กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๗ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนกันยายน ๒๕๖๗

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 15-09-2024, 17:18
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,946
ได้ให้อนุโมทนา: 225,209
ได้รับอนุโมทนา 800,461 ครั้ง ใน 39,365 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๑๕ กันยายน ๒๕๖๗

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๑๕ กันยายน ๒๕๖๗


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 16-09-2024, 00:30
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ ๑๕ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๗ ตั้งแต่เมื่อวานนี้ ทางวัดท่าขนุน อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี สภาพอากาศก็เหมือนกับเข้าสู่ช่วงต้นหนาวแล้ว ก็คือฝนฟ้าหายหมด แถมยังมีลมหนาวพัดมาอีกต่างหาก อากาศที่เปลี่ยนรุนแรงขนาดนี้ จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่า กระผม/อาตมภาพจะมีสุขภาพร่างกายอย่างไร ?!

ได้แต่นั่งทำใจว่า "ธรรมดาของร่างกายเราเป็นเช่นนี้ มีเกิดขึ้น มีตั้งอยู่ มีเสื่อมไปเป็นธรรมดา กายนี้เป็นรังของโรค รักษาได้ก็รักษา รักษาไม่ได้ถ้าอยู่ไม่ไหวก็พร้อมที่จะไปทันที" เอาสภาพจิตเกาะภาพพระเอาไว้เพื่อความไม่ประมาท องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ได้อยู่ที่ใดเลยนอกจากพระนิพพาน เราเห็นพระองค์ท่านคือเราอยู่ใกล้กับพระองค์ท่าน เราอยู่ใกล้กับพระองค์ท่านคือเราอยู่บนพระนิพพาน

ตอนนี้ทางวัดท่าขนุนกลายเป็นจุดมุ่งหมายของบุคคลหลาย ๆ หน่วยงานที่มาขอข้าวสารอาหารแห้ง เพื่อไปช่วยเหลือน้ำท่วมภาคเหนือ ซึ่งทางวัดท่าขนุนเราก็ยินดีและเต็มใจ จัดไปให้อย่างจุใจทุกแห่ง แม้แต่ในเรื่องของเงินทองก็บริจาคร่วมกับส่วนงานอื่น ๆ ไปแล้ว เช่น ในส่วนของคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ หนกลาง เป็นต้น

สำหรับปีนี้นั้น ทั้งประเทศจีน ประเทศพม่า ประเทศไทย ประเทศลาว และประเทศเวียดนาม ประสบอุทกภัยกันหนักหนาสาหัสทีเดียว ๕ - ๖ ประเทศพร้อมกัน แต่ว่าทุกประเทศก็ไม่เหมือนกับประเทศไทย เนื่องเพราะว่าประเทศไทยเรานั้น
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้นำถุงยังชีพพระราชทานขึ้นเครื่องบินไปส่งถึงสถานที่น้ำท่วม และเสด็จออกเยี่ยมเยือนประชาชนที่โดนน้ำท่วมด้วยพระองค์เอง โดยที่ไม่ได้แจ้งนักข่าวหรือส่วนราชการอื่น ๆ เลย เพราะเกรงว่าเขาทั้งหลายเหล่านั้นกำลังช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนอยู่ เมื่อทราบว่าพระองค์ไปถึง อาจจะต้องทิ้งการช่วยเหลือประชาชนเพื่อมาถวายการต้อนรับ จึงทรงปฏิบัติงานอยู่ในลักษณะ "ปิดทองหลังพระ"

ส่วนทางด้านทหารและพระภิกษุสงฆ์นั้น ก็ทุ่มเทสรรพกำลังออกไปช่วยเหลือประชาชน ส่วนที่มีคนแชร์กลับมาอย่างน่าทึ่งที่สุดก็คือ น้ำท่วมไม่มีไฟฟ้าใช้ ปรากฏว่าบุคคลผู้นั้นได้รับเทียนพรรษามาเพื่อใช้เป็นแสงสว่าง เทียนพรรษาต้นนั้นคือเทียนที่บุคคลผู้นั้นได้ถวายไปเมื่อช่วงเข้าพรรษามานี่เอง..! ได้ย้อนกลับมากลายเป็นบุญทันตาให้ท่านได้ใช้ชาตินี้เลยทีเดียว และมีผู้แชร์ออกไปเป็นจำนวนมากว่า ตนเองก็เคยได้รับเทียนพรรษาที่ถวายวัดไปมาช่วยเหลือในตอนน้ำท่วมเช่นกัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-09-2024 เมื่อ 01:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 16-09-2024, 00:34
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อีกส่วนหนึ่งก็คือทางด้านหน่วยกู้ภัยและจิตอาสาต่าง ๆ ที่ออกทุ่มเทช่วยเหลือประชาชนแบบไม่เห็นแก่ความเหนื่อยยาก ตนเองแทบจะไม่ได้กินไม่ได้นอนก็ไม่คิดถึง หากแต่เกรงว่าบุคคลผู้ประสบภัยจะได้รับความช่วยเหลือช้าจนเกินไป ถึงขนาดปีนขึ้นหลังคาเพื่อไปส่งอาหาร ส่งน้ำดื่ม ด้วยความที่ไม่ทราบว่าช่วยเขาหมดแรงแล้ว หรือไม่คุ้นชินกับพื้นที่แบบนั้น จึงได้ตกลงมา ยังโชคดีที่ว่ามีน้ำขังอยู่ พอที่จะบรรเทาได้บ้าง ไม่เช่นนั้นก็อาจจะถึงขนาดบาดเจ็บสาหัสกันเลยทีเดียว..!

โดยเฉพาะทีมแชมป์โลกเจ็ตสกีชาวไทย ที่ต่างประเทศทึ่งกันมากว่า คนไทยของเราไม่มีคำว่าศักดิ์ศรีแชมป์โลก ถ้าคิดจะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกันแล้ว คำว่าแชมป์โลกก็กองไว้บนหิ้งก่อน หากแต่พาพรรคพวกเพื่อนฝูงออกไปช่วยเหลือประชาชน ด้วยการนำเจ็ตสกีที่กินน้ำไม่ลึก วิ่งออกไปช่วยเหลือได้แบบคล่องตัวมาก สามารถพาผู้ที่ติดน้ำท่วมมาส่งยังที่สูง หรือว่านำข้าวปลาอาหารไปให้บุคคลที่ติดมาแล้วหลายวัน เป็นต้น

ในส่วนของทหารเรือก็นำเอารถสะเทินน้ำสะเทินบก หรือว่ารถยกพลขึ้นบก บุกเข้าไปช่วยเหลือประชาชน จนเพื่อนบ้านอย่างพม่าหรือว่าลาวยังกล่าวว่า บ้านเขามีรถหรือว่าเครื่องมือทางทหารเอาไว้สำหรับทำร้ายประชาชน หรือว่าเอาไว้เพื่อช่วยเหลือเฉพาะกลุ่มคนของตนเอง ไม่เหมือนกับประเทศไทยที่ช่วยเหลือเขาทั่วไปหมด

โดยเฉพาะเฮลิคอปเตอร์ที่นำเอาอาหารไปหย่อนให้พี่น้องทางด้านฝั่งท่าขี้เหล็ก ที่ติดอยู่บนหลังคามาหลายวันแล้ว ถึงขนาดมีผู้คนนำเอาไปลงเป็นข่าวต่างประเทศ ชมเชยกันยกใหญ่ว่า
ประเทศไหนก็ไม่เหมือนกับประเทศไทย ถึงเวลามีเหตุอะไรเกิดขึ้นกับพี่น้องชาวไทย ก็ทุ่มเทสรรพกำลังไปช่วยเหลือกันทุกครั้ง

ส่วนหนึ่งที่เป็นปัญหามากที่กระผม/อาตมภาพเห็นก็คือที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เมื่อน้ำลดแล้ว ปรากฏว่ามีดินโคลนกองอยู่ในบ้านหนาเป็นฟุตเลยทีเดียว..!

ตรงส่วนนี้ในครั้งแรกที่เกิดน้ำป่าหลากที่เกาะพระฤๅษี ซึ่งกระผม/อาตมภาพไปสร้างเป็นที่พักสงฆ์ไว้ตั้งแต่ปี ๒๕๓๖ ปรากฏว่าเมื่อน้ำป่าหลากครั้งแรกนั้น ด้วยความที่ไม่มีประสบการณ์จึงปล่อยให้น้ำแห้งก่อน แล้วค่อยไปทำความสะอาดสถานที่ ผลก็คือเหนื่อยเกือบตาย..! เพราะว่าต้องไปหิ้วน้ำในลำห้วยขึ้นมาล้างพื้นทีละถัง..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-09-2024 เมื่อ 01:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 16-09-2024, 00:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อน้ำท่วมน้ำหลากครั้งต่อไป จึงใช้วิธีเมื่อเห็นว่าน้ำลดจนเหลือประมาณ ๖ - ๗ นิ้วแล้ว ก็รีบเอาไม้กวาดไปกวาดทำความสะอาดเป็นการใหญ่ เพื่อกวนให้ตะกอนดินโคลนทั้งหลายเหล่านั้นลอยหน้าขึ้นมา แล้วไหลไปกับน้ำเลย ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาในการไปหอบหิ้วน้ำมาล้างทีหลัง ซึ่งถ้าเป็นบุคคลที่มีประสบการณ์ก็จะไม่เดือดร้อน เห็นว่าน้ำลดลงเหลือน้อยแล้วก็จะรีบทำความสะอาด ล้างโคลนต่าง ๆ ด้วยน้ำที่ท่วมอยู่นั่นเอง เมื่อเรากวนจนตะกอนฟุ้งขึ้นมา ตะกอนส่วนใหญ่ก็จะไหลไปกับน้ำจนหมด

น่าสงสารที่ว่าพี่น้องชาวอำเภอแม่สายของเรานั้นไม่มีประสบการณ์น้ำท่วม ก็เลยทำให้ต้องยากลำบากในการขนเอาขี้โคลนออกจากบ้านเรือนของตนเอง และเจ้ากรรมเถอะ..ท่อประปาก็มาแตกอีกต่างหาก..! จนไม่มีน้ำที่จะล้าง คาดว่าทางอำเภอแม่สายคงจะต้องปวดหัวกับการทำความสะอาดบ้านเมืองของตนเองไปอีกหลายวัน

ในส่วนของภัยธรรมชาติต่าง ๆ นั้น ส่วนใหญ่เกิดจากกรรมอทินนาทานเก่าของเรา ก็คือไปเคยลักขโมยหยิบฉวยช่วงชิงสิ่งของจากคนอื่นเขา เมื่อถึงเวลาเราก็ต้องสูญเสียทรัพย์สินสิ่งของต่าง ๆ ไป ไม่ว่าจะด้วยเหตุน้ำท่วม ไฟไหม้ แผ่นดินไหว ตลอดจนกระทั่งภูเขาไฟระเบิด เป็นต้น ถ้าหากว่าโดนกันเป็นจำนวนหมู่มาก แปลว่าในสมัยก่อนเคยร่วมกันไปเป็นกองทัพ ปล้นบ้านตีเมืองของคนอื่นเขา

ถ้าญาติโยมสังเกตจะเห็นว่า บรรดาบุคคลที่โดนนั้นก็คือ บุคคลที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกันหมด ไม่ว่าจะเป็นประเทศจีน ประเทศพม่า ประเทศไทย ประเทศลาว ประเทศเวียดนาม แสดงว่าในอดีตเคยมีกรรมร่วมกันมา ถึงเวลาต้องชดใช้กรรมก็ชดใช้ไปพร้อม ๆ กัน..!

แต่ในขณะเดียวกัน ท่านทั้งหลายก็ไม่ได้สร้างกรรมอย่างเดียว หากแต่ว่าได้สร้างบุญสร้างกุศลเอาไว้ด้วย เมื่อถึงเวลาลำบากเดือดร้อน แม้แต่คณะสงฆ์ก็ต้องรีบลงไปช่วยเหลือเป็นการใหญ่ พูดง่าย ๆ ว่า "บุญก็ทำ กรรมก็สร้าง" ในส่วนที่ไม่ดีเราก็ยอมรับว่าเราเคยทำเอาไว้ ในส่วนที่ดี เราก็ได้รับความช่วยเหลือบรรเทาความทุกข์ทั้งหลายเหล่านั้นไปได้

เรื่องพวกนี้จะว่าไปแล้วก็เป็นเรื่องที่ตรงไปตรงมา ก็คือใครทำใครได้ ท่านทั้งหลายจะสังเกตเห็นว่า กระผม/อาตมภาพเคยกราบขอบารมีพระในตอนปลุกเสกวัตถุมงคลแล้วเล่าให้ฟังหลายวาระว่า ถ้าหากว่ามีความจำเป็นที่จะต้องสูญเสียทรัพย์สินสิ่งของก็ไม่เป็นไร แต่ขอให้รอดชีวิตเอาไว้ก่อน ถ้าหากว่าเรารอดชีวิตมาได้ โอกาสที่จะแก้ไขให้ทุกสิ่งทุกอย่างกลับคืนดีมาก็ย่อมเป็นไปได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-09-2024 เมื่อ 01:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 16-09-2024, 00:44
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ประเทศชาติของเรานั้นมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ไม่ทอดทิ้งประชาชน มีทางสถาบันศาสนาที่บุกเข้าไปแบ่งเบาภาระความเดือดร้อนของญาติโยม ที่เคยทำบุญหรือไม่เคยทำบุญกับท่านก็ตาม ทุกคนต่างเห็นว่าเป็นเพื่อนร่วมทุกข์เกิดแก่เจ็บตายด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น ท่านจะเคยทำบุญกับทางวัดหรือไม่เคยทำบุญกับทางวัด ถึงเวลาเราก็ให้ความช่วยเหลือเสมอหน้ากัน

เหมือนกับที่กระผม/อาตมภาพได้ให้พระภิกษุสามเณรหรือแม่ชีวัดท่าขนุน นำอาหารไปมอบให้กับผู้จรจัดหรือว่าบุคคลไร้บ้าน ซึ่งเข้ามาอาศัยกินอาหารชั่วครั้งชั่วคราว โดยที่บอกกล่าวว่า "แม้แต่หมาเราก็เลี้ยงเอาไว้เต็มวัด นี่เขาเป็นคน ถ้าไม่เดือดร้อนจริง ๆ จะมีใครบากหน้ามาอาศัยวัดเล่า ? เลี้ยงเขาได้ก็เลี้ยงเขาไปเถิด"

บุคคลเหล่านี้มีกระทั่งนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาด้วย บางคนมาในลักษณะที่ว่าแม้แต่เงินในกระเป๋าสักบาทก็ไม่มี..! ไม่ทราบเหมือนกันว่าโดนลักขโมยหรือว่าหมดไปด้วยวิธีการใด แต่ว่าพวกเราก็ให้ที่พัก ให้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ให้รับประทานอาหาร สองวันสามวันผ่านไป พอมีเรี่ยวมีแรง แข็งแรงขึ้นมาเขาก็ลาไปตามทางของตนเอง

เรื่องพวกนี้ถ้าหากว่าไม่ได้มากล่าวถึงตรงนี้ ท่านทั้งหลายก็คงจะคิด
ไม่ถึง คิดแต่ว่าถ้าเป็นฝรั่งแล้วจะต้องร่ำรวยจะต้องยิ่งใหญ่กว่าเราทั้งสิ้น แต่กลายเป็นว่า ความจริงแล้วฝรั่งนั้นหลายต่อหลายประเทศ ก็ล้วนแต่ยากลำบากกว่าบ้านเราเมืองเราทั้งสิ้น เพราะว่าเขาไม่มีพระพุทธศาสนาเป็นที่เคารพนับถือ ไม่มีหลักธรรมอยู่ในจิตใจ ถึงเวลาก็ตัวใครตัวมัน น้อยคนที่จะยื่นมือช่วยเหลือบุคคลอื่นด้วยคุณงามความดีเฉพาะตัวของตน จึงทำให้เวลาที่พวกเขาลำบากก็ลำบากกันจริง ๆ ไม่เหมือนกับบ้านเรา ถึงลำบากอย่างไร ไม่ช้าก็เร็วต้องมีคนยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือจนได้

ดังนั้น..
สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องอยู่คู่ประเทศชาติของเราสืบไปชั่วกาลนาน ถึงเวลาเราก็จะเห็นคุณค่าเองว่าสถาบันทั้งหลายเหล่านี้ สร้างคุณงามความดีแก่ประเทศชาติอย่างไรบ้าง อย่าได้สิ้นสติหรือว่าสิ้นคิด ไปประพฤติปฏิบัติตามบุคคลที่เห็นฝรั่งเป็นพ่อ..! ถึงเวลาก็มา "ด้อยค่า" ประเทศชาติของเราเอง

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอาทิตย์ที่ ๑๕ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-09-2024 เมื่อ 02:01
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 42 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 22:55



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว