานอย่างมั่นคง ประชาชนจะได้มีหลักใจ ในการที่จะนำพาตนเองให้พ้นจากกองทุกข์ได้ สมกับที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ตั้งพระราชประสงค์เอาไว้

สำหรับวันนี้ ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันเสาร์ที่ ๒๗ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-09-2024 เมื่อ 03:05
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 14:48



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว