กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๗ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนสิงหาคม ๒๕๖๗

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 18-08-2024, 17:09
พิชวัฒน์'s Avatar
พิชวัฒน์ พิชวัฒน์ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Aug 2014
ข้อความ: 500
ได้ให้อนุโมทนา: 3,308
ได้รับอนุโมทนา 24,997 ครั้ง ใน 988 โพสต์
พิชวัฒน์ is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๑๘ สิงหาคม ๒๕๖๗

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๑๘ สิงหาคม ๒๕๖๗


ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 18-08-2024, 23:15
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ ๑๘ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ เป็นวันสำคัญของตุ๊พ่อสิงห์ (พระอธิการสิงห์ วิสุทฺโธ) เจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่ เนื่องเพราะว่าเป็นวันที่กระผม/อาตมภาพกำหนดให้ท่านเกิด..! ความจริงแล้วตุ๊พ่อสิงห์ท่านเกิดเดือนสิงหาคมก็จริง แต่หาวันเกิดที่แน่นอนไม่ได้ เพราะว่าท่านต้องการวันที่กระผม/อาตมภาพว่าง ดังนั้น..ถ้ากระผม/อาตมภาพว่างวันไหน ท่านก็จะเกิดวันนั้น..!

เมื่อทางวัดพร้อมแล้วก็ได้นำเอารถไฟฟ้า ขออภัย..ฟังดูหรูมาก แต่ความจริงคือรถที่พวกเราเรียกว่า "รถกอล์ฟ" มารับไปยังสวนลำไยของวัด ที่กำลังออกผลดกเต็มไปหมด คาดว่าน่าจะมีผลผลิตหลายตัน..!

เหตุที่ต้องข้ามไปทางด้านนั้น เพราะว่าในกำหนดการให้ไปทำการบวงสรวง เพื่อยกยอดฉัตรพระจุฬามณีเจดียสถาน ที่กระผม/อาตมภาพเป็นเจ้าภาพใหญ่ในการสร้าง ต้องบอกว่าเป็นงานที่สร้างได้ช้ามาก
เรื่องของการก่อสร้างนั้นขึ้นอยู่กับดวง ก็คือถ้าได้ช่างที่มีฝีมือและเอาใจใส่ในงาน ต่อให้แพงสักหน่อยก็ควรที่จะจ้างเอาไว้

แบบเดียวกับช่างที่กระผม/อาตมภาพได้จ้างให้ทำการก่อสร้างตั้งแต่เกาะพระฤๅษี มาจนกระทั่งวัดพุทธบริษัท วัดท่าขนุน อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่ประมาณปี ๒๕๔๘ จนกระทั่งบัดนี้ ทางฝ่ายช่างเองก็สบายใจว่าทำงานกับวัดท่าขนุนแล้วได้เงินแน่นอน ส่วนทางกระผม/อาตมภาพก็สบายใจ เพราะว่าผู้รับเหมาเอาใจใส่ติดตามดูแลงาน ตลอดจนกระทั่งจัดหาวัสดุทุกอย่างให้ แต่ว่าช่างของตุ๊พ่อสิงห์น่าจะอยู่ในลักษณะทำงานแบบ "เรื่อย ๆ มาเรียง ๆ" งานจึงได้เชื่องช้ามาจนบัดนี้ แต่ก็ยังดีที่ได้ทำการยกฉัตรขึ้นมาก่อน ส่วนประกอบอื่นเล็ก ๆ น้อย ๆ ค่อยมาว่ากันทีหลังได้

เมื่อไปถึงได้สักครู่หนึ่ง ปรากฏว่าหลวงพ่อนิล (พระครูวินัยธรธวัชชัย ชาครธมฺโม) ประธานที่พักสงฆ์อาศรมศรีชัยรัตนโคตรก็มาถึง ติดตามมาด้วยครูบาเหนือชัย โฆสิโต นักบุญแห่งขุนเขา เจ้าสำนักสงฆ์ถ้ำป่าอาชาทอง แล้วก็เป็นตุ๊พ่อสิงห์ ต่อมาด้วยหลวงพ่อบุญส่ง อุปสโม ซึ่งปัจจุบันเป็นพระครูสัญญาบัตร น่าจะเป็นพระครูพิศาลสันติคุณ เจ้าอาวาสวัดเขาแร่ในพระสังฆราชูปถัมภ์

เมื่อทุกคนมาถึงกันพร้อมและโต๊ะบวงสรวงเสร็จแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ทำการบวงสรวง แต่ว่างานนี้ไม่ได้ขออนุญาตยกฉัตรอย่างเดียว หากแต่
ประกาศให้ทุกท่านในทุกภพทุกภูมิ ทุกหมู่ทุกเหล่า ร่วมกันอนุโมทนาในงานเพื่อพระพุทธศาสนาในครั้งนี้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-08-2024 เมื่อ 02:49
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 41 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 18-08-2024, 23:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อบวงสรวงเสร็จแล้วมีการฟ้อนเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา ปรากฏว่าช่างฟ้อนหญิงที่เป็นนักเรียนตัวน้อยออกมาฟ้อนดาบ ซึ่งเป็นเรื่องอัศจรรย์มาก การ "ฟ้อนเจิง ฟ้อนดาบ" เหล่านี้ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของผู้ชาย พอ ๆ กับการตีกลองสะบัดชัย แต่ว่านี่นักเรียนหญิงออกมาฟ้อนดาบ แล้วก็มีการรำถวายการต้อนรับและถวายเป็นพุทธบูชาด้วย กระผม/อาตมภาพจึงแจกรางวัลให้ไปตามระเบียบ

ในขณะที่ทำการฟ้อนอยู่ก็มีเทวดาท่านหนึ่ง รูปร่างองอาจผึ่งผายมาก มายืนทำความเคารพอยู่ใกล้ ๆ ชี้ไปที่เด็กหญิงช่างฟ้อนคนหนึ่ง บอกว่าเป็นลูกหลานของท่านเอง จึงได้ถามท่านว่าเป็นใคร ท่านบอกว่าท่านเป็น "ต้นเก๊าจาวลัวะ" ก็คือบรรพบุรุษของเหล่าคนลัวะ

กระผม/อาตมภาพก็เพิ่งทราบว่า บรรดาคนลัวะที่ส่วนใหญ่แล้วเป็นคนป่าคนเยิง ก็ไม่นึกว่าจะมีบุคคลที่สร้างคุณงามความดีจนกระทั่งเป็นเทวดาได้เหมือนกัน เพราะว่าไปหลายที่ก็เห็นเขาเลี้ยงผีลัวะ มีการเชือดควายเพื่อที่จะทำการเลี้ยง กระผม/อาตมภาพก็ยังคิดว่า บรรดาบรรพบุรุษของชาวลัวะน่าจะมาจากภูมิต่ำ แต่รายนี้มาจากเทวดาชั้นจาตุมหาราช ก็ต้องบอกว่าเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงเหมือนกัน

เมื่อการฟ้อนและแจกรางวัลเสร็จแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ไปทำการยกฉัตร ซึ่งขณะที่ยกฉัตรก็ได้เห็นว่าบนยอดฉัตรนั้น ตุ๊พ่อสิงห์ได้จารพระคาถาเอาไว้ ก็คือ พระคาถามงกุฎพระพุทธเจ้า พระคาถาบารมี ๓๐ ทัศ ตลอดจนกระทั่งยันต์เกราะเพชรด้วย ไม่ทราบว่าคนอื่นตาดีพอจะมองเห็นหรือไม่ ? เพราะว่าอยู่สูงเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน แต่บังเอิญกระผม/อาตมภาพมักจะมีสายตายาวในเรื่องทั้งหลายเหล่านี้ จึงได้มองเห็นอย่างชัดเจน

เมื่อทำการพรมน้ำมนต์ขอบารมีพระท่านสงเคราะห์แล้ว พวกเราทั้งหมดก็ทำการอัญเชิญยอดฉัตร ๙ ชั้นขึ้นสวมบนยอดพระจุฬามณีเจดียสถาน เป็นเครื่องประกันว่างานเสร็จแล้ว เรียกว่าเป็นเคล็ดลับอย่างหนึ่ง ก็คือส่วนที่สำคัญที่สุดเชิญขึ้นไปแล้วถือว่าเสร็จ ส่วนที่เหลือค่อยมาเพิ่มเติมเอากันทีหลัง

หลังจากนั้นก็เดินทางไปยังศาลาอเนกประสงค์พระราชพรหมยาน ซึ่งเป็นศาลาทำบุญเดิม แต่ว่าได้รับการปรับใหม่ทำให้ดูกว้างขวางขึ้นจากเดิมมาก เนื่องเพราะว่าในส่วนด้านหลังอาสนะสงฆ์ ที่เคยเป็นพื้นที่อเนกประสงค์สำหรับจัดวางสิ่งของ หรือว่าให้ผู้ทำงานได้อยู่อาศัย โดนรื้อออกไปจนหมด แล้วเอาอาสนะสงฆ์ไปตั้งติดผนังเลย ทำให้สามารถรองรับผู้คนเพิ่มได้อีกเป็นร้อยคน..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-08-2024 เมื่อ 02:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 18-08-2024, 23:23
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อไปถึงกระผม/อาตมภาพ พร้อมด้วยตุ๊พ่อสิงห์ และท่านอาจารย์บ๊ะ (พระอาจารย์ศิริชัย ชยธมฺโม) วัดโพธิ์ลังกา ก็ได้นั่งรับศรัทธาญาติโยม บอกกล่าวบางเรื่องที่ควรจะบอก และพยายามที่จะไม่บอกบางเรื่องที่ไม่ควรจะบอก จนกระทั่งทุกอย่างพร้อมแล้ว กระผม/อาตมภาพก็อาราธนาตุ๊พ่อสิงห์เข้าสู่ซุ้มสืบชะตา

เมื่อท่านนั่งเรียบร้อย กระผม/อาตมภาพก็ออกมาจุดเทียน ไม่ว่าจะเป็นเทียนสัตตบริภัณฑ์ เทียนบูชาเทวดานพเคราะห์ เทียนค่าคิง เทียนมงคลซ้ายขวา แม้กระทั่งเทียนขันแก้ว ๕ โกฐากและเทียนธาตุ ๔ สำหรับผู้รับการสืบชะตา

คำว่าขัน ๕ โกฐากนั้นประกอบไปด้วยเทียน ๕ ต้น

เทียนต้นที่ ๑ แทนการบูชาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระบรมสารีริกธาตุ พระธาตุเจดีย์ทั่วทั้งสากลทวีป ตลอดจนกระทั่งต้นโพธิ์ทุกต้น

เทียนต้นที่ ๒ แทนการบูชาพระธรรม

เทียนต้นที่ ๓ แทนการบูชาพระอริยสงฆ์ทั้งหมด

เทียนต้นที่ ๔ บูชาครูอุปัชฌาย์อาจารย์

เทียนต้นที่ ๕ บูชาครูสอนพระกรรมฐาน

ดังนั้น..ถ้าท่านทั้งหลายสงสัยว่าเทียน ๕ โกฐากนั้นมีเอาไว้เพื่ออะไร ก็คือเพื่อบูชา ๕ ประการดังที่ได้กล่าวมานี้


แล้วกระผม/อาตมภาพก็ต้องนำเอาลูกแก้วอินทนิล ซึ่งได้รับมาเนิ่นนานแล้ว และแทบจะไม่ได้ใช้งานเลย เอามาประกอบในพิธีครั้งนี้ เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า ทางด้านวัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่ได้จัดสร้างวัตถุมงคลหลายอย่างหลายประการด้วยกัน ที่จำได้ก็มีเบี้ยแก้ มีลูกอมเมฆสิทธิ์ มีพระปิดตาหนุนดวง มีพระกริ่งพิชัยสงคราม มีพระขรรค์ มี "ลูกแก้วอินทนิลน้อย"

กระผม/อาตมภาพไม่ได้คิดจะนำแก้วอินทนิลออกมาใช้งาน เนื่องเพราะว่า
ถ้าไม่มีคำสั่งจากท่านปู่พระอินทร์เจ้าของดวงแก้วก็จะไม่นำออกมา ปรากฏว่างานนี้ท่านปู่พระอินทร์ท่านมากำกับด้วยองค์ท่านเอง จึงจำเป็นที่จะต้องนำออกมาตั้งเป็นองค์ประธาน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-08-2024 เมื่อ 02:54
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 18-08-2024, 23:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ระหว่างที่กราบอาราธนาบารมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระธรรมและพระอริยสงฆ์ทั้งหมด พรหมเทวดาทั้งหมด ก็ยังได้กราบเรียนสอบถามท่านปู่พระอินทร์ว่า ในเมื่อนำเอาแก้วอินทนิลมาประกอบอยู่ในพิธีจะมีอานุภาพอย่างไร ?

ท่านบอกว่านอกจากอานุภาพอื่นที่พระท่านอนุเคราะห์สงเคราะห์ให้แล้ว ในส่วนของท่านก็คือสร้างความชุ่มเย็น ดับร้อนให้กับสถานที่ต่าง ๆ แล้วก็ทำภาพให้เห็นว่าท่านถือมหาสังข์เอาไว้ในมือ เทโปรยปรายน้ำมนต์ลงมาประดุจดังฝนตก ที่สร้างความสงบร่มเย็นให้กับทุกสถานที่ ถ้าหากว่าใครบูชาไป ก็ขอให้รำลึกถึงท่านปู่พระอินทร์ด้วย


เมื่อเสร็จพิธีแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ได้ทำการพรมน้ำพระพุทธมนต์ในวัตถุมงคลทั้งหมด พร้อมกับโปรยข้าวตอกดอกไม้ถวายเป็นพุทธบูชา จากนั้นก็รีบเก็บแก้วอินทนิลอย่างเร่งด่วน เหตุเพราะว่าถ้ามีคนรู้เข้า เดี๋ยวก็จะไปรุมถ่ายรูปกันอีก

ต่อจากนั้นก็ได้มาทำการผูกข้อมือถวายให้กับตุ๊พ่อสิงห์ ซึ่งบรรดาพระเถระชาวล้านนาที่มาร่วมงานส่วนใหญ่ก็บอกว่า "ขอหื้ออยู่ร้อยซาวปี๋เน้อ" กระผม/อาตมภาพเองก็ได้แต่สั่นหัว เนื่องเพราะว่าตัวเองอายุแค่ ๖๐ กว่าปีก็ "แทบจะตะบันน้ำกิน" แล้ว รู้ดีว่าคนแก่นั้นลำบากขนาดไหนที่จะอยู่ อายุ ๘๐ กว่าปีนี้ก็แทบจะต้องลากสังขาร เดินก้าวหนึ่งหอบครั้งหนึ่งแล้ว ยังจะมาอวยพรให้อยู่ ๑๒๐ ปี แต่ก็แล้วแต่น้ำใจของท่านก็แล้วกัน

ระหว่างที่ผูกข้อมือก็กราบเรียนตุ๊พ่อว่า "กระผมขออนุญาตลากลับเลยนะครับ ไม่ได้อยู่ฉันเพลด้วย" แล้วก็กลับสู่อาสนะของตนเอง เมื่อพิธีการ "ฮ้องขวัญ" ซึ่งทำโดยพระครูปลัดฟลุก (พระครูปลัดธีร์นวัช ญาณสิทฺธิวาที) เจ้าอาวาสวัดยางกวง จังหวัดเชียงใหม่ เสร็จลงแล้ว ตุ๊พ่อสิงห์ก็ได้ถวายปัจจัยไทยธรรมให้กับกระผม/อาตมภาพ ซึ่งพอรับแล้วก็กราบลาพระประธาน พนมมือไหว้บรรดาพระเถรานุเถระทุกรูปรอบทิศ แล้วก็ตรงมาขึ้นรถ เดินทางออกจากวัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่เลย

คาดว่าคืนนี้กว่าจะถึงที่พักก็คงจะดึกตามเคย แต่ว่าในระหว่างที่เดินทางอยู่ เมื่อถึงเวลาก็ต้องบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เพื่อให้ท่านทั้งหลายที่รอฟังอยู่จะได้มีเสียงธรรมเอาไว้ฟังทุกวันโดยไม่ขาดตอน

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอาทิตย์ที่ ๑๘ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-08-2024 เมื่อ 02:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 43 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 22:49



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว