กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๗ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนกรกฎาคม ๒๕๖๗

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 31-07-2024, 20:03
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,936
ได้ให้อนุโมทนา: 225,200
ได้รับอนุโมทนา 800,228 ครั้ง ใน 39,355 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๖๗

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๖๗


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 31-07-2024, 23:21
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,270 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพุธที่ ๓๑ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ หวังว่าคงไม่มีใครเจ็บไข้ได้ป่วย สมัยที่กระผม/อาตมภาพอยู่ดูแลหลวงปู่มหาอำพัน - ท่านเจ้าคุณพระภาวนาปัญญาวิสุทธิ์ (อำพัน อาภรโณ บุญ-หลง) ที่วัดเทพศิรินทราวาส ถ้าท่านเปียกฝนกลับมา ท่านจะเอาน้ำล้างศีรษะทุกครั้ง ท่านบอกว่าพ่อแม่สอนเอาไว้ คล้ายกับว่าถ้าล้างน้ำฝนออกไปแล้วจะไม่เป็นหวัด..ประมาณนั้น ส่วนกระผม/อาตมภาพเอง ถนัดในเรื่องกลับมาเปลี่ยนผ้าเปลี่ยนผ่อนที่เปียกแล้วก็ฉันยามากกว่า

สำหรับวันนี้ที่เดินทางไปก็คือไปเยี่ยมการปฏิบัติธรรมของพระนวกะในอำเภอต่าง ๆ มีของอำเภอหนองปรือ จัดที่วัดห้วยหวาย หมู่ที่ ๓ ตำบลหนองปลาไหล อำเภอหนองปรือ จังหวัดกาญจนบุรี ส่วนของคณะสงฆ์อำเภอพนมทวน อำเภอบ่อพลอย อำเภอท่ามะกา อำเภอเลาขวัญ และอำเภอห้วยกระเจา จัดรวมกันที่วิทยาลัยสงฆ์กาญจนบุรีศรีไพบูลย์

ความจริงในแต่ละสถานที่เขามีพระวิปัสสนาจารย์คอยให้คำแนะนำ และนำในการปฏิบัติอยู่แล้ว แต่ว่าบรรดาพระวิปัสสนาจารย์นั้น ส่วนใหญ่แล้วจบปริญญาโท หรือปริญญาเอกสาขาวิปัสสนาภาวนามา ก็มักจะ "แก่วิชา" ก็คือบรรยายเนื้อหาวิชาการที่พระใหม่ฟังไม่รู้เรื่อง พูดง่าย ๆ ว่าถ้าไม่โดนบังคับให้มาปฏิบัติธรรม ก็คงจะหนีกลับวัดกันหมดแล้ว..! ที่กระผม/อาตมภาพไป ก็เพื่อที่จะพูดให้พระใหม่เขาเข้าใจว่า การปฏิบัติธรรมนั้นมีอานิสงส์อย่างไร เราที่เป็นพระใหม่ ถ้าปฏิบัติไปแล้วจะได้อะไรบ้าง โดยใช้ภาษาง่าย ๆ และยกตัวอย่างให้เห็นอย่างชัดเจน

เรื่องพวกนี้จะโทษบรรดาพระวิปัสสนาจารย์ทั้งหลายเหล่านั้นก็ไม่ได้ แม้กระทั่งตอนที่ยังสอนหนังสืออยู่ที่วิทยาลัยสงฆ์พุทธปัญญาศรีทวารวดีก็ดี วิทยาลัยสงฆ์สุพรรณบุรีศรีสุวรรณภูมิก็ตาม กระผม/อาตมภาพต้องรับหน้าที่ประธานพระวิปัสสนาจารย์ทุกครั้ง ซึ่งความจริงถ้าตามตำแหน่งที่แต่งตั้งไว้ก็คือรองประธานพระวิปัสสนาจารย์ โดยมีท่านเจ้าคุณอาจารย์พระศรีวิสุทธิวงศ์, ดร. (สุวิทย์ ปวิชฺชญฺญู ป.ธ.๙) เป็นประธานในการนำปฏิบัติธรรม แต่ท่านมักจะถวายหน้าที่ให้กระผม/อาตมภาพทำแทน

เนื่องเพราะว่าบรรดาผู้ที่เข้าปฏิบัติธรรมนั้นก็คือนิสิต ไม่ว่าจะเป็นระดับประกาศนียบัตร ปริญญาตรี ปริญญาโท จนถึงปริญญาเอก เขาทั้งหลายเหล่านี้ล้วนแล้วแต่มาเพราะหลักสูตรบังคับ ไม่ได้มาเพราะความศรัทธาในการปฏิบัติโดยตรง ส่วนบรรดาพระวิปัสสนาจารย์นั้นไปเรียนปริญญาโทวิปัสสนาภาวนา หรือว่าเรียนปริญญาเอกวิปัสสนาภาวนาด้วยความศรัทธาเฉพาะตัว แล้วก็เอากำลังใจของตัวเองไปเทให้กับนิสิตที่โดนหลักสูตรบังคับมา พูดง่าย ๆ ว่าทำให้ยากที่สุดเท่าที่จะยากได้ เหมือนกับที่ตัวเองโดนมา แล้วท่านทั้งหลายคิดว่าบรรดานิสิตทั้งหลายจะยอมทำตามโดยดีหรือไม่ ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-08-2024 เมื่อ 01:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 25 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 31-07-2024, 23:33
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,270 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลายครั้งที่กระผม/อาตมภาพมีธุระ ทำให้ไปถึงสถานที่ปฏิบัติธรรมช้า พอไปถึงครูบาอาจารย์ก็แห่มาฟ้องว่าบรรดานิสิตดื้อแบบนั้น ดื้อแบบนี้ นิสิตก็แห่มาล้อมครูบาอาจารย์ไว้อีกชั้นหนึ่ง บอกว่าครูบาอาจารย์สอนผิดวิธี ไม่เหมือนกับที่พระอาจารย์เล็กสอน ก็คือสอนให้ยากที่สุดเท่าที่จะยากได้ บางครั้งกระผม/อาตมภาพรำคาญ ก็ไล่เตลิดเปิดเปิงไปทั้งอาจารย์ทั้งลูกศิษย์ บอกว่าเดี๋ยวจะ "เคลียร์" ให้เอง..!

โดยเฉพาะวิทยาลัยสงฆ์สุพรรณบุรีศรีสุวรรณภูมินั้น กระผม/อาตมภาพบางทีก็ไปวางแบบให้เขาเป็นเวลา ๓ วัน ๔ วัน แล้วก็ให้เขาปฏิบัติกันเอง ก็คือให้พระวิปัสสนาจารย์ที่เหลืออยู่ทำตามแบบที่กระผม/อาตมภาพได้วางเอาไว้ แล้วตนเองก็เดินทางไปงานของตน ยังไปได้ไม่เท่าไรเพื่อนฝูงก็โทรมา บอกว่า "ตอนนี้เละเป็นขี้แล้วครับ นิสิตลุกขึ้นด่าพระวิปัสสนาจารย์กลางศาลาปฏิบัติธรรมเลย..!" ถามว่า "ทำไม ?" เขาบอกว่า "อาจารย์ผู้รับผิดชอบ แทนที่จะทำตามที่พี่เล็กวางแบบไว้ กลับไปโทรศัพท์ขออาจารย์จากส่วนกลางที่จบปริญญาโทวิปัสสนาภาวนามานำ ก็บรรลัยละครับท่าน..!"

หลายท่านที่เคยปฏิบัติธรรมในส่วนที่กระผม/อาตมภาพนำนิสิตปฏิบัติธรรม จะเห็นว่ากระผม/อาตมภาพไม่เคยบังคับให้นิสิตมาตามเวลา เริ่มปฏิบัติธรรมตี ๓ ก็ลงไปตั้งแต่ตี ๒ ครึ่ง เล่าประสบการณ์ปฏิบัติธรรมไปเรื่อย ๆ คนที่อยากฟังก็ค่อย ๆ มาเอง พอถึงเวลาปฏิบัติธรรมตอนตี ๓ ทุกคนมาพร้อมแล้ว ไม่เห็นต้องไปบังคับให้มาเลย

หลังจากนั้นพอเริ่มกรรมฐาน ก็จะใช้วิธีการสอนแบบที่นำผู้ปฏิบัติธรรมที่วัดเรา เพราะว่าช่วงเช้าเป็นช่วงที่สำคัญที่สุด ถ้ากำลังใจสงบระงับลงได้ก็จะอยู่สบายไปทั้งวัน ในเมื่อทุกคนรับไปเต็มที่ในช่วงเช้า เวลาที่เหลือก็จะมีความสุขอยู่กับอารมณ์ใจของตนเอง ใครจะเป็นครูบาอาจารย์นำปฏิบัติตอนนั้น เขาก็ไม่ว่าแล้ว

เรื่องพวกนี้กระผม/อาตมภาพก็ทำให้ดูหลายต่อหลายปี โดยบอกกล่าวกับท่านทั้งหลายเหล่านั้นอย่างชัดเจนว่า กระผม/อาตมภาพไม่มีเวลามาดูแลให้ทุกปี ให้ศึกษาแนวทางแบบนี้เอาไว้แล้วทำตาม ก็จะได้ผลเหมือนกัน แต่ปรากฏว่าแต่ละท่านถนัดแต่วิธีการและแนวทางของตนเอง ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เวรกรรมก็ไปตกอยู่กับนิสิต แต่ว่าบรรดานิสิตก็ยังดี โดยเฉพาะปริญญาตรีอย่างน้อยก็เรียนอยู่ ๔ ปี พูดง่าย ๆ ว่าผ่านกรรมฐานประจำปีมาหลายหน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-08-2024 เมื่อ 01:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 26 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 31-07-2024, 23:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,270 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แต่บรรดาพระนวกะเพิ่งจะบวช แล้วก็ไม่ได้บวชด้วยศรัทธา บวชตามประเพณีบ้าง บวชแก้บนบ้าง บวชด้วยเหตุผลต่าง ๆ กันไป บรรดาพระเถระทั้งหลายก็เห็นว่า "บวชมาแล้วอย่าให้เสียเปล่า" จึงจัดให้มีโครงการอบรมกรรมฐานขึ้นมา แล้วก็ไปเจอพระวิปัสสนาจารย์แบบโหดที่ว่า แล้วคิดว่าบรรดาพระนวกะจะได้ประโยชน์อะไรจากการปฏิบัติธรรม ? นอกจากมองโลกในแง่ร้าย ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องมาทนทำเรื่องพวกนี้ด้วย

โดยเฉพาะต้องมาทนฟังสารพัดเรื่อง ที่เป็นภาษาซึ่งตนเองไม่เข้าใจ อย่างเช่นว่าอารมณ์อัพยากฤตเป็นอย่างไร ? นามรูปปริจเฉทญาณเป็นอย่างไร ? ปัจจยปริคคหญาณเป็นอย่างไร ? กระผม/อาตมภาพฟังเองยังจะบ้า..!

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ที่ต้องลำบากเดินทางไปไกล ๆ ทีหนึ่ง ๒๐๐ กว่ากิโลเมตร ไปกลับก็ ๔๐๐ - ๕๐๐ กิโลเมตร ก็เพื่ออนุเคราะห์สงเคราะห์บรรดาพระใหม่ อย่างน้อย ๆ ก็ได้แนวทางที่ถูกต้องไป ถ้ารู้จัก "เอาหูไปนาเอาตาไปไร่" พระวิปัสสนาจารย์จะสอนอย่างไร เราก็ปฏิบัติตามแนวทางที่ได้ไปก็จบแล้ว..!

ดังนั้น..บางท่านจะเห็นว่า แม้จะเปียกปอนมาจากการบิณฑบาต ถ้าไม่มาลาเรียขึ้นก็ตะคริวจะรับประทาน แต่กระผม/อาตมภาพก็ต้องรีบเดินทางไปหลังจากที่เปลี่ยนผ้าเปลี่ยนผ่อนเรียบร้อยแล้ว เพราะว่าแต่ละอำเภอมีพระบวชใหม่ไม่ใช่น้อย ๆ ถ้าเขาทั้งหลายเหล่านั้นสามารถอยู่ต่อได้ ต่อให้มีสัก ๕ เปอร์เซ็นต์ก็ยังดี
ท่านทั้งหลายเหล่านี้เมื่อได้แนวทางที่ถูกต้องไป ปฏิบัติแล้วมีผล เกิดความเลื่อมใสศรัทธาบวชต่อขึ้นมา เราก็จะได้พระภิกษุสงฆ์เอาไว้สืบทอดพระพุทธศาสนา แต่ถ้ารำคาญแทบจะหนีกลับวัดตั้งแต่วันแรก ก็แปลว่าโครงการต่าง ๆ ที่ทุ่มเทงบประมาณลงไปนั้น ทำไปก็ไร้ประโยชน์ แถมยังทำให้เขามองในแง่ร้ายอีกด้วย..!

เรื่องพวกนี้ถ้ามีโอกาส กระผม/อาตมภาพก็จะพูดในที่สัมมนา หรือว่าได้รับนิมนต์ให้ไปบรรยายก็จะกล่าวถึงเสมอ แต่ว่ากระทบกระทั่งผู้อื่น บางครั้งลงมากราบพระเดชพระคุณพระธรรมวชิรานุวัตร, ดร. (แย้ม กิตฺตินฺธโร) เจ้าคณะภาค ๑๔ ว่าขออภัยที่พูดแรงแล้วกระเทือนถึง ท่านบอกว่า "มึงรู้จริงก็พูดไป แต่อย่าให้กระเทือนเจ้านายมากนัก"

จะว่าไปแล้ว ผู้บังคับบัญชาอย่างหลวงพ่อเจ้าคุณแย้มท่านไม่ได้หาง่าย ๆ ก็คือทำอะไรกระทบกระเทือน ท่านโกรธท่านก็ด่าตรงนั้นแล้วก็จบเลย ไม่มีการมาอาฆาตแค้นกัน ลงมาขอขมาตรงนั้นก็เป็นอันว่าจบกัน ไอ้ที่มึงด่ากูก็ "เจ๊า" กันไป ถ้ามีผู้บังคับบัญชาระดับนี้ กระผม/อาตมภาพก็ยังพอที่จะสร้างประโยชน์ให้กับคณะสงฆ์ในเรื่องปฏิบัติธรรมได้อีกมาก แต่ถ้าเปลี่ยนตัวเมื่อไร ก็ไม่รู้ว่าจะโดน "แป้ก" ถอดออกจากตำแหน่งเมื่อไร..?!

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพุธที่ ๓๑ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-08-2024 เมื่อ 01:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 02:17



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว