กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เทศน์ในวาระสำคัญต่าง ๆ

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 06-08-2024, 00:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default ปกิณกธรรมช่วงบวชเนกขัมมะปฏิบัติธรรม เช้าวันอาทิตย์ที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗

ก่อนเทศน์เนื่องในวโรกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ
พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เช้าวันอาทิตย์ที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗




เป็นธรรมเนียมประเพณีในเรื่องของการแสดงออกซึ่งความจงรักภักดีต่อสถาบัน ก็คือจะได้เห็นความรักใคร่สามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน คราวนี้ประเทศไทยของเรา จะว่าไปแล้วก็ว่างศึกว่างสงครามมานานมาก ทำให้คนส่วนหนึ่งไม่เห็นถึงความสำคัญของความสามัคคีของคนในชาติ แล้วก็ยังมีเจ้าพวกสิ้นสติ ไปหลงเชื่อพวกที่เป็นข้าทาสของชาวต่างชาติ ที่มายุยงให้เกิดการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายกันขึ้นมาอีก..!

ถ้าหากว่าดูรอบบ้านของเรา สงครามเวียดนามเพิ่งจะสิ้นสุดลงประมาณปี ๒๕๑๖ ประเทศลาวก็โดนคอมมิวนิสต์กลืนไปเรียบร้อยประมาณปี ๒๕๑๘ มาถึงปี ๒๕๒๐ เขมรแดงยึดประเทศกัมพูชา เราจะเห็นว่าประเทศของเขาที่รักใคร่แน่นแฟ้นกันอยู่ทุกวันนี้ ก็เพราะว่าเพิ่งจะผจญศึกสงครามกันมา คนรุ่นเก่า ๆ ที่ออกรบเพื่อชาติ เพื่อแผ่นดิน บาดเจ็บล้มตายไปก็มาก ที่ยังเหลืออยู่ก็ยังทัน ๆ กันอยู่ เป็น ปู่ ย่า ตา ทวด ของคนรุ่นปัจจุบันนี้เอง แม้แต่ข้างบ้านเราอีกฝั่งหนึ่งอย่างของพม่า ก็รบกันไม่เว้นแต่ละวัน โดยเฉพาะที่รบกันระหว่างรัฐบาลพม่ากับชนกลุ่มน้อยต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นมอญ เป็นกะเหรี่ยง เป็นไทใหญ่ เป็นกะฉิ่น

ดังนั้น..ในเรื่องของความสามัคคีของชนในชาติจึงจำเป็นมาก ไม่อย่างนั้นแล้วก็จะโดนชาติอื่นที่เข้มแข็งกว่ากลืนประเทศชาติไป เรามีสถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จะเห็นว่าคำว่า ศาสนา นั้นอยู่ตรงกลาง เพราะว่าเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่ของเราเคารพนับถือกัน องค์พระมหากษัตริย์จึงให้การสนับสนุนเป็นเอกอัครศาสนูปถัมภ์ เมื่อพระองค์ท่านมาสนับสนุนพระพุทธศาสนา จึงทำให้ทุกคนเห็นว่าพระองค์ท่านก็เป็นพวกเดียวกันอย่างแท้จริง จึงถวายความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ จนเกิดความเป็นปึกแผ่นแน่นหนา กลายเป็นชาติขึ้นมา

ดังนั้น..คำว่า ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เราจะเห็นว่าศาสนานั้นเป็นข้อกลางที่สำคัญที่สุด ถ้าไม่มีศาสนาเป็นตัวเชื่อมในระหว่างกลาง สถาบันชาติและพระมหากษัตริย์ก็ไม่อาจที่จะกลมกลืนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-08-2024 เมื่อ 02:43
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 16 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 06-08-2024, 00:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

รอสักครู่ให้เขาย่ำกลองระฆังพร้อมกับทั้งประเทศแล้ว อาตมาถึงจะเริ่มเทศน์ ยังดีกว่าสมัยที่อยู่วัดเทพศิรินทราวาส นั่นเขาเล่นตีกันตอนเที่ยงคืน สวดมนต์ก็สวดตอนเที่ยงคืน อาตมภาพปฏิเสธมาสุดชีวิตเพราะว่าทางจังหวัดจะให้วัดท่าขนุนเป็นวัดหลวง จังหวัดกาญจนบุรีเป็นจังหวัดที่ใหญ่โตมโหฬารมาก มีวัดอยู่ทั้งหมด ๕๗๘ วัด กับอีก ๙๐ กว่าสำนักสงฆ์ แต่มีวัดหลวงอยู่แค่ ๓ วัด ก็คือ วัดเหนือ วัดใต้ และวัดพระแท่นดงรัง วรวิหาร

เนื่องเพราะว่าการยกขึ้นเป็นวัดหลวงนั้นจะต้องมีข้อจำกัดหลายประการด้วยกัน
อันดับแรกเลย ต้องมีพระจำพรรษาอย่างน้อย ๒๕ รูปติดต่อกันไม่น้อยกว่า ๕ ปี
อันดับที่สอง เป็นศูนย์กลางในการทำกิจกรรมของ บ้าน วัด โรงเรียน และส่วนราชการ
อันดับที่สาม ตั้งมาอย่างน้อย ๕๐ ปีขึ้นไป
อันดับที่สี่ ถ้ามีความเกี่ยวเนื่องบางประการกับทางสถาบันพระมหากษัตริย์จะเป็นเรื่องที่ดีมาก

อย่าลืมว่าวัดของเราได้รับพระราชทานพระพุทธรูปและธรรมาสน์ฝีมือช่างหลวงจากในหลวงรัชกาลที่ ๗

ในเมืองเขาเห็นว่าวัดท่าขนุนควรอย่างยิ่งที่จะเป็นวัดหลวงวัดที่ ๔ แต่อาตมาหนีมาเป็นสิบปีแล้ว เพราะกลัวว่าต้องสวดมนต์ตอนเที่ยงคืน..! หลวงพ่อ ดร.ท่านเจ้าคุณปัญญา (ปัญญา วิสุทฺธิปญฺโญ ป.ธ.๙) ตั้งแต่เป็นพระศรีวิสุทธิโสภณ เป็นพระราชวิสุทธิเมธี ตอนนี้เป็นพระเทพปริยัติโสภณ สนับสนุนเท่าไรสนับสนุนไม่ขึ้น เพราะว่าหลวงพ่อเล็กไม่เอา..!

วัดอื่นเขาอยากเป็นกันมาก เพราะว่าเจ้าอาวาสพระอารามหลวงต้องเป็นเจ้าคุณ ยิ่งหนักเข้าไปอีก..! แค่เป็นพระครู ตูก็แย่แล้ว..! ถ้าเป็นเจ้าคุณ คนคงมาขอความช่วยเหลือยันต่างประเทศโน่นเลย แต่ตอนนี้ต่างประเทศก็เริ่มมาแล้ว เดี๋ยวน่าจะเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๘ ต้องไปช่วยเขาหล่อพระที่ประเทศลาว เขาใจถึงมาก ทำเลียนแบบวัดท่าขนุนทุกอย่างเลย มีหลวงพ่อทองคำ หลวงพ่อนาก หลวงพ่อเงิน โอ้..เศรษฐีลาวนี่ไม่ใช่เรื่องเล็ก เพียงแต่เขาขอต้นตำรับอย่างวัดท่าขนุนไปเป็นประธานช่วยหล่อ
ให้เขาหน่อย..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-08-2024 เมื่อ 02:45
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 17 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 06-08-2024, 00:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ขออาตมาไปนั่งรอบนธรรมาสน์ก่อน พอเขาตีระฆังเสร็จแล้วจะเทศน์ให้ฟัง หลวงพ่อพระพรหมบัณฑิต, ศ.,ดร. ท่านทำกัณฑ์เทศน์มาให้ แต่อาตมาก็ "นอกคอก" ไปเรื่อย คราวที่แล้วเทศน์เรื่องปธานสุจริตคาถาให้กับทาง ป.ป.ช. รศ.ดร.มาณี ไชยธีรานุวัฒศิริ ท่านบอกว่า "หลวงพ่อออกนอกกัณฑ์เทศน์ก็ได้ แต่อย่าไปไกลมากนัก" เอาตามนี้เป็นหลักว่าอย่างนั้น ก็คือถ้าบางอย่างยาวเกิน อาตมาก็มักจะตัดเหลือสั้น ๆ

ตอนนี้เงินบาทไทย ๑ บาท แลกเงินกีบลาวผ่าน Super Rich ได้ ๑,๑๑๐ กีบ คิดดูว่าหลวงพ่อสามองค์ข้างหลังนี้ มูลค่า ๓๐๐ - ๔๐๐ ร้อยล้านบาท ถ้าคูณด้วยพันกว่าเข้าไป จะเป็นเงินลาวเท่าไร ? แต่ยอมรับว่าเศรษฐีลาวเขารวยจริง เจ้าภาพเขาเดินทางมาวัดท่าขนุนหลายครั้งแล้ว ถวายอาตมาไว้ครั้งละล้าน..! ล้านบาทไทยนะ ไม่ใช่ล้านกีบ..!

ตอนแรกก็ไม่รู้หรอก ด้วยความที่อาตมาดูแลคนแก่บ่อย เห็นคนแก่นั่งรถเข็นก็เลยไปช่วยเข็นให้ เขาให้ค่าเข็นมา ๙๙๙,๙๙๙ บาท..! โห..รู้อย่างนี้อยู่หลาย ๆ วันหน่อยนะ จะเข็นให้ทุกวันเลย..! อาตมาเองดูแลคนแก่มาบ่อย ดูแลพ่อ ดูแลแม่ ดูแลหลวงปู่มา ถึงเวลาเห็นคนแก่อยู่บนรถเข็นก็สงสาร จะไปทางไหนบอก..ช่วยเข็นให้ ใครจะไปรู้ว่าเขาให้ค่าเข็นมาเยอะขนาดนั้น เขาขอหมายเลขบัญชี นึกว่าขอไปทำอะไร ขอไปโอนเงินค่าเข็นรถให้..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-08-2024 เมื่อ 02:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 16 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 06-08-2024, 01:00
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

(เริ่มตีกลองระฆัง) เรื่องของกลองระฆังจัดเป็นอนุสติ พอได้ยินแล้วรู้ว่าดังมาจากวัด เรานึกถึงวัดจะนึกถึงอะไรบ้าง..? ถ้ามีพระศักดิ์สิทธิ์ก็เป็นพุทธานุสติ มีหลวงปู่หลวงพ่อที่เราเคารพนับถือก็เป็นสังฆานุสติ เรื่องของพุทธานุสติและสังฆานุสติ เป็นกรรมฐานที่ใหญ่มาก ไม่ได้ปฏิบัติง่าย ๆ นะ นั่งภาวนากันข้ามวันข้ามคืนไม่รู้ว่ากำลังใจจะเกาะบ้างหรือเปล่า..?! แต่นี่เราได้ยินแค่เสียงกลองระฆัง ก็ได้กรรมฐานใหญ่ไปสองอย่างแล้ว

แล้วถ้าไปนึกว่าหลวงปู่สายสอนเราไว้อย่างไร ? ก็ได้ธัมมานุสติ ก็คือพระธรรมคำสอนมาด้วย จำกัณฑ์เทศน์ของหลวงปู่สาย (พระครูสุวรรณเสลาภรณ์) ได้ไหม ? ที่ท่านเทศน์เรื่องของปาก เป็นกัณฑ์เทศน์กัณฑ์เดียวที่มีคนบันทึกเทปไว้ เรื่องของปากท่านบอกเอาไว้ว่า "จะชั่ว จะดี อยู่ที่ปาก มธุภาณี..เป็นคนปากหวาน ปุปผภาณี..เป็นคนปากหอม คูถภาณี..เป็นคนปากเหม็น ก็คือพูดอะไรไม่เข้าหูชาวบ้าน" ใครมีอัดเอาไว้ น่าจะเอามาแปลงไฟล์ เผื่อได้ใช้งานบ้าง

(สามารถฟังหรือดาวน์โหลดไฟล์เสียงพระธรรมเทศนาเรื่องปาก ได้จากเว็บวัดท่าขนุน www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=6824)

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
ปกิณกธรรมช่วงบวชเนกขัมมะปฏิบัติธรรม วันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ๒๕๖๗ ณ วัดท่าขนุน
ก่อนเทศน์เนื่องในวโรกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
เช้าวันอาทิตย์ที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย ทะเล และ นาทาม)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-08-2024 เมื่อ 02:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 19 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 22:49



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว