กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๗ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนสิงหาคม ๒๕๖๗

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 25-08-2024, 18:19
พิชวัฒน์'s Avatar
พิชวัฒน์ พิชวัฒน์ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Aug 2014
ข้อความ: 500
ได้ให้อนุโมทนา: 3,308
ได้รับอนุโมทนา 24,997 ครั้ง ใน 988 โพสต์
พิชวัฒน์ is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๒๕ สิงหาคม ๒๕๖๗

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๒๕ สิงหาคม ๒๕๖๗


ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 41 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 26-08-2024, 00:52
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ ๒๕ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ การบิณฑบาตตามโครงการ "หิ้วตะกร้า นุ่งผ้าไทย นั่งแคร่ไม้ ใส่บาตรพระทุกวันอาทิตย์" ในวันนี้ถือว่ามีความคึกคักมาก เนื่องเพราะว่าทั้งเจ้าหน้าที่ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตเขื่อนวชิราลงกรณ ตลอดจนกระทั่งผู้ที่เข้าร่วมทำประชาพิจารณ์ ต่างก็ร่วมกันมาใส่บาตรก่อน

การทำประชาพิจารณ์นั้นในปัจจุบันนี้ โครงการใด ๆ ของทางราชการถ้ามีผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชน ก็จะโดนบังคับให้ทำประชาพิจารณ์ตามกฎหมาย น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่งว่ากระผม/อาตมภาพต้องไปงานอายุวัฒนมงคล ๗๓ ปี หลวงพ่อขวัญชัย (พระครูวิจิตรธรรมรัตน์) เจ้าอาวาสวัดนามะตูม จังหวัดชลบุรี จึงไม่ได้อยู่ร่วมการทำประชาพิจารณ์ด้วย ไม่เช่นนั้นแล้วก็คงจะมีคำถามชนิดที่ผู้ทำประชาพิจารณ์ก็คงจะตอบได้ยาก

เนื่องเพราะว่าโครงการนี้ก็คือโครงการผลิตไฟฟ้าด้วยแผงพลังงานแสงอาทิตย์ในพื้นที่น้ำเขื่อนวชิราลงกรณ ซึ่งจะต้องใช้พื้นที่หลายไร่ด้วยกัน โดยที่กล่าวว่าชาวบ้านจะได้ประโยชน์ ก็คือมีพลังงานสะอาดเอาไว้ใช้ กระผม/อาตมภาพเองพอเห็นเอกสารก็ยังคิดว่า "จะใช่ตามนี้หรือ ?" เพราะว่าเขื่อนวชิราลงกรณนั้นผลิตไฟฟ้าด้วยพลังน้ำ ซึ่งก็เป็นพลังงานสะอาด แล้วในขณะเดียวกัน พลังงานอื่น ๆ อย่างเช่นว่าพลังงานลม พลังงานนิวเคลียร์ก็เป็นพลังงานสะอาด การที่บอกว่าประชาชนจะได้ประโยชน์จากการใช้พลังงานสะอาดนั้นจึงไม่น่าจะใช่ ประโยชน์ของประชาชนที่แท้จริงก็คือ ควรที่จะได้รับการลดค่าไฟฟ้าลงต่างหาก ถึงจะเป็นประโยชน์ที่พวกเราสนใจใคร่รู้..!

แบบเดียวกับที่กระผม/อาตมภาพเคยพาเด็ก ๆ เข้าไป เพื่อดูงานผลิตไฟฟ้าในเขื่อนวชิราลงกรณ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ได้ให้ข้อมูลว่า การสร้างเขื่อนวชิราลงกรณขึ้นมานั้นเพื่อประโยชน์ในการทำการเกษตรในพื้นที่ลุ่มน้ำแม่กลองประมาณ ๒,๕๐๐,๐๐๐ ไร่ ทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิตจึงได้กู้เงินดอกเบี้ยต่ำจากประเทศญี่ปุ่น จำนวน ๔,๐๐๐ ล้านบาท เพื่อที่จะมาสร้างเขื่อนวชิราลงกรณ

กระผม/อาตมภาพได้ยกมือถามว่า "ตกลงว่าการสร้างเขื่อนวชิราลงกรณ โดยมีประโยชน์ต่อพื้นที่การเกษตร ๒,๕๐๐,๐๐๐ ไร่นั้น น่าจะเป็นแค่ผลพลอยได้ใช่หรือไม่ ? ผลประโยชน์หลักก็คือการที่ท่านได้จำหน่ายไฟฟ้าให้กับประชาชน..! เพราะว่าถ้าหากว่าการจำหน่ายไฟฟ้าให้กับประชาชนไม่ใช่ผลประโยชน์หลัก ก็คงไม่มีหน่วยงานไหน
ที่บ้ายอมเป็นหนี้ถึง ๔,๐๐๐ ล้านบาท เพื่อที่จะมาก่อสร้างเขื่อนให้เป็นประโยชน์แก่การเกษตรของชาวบ้านอย่างเดียว" ทำเอาหัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์ทำสีหน้าในลักษณะ "กลืนไม่เข้า คายไม่ออก"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-08-2024 เมื่อ 03:10
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 26-08-2024, 00:57
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

กระผม/อาตมภาพอยากจะบอกว่า คนไทยเรานั้นได้รับการอบรมมาให้เคารพผู้ใหญ่ หรือว่าเคารพบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ ดังนั้น..อะไรที่เขาว่ามาก็มักจะเชื่อเลย โดยปราศจากความยั้งคิด ถ้าเป็นในด้านพระพุทธศาสนาแล้วก็คือความเชื่อที่เป็นอธิโมกขสัทธา น้อมใจเชื่อโดยไม่มีปัญญากำกับ ถ้าอยู่ในลักษณะนี้เราก็จะโดนหลอกลวงได้ง่าย

แต่ด้วยความที่กระผม/อาตมภาพปฏิบัติธรรมมา จนกระทั่งพยายามที่จะหาข้อบกพร่องของตนเองเพื่อแก้ไขให้ดีขึ้น ในเมื่อเห็นข้อบกพร่องของตนเองก็เลยพลอยเห็นข้อบกพร่องของคนอื่นไปด้วย เมื่อเห็นข้อบกพร่องของคนอื่น ดังนั้น..ในเรื่องอื่น ๆ จึงกลายเป็นว่าเห็นข้อบกพร่องไปเช่นกัน ในเมื่อเป็นเช่นนั้นจึงทำให้สิ่งต่าง ๆ ที่ผู้คนพยายามจะเบี่ยงประเด็นไปนั้น ไม่สามารถที่จะหลอกลวงกระผม/อาตมภาพให้หลงประเด็นตามไปด้วยได้

เรื่องพวกนี้ถ้าหากว่านานไปแล้ว ท่านทั้งหลายได้ปฏิบัติธรรมไปถึงระดับหนึ่ง ท่านก็จะอยู่ในอาการเดียวกัน ก็คือสามารถที่จะรู้เท่าทันเรื่องทางโลก ๆ ได้ เพราะว่าเรื่องทางธรรมนั้นละเอียดกว่ามาก ในเมื่อเจอเรื่องที่ละเอียดกว่ามาแล้ว ในส่วนที่จะหยาบกว่าก็สามารถที่จะรู้ได้เองโดยอัตโนมัติ

หลังจากบิณฑบาตเสร็จและฉันเช้า
เรียบร้อยแล้ว กระผม/อาตมภาพได้ขอสัตตาหะฯ ท่ามกลางสงฆ์ เพื่อไปปฏิบัติภารกิจของตน ซึ่งวันนี้ต้องนั่งรถยนต์เป็นเวลา ๖ ชั่วโมงไปยังวัดนามะตูม หมู่ที่ ๖ ตำบลนามะตูม อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี เพื่อไปร่วมงานอายุวัฒนมงคล ๗๓ ปี หลวงพ่อขวัญชัย (พระครูวิจิตรธรรมรัตน์) เจ้าอาวาส

เมื่อเดินทางไปถึงประมาณบ่าย ๒ โมง ทางด้านเจ้าหน้าที่จัดให้ไปพักอยู่ภายในที่พักพระเถระ แต่ว่าไม่มีการห้ามปรามไม่ให้ญาติโยมเข้าไปรบกวน จึงมีญาติโยมไหลมาเทมาที่จะร่วมทำบุญด้วย กระผม/อาตมภาพจึงต้องร้องขอกาละมังสัก ๑ ใบ เพื่อเอามาใส่ปัจจัยถวายให้กับหลวงพ่อขวัญชัยท่าน โดยที่บอกกล่าวกับญาติโยมทุกคนว่า "เงินทำบุญตรงนี้ ขออนุญาตร่วมบุญทุกอย่างกับหลวงพ่อขวัญชัยในวันนี้ด้วย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-08-2024 เมื่อ 03:13
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 26-08-2024, 01:05
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

บรรดาญาติโยมต่าง ๆ นั้น ส่วนใหญ่ก็ต่อว่า "ไปถึงวัดท่าขนุนแล้ว แต่ไม่มีโอกาสที่ได้เจอหลวงพ่อเล็ก ต้องมาดักเจอกันตามงานต่าง ๆ เท่าที่พอจะหาข้อมูลได้" กระผม/อาตมภาพก็ไม่ทราบว่าจะทำอย่างไร เนื่องเพราะว่าถืองานคณะสงฆ์เป็นใหญ่ แต่ว่าหลายต่อหลายวัดถือการต้อนรับญาติโยมเป็นใหญ่ โดยที่ใช้คำว่า "อยู่เพื่อฉลองศรัทธา" แต่กระผม/อาตมภาพเห็นว่า การทำงานของตนเพื่อความมั่นคงของพระพุทธศาสนานั้น สำคัญกว่าการฉลองศรัทธาญาติโยมซึ่งกำลังใจไม่เท่ากัน

บางท่านมาเพื่อให้ได้ชื่อว่ามาเท่านั้น บางท่านก็โทรศัพท์บอกว่า อยากจะมาถวายสังฆทานกับหลวงพ่อเล็ก กระผม/อาตมภาพบอกว่าสังฆทานถวายกับใครก็ได้ แต่โยมก็ยังย้ำว่าต้องถวายกับหลวงพ่อเล็กเท่านั้น ถ้าอย่างนั้นก็คงจะไม่ใช่สังฆทานแล้ว หากแต่ว่าเป็นปาฏิปุคคลิกทานต่างหาก..!

เมื่อต้อนรับญาติโยมไปได้พักใหญ่ หลวงพ่อขวัญชัยก็เมตตาเข้ามาหาเอง กระผม/อาตมภาพจึงได้ถวายไทยธรรมต่าง ๆ เพื่อร่วมงานวันเกิดของท่าน พร้อมกับปัจจัยทั้งหมดที่รับตอนนี้ แล้วหลวงพ่อขวัญชัยก็ชวนไปยังศาลาเอนกประสงค์ของท่าน

เมื่อนั่งลงแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ขออนุญาตกราบในฐานะที่ท่านอายุกาลพรรษามากกว่า โดยมีหลวงพ่อเจ้าคุณสุริยันต์ (พระวชิรญาณวิศิษฏ์ วิ. - สุริยันต์ โฆสปญฺโญ) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดป่ามหาชัย (พระอารามหลวง) ประธานที่พักสงฆ์พุทธวนาราม (วัดป่าวังน้ำเย็น) ท่านก็มาขอกราบกระผม/อาตมภาพอีกทอดหนึ่ง โดยที่บอกว่าได้กราบหลวงพ่อขวัญชัยไปแล้ว

กระผม/อาตมภาพจะขออนุญาตลากลับเลย เนื่องเพราะว่าต้องไปเตรียมตัวเพื่อตรวจประเมินยกหมู่บ้านศีล ๕ ต้นแบบที่จังหวัดสิงห์บุรี แต่ว่าหลวงพ่อขวัญชัยท่านบอกว่าให้รอสักครู่ เพราะว่าให้ลูกศิษย์ไปนำเอาไทยธรรมมาถวาย แต่ว่าสักครู่ของหลวงพ่อนั้นค่อนข้างจะนาน..! เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า ลูกศิษย์วิ่งไปตามหาเจ้าของไทยธรรม ว่าให้มาถวายกับหลวงพ่อเล็กด้วยมือของตนเอง ซึ่งการถวายไทยธรรมนั้น ความจริงกำหนดเอาไว้ตอนทุ่มครึ่ง แต่กระผม/อาตมภาพนั้นมารับไทยธรรมเอาตอนบ่าย ๒ ครึ่ง จึงทำให้ต้องรอบรรดาเจ้าภาพเป็นเวลาที่ค่อนข้างนาน

เมื่อรับไทยธรรมและร่วมถ่ายรูปเป็นที่ระลึกแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ต้องเดินทางฝ่ารถติดกลับเข้าสู่ที่พัก โดยที่ติดตามข่าวน้ำท่วมทางภาคเหนือเป็นระยะไป ซึ่งจนบัดนี้ก็ยังมีแต่ข่าวคณะสงฆ์ ทหาร ตลอดจนกระทั่งถุงยังชีพพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ไปถึง

ส่วนนายกฯ หญิงของเรา คือนางสาวแพทองธาร ชินวัตรนั้น ได้ไปเยี่ยมบุคคลผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่จังหวัดน่านแห่งเดียวเท่านั้น คาดว่าด้วยความที่ต้องเร่งรีบในการตั้งคณะรัฐมนตรีใหม่ เพื่อรอโปรดเกล้าฯ จึงทำให้ไม่มีเวลาไปดูความเดือดร้อนของชาวบ้าน ครั้นจะสั่งการลงไป คาดว่าทางหน่วยราชการต่าง ๆ ก็คงจะ "เข้าเกียร์ว่าง" ไปก่อน เนื่องเพราะว่ายังไม่รู้ว่าจะออกหัวหรือว่าออกก้อย ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ชาวบ้านของเราจึงต้องมีพระเป็นที่พึ่งต่อไป

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอาทิตย์ที่ ๒๕ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-08-2024 เมื่อ 03:17
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 22:52



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว