เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๓ กันยายน ๒๕๖๗

[พิชวัฒน์]

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๓ กันยายน ๒๕๖๗

[เถรี]

วันนี้ตรงกับวันอังคารที่ ๓ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๗ กระผม/อาตมภาพลองวิชา เมื่อวานโดน "เจ้าคุณน้อง" ท่านเจ้าคุณพระวชิรวาที, ดร. (กล้า วีรรตโน) เจ้าอาวาสวัดมหาธาตุ วรวิหาร รองเจ้าคณะอำเภอเมืองเพชรบุรี ทดสอบกระผม/อาตมภาพด้วยการส่งกระแสจิตเรียกที่หน้าประตู เมื่อออกมาพบแล้วท่านก็สบายใจว่า "เจ้านาย" ตัวเองฝีมือยังไม่ตก วันนี้ก็เลยแกล้งท่านด้วยการเรียกให้ท่านวิ่งมาหาตั้งแต่ ๖ โมงเช้า ปกติแล้วท่านไม่ใช่คนตื่นเช้าขนาดนี้ วันนี้ก็เลยต้องแหกขี้ตามา จะได้รู้ว่าเจ้านายตัวเองเก่งกว่าที่คิด..!

พวกเราได้รับการเลี้ยงภัตตาหารเช้าจาก ผอ.มด (นางสาวปิยวัน เครือนาค) ผู้อำนวยการโรงเรียนการกุศลสุวรรณรังสฤษฏ์วิทยาลัย ซึ่ง ผอ.มดได้งบประมาณในการสร้างอาคารใหม่มา ๑ หลัง แต่ก็คงได้แต่ตัวอาคารเปล่า ๆ ไม่มีอะไรเลย ตั้งใจว่าจะทำผ้าป่าเพื่อหาทุนในการต่อเติมสิ่งต่าง ๆ ที่สมควรจะมี ไม่ว่าจะเป็นระบบน้ำ ระบบไฟ ตลอดจนกระทั่งเครื่องใช้ไม้สอยต่าง ๆ ในการเรียนการสอน

กระผม/อาตมภาพจึงถามวันเวลา ปรากฏว่าเป็นวันที่ ๑ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๘ พอดียังไม่มีใครจองคิวเอาไว้ กระผม/อาตมภาพจึงแจ้ง ผอ.มดว่า ปีหน้าจะมาร่วมทอดผ้าป่าด้วย ถ้าได้แค่บาทแค่เฟื้องห้ามบ่นก็แล้วกัน อีกฝ่ายหนึ่งทำท่าดีใจจะเป็นลม เนื่องเพราะรู้ว่าถ้าหลวงพ่อเล็กเอาผ้าป่ามา เรื่องที่จะได้น้อย ๆ ดูท่าว่ายังไม่เคยปรากฏ เรื่องนี้ถือว่าแล้วแต่เวรแต่กรรมก็แล้วกัน..!

ครั้นฉันเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว กระผม/อาตมภาพก็เก็บข้าวของทุกอย่างขึ้นรถ ทั้งที่ตกลงกันกับเจ้าคุณกล้าท่านเอาไว้ว่าจะกลับมาค้างอีกหนึ่งคืน เพื่อรอการตรวจประเมินยกหมู่บ้านศีล ๕ บ้านโพธิ์ลอย จังหวัดเพชรบุรี แต่ด้วยความที่เป็นผู้ไม่ประมาทอยู่เสมอ จึงเก็บของทุกอย่างจนเรียบร้อย ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงตารางหรือกำหนดการ ก็จะได้ไม่ต้องเสียเวลาย้อนกลับมาอีก

แล้ววิ่งฝ่ารถติดสาหัสไปยังวัดใหญ่สุวรรณาราม วรวิหาร ซึ่งเป็นวัดของหลวงพ่อเจ้าคุณลูกชุบ - พระวชิรเหมคุณ, ผศ., ดร. (ลูกชุบ ธมฺมโชโต) เพื่อนร่วมรุ่นปริญญาเอก ท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดใหญ่สุวรรณาราม วรวิหาร และเป็นเจ้าคณะอำเภอเมืองเพชรบุรี ปรากฏว่าท่านเจ้าคุณหายไปไหนก็ไม่รู้ ? ครั้นโทรศัพท์ตามไป ท่านบอกว่า "ต้องนำนิสิตไปดูงาน จึงต้องออกจากวัดแต่เช้า"

[เถรี]

กระผม/อาตมภาพลืมบอกกับทุกท่านไปว่า อดีตพระครูวัชรสุวรรณาทร ปัจจุบันคือท่านเจ้าคุณพระวชิรเหมคุณนั้น ท่านมีตำแหน่งทางวิชาการเป็นผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. เป็นอาจารย์ประจำหลักสูตรของวิทยาลัยสงฆ์เพชรบุรี จึงได้คุยกันทางโทรศัพท์แทน

เมื่อทราบว่าพรุ่งนี้ท่านจะไปงานตรวจประเมินศีล ๕ ตามหน้าที่ จึงได้เรียนบอกกับท่านว่า "กระผมขอไปถวายมุทิตาท่านในงานก็แล้วกัน" จากนั้นก็ฝ่ารถติดออกจากตัวเมืองเพชรบุรี มุ่งตรงไปยังประจวบคีรีขันธ์ ครั้นไปถึงบริเวณหัวหิน ค่อยเลี้ยวเข้าซอยที่ ๑๑๖ ผ่านหน้าวัดพุทธไชโย ตรงไปยังสถานปฏิบัติธรรมของวัดหัวหิน ซึ่งอดีตเจ้าคณะอำเภอหัวหินท่านได้สร้างเอาไว้ใหญ่โตมาก

ทางคณะกรรมการรับการตรวจประเมินด้านนี้ นิมนต์กรรมการทุกท่านมาฉันเพล เตรียมโต๊ะอาหารไว้พร้อมที่จะเลี้ยงคนเป็นร้อยเลย..! แต่ว่ากรรมการส่วนหนึ่งอย่างเช่นว่า พระเดชพระคุณพระธรรมวชิรสุนทร (ประเทือง อาภาธโร ป.ธ. ๔) เจ้าคณะจังหวัดลพบุรี รองประธานคณะกรรมการบริหารกลาง โครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ก็ดี หลวงพ่อเจ้าคุณโพไซดอน - พระเทพสมุทรวัชราจารย์ (จรัล สิริธมฺโม) เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่ใน (พระอารามหลวง) เจ้าคณะจังหวัดสมุทรปราการ รองประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการหมู่บ้านศีล ๕ ก็ดี ท่านตรงไปยังวัดห้วยมงคล สถานที่ตรวจประเมินก่อนแล้ว

ทางนั้นก็มีก๋วยเตี๋ยวอร่อยเอาไว้เลี้ยงเสียด้วย ท่านก็เลยขี้เกียจย้อนกลับมา ปล่อยให้กระผม/อาตมภาพกับท่านเจ้าคุณอาจารย์พระเทพปวรเมธี, รศ., ดร. (ประสิทธิ์ พฺรหฺมรํสี ป.ธ. ๙) รองเจ้าคณะภาค ๑๕ ประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ หนกลาง ท่านเจ้าคุณทินน์ (พระโสภณพัฒนคุณ) ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค ๓ เจ้าอาวาสวัดพุน้อย (เศรษฐีเรือทอง) และเหล่าอนุกรรมการนั่งฉันเพลอยู่ด้วยกัน

เมื่อถึงเวลาให้พร พระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณอาจารย์พระเทพปวรเมธี, รศ., ดร. ก็กล่าวว่า เนื่องจากว่าวันนี้มีพระเกจิอาจารย์มาหลายรูป หลังจากให้พรแล้วก็จะให้รับวัตถุมงคลกับพระเกจิอาจารย์ของเรา พวกเราที่นั่งกันอยู่ตรงนั้น หลวงพ่อเจ้าคุณทินน์ก็ดี หลวงพี่น้ำฝน (พระครูปลัดสิทธิวัฒน์) วัดไผ่ล้อม ลูกศิษย์หลวงพ่อพูลก็ตาม ท่านไม่ได้ใส่หน้ากาก มีแต่กระผม/อาตมภาพผู้ไม่มีภูมิคุ้มกัน ใส่หน้ากากอนามัยอยู่คนเดียว จึงถอดหน้ากากออกมา

เท่านั้นเองก็มีเสียงแม่ครัวร้องว่า "ว้ายยย..หลวงพ่อ..!" ทำเอาทุกคนหัวเราะกันครืนใหญ่ เป็นอันว่าไม่ใช่ราคาคุย แต่คนที่ต้องเสียวัตถุมงคลกลายเป็นหลวงพ่อเจ้าคุณทินน์ (เศรษฐีเรือทอง) เนื่องเพราะว่ากระผม/อาตมภาพนั้นไม่มีวัตถุมงคลสำหรับแจก มีเอาไว้ขายอย่างเดียวก็ไม่พอขายอยู่แล้ว..!

[เถรี]

เมื่อให้พรและมอบวัตถุมงคลแล้ว พวกเราก็วิ่งไปยังวัดห้วยมงคล หมู่ที่ ๖ บ้านห้วยมงคล ตำบลทับใต้ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กระผม/อาตมภาพเข้าไปเดินดูบรรดานิทรรศการต่าง ๆ ก่อน จนท่านเจ้าคุณอาจารย์พระเทพปวรเมธี, รศ., ดร.มาถึง ก็ชวนกันไปกราบสวดมนต์ถวายหลวงปู่ทวด ส.ก. องค์ใหญ่ ถ่ายรูปหมู่ร่วมกัน แล้วค่อยเดินย้อนกลับมาดูนิทรรศการอย่างเป็นทางการ ซึ่งใช้ระยะเวลานามาก เพราะว่ามีนิทรรศการที่น่าสนใจจำนวนมากด้วยกัน

เมื่อมานั่งโต๊ะ ปรากฏว่าท่านนายอำเภอหัวหิน ก็คือนายพลกฤต พวงวลัยสิน และคุณนายอุษา พวงวลัยสิน นายกกิ่งกาชาดหัวหิน มากราบรายงานตัวว่า "เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง และเป็น FC วัดท่าขนุนด้วย" กระผม/อาตมภาพเองก็ได้แต่ถอนใจ "ชีวิตนี้จะสามารถหลบพ้นบรรดา FC วัดท่าขนุนได้หรือไม่ ?"

ท่านนายอำเภอพลกฤตและคุณนายอุษา ได้ถวายน้ำปานะมาเป็นจำนวนมาก ต้องขอเจริญพรขอบคุณเอาไว้ ณ ที่นี้ พูดง่าย ๆ ว่าไปวัดท่าขนุนแล้วไม่ได้เจอ เมื่อรู้ว่ากระผม/อาตมภาพมาเป็นคณะกรรมการตรวจประเมินยกหมู่บ้านศีล ๕ ที่นี่ ซึ่งเป็นถิ่นของท่านเอง จึงได้เตรียมน้ำปานะมาเป็นจำนวนมาก นอกจากนั้นแล้วยังได้พบกับพระครูสังฆรักษ์บัญญัติ อตุโล ประธานสำนักสงฆ์ป่าละอู ซึ่งปัจจุบันน่าจะยกขึ้นเป็นวัดเรียบร้อยแล้ว ท่านน่าจะมาร่วมงานในฐานะผู้สนับสนุนงานของทางคณะสงฆ์

กระผม/อาตมภาพโดนบรรดาครูบาอาจารย์ของโรงเรียนบ้านห้วยมงคลบ้าง บ้านทับใต้บ้าง ต่อว่าเป็นการใหญ่ ว่าอุตส่าห์พาคุณย่าคุณยายอายุมาก เพื่อไปกราบทำบุญกับหลวงพ่อที่วัดท่าขนุนก็ไม่ได้เจอ ยังดีที่คุณยายไม่รู้ว่าวันนี้หลวงพ่อมาที่นี่ ไม่อย่างนั้นคงเรียกร้องให้พามาแล้วอย่างแน่นอน กระผม/อาตมภาพจึงได้บอกกับญาติโยมไปว่า "ถ้าโยมมีตำแหน่งงานหลัก ๓๗ ตำแหน่งอย่างกระผม/อาตมภาพแล้ว ยังมีเวลาอยู่วัดต้อนรับญาติโยมได้ กระผม/อาตมภาพก็ยินดีที่จะอยู่เหมือนกัน ?" จึงทำเอาเสียงต่อว่าเงียบลงไปโดยปริยาย

ทางด้านหมู่บ้านห้วยมงคลได้จัดการแสดงหลายชุดมาต้อนรับ ไม่ว่าจะเป็นชุดรำบุษบาเสี่ยงเทียน ชุดบาสโลบ ตลอดจนกระทั่งการสวดโอ้เอ้วิหารรายของเด็ก ๆ ซึ่งทำได้ดีมาก แถมยังมีโขนบ้านห้วยมงคลอีกด้วย เสียแต่ว่าเจ้ามัจฉานุไม่สามารถที่จะยืนอยู่บนขาของหนุมานได้ ท้ายที่สุด หนุมานก็เลยเอาขี่หลังเป็น "ขี่ม้าส่งเมือง" ไปเลย ทำเอาคณะกรรมการหัวเราะกันเป็นการใหญ่ ชื่นชมในไหวพริบปฏิภาณของเด็ก ๆ ที่แก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าได้ดี แล้วก็เริ่มทำการตรวจประเมินโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ บ้านห้วยมงคลแห่งนี้

[เถรี]

เนื่องจากว่างานนิทรรศการและการต้อนรับนั้นกินเวลาไปมาก หลังจากที่คณะกรรมการได้ทำการตรวจประเมินจึงไม่ได้มีคำถามอะไร เพราะว่าท่านเจ้าคุณไพโรจน์ - พระพิศาลสิทธิคุณ (ไพโรจน์ ปภสฺสโร) เจ้าอาวาสวัดห้วยมงคล ท่านทำทุกอย่างเอาไว้ครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว เสียดายอยู่อย่างเดียวว่า โดนตัดคะแนนในส่วนที่วัดห้วยมงคลแห่งนี้ไม่ใช่สำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดไปเล็กน้อย ทั้ง ๆ ที่ทำงานทุกอย่างยิ่งกว่าสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดเสียอีก

ถ้ามีโอกาสถาม รับประกันว่าผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จะต้องกลายเป็นจำเลยให้หลวงพ่อเล็กต้อนขึ้นเขียงแน่นอน..! เพราะว่าการทำงานเชิงรุกไม่มี แค่ทำเอกสารเองไม่กี่หน้า เอาไปถวายให้ท่านเซ็นก็หมดเรื่องแล้ว แต่ว่ากลับไม่ได้ทำ ปล่อยให้กลายเป็นสำนักปฏิบัติธรรมลอย ๆ ไม่มีอะไรรองรับเป็นหลักเป็นฐานเลยแม้แต่อย่างเดียว..!

เมื่อเสร็จจากการตรวจประเมินแล้ว ท่านรองผู้ว่าราชการจังหวัดคือนายองครักษ์ ทองนิรมล ได้นำหัวหน้าส่วนราชการและผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ปฏิญาณตนว่าจะนำหลักธรรมในพระพุทธศาสนาและศีล ๕ เป็นเครื่องดำเนินชีวิต

ครั้นปิดการประเมินแล้ว เขายังมีการปล่อยปลาและปลูกต้นไม้เป็นที่ระลึก พร้อมกับไปเยี่ยมผู้ป่วยติดเตียงด้วย แต่กระผม/อาตมภาพนั้นบอกไปแล้วว่า ตรวจอยู่ในหมวดการปฏิบัติธรรม ซึ่งไปก็ไม่สามารถที่จะเพิ่มคะแนนอะไรให้ได้ จึงขอตัววิ่งกลับมา โดยที่แวะร้านพันธ์สุข ฟู้ด แอนด์ ฟาร์ม เพื่อที่จะหาขนมบ้าบิ่นมะพร้าวอ่อนเอาไว้สำหรับเป็นของฝาก แต่ขอโทษ..มาถึงตอน ๕ โมงกว่า ไม่มีอะไรเหลือไว้ให้แล้ว..! ได้แต่ทำตาปริบ ๆ จากมา โดยที่ไม่ต้องเสียสตางค์อย่างที่ตั้งใจเอาไว้ เปลี่ยนมาบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนบนรถยนต์แทน

จุดมุ่งหมายคืนนี้ยังคงพักอยู่ที่วัดมหาธาตุ วรวิหาร อีกคืนหนึ่ง พรุ่งนี้เป็นการตรวจประเมินที่วัดโพธิ์ลอยในช่วงเช้าเสียด้วย อาจจะต้องทำเวลาสักหน่อย ดังนั้น..กลับไปถึงก็คงจะสรงน้ำแล้วสลบไสลไปก่อน พรุ่งนี้จะได้ตื่นไหว

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอังคารที่ ๓ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)