กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๗ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนกรกฎาคม ๒๕๖๗

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 19-07-2024, 20:03
พิชวัฒน์'s Avatar
พิชวัฒน์ พิชวัฒน์ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Aug 2014
ข้อความ: 500
ได้ให้อนุโมทนา: 3,308
ได้รับอนุโมทนา 24,997 ครั้ง ใน 988 โพสต์
พิชวัฒน์ is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๑๙ กรกฎาคม ๒๕๖๗

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๑๙ กรกฎาคม ๒๕๖๗


ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 19-07-2024, 23:33
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ ๑๙ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ อันดับแรกเลย เลขานุการวัดท่าขนุนต้องรีบตรวจสอบข้อมูลต่าง ๆ ของผู้ที่สมัครบวชเฉลิมพระเกียรติ แล้วก็ส่งมาถึงกระผม/อาตมภาพให้เร็วที่สุด โดยเฉพาะถ้าหากว่ามีใครขาดหรือว่าสมัครเพิ่มเติมมาในช่วงที่เราจัดชุดอุปสมบทไปแล้ว ก็จะต้องมีการจัดชุดอุปสมบทใหม่

ส่วนในเรื่องของเวรยามที่ได้กำหนดลงไปแล้วมีขาดมีเกิน ก็ต้องรอก่อนว่าผู้อุปสมบทหมู่เฉลิมพระเกียรติมีใครจะอยู่จำพรรษาหลังบ้าง ถ้าหากว่ามีแล้วค่อยเสริมเข้าไปทีหลัง เนื่องเพราะว่าถ้าหากว่าเลขานุการวัดท่าขนุน ไม่ได้ส่งข้อมูลให้กระผม/อาตมภาพว่าใครลาสิกขาไปบ้าง ชื่อนั้นก็จะยังคาอยู่ในบัญชีต่อไป ก็ต้องขออภัยหลายท่านที่จะต้องมาวุ่นวายไปด้วย เพราะว่าเลขานุการวัดท่าขนุนทำงานขาด ๆ เกิน ๆ

ในส่วนของงานพรุ่งนี้ เราจะมีการทำบุญวันอาสาฬบูชา ซึ่งปกติจะมีการอุปสมบทหมู่เพื่อจำพรรษาด้วย แต่ว่าปีนี้เลื่อนการอุปสมบทหมู่ไปรวมกับงานอุปสมบทหมู่เฉลิมพระเกียรติ ดังนั้น..หลังจากที่เราลงอุโบสถอธิษฐานพรรษากันแล้ว ก็จะเป็นการวางผางประทีป เพื่อตามถวายเป็นพุทธบูชากันเลย

ส่วนของสังฆทานสลากภัต เดี๋ยวกระผม/อาตมภาพจะต้องจัดเตรียมให้กับพวกเรา เนื่องเพราะว่าวันมะรืนคือวันเข้าพรรษา หลังจากแสดงพระธรรมเทศนาแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ต้องขอสัตตาหะฯ เพื่อเดินทางไปกิจนิมนต์เลย ในช่วงเข้าพรรษาก็คงต้องขอสัตตาหะฯ เพื่อไปปฏิบัติหน้าที่เป็นระยะ ๆ ทุกอาทิตย์ เพราะว่ามีการตรวจยกหมู่บ้านศีล ๕ ต้นแบบประจำปี ๒๕๖๗

วันนี้การจัดวันเวลาในการตรวจยกหมู่บ้านศีล ๕ ต้นแบบเพิ่งจะลงตัวเรียบร้อย ทำเอากระผม/อาตมภาพต้องแก้ไขตารางเวลาอุตลุด เพราะว่ามีการสลับกันในภาคและในจังหวัดด้วย ในส่วนนี้ก็ปล่อยให้ฝ่ายเลขานุการเขาปวดหัวไป กระผม/อาตมภาพเองก็ทำงานหนักแค่ในส่วนของการประชุม แล้วก็ตรวจประเมินในส่วนที่เขามอบหมายให้เท่านั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-07-2024 เมื่อ 02:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 19-07-2024, 23:34
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลังจากที่กระผม/อาตมภาพเคยประท้วงไปแล้ว ตอนนี้ก็ได้รับอนุญาตในลักษณะที่ว่า สามารถที่จะตำหนิหรือว่าให้ข้อแนะนำ เพื่อให้ทางหมู่บ้านไปแก้ไขในส่วนต่าง ๆ ที่สามารถทำให้ดีกว่าที่เราไปตรวจเจอ เนื่องเพราะว่าก่อนหน้านี้ ทางผู้บังคับบัญชามีแนวทางว่า "ให้ชมอย่างเดียว ห้ามตำหนิ เขาจะเสียกำลังใจ" แต่กระผม/อาตมภาพพยายามที่จะผลักดัน เพื่อให้มีการตำหนิหรือให้คำแนะนำด้วย

เนื่องเพราะว่าในแต่ละหมู่บ้านนั้นมีศักยภาพที่ไม่เท่ากัน หรือว่าคนทำงานตั้งใจไม่เท่ากัน ถ้าเราตีว่า ๕๐ เปอร์เซ็นต์คือการผ่านเป็นหมู่บ้านต้นแบบ แล้วหมู่บ้านที่ได้ ๙๕ เปอร์เซ็นต์ หรือ ๙๐ เปอร์เซ็นต์ เขาจะคิดอย่างไร ? ในเมื่อไอ้ ๕๐ เปอร์เซ็นต์นั้นดันได้มาเป็นต้นแบบด้วย ก็ต้องมีการชี้ข้อบกพร่องเพื่อให้เขารู้แล้วก็ปรับปรุง ไม่เช่นนั้นแล้วในช่วงที่สื่อโซเชียลสามารถเข้าถึงได้รวดเร็ว เราตรวจยกจังหวัดนี้ ถ้าหากว่า ๕๐ เปอร์เซ็นต์ผ่าน เขาแจ้งต่อไปยังจังหวัดข้างเคียงในภาคเดียวกันก็บรรลัยแล้ว..! ไม่มีใครคิดที่จะทำให้ดีกว่านี้แล้ว เพราะว่าแค่นี้ก็ผ่าน ไปทำมากกว่านี้ให้เหนื่อยทำไม ?

เพียงแต่ว่าปีที่แล้ว การประชุมในระหว่างการตรวจยก พอ
กระผม/อาตมภาพกล่าวถึงตรงนี้ก็มักจะโดนตัดบทไปเลย แต่ว่าปีนี้กระผม/อาตมภาพค้านหัวชนฝาด้วยเหตุผลที่กล่าวมาแล้ว จนกระทั่งคณะกรรมการทั้งหมดบอกว่า "จะมีการตำหนิชี้จุดบกพร่องก็ได้ แต่ว่าท่านอื่นก็ยังจะชมเหมือนเดิม" ก็แล้วแต่แนวทางในการปฏิบัติ เพราะว่าโดยนิสัยของกระผม/อาตมภาพก็คือ ในเมื่อทำแล้วต้องทำให้ดี ไม่ใช่สักแต่ทำพอให้ผ่านก็ใช้ได้แล้ว

ส่วนบรรดานาคทั้งหลายที่ไม่เคยขานนาคแบบอุกาสะฯ มาก่อน ให้เร่งท่องคำขานนาคให้เร็วที่สุด เพราะว่าเรามีระยะเวลาในการเป็นนาคน้อยมาก ท่านทั้งหลายอาจจะไม่ใช่กระผม/อาตมภาพ ไม่สามารถที่จะจดจำอะไรได้ง่าย จึงต้องใช้ความพยายามและระยะเวลาที่มากกว่า
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-07-2024 เมื่อ 02:27
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 27 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 19-07-2024, 23:37
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

กระผม/อาตมภาพเองเมื่อตั้งใจจะไปบวช เห็นว่าวัดท่าซุงอยู่ในฝ่ายมหานิกาย เมื่อไปเปิดตำราการขานนาคแบบมหานิกายก็คือแบบอุกาสะฯ จึงท่องคำขานนาคแบบอุกาสะฯ ไป ครั้นไปถึงแสดงเจตจำนงในการอุปสมบทได้ ๒ วัน ทางเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบบอกว่า "วัดเราเราบวชแบบมหานิกายแปลง ก็คือถึงสังกัดมหานิกายก็ ใช้คำขานนาคแบบเอสาหังฯ ของธรรมยุต"

กระผม/อาตมภาพต้องใช้เวลา ๒ วันในการไปท่องคำขานนาคแบบเอหาสังฯ พอท่องได้ไปรายงานตัว เจ้าหน้าที่บอกว่า "คุณบวชหมู่ ต้องเปลี่ยนเป็นเอเต มะยัง ภันเตฯ" ก็ต้องเสียเวลาไปท่องอีกครึ่งวัน เพราะฉะนั้น..ถ้าหากว่าปัจจุบันนี้จะให้บวชแบบไหนก็บอกมาได้เลย เพราะว่าท่องได้หมดตั้งแต่เมื่อ ๓๙ ปีที่แล้ว..!

ในเมื่อพวกเราต้องใช้ระยะเวลาการท่องคำขานนาค แล้วยังจะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบของทางวัด และก็ทำงานต่าง ๆ ด้วย ก็แปลว่าต้องตั้งใจมากกว่าปกติ หลายคนที่ไม่คุ้นชินก็อาจจะเครียดไปเลย เพราะว่าอยู่บ้านเราอาจจะนอนตื่น ๙ โมง ๑๐ โมง แต่ที่นี่ต้องตื่นตั้งแต่ตี ๓ ครึ่ง..!

ขอบอกให้ท่านทั้งหลายทราบว่า "ตัดสินใจผิดที่มาบวชที่วัดท่าขนุน" ชาวบ้านแถวนี้แทบไม่มีใครเขาบวชวัดนี้หรอก เขาบอกว่า "เดี๋ยวลูกเขาลำบาก" ทุกคนมีศรัทธาในตัวหลวงปู่สาย อดีตเจ้าอาวาสวัดท่าขนุนเป็นอย่างยิ่ง จะบวชลูกก็แห่มากราบลาหลวงปู่สายก่อน แต่เอาลูกไปบวชที่วัดอื่น..! ก็ต้องขออนุโมทนาด้วย ที่พยายามให้ลูกไปสบาย เพียงแต่ว่าสบายแล้วได้บุญหรือได้บาป ก็ไม่อาจจะที่จะรับรองได้..!

เพราะว่ากิจวัตรต่าง ๆ ในเรื่องของการสวดมนต์ ทำวัตร บิณฑบาต เจริญกรรมฐานนั้น เป็นหน้าที่ของพระภิกษุสามเณรที่จะต้องทำ อันดับแรกเลยก็คือ เป็นการสร้างสมบุญกุศลให้กับตนเอง โดยฉวยโอกาสที่อยู่ในอุดมเพศ ทำอะไรก็ได้อานิสงส์มาก ในเมื่ออยู่ ๆ ได้อานิสงส์มากกว่าปกติหลายเท่า ก็ต้องรีบกอบโกยเอาไว้ ถึงเวลาสึกหาลาเพศไป เราจะได้อาศัยบุญกุศลตรงนี้ ในการดำเนินชีวิตของเรา ซึ่งจะมีความสะดวก ความคล่องตัวกว่าคนอื่น

แต่ถ้าหากว่าอยู่ต่อได้ สิ่งที่เราสั่งสมเอาไว้ เมื่อรวมตัวกันมากเข้าก็จะกลายเป็นบารมี ท้ายที่สุดก็จะกลายเป็นกำลังใหญ่ในพระพุทธศาสนา สามารถช่วยแบ่งเบาภาระของครูบาอาจารย์ ตลอดจนช่วยยังพระพุทธศาสนาให้เจริญมั่นคงยิ่งขึ้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-07-2024 เมื่อ 02:32
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 19-07-2024, 23:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

การบวชพระจึงไม่ใช่การมาพักผ่อน แต่เป็นการมาขัดเกลา กาย วาจา ใจ ของเรา ให้ดีที่สุดเท่าที่จะดีได้ ถ้าใครตั้งเป้าไว้ถึงขนาดบรรลุมรรคบรรลุผลเลย ก็ยิ่งต้องทุ่มเทมากกว่าคนอื่นหลายเท่า

วัดนี้ไม่ได้ฉันเช้าแล้วเอน ฉันเพลแล้วนอน ยามบ่ายพักผ่อน ยามค่ำจำวัด หากแต่ว่าต้องทำวัตรเช้าเย็น ๓ เวลา ต้องออกบิณฑบาต ต้องเจริญกรรมฐาน เป็นงานประจำที่ถ้าหากว่าใครอยากโดนไล่ออกจากวัดก็ทิ้งได้ พูดง่าย ๆ ว่าบวชเบื่อแล้ว ไม่กล้าไปลาหลวงพ่อสึก ก็ใช้วิธีทิ้งกิจวัตรประจำวันเดี๋ยวก็โดนไล่ให้สึกเอง..!

เพียงแต่ว่าช่วงที่พวกเราทั้งหลายบวชเป็นช่วงเวลาที่เข้าพรรษาแล้ว ถ้าใครจะอยู่ต่อเพื่อเอาอานิสงส์พรรษา ก็จะไม่ได้แบบคนอื่นเขา แต่ได้อายุพรรษา ก็คือไปอธิษฐานพรรษาหลัง ซึ่งจะไปออกพรรษาในวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๒ หรือถ้าหากว่าเป็นแบบของวัดท่าขนุนก็คือ ไปออกพรรษาวันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๒ ก็คือวันรุ่งขึ้นหลังจากลอยกระทง ถ้าอย่างนั้นเราจะได้อายุพรรษาเหมือนกับบุคคลที่จำพรรษาแรก แต่ว่าไม่ได้อานิสงส์การจำพรรษา ๑ เดือน และไม่ได้อานิสงส์กฐิน เพราะว่าออกพรรษาลังนั้น กาลกฐินก็หมดไปแล้ว

เรื่องของการบวชนั้นเป็นเรื่องที่ยากที่สุดประการหนึ่ง เพราะว่าโอกาสที่จะได้ชาติกำเนิดเกิดเป็นมนุษย์นั้นยากสุด ๆ เมื่อเกิดเป็นมนุษย์แล้วจะได้พบพระพุทธศาสนาก็ยิ่งยากเข้าไปใหญ่ ได้พบพระพุทธศาสนาแล้วจะเลื่อมใสมาฟังเทศน์ฟังธรรมก็ยาก มีโอกาสฟังเทศน์ฟังธรรมแล้วจะเลื่อมใสน้อมนำไปปฏิบัติก็ยิ่งยาก โดยเฉพาะการเกิดของพระพุทธเจ้าแต่ละครั้งนั้นยากสุด ๆ ถ้านับเป็นชาติก็นับกันไม่ถ้วน เขาถึงได้ต้องนับกันเป็นกัป แต่ละกัปเกิดกันเป็นแสนเป็นล้านชาติ..!

ปัจจุบันนี้มีบุคคลจำนวนมากประกาศตนเองว่าไม่นับถือศาสนา เชื่อเถอะ..ไอ้พวกนั้นเอาหลักศาสนาไปใช้เยอะเลย เพียงแต่ว่าไม่อยากจะตีกรอบตัวเองอยู่ในศีลในธรรม เพราะว่าทำอะไรไปขัดกับศีลกับธรรมแล้วรู้สึกละอายใจ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-07-2024 เมื่อ 02:34
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 28 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า 19-07-2024, 23:42
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ความจริงบุคคลที่อยู่ในลักษณะแบบนี้ ถ้าตั้งใจมาปฏิบัติตามหลักพระพุทธศาสนาจะได้ดีเร็วมาก แต่ด้วยความที่ตั้งใจผิดจนเป็นมิจฉาทิฏฐิ บอกว่าไม่เห็นประโยชน์ของศาสนาอย่างหนึ่ง ไม่ชอบอยู่ในกรอบที่คร่ำครึโบร่ำโบราณอีกอย่างหนึ่ง

ความจริงสิ่งที่เขาเข้าใจนั้นผิด แต่ไม่มีใครไปอธิบายให้เขารู้ว่า
หลักธรรมของพระพุทธเจ้านั้นเป็น "อกาลิโก" เหมาะสมกับทุกยุคทุกสมัย ปฏิบัติเมื่อไรก็เกิดผลเมื่อนั้น จะมากน้อยก็ขึ้นอยู่กับว่าเราปฏิบัติถูกต้องตรงตามทางหรือเปล่า ? ก็ต้องปล่อยให้เขาไม่มีศาสนากันต่อไป จะได้เวียนว่ายตายเกิดทนทุกข์ไปไม่รู้จบ..!

เนื่องเพราะว่าชาตินี้เขาเกิดเป็นมนุษย์ได้เพราะอาศัยบุญเก่า ถ้าหากว่าเราไม่ทำ
บุญใหม่ต่อ ถึงเวลาบุญเก่าขาดช่วงลง ก็อาจจะต้องลงสู่อบายภูมิ แล้วถ้าลงไปเมื่อไรก็โดนทบต้นทบดอกหนี้เก่าที่ไม่ได้ใช้ คราวนี้กว่าที่จะกลับขึ้นมาได้ก็สาหัส พระพุทธเจ้าที่เกิดยากหนักหนาอาจจะผ่านไปหลายพระองค์แล้ว แต่คราวนี้ในเมื่อทิฏฐิ คือความเห็นความชอบของเขาเป็นอย่างนั้น ก็ต้องปล่อยไปตามทางของเขา

เราทั้งหลายรู้ว่าอะไรดีอะไรควร เราก็ปฏิบัติของเราต่อไป ต่างคนต่างทำ ต่างคนต่างได้ ห่วงใยได้แต่อย่าไปเอามาเป็นกังวล เพราะว่าใจเราจะหมองเสียเปล่า ๆ

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันศุกร์ที่ ๑๙ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-07-2024 เมื่อ 02:36
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 22:49



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว