กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๗ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนสิงหาคม ๒๕๖๗

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 28-08-2024, 17:33
พิชวัฒน์'s Avatar
พิชวัฒน์ พิชวัฒน์ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Aug 2014
ข้อความ: 500
ได้ให้อนุโมทนา: 3,308
ได้รับอนุโมทนา 24,997 ครั้ง ใน 988 โพสต์
พิชวัฒน์ is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๒๘ สิงหาคม ๒๕๖๗

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๒๘ สิงหาคม ๒๕๖๗


ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 29-08-2024, 00:03
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพุธที่ ๒๘ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ ช่วงเช้ามีฝนตกลงมาไม่หนักนัก กระผม/อาตมภาพรอจนฝนหยุดจึงได้คืนห้องพัก แล้วเดินทางไปยังวัดหลุมเข้า ตำบลหลุมเข้า อำเภอหนองขาหย่าง จังหวัดอุทัยธานี

คำว่า "หลุมเข้า" นี้ก็คือ "หลุมข้าว" นั่นเอง เพียงแต่ว่าโบราณจะออกเสียงสั้น อย่างเช่นออกเสียงว่า "กินเข้ากินน้ำ" แต่คนสมัยใหม่ออกเสียงเป็น "กินข้าวกินน้าม" ซึ่งดูท่าว่าจะออกเสียงผิดจนกลายเป็นถูกไปแล้ว

แม้ในปัจจุบันนี้กระผม/อาตมภาพก็ยังเจอพี่น้องคนไทยบางหมู่บ้าน ที่ยังออกเสียง "กินเข้ากินน้ำ" สั้น ๆ แบบนี้อยู่ แม้กระทั่งคำว่าแฟน ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายไปฟังเพลงไอ้หนุ่มตังเก ที่ไพรวัลย์ ลูกเพชร ขับร้อง ก็จะได้ยินว่า "มีแฟ็นกับเขาหนึ่งคน" ซึ่งคำโบราณมักจะออกเสียงสั้น ๆ แบบนี้ แต่มาสมัยใหม่ออกเป็นเสียงยาวกันหมด..!

เนื่องเพราะว่าสมัยนั้น เมื่อกองทัพพม่าเข้ามากวาดต้อนเสบียงต่าง ๆ ชาวบ้านก็ขุดหลุม เอาข้าวเปลือกใส่กระสอบไปซ่อนเอาไว้ จนกระทั่งเมื่อกองทัพพม่าผ่านไปแล้ว มาเห็นว่าเป็นสถานที่เหมาะสมที่จะตั้งบ้านแปลงเมือง จึงสร้างเป็นบ้านเป็นเมืองขึ้นมา แต่ก็ยังใช้คำว่า "หลุมเข้า" แม้ว่ารุ่นใหม่ ๆ จะเปลี่ยนเป็น "ข้าว" กันหมดแล้ว แต่วัดและบ้านก็ยังใช้ชื่อเดิมอยู่แบบนี้

ครั้นไปถึงก็ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากบรรดาพระเจ้าหน้าที่และแม่ครัว ด้วยการประเคนข้าวต้มปลาแสนอร่อยมาให้ กระผม/อาตมภาพพอเจอ "รสแท้ที่แม่ทำ" เข้า ก็เลยว่าข้าวต้มปลาไป ๒ ชามตราไก่ ขออภัย..ไม่ใช่ชามโคม เป็นชามขนาดปกติธรรมดา..!

เมื่อจะเดินไปดูนิทรรศการ ปรากฏว่าจ๊ะเอ๋เข้ากับบุคคลคุ้นเคย ก็คือหลวงปู่เจริญ สุวฑฺฒโน ซึ่งสมัยก่อนพวกเราเรียกว่า "มหาเจริญ" ท่านเป็นคนเก่าคนแก่ที่คุ้นเคยกับหลวงฤๅษีฯ วัดท่าซุง เคยจำพรรษาอยู่ที่วัดปากคลองมะขามเฒ่ากับหลวงพ่อฤๅษีฯ มาแล้วสองหรือสามพรรษาก็ไม่แน่ใจ เมื่อโยกย้ายมาอยู่ทางด้านนี้ ท่านก็ค่อย ๆ เจริญเติบโตขึ้นมา เนื่องจากว่ามีประโยคบาลีเป็นเครื่องสนับสนุน ปัจจุบันนี้พระมหาเจริญ ก็คือพระครูอุปกิตปริยัตยาภรณ์ (เจริญ ป.ธ. ๔) เจ้าคณะอำเภอหนองขาหย่าง เจ้าอาวาสวัดหลุมเข้า
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-08-2024 เมื่อ 00:45
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 28 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 29-08-2024, 00:07
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

สมัยก่อนที่หลวงพ่อฤๅษีฯ ท่านยังมีชีวิตอยู่ กระผม/อาตมภาพได้ทำหน้าที่ต้อนรับพระเถระ จึงรู้จักหน้าคุ้นเคยกับพระเถระ ไม่ว่าจะในจังหวัด หรือว่าที่มาจากกรุงเทพฯ และจังหวัดอื่น ๆ ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เมื่อมาถามกันถึงเรื่องราวคราวหนหลัง หลวงปู่เจริญท่านยังตกใจว่า "กระผม/อาตมภาพออกจากวัดท่าซุงไป ๓๒ ปีแล้ว..!" ท่านบอกว่า "ยังนึกว่าต่างคนต่างมีงาน ก็เลยไม่ได้เจอะเจอหน้าตากันเสียอีก"

สักครู่หนึ่ง บรรดาพระเถระก็ทยอยกันมาถึง ประกอบไปด้วยพระเดชพระคุณพระธรรมวชิรสุนทร (ประเทือง อาภาธโร ป.ธ. ๔) เจ้าคณะจังหวัดลพบุรี รองประธานคณะกรรมการบริหารกลาง โครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ พระเดชพระคุณพระเทพปวรเมธี, รศ. ดร. (ประสิทธิ์ พฺรหฺมรํสี ป.ธ.๙) รองเจ้าคณะภาค ๑๕ ประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ หนกลาง เป็นต้น

กระผม/อาตมภาพได้พาบรรดาพระเถระเข้าสู่ที่ฉัน ชี้สถานที่สำหรับเข้าห้องน้ำห้องส้วมสำหรับท่านที่มาถึง ไม่ใช่ว่า
กระผม/อาตมภาพคุ้นเคยกับวัดนี้ หากแต่ว่าไปที่ไหน กระผม/อาตมภาพก็จะไปเดินซอกแซกดูก่อนว่าเขามีอะไรบ้าง โดยเฉพาะเวลาไปที่หมู่บ้านหรือตำบลอื่น ๆ กระผม/อาตมภาพจะเดินมุดซ้ายมุดขวา ดูทางเข้าทางออกไปเรื่อย

แม้แต่ตอนไปต่างประเทศก็เป็นแบบนี้ ด้วยความที่สนใจใคร่รู้ว่าสถานที่นั้น ๆ มีอะไรบ้าง จนเพื่อนฝูงถามว่า "ทำไมตี ๒ ตี ๓ ถึงไม่นอน ออกไปเดินเล่นแบบนั้น ?" ก็เนื่องเพราะว่าต่างประเทศอย่างเช่นยุโรปนั้น ตี ๒ ตี ๓ ฟ้าก็สว่างแล้ว และทางโรงแรมที่พักก็นัดฉันเช้าตอน ๗ โมงเช้า มีเวลาให้เดินดูบ้านดูเมืองจนเหลือเฟือ พูดง่าย ๆ ว่าไปที่ไหนก็กำไรที่นั่น โดยเฉพาะถ้าหากว่าเจอบรรดา "เจ้าที่" รู้จักถูกคอกัน บางทีก็ได้เอามาแนะนำให้ญาติโยมต่าง ๆ ได้รู้จักไปด้วย

ครั้นได้เวลา ๘ โมงเช้า ท่านเจ้าคุณอาจารย์พระเทพปวรเมธี, รศ. ดร. ก็นำพาพวกเราเข้าไปในพระอุโบสถ กราบพระประธานและเจริญพระพุทธมนต์ถวาย เมื่อถ่ายรูปหมู่เป็นที่ระลึกแล้ว ค่อยออกมาเดินดูซุ้มนิทรรศการต่าง ๆ ซึ่งก็เหมือนเดิม คือทุกคนช่วยกันซื้อช่วยกันหาสิ่งของต่าง ๆ โดยที่กระผม/อาตมภาพแอบซื้อไปตั้งแต่ตอนที่ท่านทั้งหลายฉันเช้ากันอยู่แล้ว..!

แต่ว่าหลวงพ่อพระธรรมวชิรสุนทรก็ยังอุตส่าห์ซื้อผ้าถุง ๒ ผืน ซึ่งเป็นผ้าทอของลาวครั่งให้กับน้องเล็ก (นางสาวจิราพร ซื่อตรงต่อการ) โดยที่กำชับกำชาว่า "เจ๊..เดี๋ยวพอไปตรวจที่กาญจนบุรีจังหวัดของเจ๊..เจ๊ต้องดูแลพระเถระทั้งหมดที่ไปด้วยนะ..!" เล่นเอาน้องเล็กแทบไม่อยากจะรับของขวัญมา เนื่องเพราะรู้ว่าเจอภาระหนักแน่นอน

เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าในเรื่องของการต้อนรับขับสู้นั้น ทางคณะสงฆ์จังหวัดกาญจนบุรีรู้สึกว่าจะไม่ค่อยเคยชิน จึงทำให้มีอะไรขาดตกบกพร่องโน่นนี่นั่นอยู่เป็นประจำ ในเมื่อพึ่งพระไม่ได้ บรรดาพระเถระจึงหันมาพึ่งฆราวาสแทน..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-08-2024 เมื่อ 00:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 28 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 29-08-2024, 00:14
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ตรงจุดนี้จะว่าไปแล้ว หลายต่อหลายงาน กระผม/อาตมภาพก็ต้องเข้าไปปิดจุดอ่อน อย่างเช่นว่ารับเป็นเจ้าภาพถวายภัตตาหารบ้าง รับนำไปยังสถานที่พักต่าง ๆ บ้าง จึงกลายเป็นที่คุ้นเคยกัน บรรดาคนขับรถก็มักจะกระซิบเจ้านายว่า "พี่เล็ก" เหตุที่ต้องเรียกพี่ก็เพราะว่าคนส่วนมากเรียกป้ากันแล้ว..! บอกว่า "พี่เล็กเป็นคนคล่องงานมาก ถ้ามีอะไรหลวงพ่อเรียกใช้งานได้เลย" ในเมื่อคนขับรถแนะนำ บรรดาพระเถระจึงใช้แบบไม่เกรงใจ

หลังจากที่ถ่ายรูปหมู่เมื่อชมนิทรรศการจุดสุดท้ายแล้ว ส่วนที่กระผม/อาตมภาพปลื้มใจที่สุดก็คือเด็ก ๆ ของที่นี่แค่ชั้นประถมปีที่ ๓ เท่านั้น สวดธัมมจักกัปปวัตตนสูตรคล่องแคล่วมาก มีการสวดสะสมเป็นสถิติถึง ๖,๐๐๐ กว่าจบแล้ว โอ้แม่เจ้า..! ขนาดพระภิกษุสามเณรหลายต่อหลายรูปยังสวดไม่ได้เลย บรรดาหนูน้อยสวดสะสมไป ๖,๐๐๐ กว่าจบ..! เมื่อฟังการสวดไปไม่ถึงครึ่ง ก็ต้องบอกว่าพอได้แล้ว เชื่อจริง ๆ ว่าสวดได้ แล้วท่านเจ้าคุณอาจารย์พระเทพปวรเมธี, รศ. ดร. ก็มอบเงินขวัญถุงให้เป็นรางวัล โดยที่กระผม/อาตมภาพแอบหย่อนเพิ่มให้ไปอีกคนละ ๒๐๐ บาท..!

บรรดานักเรียนมัธยมที่มาจากโรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัย จังหวัดอุทัยธานี ต่างก็แนะนำบรรดาศีลข้อต่าง ๆ ว่าข้อห้ามเหล่านี้มีอะไรบ้าง และทางด้านวัดนี้ได้จัดกิจกรรมอะไร เพื่อเป็นการส่งเสริมการละเว้นไม่ไปละเมิดศีลข้อเหล่านั้นบ้าง แต่ละคนล้วนแล้วแต่มีความคล่องแคล่วน่าชื่นใจ รับเอารางวัลกันไปกระเป๋าตุงไปตาม ๆ กัน

เมื่อพวกเราขึ้นสู่ที่ประเมินแล้ว ท่านศรณ์จักร์ชัย ชูวาพิทักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี ได้กล่าวต้อนรับ กระผม/อาตมภาพเจอคนคุ้นเคย ก็คือคุณพรทิพย์ กำเนิดแจ้ง ซึ่งเคยเป็นผู้อำนวยการส่วนอยู่ที่สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดกาญจนบุรี ตอนนี้ย้ายมาเป็นใหญ่เป็นโต คือมาเป็นวัฒนธรรมจังหวัดอุทัยธานีเสียเลย กระผม/อาตมภาพจึงได้มอบผ้าทอของบ้านหลุมเข้าให้ไปเป็นที่ระลึก ๑ ผืน และอวยชัยให้พรว่า "ขอให้ได้ย้ายกลับไปจังหวัดกาญจนบุรีเร็ว ๆ"

ทุกฝ่ายดำเนินการไปตามตารางที่กำหนดจนเสร็จเรียบร้อย บรรดาพระเถระต่าง ๆ ที่นั่งอยู่ข้างล่าง ก็ล้วนแล้วแต่คุ้นเคยกันทั้งสิ้น จะไม่ทักทายก็ไม่ได้ อย่างเช่นว่าพระเดชพระคุณพระราชปริยัติสุธี (ชลอ ปิยาจาโร ป.ธ. ๙) เจ้าอาวาสวัดธรรมามูล วรวิหาร รองเจ้าคณะภาค ๓ พระเดชพระคุณพระราชอุทัยโสภณ (มนัส สมชาโน ป.ธ. ๔) เจ้าคณะจังหวัดอุทัยธานี ผู้อำนวยการวิทยาลัยสงฆ์อุทัยธานี หรือว่า มจร.อุทัยธานีนั่นเอง มองไปทางไหนก็เจอแต่คนคุ้นเคยทั้งสิ้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-08-2024 เมื่อ 01:00
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 27 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 29-08-2024, 00:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แม้กระทั่งผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรหนองขาหย่าง โผล่หน้ามาถึงก็ถามว่า "หลวงพ่อจำผมได้ไหมครับ ?" ยังถามว่า "เฮ้ย..ย้ายออกมาจาก สภ. เมืองอุทัยธานีตั้งแต่เมื่อไร ?!" เพราะว่าตอนนั้นท่านเป็นสารวัตรสอบสวน ยศแค่ร้อยตำรวจโทเท่านั้น ปรากฏว่าปัจจุบันนี้เป็นพันตำรวจเอก ดาวและมงกุฎเต็มบ่าไปเสียแล้ว แต่ละท่านแต่ละคนล้วนแล้วแต่เจริญก้าวหน้าไปตาม ๆ กัน

กระผม/อาตมภาพยังหันไปปรารภกับ ดร. พระครูทวี ก็คือท่านพระครูศรีรัตนาภิวัฒน์, ดร. (ทวี รตนเมธี) รองเจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรี เจ้าอาวาสวัดพระลอย ผู้ช่วยเลขานุการคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ หนกลางว่า "นี่ถ้าไม่ได้เจอท่านทั้งหลายเหล่านี้ กระผมก็ไม่รู้สึกว่าตัวเองแก่ แต่พอมาเจอเข้าถึงได้รู้ว่าตัวเองแก่
ไปถนัดใจเลย..!"

บรรดาญาติโยมต่าง ๆ ที่เตรียมการแสดงกลองยาวและฟ้อนรำมา ก็แสดงลวดลายกันอย่างเต็มที่ โดยการร้องเพลงเหย่ย ซึ่งการร้องนั้นคนร้องเสียงดีมาก ๆ ทั้งก้องกังวาน และเนื้อหาก็เกี่ยวกับการรักษาศีล ๕ เสียด้วย ทำเอาท่านประธานกรรมการ คือท่านเจ้าคุณอาจารย์พระเทพปวรเมธี, รศ. ดร. ควักจ่าย "มือเป็นระวิง"

เมื่อถึงเวลาตรวจประเมิน กระผม/อาตมภาพจึงได้กล่าวว่า หลวงพ่อเจริญนั้นท่านทำงานเกินตัว เนื่องเพราะว่าเราต้องการมาตรวจประเมินแค่หมู่บ้านรักษาศีล ๕ แต่งานของหลวงพ่อนั้นเกินระดับอำเภอไปถึงระดับจังหวัดเสียแล้ว ถ้าหากว่าจะยกขึ้นเป็นอำเภอคุณธรรม ก็คาดว่าจะได้รับรางวัลในเวลาอันรวดเร็ว ปรากฏว่าท่านนายอำเภอหนองขาหย่างบอกว่า "เพิ่งได้รับรางวัลไปปีนี้เองครับ" ทำให้กระผม/อาตมภาพ "หน้าบานเป็นจานเชิง"

เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่ามองงานของพระเถระท่านออก ว่าสิ่งที่ท่านทำนั้นไม่ใช่แค่หมู่บ้าน หากแต่ว่าเป็นการประสานบ้าน วัด โรงเรียน ส่วนราชการและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในลักษณะของภาคีเครือข่าย ซึ่งท่านศรณ์จักร์ชัย ชูวาพิทักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี ได้กล่าวเอาไว้ตั้งแต่ตอนกล่าวต้อนรับแล้วว่า ที่บรรดาข้าราชการ ประชาชน ตลอดจนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมากันพร้อมหน้า ก็เพราะว่าเป็นภาคีเครือข่ายที่คอยช่วยเหลือกันอยู่ จึงทำให้กรรมการตรวจประเมินทุกท่าน ไม่ได้มีข้อตำหนิติติงอะไรเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-08-2024 เมื่อ 01:09
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 25 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า 29-08-2024, 00:25
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

กระผม/อาตมภาพบอกว่าที่ก้มหน้าก้มตาดูข้อมูลในมือถืออยู่นั้น มีข้อตำหนิข้อเดียว ก็คือ "หลวงพ่อให้เลขาฯ ลงรูปประกอบน้อยไปหน่อย มีแค่ช่องละ ๑ รูปแค่นั้น ดูแล้วไม่จุใจ กราบรบกวนหลวงพ่อให้เลขาฯ ช่วยลงรูปเพิ่มให้ด้วยครับ"

ปรากฏว่าพระมหาวิเชียร ชาตวชิโร ป.ธ. ๙ วัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร อนุกรรมการ มากระซิบข้างหลังว่า "หลวงพ่อครับ ในระบบลงได้แค่รูปเดียวครับ ที่หลวงพ่อเห็นหลาย ๆ รูปนั้น เพราะว่าเขาทำลงในเวิร์ด ทำเป็น PDF ไฟล์ แปลงมาเป็น JPEG แล้วค่อยนำลง ก็เลยดูว่าช่องหนึ่งมีตั้งหลายรูป" กระผม/อาตมภาพพอได้ฟังก็ตกใจ ต้องหันไปกราบขอขมาหลวงพ่อเจริญท่านก่อน..!

เสร็จสรรพจากการตรวจประเมินแล้ว ท่านรองผู้ว่าราชการจังหวัดก็ได้นำข้าราชการทุกภาคส่วน และผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ปฏิญาณตนที่จะนำเอาหลักธรรมในพระพุทธศาสนาและศีล ๕ เป็นเครื่องดำเนินชีวิต คณะสงฆ์อนุโมทนาแล้วค่อยแยกย้ายกันไปฉันเพล

หลังเพลก็ยังมีการออกไปดูงานโคกหนองนาในพื้นที่ไม่ไกลจากวัดนัก แต่กระผม/อาตมภาพขอตัวตั้งแต่ตอนนี้ โดยที่ทางด้านญาติโยมยัดเยียดข้าวปลาอาหารมาให้ ๒ - ๓ กล่อง เพื่อที่จะได้ฉันบนรถ บอกกับทุกท่านว่า "กระผม/อาตมภาพแก่แล้ว วันนี้หมอนัด..ต้องไปให้ทัน" จากนั้นก็รีบเดินทางกลับไปยังที่พัก ครั้นถึงที่พัก สรงน้ำเปลี่ยนผ้าแล้ว จึงมาบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เสร็จสรรพจากที่นี้จะไปได้หาหมอตามนัดกันต่อไป

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพุธที่ ๒๘ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-08-2024 เมื่อ 01:12
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 22:45



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว