กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๗ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนมิถุนายน ๒๕๖๗

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 08-06-2024, 17:17
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,946
ได้ให้อนุโมทนา: 225,209
ได้รับอนุโมทนา 800,461 ครั้ง ใน 39,365 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๘ มิถุนายน ๒๕๖๗

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๘ มิถุนายน ๒๕๖๗


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 09-06-2024, 00:28
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ ๘ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๗ กระผม/อาตมภาพออกจากที่พักวัดอุทยาน ตำบลบางขุนกอง อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี ตั้งแต่เวลา ๖ โมงเช้า เดินทางมายังตำบลวังเหนือ อำเภอวังเหนือ จังหวัดลำปาง เพื่อร่วมงานฉลองพระศรีอาริยเมตไตรยและหล่อพระพุทธรูปทองคำของหลวงตาม้า (พระอาจารย์วรงคต วิริยธโร) ที่สถานปฏิบัติธรรมพุทธพรหมปัญโญ อำเภอวังเหนือ จังหวัดลำปาง ใช้เวลาในการเดินทางตลอดจนกระทั่งจอดฉันเพล รวมกันแล้วประมาณ ๙ ชั่วโมง..!

เมื่อเดินทางมาถึง ปรากฏว่าที่พักบริเวณใกล้เคียงเต็มหมด ยกเว้นบ้านชุติมันต์ ๒ ที่กระผม/อาตมภาพชี้ให้ทุกคนตรงเข้ามา มีห้องพักปรับอากาศเหลืออยู่ ๑ ห้อง ผู้ติดตามทั้งหมดต้องไปนอนอยู่ในห้องที่ทางเจ้าของบ้านพักสละให้ พูดง่าย ๆ ก็คือเป็นห้องในบ้านของเขาเอง..!

เมื่อมีแขกมาเสียจนล้นขนาดนี้ เขาก็เลยสละห้องเพื่อให้แขกได้พัก ทำให้กระผม/อาตมภาพเข้าใจอารมณ์ของบรรดาพระภิกษุสงฆ์สามเณร ตลอดจนกระทั่งญาติโยม ซึ่งไปร่วมงานที่วัดท่าขนุน ก็จะเจอเหตุการณ์แบบเดียวกัน คือที่พักในบริเวณอำเภอทองผาภูมิ ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม รีสอร์ต บังกะโล โฮมสเตย์ เต็มหมด หลายท่านต้องไปพักในตัวเมืองกาญจนบุรี หรือว่าตัวอำเภอไทรโยค หลายท่านก็ต้องวิ่งเลยไปพักที่อำเภอสังขละบุรี แล้วเช้ามืดก็รีบตีรถกลับมา
เพื่อเข้าร่วมงานที่วัดท่าขนุน..!

ด้วยความที่กระผม/อาตมภาพเกรงว่า ถ้าตรงไปยังวัดของเขาเลยจะหาความสงบไม่ได้ เนื่องเพราะว่าญาติโยมที่ไปส่วนใหญ่ก็รู้จักมักคุ้นกันดี ในเมื่อเป็นเช่นนั้นก็หาที่พักทางด้านนอกดีกว่า แต่ปรากฏว่าเต็มหมด จนกระทั่งเหลือแค่บ้านชุติมันต์ ๒ นี้เท่านั้น ซึ่งทำให้กระผม/อาตมภาพต้องเชื่อในความแม่นยำของมโนมยิทธิจริง ๆ

เนื่องเพราะว่าในระหว่างที่หาชื่อที่พัก ตอนที่เดินทางมาถึงบริเวณอำเภอเถิน จังหวัดลำปาง
กระผม/อาตมภาพได้เลือกบ้านชุติมันต์ ๒ แห่งนี้ ครั้นเมื่อเขาบอกว่าเหลือห้องพักห้องเดียว พวกเราก็ยังเพียรพยายามไปหาที่พักอีกสองแห่ง แล้วทุกแห่งก็ได้รับการจองเต็มหมด จนต้องย้อนกลับมายังสถานที่นี้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-06-2024 เมื่อ 02:33
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 09-06-2024, 00:34
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเรื่องทั้งหลายเหล่านี้ ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายมีประสบการณ์แบบกระผม/อาตมภาพแล้ว ก็จะต้องเชื่อในความแม่นยำของมโนมยิทธิ ซึ่งมาภายหลังมีบุคคลที่ใช้ผิด ๆ ตลอดจนกระทั่งขาดการซักซ้อม หรือว่าเกิดอาการเฝือขึ้นมา แล้วก็ทำให้กลายเป็นที่ครหานินทาของผู้อื่น จนใช้คำว่า "อย่ามามโนฯ" กันจนติดปาก ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายต่อหลักวิชาที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ได้เมตตาถ่ายทอดให้บรรดาศิษย์ทั้งหลาย

โดยเฉพาะมโนมยิทธินั้น ท่านให้รู้เพื่อละ การที่เราสามารถถอดกายในออกไป จะทำให้เห็นชัดเจนว่าร่างกายนี้ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา แล้วยังต้องซักซ้อมตัดการยึดเกาะร่างกายนี้เอาไว้บ่อย ๆ ยิ่งสามารถตัดการยึดเกาะได้มากเท่าไร ก็ยิ่งออกไปได้คล่องตัวเท่านั้น ยิ่งยิ่งออกไปได้คล่องตัวเท่าไร ความชัดเจนก็ยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น

จากปีพุทธศักราช ๒๕๒๑ ที่ได้รับการฝึกฝนวิชานี้เป็นต้นมา กระผม/อาตมภาพไม่เคยขาดการซักซ้อมเลย แม้กระทั่งตอนที่มาอยู่ที่สำนักสงฆ์เกาะพระฤๅษีก็ยังคงทดสอบอยู่ทุกวันว่า การบิณฑบาตวันนี้เราจะเจอใครเป็นคนแรก เป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ใส่เสื้อผ้าอย่างไร เป็นต้น เมื่อพบเห็นว่าตรงตามที่เราดูเอาไว้ ก็ไม่ใช่ว่าไปดีใจเสียจนฟูเกินไป
ถ้าหากว่าปีติมาก บางทีก็ทำให้ผิดพลาดได้ หรือถ้ากำลังใจตกก็ดูผิด หดเหี่ยว ท้อแท้ ขาดความมั่นใจ ก็จะยิ่งผิดพลาดหนักเข้าไปอีก

มีอยู่ครั้งหนึ่งเมื่อเดินขึ้นไปรับบิณฑบาต เป็นระยะทางห่างจากสำนักสงฆ์เกาะพระฤๅษีประมาณ ๕ กิโลเมตรเศษ ก็คือต้องเดินทางไปกลับประมาณ ๑๑ กิโลเมตร ถึงจะได้เจอกับบ้านพักคนงาน ที่ทางด้านศูนย์จัดการต้นน้ำที่ ๑๖ ซึ่งตอนนั้นเป็นแค่หน่วยจัดการต้นน้ำแม่กลองเท่านั้น ได้ไปจัดตั้งแคมป์เอาไว้ให้คนงานพักอยู่ที่นั่น เพื่อที่ถึงเวลาจะได้ระดมคนงานเข้าไปปลูกป่า หรือว่าเข้าไปถากถาง เพื่อไม่ให้แปลงปลูกป่ารกจนเกินไป

เมื่อเดินขึ้นไปถึงปรากฏว่าเจอผู้หญิงคนหนึ่ง ใส่ชุดตรงตามที่ดูเอาไว้ตั้งแต่ก่อนจะออกเดินทาง กระผม/อาตมภาพก็สำรวมตามปกติ คือก้มหน้าลงมองแต่ในบาตร แต่พอเปิดฝาบาตรปรากฏว่าเห็นของแปลก ก็คือเห็นอะไรวูบวาบวาววับอยู่ภายใต้เสื้อผ้าธรรมดาที่ผู้หญิงคนนั้นใส่..!

กระผม/อาตมภาพจึงปิดฝาบาตรลง บอกว่า "เดี๋ยวก่อน..อย่าเพิ่งใส่บาตร เธอเป็นใครกันแน่ ?" ผู้หญิงคนนั้นจึงแสดงร่างที่แท้จริงให้เห็น เป็นสุภาพสตรีสาวสวยในชุดไทยสีฟ้า มีเครื่องประดับทองคำและเพชรแพรวพราวไปทั้งตัว บอกว่า "ดิฉันเป็นนางไม้ที่อาศัยอยู่บริเวณนี้ เห็นพระคุณเจ้าขึ้นมารับบาตรทุกวัน อยากได้บุญบ้าง จึงมาขอใส่บาตรด้วย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-06-2024 เมื่อ 02:36
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 09-06-2024, 00:39
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

กระผม/อาตมภาพดูแล้วว่าเนื้อของเธอค่อนข้างจะทึบ คล้าย ๆ กับเนื้อคนปกติ ถึงได้เชื่อว่าเป็นรุกขเทวดาหรือว่าเทวนารีที่บุญน้อยจริง ๆ จึงได้กล่าวว่า "ถ้าอย่างนั้น กุศลบารมีใดที่เราสมสร้างมาตั้งแต่ต้นจนบัดนี้ จะเป็นทาน เป็นศีล เป็นภาวนาก็ตาม ขอเธอจงโมทนา เราจะได้รับประโยชน์และความสุขเท่าไร ขอให้เธอจงได้รับ ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด"

รุกขเทวีผู้นั้นยกมือสาธุโมทนา ร่างกายตลอดจนเครื่องประดับกลายเป็นแก้วสวยแพรวพราวระยับตา แล้วก็หายวับไปเลย..! ทำเอากระผม/อาตมภาพอึ้งอยู่ตรงนั้นพักใหญ่ จดจำเอาไว้เป็นบทเรียนเลยว่า ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ถ้าจะรับบาตรก็ขอให้เธอใส่ก่อน เพราะว่าเธอต้องการบุญจึงมาขอใส่บาตร ในเมื่อได้บุญไปแล้ว ไม่จำเป็นต้องใส่บาตรก็ได้ แม่เจ้าประคุณก็ไปแน่บเลยทีเดียว

เรื่องพวกนี้เล่าให้คนอื่นฟังทีไรก็หัวเราะกันทุกครั้ง แต่ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายเจออย่างกระผม/อาตมภาพเข้าก็คงจะหัวเราะไม่ออก เนื่องเพราะว่ายังต้องเดินเข้าไปในหมู่บ้านอีกไกลกว่าที่จะได้รับบาตร เนื่องเพราะว่าคุณเธอมาดักรอบริเวณปากทางเข้าหมู่บ้าน

เรื่องพวกนี้ต้องบอกว่า
เทวดาทั้งหลายนั้นมักจะให้บทเรียนกับเราว่า ต้องมีความรอบคอบเสมอ อย่างเช่นว่ากระผม/อาตมภาพขออนุญาตเจ้าที่เจ้าทางทั้งหลาย ในการบวงสรวงไหว้ครูและเป่ายันต์เกราะเพชรครั้งแรก ๆ ที่วัดท่าขนุน ทันทีที่ได้รับคำสั่งจากพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ ท่านให้เป่ายันต์เกราะเพชรได้ ก็เกิดความหนักใจขึ้นมา เนื่องเพราะว่าเป็นฤดูที่อากาศร้อนมาก จึงได้ขอบรรดาเจ้าที่เจ้าทางทั้งหลายว่า ขออย่าให้แดดร้อนและมีอากาศเย็น ถ้าเป็นไปได้ขอให้ฝนตกหนักในคืนก่อนงาน

เมื่อกระผม/อาตมภาพอธิษฐานขอแล้วก็สบายใจ เนื่องเพราะว่าถ้าพรหมเทวดาท่านรับปากแล้วก็เป็นไปตามนั้น แต่ว่าตอนบวงสรวงไหว้ครูก็ไม่เห็นจะมีฝนตกภายในคืนนั้น แล้วขณะเดียวกันแดดก็ร้อนเปรี้ยงแทบจะหัวแตก แต่ปรากฏว่าหลังจากที่ออกจากวัดท่าขนุนกลับไปยังเกาะพระฤๅษี พระที่ท่านพักอยู่บอกว่า "เมื่อคืนฝนตกหนักมากครับอาจารย์ อากาศเย็นมาจนวันนี้เลย ยังไม่เห็นแดดแม้แต่นิดเดียว..!"

กระผม/อาตมภาพก็กลืนน้ำลายเอื๊อกว่า "กูพลาดอีกแล้ว" เนื่องเพราะขออย่างเดียว ไม่ได้ระบุว่าเป็นสถานที่ใด ท่านก็จัดให้เสียเต็มที่ตามที่ขอ ขณะเดียวกันก็ให้บทเรียนไว้ด้วยว่า "ต่อไปต้องรอบคอบมากกว่านี้..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-06-2024 เมื่อ 02:41
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 09-06-2024, 00:44
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เรื่องพวกนี้เราทั้งหลายต้องค่อย ๆ สะสมประสบการณ์ไปเรื่อย ๆ เมื่อถึงเวลามีประสบการณ์มากขึ้น ความรอบคอบก็จะมีมากขึ้นไปตามลำดับ ทำให้จิตใจของเรามีความละเอียดขึ้น มีสติรู้ระมัดระวังมากขึ้น

แม้ว่าเรื่องของผีเรื่องของเทวดา เขาจะไม่มีการโกหก แต่ก็มีการทดสอบอารมณ์กันตามปกติ ถ้าหากว่าเราพลาดก็คือต้องยอมรับว่าเราพลาด จะไปโกรธ ไปเกลียด ไปโมโห ใครก็ไม่ได้ เพราะว่าตัวเราโง่เอง เมื่อถึงเวลาพลาดแล้ว คราวหน้าก็ต้องแก้ตัวใหม่ มีการซักซ้อมอย่างนี้บ่อย ๆ อยู่ทุกวันทุกเวลา ขนาดนั้นก็ยังต้องระมัดระวังอยู่เสมอว่าอาจจะมีการผิดพลาดได้ ไม่ใช่ว่าถึงเวลาเจริญกรรมฐานก็ไม่ค่อยจะมากัน

กระผม/อาตมภาพสรุปได้ว่า ท่านทั้งหลายที่ทิ้งการสวดมนต์ ทำวัตร เจริญกรรมฐานนั้น ท่านยังไม่เข็ด เนื่องเพราะว่าถ้าเข็ดจากการที่โดน รัก โลภ โกรธ หลง กระหน่ำตีจนไม่เป็นผู้เป็นคนแล้ว ท่านทั้งหลายก็จะต้องเพียรพยายามบำเพ็ญภาวนา รักษาอารมณ์ใจของตน อย่างน้อยต้องให้ทรงปฐมฌานละเอียดได้ ถึงจะพ้นจาก รัก โลภ โกรธ หลง ได้ชั่วคราว ไม่เช่นนั้นแล้วก็ต้องทนลำบากอยู่ทุกวันแบบนี้

แต่ในเมื่อท่านยังไม่เข็ด ท่านยังไม่กลัว ยังคงทำตัวตามสบาย กระผม/อาตมภาพก็ปล่อยให้ตามสบายของท่าน ประมาณว่า "เอ็งไม่ทำ ข้าทำเองก็ได้" ส่วนทำแล้วใครจะได้ผลอย่างไรนั้นก็เหมือนกับกินข้าว ก็คือเรากินเราอิ่ม ส่วนใครจะหิวก็ช่างหัวมัน..!

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุ สามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันเสาร์ที่ ๘ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-06-2024 เมื่อ 02:43
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 22:42



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว