กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๗ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนสิงหาคม ๒๕๖๗

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 22-08-2024, 18:15
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,946
ได้ให้อนุโมทนา: 225,209
ได้รับอนุโมทนา 800,461 ครั้ง ใน 39,365 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๕๖๗

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๕๖๗


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 22-08-2024, 23:43
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๒๒ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ กระผม/อาตมภาพเดินทางไปถึงวัดบึงไม้ หมู่ที่ ๕ บ้านบึงไม้ ตำบลชะอม อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ตั้งแต่ประมาณ ๖ โมงครึ่ง เมื่อไปถึงพระมหาสังวาลย์ ปญฺญาธโร ป.ธ. ๓ เจ้าอาวาสก็ออกมาต้อนรับ

สิ่งที่ประทับใจที่สุดก็คือ รอบ ๆ วัดมีต้นไม้ที่ล้อมเอาไว้ บริเวณโคนที่ล้อมนั้นเป็นก้อนดินที่ใหญ่มาก น้ำหนักน่าจะถึงประมาณ ๑ ตัน ต้นไม้เหล่านั้นได้รับการห่อด้วย "สแลน" เป็นอย่างดี และตั้งเอาไว้เป็นจุดรอบบริเวณ ซึ่งต้นไม้ทั้งหลายเหล่านี้นั้นเป็นต้นไม้ล้อม ที่ทางบรรดาร้านขายต้นไม้ของตำบลชะอม ได้ไปซื้อหาและทำการขุดล้อมมาจากทางภาคอีสาน ก็คือเป็นไม้ตามหัวไร่ชายนาต่าง ๆ

เท่าที่ดูก็มีต้นโมกมัน มีบรรดาไม้สำคัญ อย่างเช่นต้นกระโดน ซึ่งปัจจุบันนี้ทางภาคกลางหาดูได้ยากแล้ว หลายต้นใช้คำประมาณว่า ตั้งชื่อให้ดูไพเราะ อย่างมะยมเงิน มะยมทอง กระผม/อาตมภาพรู้จักแต่เดิมว่าชื่อต้นยมหิน เหล่านี้เป็นต้น

ต้นไม้ทั้งหลายเหล่านี้ถ้าหากว่าไปถึงร้านขายต้นไม้แถวจตุจักร หรือว่าบรรดาคลองต่าง ๆ รอยต่อระหว่างปทุมธานีและนครนายก ราคาก็จะขึ้นไปเป็นเท่า ๆ ตัว ทางด้านพระมหาสังวาลย์ท่านบอกว่า ถ้าเรื่องต้นไม้ล้อมแล้ว ทั้งประเทศไทยต้องยกให้ตำบลชะอม อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรีนี้เป็นที่หนึ่ง ที่อื่นส่วนใหญ่ก็รับไปจากที่นี่ทั้งนั้น

เมื่อได้ฉันเช้าเป็นข้าวต้มกุ้งที่อร่อยมาก และขณะเดียวกันก็ทึ่งมาก เนื่องเพราะว่าพระภิกษุสามเณรที่วัดนี้มีมาก เมื่อสอบถามว่าเป็นพระจากวัดใกล้เคียงท่านมาช่วยทำงานหรืออย่างไร ? ท่านเจ้าอาวาสบอกว่าเป็นพระภิกษุสามเณรของวัดนี้เอง ซึ่งมีถึง ๓๐ กว่ารูป..!

ในส่วนของเณรนั้นเป็นเด็กด้อยโอกาส เนื่องเพราะว่าฐานะยากจน ไม่มีโอกาสที่จะศึกษา จึงรับมาบวชเณรเพื่อที่จะได้เรียนหนังสือ ในเมื่อมีโอกาสทางการศึกษาและบอกต่อ ๆ กันไป จึงมีชาวบ้านที่ฐานะยากจน ส่งลูกเรียนไม่ไหว ได้นำเอาลูก ๆ มาบวชสามเณรเป็นจำนวนมาก จึงได้เห็นว่ามีถึง ๓๐ กว่ารูปด้วยกัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-08-2024 เมื่อ 00:34
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 22-08-2024, 23:49
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

กระผม/อาตมภาพไปนึกถึงบรรดาบุคคลผู้ไร้สติที่กล่าวว่า พระภิกษุสามเณรของเรานั้นเป็น "กาฝากสังคม" เอาเปรียบชาวบ้าน ขอเขากินแล้วยังไม่พอ ยังเรียนในหน่วยกิตที่ถูกมาก บ้านไม่ต้องเช่า ข้าวไม่ต้องซื้ออีกต่างหาก อยากจะให้มาดูงานของทางวัดบึงไม้แห่งนี้ ว่าช่วยเด็กด้อยโอกาสในสังคมแทนส่วนราชการไปเท่าไร ?

แล้ววัดประเภทนี้ไม่ได้มีแค่วัดสองวัดเท่านั้น ที่โดดเด่นมาก ๆ อย่างเช่นว่าวัดโมลีโลกยาราม ราชวรวิหาร ของท่านเจ้าคุณสุทัศน์ - พระพรหมวชิโรดม, ดร. (สุทัศน์ วรทสฺสี ป.ธ.๙) ซึ่งท่านเองเปิดสำนักเรียนบาลี ผลิตสามเณรประโยค ๙ เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะปีนี้สามเณรที่จบประโยค ๙ แล้วอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ ก็คือเพิ่งจะอายุ ๑๗ ปีเท่านั้น..!

บรรดาเด็กด้อยโอกาสทั้งหลายเหล่านี้ เป็นส่วนที่ทางราชการไม่สามารถจะหนุนเสริมได้ เนื่องเพราะว่าอันดับแรกก็คือพ่อแม่มีฐานะยากจน ไม่สามารถที่จะส่งบุตรหลานเข้าเรียนตามโรงเรียนรัฐบาลได้ แม้ที่โฆษณากันปาว ๆ ว่าเรียนฟรี ๑๒ ปี ก็ฟรีเฉพาะไม่มีค่าเทอมเท่านั้น ในเรื่องของเครื่องแบบ เรื่องของสมุดดินสอ และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ล้วนแล้วแต่มีทั้งสิ้น

ใครที่จะปฏิเสธก็ต้องบอกว่า "ท่านเป็นส่วนน้อยที่แปลกแยกจากสังคม" เนื่องเพราะว่ากระผม/อาตมภาพคลุกคลีอยู่ในวงการศึกษามานับสิบปี ซาบซึ้งเป็นอย่างดีว่า "คำว่าเรียนฟรีนั้นไม่มีในโลก" ขนาดการศึกษาของคณะสงฆ์ที่ต้องถือว่าราคาถูกมากแล้วก็ยังไม่ใช่ของฟรี เพียงแต่ว่าเรามีโครงการอุปถัมภ์ค้ำจุนกัน

อย่างที่กระผม/อาตมภาพสนับสนุนค่าเดินทาง ให้กับพระภิกษุสามเณร
ของอำเภอทองผาภูมิทุกรูป ซึ่งไปเรียนที่วิทยาลัยสงฆ์กาญจนบุรีศรีไพบูลย์ โดยที่ถวายค่ารถให้รูปละ ๓,๐๐๐ บาทต่อเดือน หรือว่าท่านที่มาเรียนห้องเรียนวัดปรังกาสี ซึ่งเปิดให้เรียนทั้งระดับประกาศนียบัตรและระดับปริญญาตรีนั้น กระผม/อาตมภาพก็เหมาจ่ายค่าเทอมให้ทั้งหมด โดยเฉพาะในส่วนของวิทยาลัยสงฆ์เอง ในแต่ละปีกระผม/อาตมภาพก็สนับสนุนค่าเล่าเรียนเป็นจำนวนมาก ๆ ด้วยกัน แล้วยังได้สนับสนุนการศึกษาของโรงเรียนต่าง ๆ ด้วยการให้ทุนการศึกษาทั้ง ๓๓ โรงเรียนในเขตอำเภอทองผาภูมิ

เรื่องพวกนี้ส่วนราชการบางทีก็ทำไม่ได้ หรือว่าทำได้ งบประมาณก็อาจจะหายหกตกหล่นไปกลางทาง ทั้ง ๆ ที่กระทรวงศึกษาธิการของเรานั้นมีงบประมาณมากที่สุด แต่ว่าไม่สามารถที่จะจูงใจให้คุณครูทุ่มเทให้กับการสอนอย่างเต็มที่ แล้วขณะเดียวกันก็ไม่อาจจะที่จะจูงใจให้เด็กสนใจในเรื่องของการเรียน เนื่องเพราะว่า "กลัดกระดุมผิดตั้งแต่เม็ดแรก" ก็เลยผิดต่อมาโดยตลอด
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-08-2024 เมื่อ 00:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 22-08-2024, 23:52
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เนื่องเพราะว่าคนรุ่นเก่านั้น ถ้าหากว่าเอ็นทรานซ์เข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้ ก็มักจะเข้าเรียนที่วิทยาลัยครู ซึ่งปัจจุบันก็คือมหาวิทยาลัยราชภัฏของจังหวัดต่าง ๆ ในเมื่อบุคคลที่เป็นครูควรที่จะเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถเก่งกาจที่สุด เพื่อที่จะได้ถ่ายทอดต่อให้คนรุ่นหลังได้ดีที่สุด กลายเป็นว่าบุคคลที่เป็นครูตั้งแต่รุ่นก่อนกระผม/อาตมภาพ มาจนถึงรุ่นของกระผม/อาตมภาพ และรุ่นหลัง ๆ อย่างที่เห็นอยู่นี้ก็คือ มักจะเป็นบุคคลที่เหลือเลือกแล้ว..!

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น วัตถุซึ่งจะเอามาเข้ากระบวนการให้ออกมาเป็นแม่พิมพ์ที่ดี เป็นวัตถุที่มีคุณภาพต่ำมาก สามารถประคองการศึกษาของประเทศเรา ทุลักทุเลมาจนทุกวันนี้ได้ ต้องถือว่าคุณครูทั้งหลายทำหน้าที่ของตนเองได้สุดยอดแล้ว เหลือแต่บรรดานักการเมืองและเจ้าหน้าที่การศึกษาระดับต่าง ๆ เท่านั้น ว่าเมื่อไรจะมีจิตสำนึกที่ดีเสียที

การเร่งรัดโครงการต่าง ๆ ที่ให้ทำ เพราะหวังจะให้การศึกษาของเราก้าวหน้านั้น ทำให้บรรดาครูต้องมีงานเอกสารต่าง ๆ ท่วมหัว ไม่มีเวลาในการเตรียมการเรียนการสอนให้ดี แล้วอีกประการหนึ่งก็คือ หลักสูตรต่าง ๆ ก็ไม่ได้ปรับให้เข้ากับบริบทสังคมในที่นั้น ๆ ยกเว้น คุณครูบางท่านที่มีความรู้ความสามารถ สามารถที่จะปรับให้เข้ากับบริบทสังคมนั้นได้ ก็ถือว่าเป็นความโชคดีของเด็ก ๆ ในบริเวณนั้นไป

กระผม/อาตมภาพรอจนกระทั่งพระเดชพระคุณพระธรรมวชิรานุวัตร, ดร. (แย้ม กิตฺตินฺธโร) เจ้าคณะภาค ๑๔ ประธานคณะกรรมการโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ด้วยหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา (หมู่บ้านรักษาศีล ๕) ในส่วนของกรรมการบริหารกลางเดินทางมาถึง ขณะที่เดินดูนิทรรศการต่าง ๆ เพื่อรอจนกระทั่งท่านเจ้าคุณอาจารย์พระเดชพระคุณพระเทพปวรเมธี, รศ. ดร. (ประสิทธิ์ พฺรหฺมรํสี ป.ธ.๙) รองเจ้าคณะภาค ๑๕ ประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ด้วยหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา (หมู่บ้านรักษาศีล ๕) ระดับหน ในส่วนของหนกลางเดินทางมาแล้ว ก็ได้เข้าสู่พระอุโบสถ ทำการเจริญพระพุทธมนต์ถวายองค์พระประธาน ถ่ายรูปหมู่เป็นที่ระลึกแล้วออกมาชมนิทรรศการต่าง ๆ

กระผม/อาตมภาพได้ชมเป็นรอบที่สอง โดยมีการควักเงินให้กับเด็ก ๆ ทั้งหลายที่ออกบูธแสดงงานต่าง ๆ ให้ดู ว่าสามารถปรับเอาศีล ๕ มาใช้ในชีวิตประจำวันอย่างไรได้บ้าง แต่ว่าเด็ก ๆ โรงเรียนบ้านบึงไม้นั้น บางทีก็ไม่สามารถที่จะตอบคำถามคณะกรรมการได้ เพราะว่าสิ่งที่กรรมการถามกับสิ่งที่ตนเองท่องไว้นั้นเป็นคนละเรื่องเดียวกัน พวกเราเมื่อแจกรางวัลให้กับเด็ก ๆ และให้กำลังใจในส่วนของนิทรรศการทั้งหมดแล้ว ก็ได้ขึ้นสู่ศาลาการเปรียญวัดบึงไม้ ทำพิธีตรวจประเมินต่าง ๆ ตามขั้นตอน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-08-2024 เมื่อ 00:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 28 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 22-08-2024, 23:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ด้วยความที่กระผม/อาตมภาพมาถึงก่อน ได้คุยกับท่านอาจารย์พระมหาสังวาลย์ ปญฺญาธโร เจ้าอาวาสก็ดี หรือว่าคุยกับบรรดาแม่ชี และแม่ออกแม่ขาวที่ใส่ชุดขาวปฏิบัติธรรมอยู่ก็ตาม ตลอดจนกระทั่งบรรดาแม่ครัวและเจ้าหน้าที่ ซึ่งดูแลการจราจรและดูแลสถานที่ต่าง ๆ ได้เก็บข้อมูลเอาไว้ทั้งหมดแล้ว

จึงได้กล่าวชมเชยท่านผู้ว่าราชการจังหวัด ตลอดจนกระทั่งนายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และส่วนราชการต่าง ๆ ที่สามารถดึงเอาศักยภาพของบุคคลในพื้นที่ออกมา จนทำให้บริเวณบ้านบึงไม้และตำบลชะอมนี้ กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญมาก ๆ เพราะว่ามีลานกางเต็นท์ตลอดลำธารถึงสองสามร้อยแห่งด้วยกัน ลำธารสายนี้ก็มาจากน้ำตกโกรกอีดก ซึ่งถือว่าเป็นน้ำตกที่สูงเป็นระดับต้น ๆ ของประเทศไทย ตลอดจนกระทั่งงานขายต้นไม้ล้อมทั้งหลายเหล่านี้

และส่วนที่น่าทึ่งก็คือมีสวนทุเรียน สวนมังคุดเป็นจำนวนมาก น่าเสียดายที่ว่าเรามาผิดฤดู ถ้าทำการตรวจประเมินตั้งแต่สองเดือนที่แล้ว ก็คงจะได้ชิมรสชาติของทุเรียนภูเขา ซึ่งดูจากรูปแล้ว หน้าตาน่ารับประทานเป็นอย่างยิ่ง..!

เมื่อกล่าวชมเชยทุกท่านที่สามารถดึงเอาสมรรถภาพ ตลอดจนกระทั่งต้นทุนวัฒนธรรมในท้องที่ออกมาแปรเป็นมูลค่า สนับสนุนให้ทุกคนสามารถที่จะรักษาศีลปฏิบัติธรรมได้อย่างสบายใจ เนื่องเพราะว่าทุกคนมีกินมีใช้ มีงานมีการทำโดยทั่วถึงกัน จึงทำให้บ้านบึงไม้ หมู่ที่ ๕ ตำบลชะอม อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรีแห่งนี้ เป็นหมู่บ้านที่สมควรจะได้ยกขึ้นเป็นหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ต้นแบบ ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรีเอง ก็เป็นบุคคลที่นำปฏิญาณตนเป็นพุทธมามกะ และนำข้าราชการทุกหมู่เหล่า ในการปฏิญาณตนนำเอาศีล ๕ ไปเป็นเครื่องดำเนินชีวิตด้วย จึงทำให้เกิดความประทับใจมาก

เมื่อกระผม/อาตมภาพมอบใบให้คะแนนกับทางคณะกรรมการไปแล้ว ก็ลงไปฉันเพลร่วมกับบรรดาพระสังฆาธิการ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะตำบล และเจ้าอาวาสของทางคณะสงฆ์จังหวัดสระบุรี อิ่มแล้วก็ขออนุญาตเดินทางไปให้หมอซ่อมสุขภาพ

ปรากฏว่าการนั่งรถไปตรวจประเมินโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ได้แค่ ๖ จังหวัด ก็ทำให้ออกอาการ "เดี้ยง" จนกระทั่งหมอต้องจับทั้งดัดทั้งดึงให้ยุ่งไปหมด กว่าที่จะกลับคืนเข้าที่เดิม แล้วก็เข้าสู่ที่พัก ซึ่งมีผู้เมตตาเช่าโรงแรมอย่างดีให้นอน รอเวลาการเดินทางไปทำหน้าที่ของตนเองในวันพรุ่งนี้ต่อไป

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพฤหัสบดีที่ ๒๒ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-08-2024 เมื่อ 00:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 22:45



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว