กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๗ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนกรกฎาคม ๒๕๖๗

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 22-07-2024, 16:48
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,938
ได้ให้อนุโมทนา: 225,208
ได้รับอนุโมทนา 800,447 ครั้ง ใน 39,357 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๖๗

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๖๗


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 22-07-2024, 23:23
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,541 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ ๒๒ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ กระผม/อาตมภาพต้องเดินทางไปยังวัดไตรมิตรวิทยาราม วรวิหาร เพื่อทำการปลุกเสกวัตถุมงคล ประกอบด้วยพระกริ่งสมปรารถนาและเหรียญสมปรารถนา ให้กับพระครูต้น ซึ่งแต่เดิมนั้นคือพระครูสังฆกิจพิมล แต่ว่าปัจจุบันนี้ไม่ทราบเหมือนกันว่ามีการเปลี่ยนแปลงสมณศักดิ์ไปหรือไม่ ? เพราะเรียกกันว่า "พระครูต้น" มาโดยตลอด

เมื่อไปถึงปรากฏว่าหาสถานที่จอดรถยากมาก ถ้าไม่ใช่บารมีพระครูต้นเจ้าของงานแล้ว คาดว่าอาจจะโดนอัปเปหิออกจากวัดไปเลย..! เนื่องเพราะว่าจากปกติที่นักท่องเที่ยวจำนวนมากเข้าไปกราบสักการะหลวงพ่อทองคำแล้ว วันนี้ยังเป็นวันที่เจ้าคณะพระสังฆาธิการทั้งหลาย ได้มากราบถวายสักการะพระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (สนิท ชวนปญฺโญ, ป.ธ. ๙) เจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม วรวิหาร กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก และพระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (ธงชัย ธมฺมธโช) กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนกลาง รถทั้งหลายจึงแน่นไปหมด..!

กระผม/อาตมภาพลงมาได้ก็เข้าสู่อุโบสถ กราบพระประธาน รอจนกระทั่งพระครูต้นท่านจัดเครื่องบวงสรวงเรียบร้อยแล้ว จึงจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย แล้วทำการอธิษฐานจิตปลุกเสกวัตถุมงคลรุ่นนี้ให้กับพระครูต้น

นอกจากการกราบขอบารมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย ครูบาอาจารย์ทั้งหลายสืบ ๆ กันมา มีหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค และหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุงเป็นที่สุดแล้ว ยังกราบเท้าขอให้พระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณหลวงปู่ไสว - พระวิสุทธาธิบดี (ไสว ฐิตวีรมหาเถร ป.ธ. ๗) อดีตเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม วรวิหาร ซึ่งเคยแผ่บารมีปกเกศปกเกล้าชาววัดท่าซุงในสมัยที่ยังมีชีวิตอยู่มาด้วย ท่านเจ้าคุณหลวงปู่เป็นพรหมสวยงามเหลือเกิน มาแล้วยังยิ้มแย้มแจ่มใสอารมณ์ดีเหมือนเดิม

พอดีทิดเฟิร์ส (นายบัณฑิต เอี่ยมตระกูล) เอาพระราหูของทางล้านนามายัดใส่มือในลักษณะขอให้เสกเพิ่ม กระผม/อาตมภาพที่กำลังตั้งใจภาวนาบทสรรเสริญคุณพระรัตนตรัยคือ อิติปิ โสฯ สวากขาโตฯ สุปฏิปันโนฯ ๓ ห้อง ตั้งใจให้ได้ ๑๕ จบตามกำลังวันจันทร์ก็เลยสะดุ้ง เนื่องเพราะว่าพ่อเจ้าประคุณราหูที่เคยแสดงวีรกรรมวีรเวรมาหลายครั้งแล้ว พอเห็นเข้าก็ทำท่าฮึ่ม ๆ เข้าใส่ เล่นเอาจันทรเทพบุตรเจ้าของกำลังวัน ทำท่าจะเฉาะหัวกบาลจอมอสูรด้วยพระขรรค์ที่ถืออยู่ในมือ..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-07-2024 เมื่อ 00:35
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 22-07-2024, 23:29
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,541 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

กระผม/อาตมภาพจึงต้องเป็นผู้ห้ามทัพ บอกว่าตอนนี้กำลังกราบขอบารมีคุณพระศรีรัตนตรัย โดยเฉพาะองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถ้าพี่น้องยังอยากจะทะเลาะกัน จะให้ "พ่อใหญ่" ฟาดก้นด้วยไม้เรียวเสียให้เข็ด ทั้งสองท่านที่กำลังแสดงโขนแสดงละครอย่างสนุกสนาน ก็เลยต้องจ๋อย..หน้าม่อยไปตามระเบียบ

จะว่าไปแล้วทั้งสองท่านนี้ กระผม/อาตมภาพก็คุ้นเคยมานาน โดยเฉพาะท่านราหูนั้น ได้ช่วยเหลือการงานกระผม/อาตมภาพทั้งในประเทศและต่างประเทศมาหลายครั้งแล้ว โดยเฉพาะในครั้งที่เดินทางไปดูงานร่วมกับนิสิตปริญญาเอก ของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ถ้าหากว่าไม่ได้ท่านช่วยไว้ในครั้งนั้น ก็อาจจะถึงขนาดมรณภาพไปแล้ว..!

เพราะว่าได้รับนิมิตเห็นว่าเครื่องบินที่นั่งไปตก แล้วก็ไม่ทราบว่าตนเองเป็นหรือตาย ? เพราะเห็นลักษณะเหมือนกับภาพมุมสูงที่ถ่ายจากโดรน เห็นแต่ว่าเครื่องบินโดนคลื่นซัดไปเกยชายฝั่งแห่งหนึ่ง แล้วขากลับก็เจอสภาพอากาศเลวร้าย เครื่องบินร่อนขึ้นร่อนลงในลักษณะตกหลุมอากาศ แล้วโดนโยนขึ้นด้วยแรงลมพายุ..!

พอดีท่านราหูซึ่งตามมาดูแลรักษา ใช้วิธีอมเครื่องบินทั้งลำเอาไว้ในปาก กระผม/อาตมภาพยังบ่นว่า "ไม่ทันจะแปรงฟันเลย อ้าปากอมเข้ามาได้..!" ท่านยังเถียงว่า "ท่านก็ไม่ได้แปรงฟันเหมือนกันแหละ..!" กระผม/อาตมภาพก็เถียงไม่ออก คนนั่งหลับมาตลอดทาง แล้วอยู่ ๆ เจออากาศแปรปรวน ใครจะไปล้างหน้าแปรงฟันก่อนวะ..?! ที่รอดมาได้ด้วยความอนุเคราะห์สงเคราะห์ของท่าน จากนั้นท่านก็เลยกลายเป็นขาประจำของวัดท่าขนุนไป

ท้ายที่สุด พอถึงเวลามีผู้หนึ่งผู้ใดที่ส่งเอาบรรดาวัตถุไสยศาสตร์มา มักจะกลายเป็นอาหารว่างให้พ่อจอมอสูรกินเล่นไปเสียอย่างนั้น กระผม/อาตมภาพจึงอยู่ในฐานะลอยตัว ใครก็ตามที่อยากรู้อยากลองว่า "หลวงพ่อเล็กหรือพระอาจารย์เล็กเก่งกาจขนาดไหน ? จึงบังอาจเป่ายันต์เกราะเพชร..!" ได้ทำการส่งสิ่งต่าง ๆ มาให้ ต้องบอกว่าเสียเวลาเปล่า เพราะพ่อเจ้าประคุณยังบ่นว่าไม่พอให้กินเสียด้วยซ้ำไป..!

เมื่อพี่น้องเลิกทะเลาะกัน กระผม/อาตมภาพค่อยกำหนดจิตดู เห็นองค์พระประธานในพระอุโบสถขยายจนกระทั่งเต็มกองวัตถุมงคล พอพระท่านบอกว่า "เต็มทุกอย่างแล้ว" จึงได้ถอนจิตออกมา ทำการพรมน้ำหอมถวายเป็นพุทธบูชา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-07-2024 เมื่อ 00:40
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 22-07-2024, 23:35
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,541 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ทางพระครูต้นขอให้เจิมรูปพระพิราพ ซึ่งมีทั้งหน้ากากโขนพระฤๅษี และหน้ากากโขนพระพิราพที่งดงามมาก ๆ อยู่ด้วย กระผม/อาตมภาพนั้นเกรงใจพ่อปู่พระฤๅษีเป็นอย่างยิ่ง เนื่องเพราะว่าพ่อปู่พระฤๅษีทั้ง ๑๐๘ องค์นั้น บางองค์ก็เข้าสู่พระนิพพานไปแล้ว หลายองค์ก็เป็นพรหมชั้นอนาคามี จึงบอกว่า "ขอเจิมแค่ฐานองค์พระพิราพก็แล้วกัน"

พระพิราพนั้นจะว่าไปแล้ว ทางด้านบ้านเราเมืองเราถือว่าเป็นครูแห่งนาฏศิลป์และดนตรีกาลทั้งปวง แต่ถ้าหากว่าเป็นทางประเทศเนปาล ก็ต้องยกให้เจ้าแม่นภิสราเทวี เจ้าแม่หลักเมืองของเนปาล ซึ่งเคยบอกเอาไว้ว่า ถ้าหากว่าใครบนบานศาลกล่าวเจ้าแม่ไภรวะ ก็เป็นอันว่าเสร็จท่านไปด้วย เพราะว่าท่านรับหน้าที่เป็นหนึ่งในหลาย ๆ ตำแหน่งที่นั่น คำว่าไภรวะ พอเขียนแปลงเป็นภาษาไทยก็ออกมาว่าพิราพ ซึ่งเป็นปางหนึ่งของพระศิวะนั่นเอง

แต่ถ้าว่ากล่าวกันตามแบบที่กระผม/อาตมภาพเข้าใจ พระศิวะก็คือท่านปู่พระอินทร์นั่นเอง เพียงแต่ว่าเทพเจ้าของชาวฮินดูนั้น ได้รับการสถาปนาหรือแต่งตั้งขึ้นมาโดยอาศัยกิเลสมนุษย์ล้วน ๆ..! จึงทำให้เทพเจ้าของฮินดูค่อนข้างจะ "ดาร์ก" อยู่สักหน่อย ก็คือบางทีการประพฤติปฏิบัติก็ไม่ได้อยู่กับร่องกับรอยให้สมกับเป็นเทวดาที่ได้ชื่อว่าผู้ประเสริฐเลย..!

จึงทำให้เห็นชัด ๆ เลยว่า ในด้านของเทวตานุสตินั้น ศาสนาพุทธของเราแยกแยะได้ชัดเจนที่สุด ก็คือถ้าหากว่าเป็นเทวดาในระดับต่ำ ที่เรียกว่ารุกขเทวดาก็ดี ภุมมเทวดาก็ดี ทั้งหลายเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ยังต้องพึ่งพาบุญกุศลจากพวกเราที่อุทิศไปให้ เพื่อว่าความดีครบถ้วนสมบูรณ์ หรือว่าเต็มแล้ว ท่านก็จะได้เลื่อนภพภูมิขึ้นไปเป็นอากาสเทวดา หรือที่เรียกกันภาษาไทยง่าย ๆ ว่าอากาศเทวดา

อากาสเทวดาทั้ง ๖ ชั้นนั้นก็มีพระอริยเจ้าปนเปอยู่ด้วย ก็คือบางพวกเป็นพระโสดาบันบ้าง บางพวกเป็นพระสกทาคามีบ้าง บางพวกเป็นพระอนาคามีบ้าง โดยเฉพาะท่านที่เป็นอนาคามีนั้น โดยปกติแล้วจะต้องอยู่สุทธาวาสพรหม แต่ว่าพระอนาคามีที่เจอนั้น ท่านบอกว่าท่านอยากจะอยู่แค่นี้ เพราะว่ามีเพื่อนที่รักใคร่นับถือกันอยู่ที่นี่ ในเมื่อบุคคลที่มีเงินแต่อยากจะอยู่กระต๊อบ เราก็ไม่สามารถที่จะขัดได้ แต่ถ้าหากว่าคนไม่มีสตางค์ อยากจะอยู่พระราชวัง ก็คงเป็นไปไม่ได้เหมือนกัน..!

เพียงแต่ว่าเทวดาของเรานั้นจะต้องมีศีล ๕ บริสุทธิ์เป็นอย่างน้อย และประกอบไปด้วย หิริ -โอตัปปะ คือความละอายชั่วกลัวบาป ไม่เช่นนั้นแล้วก็ไม่สามารถที่จะเกิดเป็นเทวดาได้ หรือว่าเกิดมาด้วยบุญอื่นๆ แล้วก็ตาม ก็จะต้องเป็นผู้มีศีลและมี หิริ -โอตัปปะไปโดยอัตโนมัติ ไม่เช่นนั้นถ้าหากว่าไปล่วงละเมิดสิ่งหนึ่งประการใดเข้า ก็จะสูญเสียกายทิพย์ไป แล้วทำให้ต้องจุติ คือเคลื่อนไปสู่ภพภูมิที่ต่ำกว่า ซึ่งมีแต่ความทุกข์ยาก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-07-2024 เมื่อ 00:43
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 22-07-2024, 23:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,541 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ส่วนเทวดาระดับกลางแล้ว นอกจากจะมีศีลและ หิริ -โอตัปปะแล้ว ยังต้องเจริญฌานสมาบัติให้ได้ในระดับใดระดับหนึ่ง ตั้งแต่ปฐมฌานหยาบไปจนถึงฌาน ๔ ละเอียด ท่านก็จะเกิดเป็นรูปพรหมชั้นใดชั้นหนึ่ง โดยที่จำกัดอยู่แค่ ๑๑ ชั้นแรก เนื่องเพราะว่ารูปพรหมชั้นที่ ๑๒ ถึงชั้นที่ ๑๖ นั้น เว้นไว้สำหรับพระอนาคามีที่รอการบรรลุเป็นพระอรหันต์เท่านั้น แล้วแต่ว่าท่านจะเป็นพระอนาคามีประเภทไหน

ส่วนอีกประเภทหนึ่งของเทวดาชั้นกลางนั้น เขาเรียกว่าอรูปพรหม ท่านทั้งหลายเหล่านี้จะว่าไปแล้วก็น่าสงสาร เนื่องเพราะว่าเคยชินกับการฝึกฝนอรูปฌาน จนกระทั่งร่างกายหมดอายุขัย ตายลงไปโดยที่ไม่ได้ถอดจิตเลื่อนออกมาสู่ระดับรูปฌาน จึงทำให้ต้องไปเกิดในสถานที่ซึ่งมีแต่ดวงจิตล้วน ๆ ไม่รับรู้สิ่งหนึ่งประการใด เสวยสุขอยู่ในความสงบระงับ จนกระทั่งหมดอายุขัย ก็ต้องจุติลงสู่ที่ต่ำ แล้วแต่เวรแต่กรรมที่สร้างมา..!

ส่วนเทวดาระดับสูงสุดนั้นก็คือวิสุทธิเทพ คือเทวดาผู้บริสุทธิ์สิ้นเชิงจากกิเลสแล้ว ได้แก่ พระอรหันต์ พระปัจเจกพุทธเจ้า ตลอดถึงพระพุทธเจ้าทั้งปวงนั่นเอง ท่านทั้งหลายเหล่านี้ถ้าไม่ใช่บำเพ็ญบารมีมาเพื่อบรรลุอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ หรือว่าตรัสรู้เองแล้วไม่ต้องการสอนใคร ก็ต้องปฏิบัติตามคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ใดพระองค์หนึ่ง สามารถตัดกิเลสที่ร้อยรัดทั้ง ๑๐ ประการ ซึ่งเรียกว่าสังโยชน์ได้หมดสิ้น สร้างบารมี ๑๐ ได้ครบถ้วนสมบูรณ์ สภาพจิตไม่ติดในสุข ไม่กังวลในทุกข์ วางเฉยต่อสิ่งทั้งปวงที่มากระทบ ยอมรับว่าเป็นกฎของกรรม ในเมื่อสภาพจิตไม่ยึดไม่เกาะอะไรก็กลายเป็นเทวดาชั้นสูงสุด เป็นเทวดาพิเศษที่เรียกว่าวิสุทธิเทพ คือเทวดาผู้บริสุทธิ์โดยสิ้นเชิงนั่นเอง

ดูบรรดาเทวดาท่านเล่นโขนเล่นละครกันสนุกสนาน แถมยังต้องทำตัวเป็นกรรมการ ด้วยการยกองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไว้เหนือเศียรเหนือเกล้าแล้วเข้าไปห้ามทัพ เนื่องเพราะว่าทั้งสองฝ่ายต่างก็เคยทำประโยชน์ให้กับกระผม/อาตมภาพมาด้วยกันทั้งคู่ จนกระทั่งเสร็จพิธีเรียบร้อย รับปัจจัยไทยธรรมแล้ว พระครูต้นก็นำไปเพื่อถวายสักการะหลวงพ่อสมเด็จทั้งสององค์ แต่ปรากฏว่าหลวงพ่อสมเด็จฯ หนตะวันออกนั้น ท่านออกไปธุระเสียก่อนในช่วงพิธีพุทธาภิเษก จึงได้เข้าไปสักการะหลวงพ่อสมเด็จฯ หนกลาง หลังจากนั้นก็เดินทางกลับสู่ที่พัก รอที่จะทำหน้าที่อื่น ๆ ต่อไป

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันจันทร์ที่ ๒๒ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-07-2024 เมื่อ 00:45
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 45 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 21:12



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว