กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๗ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนสิงหาคม ๒๕๖๗

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 02-08-2024, 18:22
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,946
ได้ให้อนุโมทนา: 225,209
ได้รับอนุโมทนา 800,461 ครั้ง ใน 39,365 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๒ สิงหาคม ๒๕๖๗

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๒ สิงหาคม ๒๕๖๗


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 02-08-2024, 23:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ ๒ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ กระผม/อาตมภาพตรงไปยังวัดวังเย็น หมู่ที่ ๓ ตำบลวังเย็น อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อไปร่วมสรงน้ำศพหลวงพ่อแดง (พระครูปริยัติกาญจนโชติ) อดีตเจ้าอาวาสวัดวังเย็น อดีตเจ้าคณะตำบลบ้านเก่าเขต ๑ ไปถึงแล้วก็ต้องยอมรับว่า หลวงพ่อแดงนั้นเป็นที่รักของทั้งเพื่อนพระสังฆาธิการและชาวบ้านอย่างแท้จริง เนื่องเพราะว่าทั้งพระภิกษุ สามเณรและฆราวาสนับพัน ๆ คนเข้าแถวกันยาวเหยียด

เมื่อกระผม/อาตมภาพก้าวขึ้นไปบนศาลาตั้งศพ พิธีกรก็ขอให้ญาติโยมที่ต่อแถวสรงน้ำศพอยู่หยุดลงชั่วคราว เพื่อให้หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุนได้ถวายน้ำสรงศพก่อน เสร็จสรรพเรียบร้อย กระผม/อาตมภาพก็มอบผ้าไตรและปัจจัยช่วยงานให้แก่พระครูอุปถัมภ์ธรรมวัฒน์ เจ้าคณะตำบลวังเย็น ซึ่งมาดูแลความเรียบร้อยในงานอยู่

ด้วยความที่หลวงพ่อแดงท่านเป็นบุคคลที่พรรคพวกเพื่อนฝูงรักมาก สมัยที่เรียนอยู่ด้วยกัน ตั้งแต่ประกาศนียบัตรบริหารกิจการคณะสงฆ์ ปริญญาตรีพุทธศาสตรบัณฑิต สาขาพระพุทธศาสนา และปริญญาโทพุทธศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการจัดการเชิงพุทธนั้น ด้วยความที่หลวงพ่อแดงท่านมีรถตู้ของวัด จึงมีพรรคพวกเพื่อนฝูงได้อาศัยรถของท่านไปเรียนด้วย และไม่ว่าพรรคพวกเพื่อนฝูงจะอยู่ใกล้ไกลขนาดไหนก็ตาม เมื่อกลับจากการเรียน หลวงพ่อแดงจะวิ่งส่งพรรคพวกเพื่อนฝูงจนครบทุกวัดแล้วถึงได้กลับวัดตัวเอง กว่าจะถึงวัดบางคืนก็ถึงตี ๑ ตี ๒ ก็มี..!

ด้วยเหตุนี้พรรคพวกเพื่อนฝูงจึงรักในน้ำใจของหลวงพ่อแดงเป็นพิเศษ และมาเห็นได้ชัดเจนก็ตอนที่มรณภาพนี่เอง เนื่องเพราะว่าทั้งพระสงฆ์และฆราวาสนั่งกันเต็มศาลาการเปรียญยังไม่พอ ทางด้านล่างที่ทำเป็นโรงจอดรถยาวเหยียดคร่อมถนนอยู่ ก็ยังมีญาติโยมนั่งอยู่เต็มไปหมด

โดยเฉพาะพระเดชพระคุณพระราชวชิรสุตาภรณ์ (พนม รตนาโภ) หรือว่าหลวงพ่อแก้ว เจ้าอาวาสวัดบางช้างเหนือ เจ้าคณะจังหวัดนครปฐม ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่นเรียนกันมาก็ยังอุตส่าห์มาด้วย โดยที่หลวงพ่อแก้วท่านนั่งคุยกับกระผม/อาตมภาพทางด้านหลัง เมื่อเจ้าหน้าที่มานิมนต์ท่านให้ไปนั่งข้างหน้าเพราะว่าเป็นเจ้าคณะจังหวัด ท่านยังบอกว่า "วันนี้ไม่ได้แบกตำแหน่งมา วันนี้มางานของเพื่อน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-08-2024 เมื่อ 02:20
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 02-08-2024, 23:08
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เพื่อนที่เรียนด้วยกันอีกท่านหนึ่งก็คือท่านพระครูสังฆกิจจารักษ์ วัดสิงห์ อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ท่านก็มาร่วมงานด้วย อีกท่านหนึ่งก็คือพระมหามนู ปิยสีโล รองเจ้าอาวาสวัดเขาเม็งอมรเมศร์ เจ้าคณะตำบลปากแพรก ก็เป็นเพื่อนร่วมเรียนกันมาตั้งแต่สมัยประกาศนียบัตรบริหารกิจการคณะสงฆ์ พวกเรายังปรารภกันว่า "หลวงพ่อแดงท่านไปเร็วมาก" แต่โบราณบอกว่าคนที่ไปลักษณะนี้คือคนมีบุญ ไม่มีการเจ็บป่วยทรมานอะไรมากมาย อยู่ ๆ ก็ไปเอาเฉย ๆ

ครั้นเมื่อถึงเวลา บรรดาเจ้าหน้าที่จากกลุ่มพิธีการศพที่ได้รับพระราชทาน สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดกาญจนบุรี ก็มาช่วยกันจัดสถานที่สำหรับเตรียมรับน้ำสรงศพพระราชทาน ครั้นเวลา ๔ โมงตรง ทางเจ้าหน้าที่สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดกาญจนบุรี ได้อัญเชิญน้ำสรงศพพระราชทานมาถึง ทางคณะสงฆ์ซึ่งประกอบด้วย

พระเดชพระคุณพระเทพปริยัติโสภณ, ดร. (ปัญญา วิสุทฺธิปญฺโญ ป.ธ.๙) เจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี

พระเดชพระคุณพระราชวิสุทธาภรณ์ (ทองดำ อิฏฺฐาสโภ ป.ธ.๖) รองเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี วัดพระแท่นดงรังวรวิหาร

ท่านอาจารย์พระมหาวิสูตร วิสุทฺธิปญฺโญ ป.ธ. ๙ รองเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี วัดเทวสังฆาราม

หลวงพ่อเจ้าคุณพระโสภณกาญจนาภรณ์ (ทอมสันต์ จนฺทสุวณฺโณ ป.ธ.๔) รองเจ้าอาวาสวัดไชยชุมพลชนะสงคราม(พระอารามหลวง) รองเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี ก็มากันโดยพร้อมเพรียง พร้อมกับเจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะตำบลและบรรดาพรรคพวกเพื่อนฝูงต่าง ๆ

แม้กระทั่งเพื่อนฝูงที่อยู่ฝ่ายธรรมยุต อย่างเช่นหลวงพ่อยุ้ย - ท่านพระครูโพธิกาญจนธรรม เจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ - สังขละบุรี (ธ) ก็มาถึง ยังปรารภกันว่า "เพิ่งจะคุยกันอยู่เลย ทำไมถึงไปกันไวแท้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-08-2024 เมื่อ 02:22
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 02-08-2024, 23:11
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ครั้นเมื่อสถานที่ทุกอย่างเรียบร้อย นายสมบูรณ์ แผนสมบูรณ์ นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี ก็เป็นประธานในการถวายน้ำสรงศพพระราชทาน แล้วกระผม/อาตมภาพขึ้นรับหน้าที่พิจารณาผ้าไตรบังสุกุล หลังจากนั้นก็เป็นพิธีการแต่งตั้งรักษาการเจ้าอาวาสวัดวังเย็น และรักษาการเจ้าคณะตำบลบ้านเก่าเขต ๑

ในเรื่องของตำแหน่งเจ้าอาวาสก็ดี ตำแหน่งเจ้าคณะตำบลก็ตาม ทางด้านตำแหน่งเจ้าอาวาสนั้นเป็นกำลังใจของญาติโยมในชุมชนทั้งหมด ต่อให้เป็นรักษาการเจ้าอาวาส ก็ต้องหาบุคคลที่ยอมรับของชาวบ้านเขามารับตำแหน่งดูแล จนกว่าที่เจ้าอาวาสตัวจริงจะได้รับการแต่งตั้งมา

ส่วนเจ้าคณะตำบลนั้น มีหน้าที่รับผิดชอบปกครองวัดในเขตตำบลของตนอย่างน้อย ๕ วัด ถ้าหากว่ามีวัดเพิ่มขึ้นมาแล้วยังไม่สามารถจะแยกตำบลใหม่ได้ กระผม/อาตมภาพเคยเจอบางตำบล มีถึง ๙ วัดด้วยกัน..! ด้วยเหตุนี้ตำแหน่งเจ้าคณะตำบลจึงจำเป็นต้องรีบแต่งตั้งรักษาการเอาไว้ก่อน เพื่อที่จะได้ดำเนินหน้าที่ต่าง ๆ ในการดูแลลูกคณะของตนแทนหลวงพ่อแดงที่มรณภาพไป

กระผม/อาตมภาพเมื่อทำหน้าที่ของตนเสร็จสรรพเรียบร้อยแล้วก็เดินทางกลับ โดยที่คิดว่าการมรณภาพหรือว่าการตายของหลวงพ่อแดงนั้นเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุด ว่าการที่อยู่ให้คนรักอาลัย การที่จากไปให้คนเขาคิดถึงโหยหานั้นเป็นอย่างไร เนื่องเพราะว่ารถติดกันแน่นขนัดไปหมด โดยเฉพาะภายในวัดแทบจะหาที่จอดไม่ได้ จำเป็นอย่างยิ่งว่าเมื่อถวายน้ำสรงศพแล้วก็ต้องทยอยกันออก ไม่อย่างนั้นแล้วคนใหม่ก็ไม่สามารถที่จะเข้ามาได้เช่นกัน

กระผม/อาตมภาพได้ไปบรรยายถวายความรู้ให้กับพระนวกะของคณะสงฆ์อำเภอเมืองกาญจนบุรี ที่วันก่อนตอนประชุมพระนวกะนั้นไม่ได้บรรยายถวายความรู้ วันนี้จึงต้องมาชดเชยถวายความรู้ในการปฏิบัติธรรมให้กับท่านทั้งหลายเหล่านั้น โดยที่ใช้วิธีเดียวกันก็คือใครจะมาหรือไม่มาก็ตามใจ กระผม/อาตมภาพก็เล่าประสบการณ์ปฏิบัติธรรมให้ฟังไปเรื่อย อีกไม่นานทุกคนก็ขยับกันมา จากที่นั่งที่ลักษณะ "ฟันหลอ" ก็ค่อย ๆ เต็มขึ้นมาทุกที
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-08-2024 เมื่อ 02:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 02-08-2024, 23:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อย่างที่เคยกล่าวเอาไว้ว่า เมื่อเป็นประธานในการนำปฏิบัติธรรมประจำปีของพระนิสิตวิทยาลัยสงฆ์ต่าง ๆ กระผม/อาตมภาพก็ไม่เคยบังคับให้นิสิตมาปฏิบัติธรรมตามเวลา หากแต่ว่าจะลงไปยังสถานที่ก่อนเวลา แล้วเล่าประสบการณ์ปฏิบัติธรรมบ้าง เรื่องราวต่าง ๆ ที่ได้พบได้เห็นมาบ้าง ใครที่สนใจก็จะมารับฟังกันเอง ท้ายที่สุด เมื่อถึงเวลาตามตารางกำหนด ทุกคนก็มากันครบถ้วนสมบูรณ์โดยที่ไม่ต้องบังคับใคร

โดยเฉพาะวันนี้ กระผม/อาตมภาพเล่าเรื่องที่บรรดาครูบาอาจารย์ท่านไปอบรมที่พม่ามา แล้วทางด้านพม่านั้น วัฒนธรรมของพระภิกษุสามเณรของเขามีอะไรต่างจากเราบ้าง ของเราเองศีลข้อที่ห้ามรับประทานอาหารในเวลาวิกาล เราไปตีความว่าตั้งแต่หลังเที่ยงเป็นต้นไป ส่วนการเข้าบ้านในเวลาวิกาลโดยไม่บอกลาแล้วจะต้องอาบัติ เราไปตีความว่าเป็นเวลาตะวันตกดินไปแล้ว

แต่ทางพม่านั้น เขาตีความเท่ากันว่าเวลาวิกาลคือตะวันตกดินไปแล้ว ดังนั้น..เวลา ๔ โมง ๕ โมงเย็น พระพม่าจึงฉันอาหารกันเป็นปกติ เพราะถือว่าตะวันยังไม่ตกดิน โดยเฉพาะร้านอาหารต่าง ๆ จะมีห้องที่จัดสรรเอาไว้สำหรับพระโดยเฉพาะ ไม่ต้องนั่งปะปนกับฆราวาส เมื่อถึงเวลาถ้าพระเดินเข้าไป เขาก็จะนิมนต์เข้าไปในส่วนที่กันพื้นที่เอาไว้ แล้วต้องการอาหารชนิดไหนก็บอกได้เลย เขาจะรีบเอามาประเคนให้

ในส่วนนี้จะเห็นได้ว่าการตีความพระธรรมวินัยนั้น ของบ้านเรามีบางส่วนที่ลักลั่นกัน แต่ของพม่านั้นตีความในลักษณะเท่าเทียมกัน ก็คือวิกาลแปลว่าหลังพระอาทิตย์ตกดิน แต่เราท่านจะไปตีความพระวินัย โดยที่ไม่ได้มองจารีตประเพณีก็ไม่ได้

เพราะว่าจารีตประเพณีบ้านเรานั้น ถ้าหากว่าพระภิกษุสามเณรฉันอาหารในเวลาวิกาล คือตั้งแต่หลังเที่ยงไปแล้ว โทษทางสังคมมีสูงมาก ทั้ง ๆ ที่โทษทางพระโดนอาบัติปาจิตตีย์ สามารถที่จะปลงอาบัติหรือว่าแสดงคืนได้ โดยที่มีสัญญาว่าเราจะไม่คิดเช่นนี้อีก เราจะไม่พูดเช่นนี้อีก เราจะไม่ทำเช่นนี้อีก เป็นต้น แต่ว่าชาวบ้านเขามองเหมือนอย่างกับเราต้องอาบัติปาราชิก เพราะว่าไม่สามารถที่จะหักห้ามปากของตนเองได้ ก็จะเกิดการหวาดระแวงว่าแล้วศีลอื่น ๆ จะหักห้ามได้หรือ ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-08-2024 เมื่อ 02:25
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า 02-08-2024, 23:21
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น อีกส่วนหนึ่งเราก็ต้องเอาหลักธรรมในพระพุทธศาสนาเข้ามาจับด้วย ก็คือในส่วนของอปัณณกปฏิปทา คือปฏิปทาที่พระภิกษุสามเณรปฏิบัติแล้วจะไม่ผิดแน่นอน ก็คือ โภชเนมัตตัญญุตา ต้องรู้จักประมาณในการกิน ไม่ใช่ตามใจปากของตนเองอย่างเดียว

บุคคลที่ฉันอาหารมาก ถึงเวลาร่างกายหนักด้วยอาหาร ก็มักจะง่วงซึม ขาดสติ ปฏิบัติธรรมก็ไปไม่รอด ดังนั้น..ถ้าหากว่าผ่อนอาหารลงให้เหมาะสมกับธาตุขันธ์ของตน อย่างเช่นว่าไม่เกิน ๒ มื้อ หรือว่าท่านใดที่เคร่งครัด รับประทานแค่มื้อเดียวก็จบกันไปเลยได้ก็ยิ่งดี ร่างกายที่ไม่หนักด้วยสารอาหาร เลือดลมโปร่งเบา เดินคล่อง ภาวนาอย่างไรจิตใจก็สงบทรงตัวได้รวดเร็ว

ในเรื่องของการตีความพระวินัยจึงไม่ใช่การตีความในลักษณะเสมอกันแบบประเทศพม่าแล้วจะจบ แต่ว่าท่านทั้งหลายต้องดูด้วยว่า หลักธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นอย่างไร พูดง่าย ๆ ว่าศึกษาก็ต้องศึกษาให้รอบด้าน ไม่ใช่ตีความเอาตรง ๆ แล้วก็วิ่งตรงไปตามที่เราตีความเหมือนอย่างกับ "เถรตรง" โอกาสที่จะผิดพลาดเดือดร้อนก็ย่อมจะมีจนได้

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันศุกร์ที่ ๒ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-08-2024 เมื่อ 02:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 22:47



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว