กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๗ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนสิงหาคม ๒๕๖๗

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 09-08-2024, 19:40
พิชวัฒน์'s Avatar
พิชวัฒน์ พิชวัฒน์ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Aug 2014
ข้อความ: 500
ได้ให้อนุโมทนา: 3,308
ได้รับอนุโมทนา 24,997 ครั้ง ใน 988 โพสต์
พิชวัฒน์ is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๙ สิงหาคม ๒๕๖๗

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๙ สิงหาคม ๒๕๖๗


ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 10-08-2024, 00:25
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ ๙ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ ก็เป็นอีกวันหนึ่งที่ทางคุณครูนำเอาเด็กนักเรียนหอพักโรงเรียนทองผาภูมิวิทยามาร่วมสวดมนต์ทำวัตรด้วย เด็กนักเรียนหอพักของเรา ส่วนใหญ่แล้วก็คือบ้านไกล เดินทางลำบาก จึงต้องอาศัยหอพักของทางโรงเรียนซึ่งไม่ได้สะดวกมากนัก แม้กระทั่งที่หลวงพ่อสร้างให้ก็ต้องพยายามลดวัสดุลงให้มากที่สุด เพื่อให้อยู่ในงบประมาณที่กำหนดเอาไว้ แต่พวกเราก็ยอมทนลำบากกัน ต้องถือว่ากำลังใจอยู่ในระดับที่ใช้ได้

รุ่นของพวกเราต้องถือว่าสะดวกมากแล้ว ตัวหลวงพ่อเองเรียนหนังสือต้องขี่จักรยานไป ขาไป ๖ กิโลเมตร ขากลับ ๖ กิโลเมตร เท่ากับว่าปั่นจักรยานวันละ ๑๒ กิโลเมตร แต่ก็ตั้งใจไปเรียน แล้วด้วยความที่พ่อแม่มีนโยบายว่าลูกทุกคนต้องรู้หนังสือ เพราะว่าพ่อแม่ลำบากมากที่ไม่รู้หนังสือ จึงพยายามส่งลูกเรียน แต่ก็มีลูกถึง ๑๓ คน แม้ว่าจะตายไป ๑ คนตั้งแต่เด็กก็ตาม ก็ยังเหลืออยู่ถึง ๑๒ คน การเรียนจึงไม่ได้เต็มที่

รุ่นพี่ ๆ ที่เกิดก่อนก็มักจะเรียนได้แค่ชั้นประถมปีที่ ๔ รุ่นถัดมาเรียนได้ถึงชั้นประถมปีที่ ๗ มีรุ่นหลวงพ่อกับพี่สาวที่เรียนได้ถึงชั้นมัธยมปีที่ ๓ ซึ่งสมัยนั้นก็คือ ม.ศ. ๓ ตอนนั้น ค่าเทอมชั้นมัธยมปีละ ๒๒๐ บาท ต้องพยายามทำงานเก็บเงิน กว่าจะมีค่าเทอมไปจ่ายก็มักจะวันท้าย ๆ ของเส้นตายแล้ว..!

แต่ว่าสิ่งที่หลวงพ่อทำเป็นความภาคภูมิใจของตัวเอง และเป็นความภาคภูมิใจของพ่อแม่ ก็คือสามารถสอบได้ที่ ๑ ตลอด แล้วเป็นที่ ๑ ที่คะแนนเต็ม ๑๐๐ ด้วย สมัยก่อนเล่าให้คนอื่นฟังไม่มีใครเชื่อ จนกระทั่งมาเรียนในระดับประกาศนียบัตรบริหารกิจการคณะสงฆ์ ปริญญาตรี ปริญญาโท ยันปริญญาเอก เพื่อนฝูงเขาถึงได้เห็นว่าการทำคะแนนเต็ม ๑๐๐ ในแต่ละวิชาของหลวงพ่อนั้น เป็นเรื่องปกติง่าย ๆ เลย..!

เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าโดนโยมพ่อพาสวดมนต์ไหว้พระตั้งแต่เด็ก เพิ่งจะรู้ภาษาอายุประมาณ ๒ ขวบครึ่ง ก็โดนอุ้มหลับคอพับคออ่อนสวดมนต์ทุกวัน ตอนแรกก็ไม่รู้ว่านั่นเป็นการทำสมาธิให้เกิด ในเมื่อสะสมไปหลาย ๆ ปี ในสมัยนั้นการเรียนชั้น ป. ๑ ก็คืออายุ ๗ ขวบหรือว่า ๘ ขวบ ก็แปลว่ามีเวลาสะสมสมาธิอยู่หลายปี เมื่อเข้าไปเรียนถึงได้รู้ว่า
เรื่องของสมาธิช่วยการเรียนได้ดีที่สุด แค่นั้นยังไม่พอ ยังช่วยเราหักห้ามตัวเองไม่ให้ทำความชั่วได้อีกด้วย..!

เนื่องเพราะว่าโยมพ่อเป็นคนจีนต่างด้าว คือมาจากประเทศจีนเลย ในเมื่อเป็นคนต่างด้าวก็เกรงกลัวกฎหมายไทย เพราะว่าถ้าโดนส่งกลับก็หมดอนาคต จึงได้สั่งลูกเอาไว้ว่า "อย่ามีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับใคร" ดังนั้น..แม้บางวันอยากจะฟาดปากเพื่อนฝูงขนาดไหน ก็ต้องอดกลั้นอดทนเอาไว้ เพราะถ้าทำไปแล้วเกิดปัญหา พ่อที่เป็นคนต่างด้าว อาจจะโดนลงโทษส่งกลับเมืองจีน
จึงต้องอาศัยกำลังสมาธิในการอดทนอดกลั้นเป็นอย่างมาก..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-08-2024 เมื่อ 02:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 28 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 10-08-2024, 00:34
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ที่กล่าวมานี้เพื่อที่จะบอกกับเด็ก ๆ ทั้งหลายว่า การเดินทางไกลไม่ใช่อุปสรรคของการเรียน ฐานะยากจนไม่ใช่อุปสรรคของการเรียน สำคัญที่ว่าเราตั้งใจเรียนเต็มที่หรือไม่ ? ต่อให้เราเองหัวไม่ดีเหมือนอย่างกับเพื่อนฝูงเขา แต่ถ้าเรามีความขยันเข้าไปเสริม ก็จะทดแทนตรงจุดนั้นได้

โดยเฉพาะในยุคนี้สมัยนี้ วิชาชีพต่าง ๆ ที่เคยช่วยเราได้ในปัจจุบัน แทบจะหมดความสำคัญไปแล้ว แม้กระทั่งสมัยก่อนพอจบชั้น ม.ศ. ๕ ซึ่งเทียบเท่าชั้น ม.๖ สมัยนี้ ถ้าหากว่าไม่เอ็นทรานซ์เข้าเรียนหมอ ก็จะเอ็นทรานซ์เพื่อเรียนวิศวะ ปัจจุบันนี้ AI เก่งกว่าหมอทั่วไป หมอทั่วไปใช้เวลาในการตรวจคนไข้คนหนึ่งประมาณ ๑๒ นาที วินิจฉัยโรคได้ไม่เกิน ๗๐ เปอร์เซ็นต์ แต่ AI ใช้เวลาแค่ประมาณ ๒ - ๓ นาที วินิจฉัยโรคได้เกิน ๙๐ เปอร์เซ็นต์..! ก็แปลว่าในโลกยุคไม่นานหลังจากนี้ แม้แต่หมอก็จะขาดความสำคัญลง

อาชีพต่าง ๆ หลายต่อหลายอาชีพ อย่างเช่นว่าการเปิดร้านขายของเล็ก ๆ น้อย ๆ การเปิดบังกะโล หรือว่ารีสอร์ต จะหมดความสำคัญลงไป เนื่องเพราะว่าเราลงทุนลงแรงไปมาก แต่ว่ามีบุคคลที่อาศัยข้อมูลเปิดการจองที่พักทั่วโลก รวมทั้งที่เราทำเองด้วย โดยที่เขากินค่านายหน้าฟรี ๆ การขายของต่าง ๆ ก็กลายเป็นการขายของออนไลน์ แม้กระทั่งธนาคารก็จะลดความสำคัญลง

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น พวกเรายิ่งต้องใช้ความเพียรพยายามมากกว่าคนรุ่นเก่า โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่ภาวะสงครามลุกลามไปทั่ว สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือทำอย่างไรให้มีกิน..! พวกเราอาจจะไม่เคยอดอยากมาก่อน หลายคนมีพ่อแม่ที่ข้ามมาจากฝั่งพม่า คนในประเทศพม่ากินอาหารแค่ ๒ มื้อ ก็คือมื้อสาย ๆ กับมื้อเย็น ๆ เพราะว่าไม่มีข้าวของเงินทองอะไรมากมาย ที่จะกินล้างกินผลาญเหมือนกับบ้านเรา คราวนี้พอภาวะสงครามเกิดขึ้น สิ่งต่าง ๆ ก็หายาก ข้าวของก็ขึ้นราคา โดยเฉพาะของกิน

สมัยที่หลวงพ่อเป็นทหารประจำอยู่ชายแดนไทยเขมร บรรดาผู้อพยพที่หนีข้ามมา ถึงเวลามีเงินมีทองซุกติดตัวมา ส่วนใหญ่เงินจะใช้ไม่ได้ ที่ใช้ได้ก็ทองคำ คราวนี้ทองคำนั้นก้อนหนึ่ง ๒ บาทบ้าง ๓ บาทบ้าง ๕ บาทบ้าง จะใช้อะไรก็ต้องจ่ายเป็นก้อนไปเลย..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-08-2024 เมื่อ 02:49
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 27 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 10-08-2024, 00:46
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แต่ก็ยังดีกว่าสมัยที่ประเทศเขมรแตกใหม่ ๆ ผู้คนอพยพหนีภัยสงครามเข้ามาฝั่งไทย รุ่นพี่ที่ไปอยู่ประจำการก่อนเขาเล่าให้ฟังว่า "พลอยดิบ ๑ กระป๋องนม แลกข้าวสารได้ ๑ กระป๋องนม" ก็คือจะไปคิดเป็นราคาพลอยดิบเหมือนอย่างเวลาปกติไม่ได้ ต่อให้เรามีติดตัวมาแล้วคิดเป็นมูลค่าเท่าไรก็ตาม ถึงเวลานั้นของกินสำคัญที่สุด จึงต้องเอามาแลกของกินก่อน

แม้กระทั่งปัจจุบันนี้บรรดาพี่น้องมอญ พม่า กะเหรี่ยง ที่หนีภัยสงครามมาอยู่ตามตะเข็บชายแดน ก็ต้องอาศัยคนไทยช่วยเหลือ เมื่ออาทิตย์ก่อนทางด้านกลุ่มเยาวชนมอญกรุงเทพฯ ก็มาขอเสบียงจากวัดท่าขนุน เพื่อเอาไปมอบให้กับญาติพี่น้องของตนเองที่หนีภัยสงครามมาที่บ้านฮะร็อกคานี

ยิ่งสภาวะของประเทศชาติหรือว่าของโลกยากลำบากเท่าไร สิ่งที่เราต้องเรียนรู้เพื่อเอาตัวรอดยิ่งมากเท่านั้น บางทีคนเรียนเก่งแต่ว่าปรับตัวไม่เป็นก็เอาตัวไม่รอด คนเรียนไม่เก่ง แต่รู้ว่าอะไรในป่ากินได้ จะเอาตัวรอดได้ง่ายกว่า

จึงเป็นเรื่องที่อยากจะฝากเด็ก ๆ ทั้งหลายเป็นข้อคิดว่า รุ่นเราแค่เรียนอย่าคิดว่าลำบาก รุ่นพ่อรุ่นแม่ต้องเสี่ยงทั้งชีวิต เสี่ยงทั้งกฎหมาย ดิ้นรนเพื่อให้อยู่ประเทศไทยได้ พวกเราแค่มีหน้าที่เรียนอย่าเพิ่งไปท้อ พยายามทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด ไม่ใช่สักแต่ว่าเรียนให้ผ่านไปเป็นวัน ๆ

เรียนแล้วต้องรู้ รู้แล้วต้องบอกต่อคนอื่นได้ รู้แล้วต้องนำไปใช้งานจริงได้ด้วย ถึงจะเรียกว่าเรียนแล้วประสบความสำเร็จ ไม่อย่างนั้นแล้วถึงเวลาลำบากขึ้นมา เราไม่มีความรู้ ไม่มีประสบการณ์อะไรเลย ก็จะตกอยู่ในสภาพที่เอาตัวไม่รอดอย่างน่าเวทนาสงสาร..!


สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันศุกร์ที่ ๙ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-08-2024 เมื่อ 02:51
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 22:57



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว